ตอนที่แล้วตอนที่ 146: ภายในป่า (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 148: เอ้อระเหย (1)

ตอนที่ 147: ภายในป่า (2)


ในตอนเย็น

แองเจเล่ได้รับเชิญไปที่พระราชวังอันรุ่งโรจน์ที่มีการตกแต่งอย่างดี เขาได้พบกับผู้หญิงจำนวนมากจากตระกูลขุนนางชั้นสูงและพวกเธอทุกคนดูสวยงามในชุดเดรสที่หรูหรา

เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในการปฏิเสธข้อเสนอจากสตรีขุนนางเนื่องจากกษัตริย์เชิญเขามาที่นี่แล้วทิ้งเขาไปหลังจากที่พูดกับเขาหลายนาที แองเจเล่ยังได้พบกับเจ้าหญิงและลูกสาวหลายคนของดยุคและไวเคานต์

เหตุผลที่ทำให้พวกเขาใกล้ชิดแองเจเล่มันเห็นได้อย่างชัดเจนแต่เขาไม่สนใจ สมาชิกราชวงศ์และตระกูลขุนนางชั้นสูงได้ส่งลูกสาวมางานเลี้ยงนี้โดยหวังว่าจะได้พัฒนาความสัมพันธ์ลึกๆกับแองเจเล่ ไทโมรอลได้เตือนเกี่ยวกับสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจที่กำลังจะเกิดขึ้นเมื่อบนเรือ

เขาเป็นศูนย์กลางของงานเลี้ยงและผู้คนพยายามพูดคุยกับเขาตลอดเวลาดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะจากไปอย่างรวดเร็วโดยไม่มีใครสังเกตเห็น

นอกจากนี้สตรีชั้นสูงและเจ้าหญิงมีสถานะทางสังคมสูงดังนั้นแม้ว่าแองเจเล่จะเป็นพ่อมดทางการเขาก็ไม่สามารถขอให้พวกเธออย่างห่างจากเขาได้ เขาต้องพูดคุยกับพวกเธอทีละคนๆด้วยความนอบน้อม สุภาพสตรีในห้องโถงทุกคนนั้นสวยและสุภาพเรียบร้อยแต่เขาก็เบื่อหลังจากที่เห็นพวกเธอมากมาย

แองเจเล่ขึ้นรถม้าที่ส่งมาจากปราชญ์หลังจากที่งานเลี้ยงจบลง

มันเป็นรถม้าสีดำที่มีม้าสีดำและคนขับรถม้าเป็นชายชราสวมชุดสีดำ มันเหมือนกับเงาสีดำที่กำลังขยับไปตามถนน

"ข้ามัลฟอย นายท่านแองเจเล่เราจะกลับไปที่หอคอยเลยหรือไม่" คนขับรถม้าถาม

โอมิเคดได้ขอให้แองเจเล่อาศัยอยู่หอคอยของเขาในช่วงที่เขาพักในอาเรียแต่เขารู้ว่าแองเจเล่ไม่อยากถูกรบกวนจากผู้มาเยี่ยม

แองเจเล่ได้กลิ่นน้ำหอมของดอกไม้บางอย่างในขณะที่นั่งรถม้า ภายใต้แสงจากโคมไฟน้ำมันเขาเห็นสาวผมบลอนด์ที่น่ารักสวมชุดสีขาวอยู่ตรงมุมฝั่งตรงข้าม ใบหน้าของเธอดูคุ้นเคย

"เคทลินงั้นหรือ" แองเจเล่ไม่ได้คาดหวังว่าจะเห็นเธอที่นี่ มันค่อนข้างแปลก

แองเจเล่ ริโอคนเดิมได้ตกลงจากม้าและตายเพื่อผู้หญิงคนนี้ จากนั้นร่างกายของเขาก็ถูกครอบครองโดยเย่ซ่ง แองเจเล่เคยแก้แค้นก่อนที่จะออกไปจากโรงเรียนและคิดว่าพวกเขาจะไม่ได้พบกันอีก

มีเสียงมาจากข้างนอกรถม้า

"ท่านแองเจเล่ เจ้าชายจัสตินขอให้ข้าบอกท่านว่าผู้หญิงคนนี้เป็นของขวัญสำหรับท่าน เธอเป็นผู้หญิงที่ท่านรักมากที่สุดใช่ไหม ขอให้ท่านเพลิดเพลินกับเวลาของท่าน ฮ่าฮ่า"

