ตอนที่ 94: ต่อไป (1)
"เจ้ากำลังมองมาที่ข้าทำไม" แองเจเล่พูด "บอกชื่อของเจ้ามา"
ผู้หญิงคนนั้นกระพริบตาแล้วขมวดคิ้ว
"โจลิน เรียกข้าว่าโจลิน" ดูเหมือนว่าเธอจะสงบลง "เจ้าจงใจปล่อยให้ซิวปิดกั้นการโจมตีของเจ้าใช่ไหม"
แองเจเล่ประหลาดใจแต่สีหน้าของเขาไม่ได้เปลี่ยน
"ข้าถูกปิดกั้น"
เขาไม่ยอมรับมัน
"เอาล่ะ ข้าจะคิดว่าเจ้ากำลังพูดความจริง เจ้าไม่สนการต่อสู้ทางการเมืองในเมืองนี้หรือ" โจลินพูด "ข้าเดาว่าเจ้ารู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังของตระกูลสไวค์และข้าเข้าใจได้ว่าทำไมเจ้าถึงไม่อยากยุ่งกับพวกเขา"
"เจ้ารู้เยอะงั้นหรือ" แองเจเล่ยิ้ม "ข้าเตือนพวกเขาแล้วและมันไม่ได้หมายความว่าข้ากลัว ไม่มีเหตุผลใดที่ข้าจะทำสงครามกับตระกูลของพวกเขาทั้งหมดเพียงเพื่อนักโทษ การสูญเสียมันไม่คุ้มกับสิ่งที่ได้"
เขายังเป็นพ่อมดฝึกหัดของวิทยาลัยแรมโซด้า ตราบเท่าที่โรงเรียนไม่ได้ถูกกว้างล้างออกจากแผนที่โดยพันธมิตรแดนเหนือมันก็จะช่วยให้เขาต่อสู้กับตระกูลใหญ่ในจักรวรรดิได้แต่มีสิ่งที่เขาต้องพิจารณามากขึ้น
นอกจากนี้แองเจเล่ยังสันนิษฐานได้ว่าบรรดาตระกูลชั้นนำของเหล่าพ่อมดช่วยเหลือพวกเขาเนื่องจากความรู้เกี่ยวกับพลังลึกลับของพวกเขา แต่มันดูเหมือนอัศวินอลิจะไม่รู้ว่าพลังแข็งแกร่งแค่ไหนจนแองเจเล่โจมตีเขา แองเจเล่ตัดสินใจที่จะไม่ต่อสู้กับพวกเขาจนกว่าเขาจะคิดทุกสิ่งทุกอย่างออก
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่ฆ่าอลิ เขาพยายามจะส่งข้อความออกไป ถ้าอลิตายสไวค์จะแก้แค้นเขาเพื่อเป็นเกียรติกับตระกูลของเขาและแองเจเล่ไม่ต้องการ
"ตอนนี้เจ้าไปอาบน้ำได้แล้ว ข้าจะพาเจ้าออกไป" เขาลุกขึ้นยืน "อย่างไรก็ตามอย่าเพิ่งนึกถึงการโกหกข้า ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นว่านรกเป็นยังไงถ้าเจ้าทำอะไรงี่เง่า"
*************************
ภายในคฤหาสน์ของสไวค์
"ท่านสไวค์! แองเจเล่กำลังข้ามเส้น! เรือนจำเกลียวสีน้ำเงินอยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูลของเราทำไมเขาจึงมีสิทธิที่จะปล่อยนักโทษ นอกจากนี้ผู้หญิงคนนั้น...." อัศวินอลิยืนอยู่ตรงกลางห้องประชุมและตะโกนด้วยความโกรธ
"พอ!" ทันใดนั้นสไวค์ก็ตะโกน "อลิเจ้าห่ามเกินไปสำหรับคนอายุเช่นเจ้า เรายังไม่ได้ทำอะไรกับอันยัวและคนอื่นๆยังสนใจเกี่ยวกับอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ ข้าไม่สนใจว่าข้อตกลงของเจ้ากับงูทรายป่าเป็นอย่างไรแต่เจ้าไม่ควรใช้เวลากับนักโทษมากเกินไป นอกจากนี้แองเจเล่ยังเตือนเจ้าแล้ว เขาไม่ฆ่าเจ้าเพราะเขาไม่ต้องการที่จะทำร้ายทั้งตระกูลสไวค์ เจ้าคิดจริงๆหรือว่าฮาร์แลนด์ไม่รู้เกี่ยวกับสิ่งที่เจ้ากำลังทำอยู่"
อลิเปิดปากอีกครั้ง เขายังโมโห "ฆ่าข้างั้นหรือ ถ้าเขาไม่ได้จับตัวข้าทหารยาม..."