ดูเหมือนว่ามัลฟอยจะไม่ได้เป็นเพียงแค่คนขับรถม้า มิฉะนั้นเจ้าชายจัสตินคงจะไม่ได้บอกเขามากนักและขอให้เขาส่งข้อความ

แองเจเล่นั่งมองไปที่เคทลิน เขามองเห็นความกลัวในสายตาของเธอ จัสตินจะต้องคิดว่าแองเจเล่ไม่ชอบผู้หญิงสองคนที่เขาเตรียมไว้ดังนั้นเขาจึงรวบรวมข้อมูลบางอย่างและค้นพบเคทลิน

ร่างกายที่น่าดึงดูอของเคทลินได้ถูกเน้นด้วยชุดเดรสของเธอ เธอมีขาที่ยาวและเนียนรวมการทำความสะอาดผิวของเธอมันทำให้ดูสง่างาม เธอมีลักษณะทั้งหมดที่หาได้ในหญิงสาวที่มีเสน่ห์

"ท่าน....แองเจเล่....." เคทลินโค้งศีรษะขณะที่พยายามพูดอะไรบางอย่าง

เธอถูกจับโดยยามของจัสตินในโรงเรียนและถูกส่งเป็นของขวัญให้แองเจเล่ เธอไม่เคยคิดว่าจะมีวันที่เธอจะต้องมารับใช้ชายหนุ่มที่เธอดูถูก แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นเนื่องจากตระกูลของเธอไม่แข็งแกร่งพอที่จะต่อต้านกับคำสั่งของจัสติน ถ้าเธอทำให้แองเจเล่ไม่มีความสุขสิ่งที่โชคร้ายอาจจะเกิดขึ้นกับสมาชิกในตระกูลของเธอ

แองเจเล่มองไปที่เธออยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็คว้าป้ายทองแดงขนาดเท่าฝ่ามือที่คอของเธอ มีคำหลายคำสลักไว้ที่ด้านหน้าว่า'แองเจเล่ ริโอ'

ด้านหลังมีอีกประโยคว่า'ถ้าหายโปรดติดต่อตระกูลขุนนางในพันธมิตรแอนดีส'

มันเป็นป้ายที่ใช้ติดฉลากทาส ด้วยป้ายที่คอของเธอเคทลินจะกลายเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของแองเจเล่ สิทธิของเธอในฐานะพลเมืองถูกยึดครองโดยเจ้าชาย

"ต้องการจะทำอะไร ทำไมพวกขุนนางไม่ใช้เวลาทำอะไรที่มีความหมายจริงๆ" แองเจเล่ถอนหายใจและพึมพำ

"ไปที่หอคอย" เขาตะโกนออกมา

"ครับ" มัลฟอยตอบและรถม้าก็เริ่มเคลื่อนที่

************************

ภายในห้องที่ชั้นสามของหอคอย มีแสงไฟจากโคมไฟน้ำมันกำลังเผาไหม้อย่างเงียบๆบนกำแพง พวกมันเป็นแหล่งของแสงไฟในห้อง

แองเจเล่นอนลงบนเตียงและมองไปที่ท้องฟ้ายามค่ำคืนผ่านหน้าต่าง จันทร์เสี้ยวสองดวงอยู่กลางท้องฟ้ามีบางส่วนถูกบัดบังด้วยเมฆ

เคทลินคลุมผ้าห่มอยู่ข้างๆแองเจเล่ เธอรู้สึกเหนื่อยและหลับไปหลังจากที่ทำอะไรสนุกๆเล็กน้อย

แองเจเล่ค่อยๆขยับมือของเขาผ่านผมที่เรียบเนียนของเคทลิน

'พ่อได้ตัดสินใจถูกแล้ว'

แองเจเล่จำสิ่งที่บารอนคาร์ลได้บอกเขาเมื่อกลับบ้าน

หลังจากที่ได้มีเพศสัมพันธ์กับเคทลินเขาก็รู้ว่ามันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะสืบพันธุ์หลังจากตรวจสอบโดยซีโร่ ตระกูลริโอต้องให้คนอื่นสืบทอดตระกูลต่อไป

เคทลินตื่นขึ้นมาในขณะที่เขากำลังคิด แองเจเล่เอามือออกมาและลุกขึ้นจากเตียงแล้วรีบใส่เสื้อผ้า

"อยู่ที่นี่ ข้าได้บอกให้คนส่งเจ้ากลับไปที่โรงเรียนแล้ว ตอนนี้เจ้าเป็นอิสระแล้วมันไม่มีอะไรเปลี่ยน ไม่ต้องกังวล"

แองเจเล่มองไปที่เธอ ด้วยการดีดนิ้วของเขาก็ทำให้มีควันสีเขียวโดนหัวของเคทลิน

ดวงตาของเคทลินกลอกขึ้นและเธอก็เป็นลมก่อนที่จะตอบ

หลังจากนั้นควันสีเขียวได้กลับมาที่ปลายนิ้วของแองเจเล่ เขาสวมชุดคลุมสีดำและไปห้องนอนอีกห้องบนชั้นเดียวกัน

มันเป็นห้องที่เขาใช้สำหรับการทำสมาธิ มันมีเพียงเตียงเรียบๆอยู่ในห้อง เนื่องจากเขาได้ยืนยันข้อสันนิษฐานของเขาเกี่ยวกับการสืบพันธุ์แล้วเขาจึงตัดสินใจที่จะไม่เสียเวลาไปกับมัน แม้ว่าการทำสมาธิจะไม่ช่วยเขาอีกต่อไปแต่มันก็ยังเพิ่มพลังจิตของเขาเล็กน้อยถ้าเขาทำหลายปี

**********************

หลายวันต่อมา....

ในตอนเช้า

มีรถม้าสีเทาขนาดเล็กออกจากเมืองอาเรียและผ่านด่านยาม มันไม่ได้อยู่บนถนนสายหลักนานนักก่อนที่จะเลี้ยวไปทางขวาและเข้าสู่เส้นทางเงียบๆหลังจากที่ผ่านไปหลายนาที ดูเหมือนว่ารถม้านั้นหนักมาก แม้ว่าจะมีม้าสามตัวดึงแต่มันก็ยังเคลื่อนที่ช้า

มีต้นไม้สีเขียวอยู่สองด้านของเส้นทางและถนนก็เต็มไปด้วยหลุมบ่อ ชายหนุ่มผมยาวสีน้ำตาลนั่งอยู่ที่นั่งคนขับสวมชุดหนังสีน้ำตาลที่ไม่สามารถซ่อนกล้ามเนื้อของเขาได้

เขาเป็นแองเจเล่ที่ออกจากเมืองโดยไม่ได้แจ้งคนอื่น

เขาจับสายบังเหียนในมือไม่ได้ควบคุมม้าด้วยอนุภาคพลังงาน มีนกและสัตว์บางตัวหนีไปจากเสียงดังของล้อรถม้า น้ำกระเด็นไปด้านข้างของเส้นทางในขณะที่รถม้าผ่านบ่อน้ำเล็กๆ

เวลาได้ผ่านไป แองเจเล่เดินทางไม่หยุดจนถึงเที่ยงเมื่อมีเมฆหนา

ฝนกำลังจะตก

สายลมได้พัดผ่านต้นไม้เมื่อแองเจเล่มาถึงเส้นทางตรงหลังจากที่เลี้ยวหลายรอบ เขาจับสายบังเหียนใบมือและเอาเศษไม้ออกมาจากกระเป๋า

เขาตรวจสอบคำที่เขียนบนเศษไม้อย่างระมัดระวังและเอากลับเข้าไปในกระเป๋า เสียงที่มาจากล้อที่หมุนมันดังในป่าที่เงียบสงบเช่นนี้ ทันใดนั้นแองเจเล่ก็ได้ยินเสียงชายคนหนึ่งร้องเพลงข้างหน้า เสียงของเขาผสานกับเสียงลมหอนทำให้แองเจเล่ได้ยินบางส่วนของเนื้อเพลง

".....เธออยู่ข้างหลังฉัน เธออยู่ข้างหลังฉัน......."