"ข้าบอกว่าพอ!" การแสดงออกของสไวค์เปลี่ยนไป เขาเดินไปหาอลิและจับไปที่คอของเขาด้วยมือขวา
"นี่คืออะไร" เขาถามขณะที่จับไปที่ทางด้านขวาของคออลิ มีเลือดอยู่ปลายนิ้วของเขา "มันใกล้มาก ถ้าซิวไม่ได้ปรากฏตัวออกมาและแองเจเล่ไม่ได้ตั้งใจหยุดเจ้าก็คงตายไปแล้ว"
ทันใดนั้นอลิก็ตระหนักได้ว่าคอของเขาได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของแองเจเล่ มันเป็นการตัดบางๆและถ้าไม่มีอะไรมากดมันเขาก็ไม่รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวด มีเลือดไหลออกมาเล็กน้อยและมันแทบมองไม่เห็นบนผิวของเขา มันเกือบจะเหมือนแผลที่ได้รับการรักษาแล้วและเขาแทบจะไม่รู้สึกอะไร
ทันใดนั้นอลิก็รู้สึกเย็นยะเยือก เขาสั่นเล็กน้อย
"มัน....มันเป็นไปได้อย่างไร" เขาก้าวถอยหลังดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกลัว
"ข้ารู้ว่าแองเจเล่กำลังพยายามจะบอกข้า อย่ากระตุ้นเขาอีก ข้าได้ยินว่าผู้ชายคนนี้มาจากวิทยาลัยแรมโซด้าและพ่อมดจากโรงเรียนนี้เป็นที่รู้จักในเรื่องความโหดร้าย" สไวค์พูดเสียงเข้ม
"ถ้าเช่นนั้นเราจะปล่อยให้เขานำนักโทษออกไปงั้นหรือ" อลิขบฟัน
"พวกเราไม่มีพ่อมดช่วยเราดังนั้นเราจึงไม่เป็นภัยต่อเขา เจ้าสามารถต่อสู้กับเขาได้ถ้าเจ้าไม่สนใจเกี่ยวกับชีวิตของเจ้า ฮาร์แลนด์บอกให้แองเจเล่เข้าไปในดินแดนของพวกเราและความตั้งใจของเขาก็ชัดเจน เขาต้องการให้เราต่อสู้หรืออย่างน้อยก็เกลียดกัน ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมมากและแผนของเขาเกือบสมบูรณ์แบบ...." สไวค์พูดเสียงเย็นชา "เราต้องค้นหาอันยัวให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ อุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์เกือบจะอยู่ในมือของเราแล้วและข้าไม่ได้คาดคิดว่าเนสจะปรากฏตัวที่นั่น"
***********************
ด้านนอกเมืองเลนน่อนแองเจเล่และโจลินกำลังเดินเคียงข้างกันในป่า
ใบไม้ปิดกั้นส่วนใหญ่ของแสงอาทิตย์และทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆพวกเขาเป็นสีเขียวเข้ม พวกเขาหยุดลงที่รกร้างที่ถูกทำลาย
กำแพงแตกและบันไดปกคลุมไปด้วยตะไคร่ มีบ้านหินถูกสร้างขึ้นและบนพื้นผิวของมันก็มีเส้นสายจำนวนมาก
แองเจเล่ก้าวเดินอย่างระมัดระวังที่บันไดซึ่งมันลื่นมากเพราะมีตะไคร่ สถานที่นี้มันเย็นและเปียกชื้นทำให้เขาได้กลิ่นเชื้อราในอากาศ
มีดสีดำของแองเจเล่อยู่ข้างเอวของเขาและธนูโลหะก็อยู่ที่หลังของเขา ดาบกางเขนไม่สามารถซ่อมได้หลังจากที่สู้มาหลายครั้งดังนั้นแองเจเล่จึงเก็บมันไว้นานแล้ว
โจลินเดินตามแองเจเล่โดยไม่ได้พูดอะไร เธอยังคงปิดหน้าของเธอด้วยหน้ากากสีดำแต่เปลี่ยนเสื้อผ้าของเธอเป็นชุดหนังสีน้ำตาลหลังอาบน้ำ มีแถบหนังสองแถวที่ขาของเธอและมีมีดเหล็กอยู่แปดเล่มเต็มช่องแถบหนัง
"สถานที่นี้งั้นหรือ" แองเจเล่หันกลับไปและถาม
"ใช่" โจลินพยักหน้า สีหน้าของเธอซีดขณะที่เธอเดินต่อไปอย่างช้าๆ
"เจ้ากำลังแย่ลงและต้องได้รับการรักษาจากหมออย่างดีที่สุดภายในสี่วันมิฉะนั้นเจ้าจะตาย" แองเจเล่พูดเบาๆ "เอาล่ะ พูดความสัมพันธ์ระหว่างบ้านนี้และดอกเกล็ดมังกร"
โจลินพยายามสักพักหนึ่งจนเดินมาถึงข้างบน เธอเหลือบมองไปรอบๆดูเหมือนกำลังค้นหาบางสิ่งบางอย่างแต่มีสีหน้าผิดหวังอย่างรวดเร็ว
จากนั้นเธอก็เอื้อมมือไปที่หน้าอกและหยิบหลอดแก้วขนาดเล็กออกมา มีผ้าสีดำอยู่ข้างใน
แองเจเล่มองไปที่เธออย่างแปลกใจ "ข้าคิดว่าพวกเขาเอาข้าวของทั้งหมดของเจ้าไปแล้วหลังจากที่พวกเขาจับกุมเจ้า เจ้าซ่อนมันไว้ที่ไหน"
โจลินหน้าแดงหลังจากที่ได้ยินคำถาม
"มันไม่ใช่ธุระของเจ้า" เธอโยนหลอดแก้วไปทางแองเจเล่ "นี่เป็นสิ่งที่เจ้ากำลังมองหาสถานที่ของดอกเกล็ดมังกร เราพบมันในระหว่างที่ปฏิบัติภารกิจแต่สถานที่นี้มันอันตราย องค์กรของพวกเราได้ส่งคนมาสี่กลุ่มเพื่อเก็บดอกไม้รวมทั้งหมด 100 คนแต่มีเพียงคนเดียวที่ได้รับดอกไม้ขณะที่คนอื่นๆตายไปหมดแล้ว"
แองเจเล่คว้าหลอดแก้ว มันยังอุ่นอยู่ เขาขมวดคิ้วคาดเดาสถานที่ที่เป็นไปได้ที่เธอจะซ่อนมันและตัดสินใจที่จะไม่คิดถึงเรื่องนี้อีกต่อไป
"ข้าจะเชื่อใจเจ้าได้อย่างไร" เขาลดเสียงลง
"เชื่อหรือไม่ว่านั่นคือทั้งหมดที่ข้ามี" โจลินพูดอย่างสงบ
แองเจเล่คิดครู่หนึ่งและดึงฝาออกจากหลอด จากนั้นเขาก็กางผ้าสีดำอย่างระมัดระวัง
มีแผนที่ที่วาดด้วยผ้าสีขาวและมีคำหลายคนที่อยู่ข้างๆจุดต่างๆ
มีเครื่องหมายกะโหลกบนแผนที่และบนเครื่องหมายมีคำว่า'คฤหาสน์บ่วงจันทรา'เป็นสีแดง
แองเจเล่ยังพบเมืองเลนน่อนบนแผนที่แต่มันก็ไกลจากเครื่องหมายกะโหลกมาก
เขาขมวดคิ้ว "ผ้าถูกเก็บไว้ในหลอดประมาณหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาแต่แผนที่ก็ได้รับการแก้ไขหลายครั้งก่อนหน้านั้น พวกเจ้าพยายามอย่างมากเพราะฉะนั้นข้าจะไว้ใจเจ้าในสิ่งนี้" แองเจเล่เงยหน้าขึ้นและเห็นโจลินจ้องมาที่เขาอย่างตกใจ เห็นได้ชัดว่าแองเจเล่เดาได้ถูกต้องทุกอย่าง
"เพียงแค่มองไปที่มันงั้นหรือ เข้าค่อนข้างเก่ง.....ข้าดีใจที่เราตัดสินใจที่จะไม่โจมตีเจ้า"
มีความกลัวในสายตาของเธอ
"ดี ตอนนี้เจ้าไปได้แล้ว"
แองเจเล่ไม่สนใจว่าเธอจะพูดอะไร
"เจ้าแน่ใจเกี่ยวกับเรื่องนี้งั้นหรือ"
เธอไม่เคยคาดหวังว่าแองเจเล่จะปล่อยให้เธอมีชีวิตอยู่
"แน่นอน" แองเจเล่พยักหน้า "เจ้าไม่มีประโยชน์อีกต่อไปและข้ารักษาสัญญา"
โจลินจ้องไปที่แองเจเล่ครู่หนึ่งจากนั้นเพื่อทำให้แน่ใจว่าเขาจะไม่โจมตีเธอ หลังจากนั้นเธอก็ค่อยๆถอยห่างออกไปอย่างช้าๆ เมื่อถึงป่าแล้วเธอก็หันกลับไปมองที่ป่าครั้งหนึ่งและหายตัวไปในพุ่มไม้อย่างรวดเร็ว
แองเจเล่ยืนอยู่ที่นั่นกำลังมองไปที่ผ้าสีดำในมือ
.
"ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ได้โกหกข้า" เขาพึมพำและวาดรูนสีแดงไปในอากาศ รูนลอยขึ้นไปแล้วก็เริ่มเรืองแสง
ภายในป่ามีรูนสีแดงปรากฏขึ้นที่หลังของโจลินและมันดูเหมือนรูนที่แองเจเล่วาดในอากาศ รูนมันกำลังเรืองแสงด้วยเช่นกันแต่โจลินไม่ได้สังเกตเห็นการปรากฏตัวของมัน
*************************
ในตอนเย็น
บริเวณที่อยู่อาศัยที่เงียบสงบในเมืองเลนน่อน
คฤหาสน์ทั้งหลังที่นี่ถูกสร้างจากก้อนหินสีแดงและถนนถูกปูด้วยหินสีดำ มีรูปปั้นเทพธิดาสีบรอนซ์อยู่ตรงกลางสี่แยก เทพธิดากำลังจับแจกันและเธอก็วางมันลงไปที่พื้น มีดอกไม้หลายดอกรอบๆเทพธิดาบางดอกเป็นสีขาวและบางดอกเป็นสีเหลือง
ถนนเงียบมากในตอนกลางคืน ไม่มีรถม้าหรือคนเดินเท้าแม้แต่คนเดียว มีเพียงเสียงลมพัดผ่านต้นไม้และดอกไม้
ใบไม้แห้งหลายใบตกลงไปที่พื้นแล้วก็ปลิวไปตามลม