เสียงดังชัดขึ้นในขณะที่แองเจเล่เข้าไปใกล้ขึ้น เขาขมวดคิ้วเพราะเนื้อเพลงไม่มีความหมายอะไรและเพลงมันก็แปลก

หลังจากผ่านไปหลายนาทีแองเจเล่ก็เห็นชายวัยกลางคนร่างเล็กเลื่อยต้นสนขนาดใหญ่ เขาผูกเสื้อไว้ที่เอวและมีเหงื่อหยดลงบนใบหน้าของเขา แองเจเล่คิดว่าชายคนนี้อาจจะแค่ตะโกนไปเรื่อยไปขณะที่กำลังเลื่อยต้นไม้และคำพูดเหล่านั้นดูเหมือนเนื้อเพลง

"เฮ้! เจ้า! เจ้าช่วยอะไรหน่อยได้ไหม" แองเจเล่ตะโกนออกไปเมื่อหยุดรถม้า

ชายร่างเล็กปาดเหงื่อออกจากหน้าผากด้วยเศษผ้าและมองไปที่แองเจเล่ เขาตกใจที่เห็นขุนนางเดินทางเข้าป่าลึกคนเดียว จากนั้นเขาก็วางเลื่อยลงบนพื้นและรีบเดินมาหาแองเจเล่

เมื่อมาหยุดข้างรถม้าเขาก็โค้งให้และถาม "ท่านต้องการอะไรครับ"

"ป่าเงาอยู่ที่ไหน" แองเจเล่ถามเสียงเบา

"ป่าเงา ไปตามถนนเส้นนี้และท่านจะถึงในสองวัน มันไม่ห่างจากที่นี่มากแต่สถานที่นั้นเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตอันตราย ข้าเห็นแมงมุมสีดำขนาดเท่าหัวออกจากป่าครั้งหนึ่งและมันฆ่าอัศวินจากอาเรีย"

"เจ้าเคยได้ยินสถานที่ที่เรียกว่ารังของอริด้าหรือไม่" แองเจเล่ถาม

"ขอโทษด้วยข้าไม่เคยได้ยิน...." ชายคนนั้นส่ายหัว "แต่ข้ารู้ว่ามีหน้าผาอยู่ในป่าที่มีรังจำนวนมากอยู่ไม่แน่ใจว่านั่นคือรังของอริด้าที่ท่านพูดถึงหรือไม่"

"เจ้าช่วยทำเครื่องหมายบนแผนที่ของข้าได้ไหม" แองเจเล่นำแผนที่หนังออกมาและบอกให้ชายคนนั้นทำเครื่องหมายตำแหน่งของหน้าผาให้เขา

"เดี๋ยวก่อน ทำไมเจ้าถึงอยู่ที่นี่คนเดียว เจ้าไม่ได้บอกว่ามีสัตว์ร้ายอยู่ใกล้ๆหรือ" แองเจเล่ถามหลังจากที่เอาแผนที่กลับเข้าไปในกระเป๋าของเขา

"ข้าเป็นนายพรานและข้าอาศัยอยู่แถวนี้ ข้าเตรียมวัสดุสำหรับบ้านไม้ของข้าแต่ข้าได้ทำขวานหายดังนั้นข้าจึงต้องใช้เลื่อย" ชายคนนั้นตอบกลับในขณะที่เกาศีรษะ "ท่านเห็นหอเฝ้าระวังตรงซ้ายมือที่ถูกทอดทิ้งไหม ข้างๆมีสะพานเล็กๆอยู่ มันสามารถพาข้าไปอีกด้านของแม่น้ำโจนาห์ได้ ถ้าข้าสร้างบ้านที่นั่นข้าก็จะมีสถานที่พักผ่อนหลังจากวันล่าสัตว์"

แองเจเล่มองไปตามทิศที่นายพรานชี้ไป มีหอเฝ้าระวังอยู่ระหว่างช่องว่างของต้นไม้และด้านข้างมีสะพานไม้

ดวงอาทิตย์เกือบจะปกคลุมไปด้วยเมฆหนา แองเจเล่กะพริบตาทันใดนั้นเขาก็เห็นเด็กสาวคนหนึ่งเดินข้ามสะพานเงียบๆ

"นั่นเป็นลูกสาวของเจ้าหรือ ทำไมเจ้าพาเธอมาที่นี่" แองเจเล่ขมวดคิ้ว

"ลูกของข้า" นายพรานหันไปมองรอบๆ เขาดูสับสน "ไม่มีครับท่านข้ามาที่นี่คนเดียว ไม่มีทางที่ข้าจะนำลูกสาวมาที่ป่ามันอันตรายเกินไป"

"จริงหรือ แล้วเธอคือใคร" แองเจเล่ชี้ไปที่สะพานแต่เด็กสาวก็หายไปแล้ว

"ข้าไม่เห็นอะไรเลยครับท่าน...." นายพรานไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

แองเจเล่ลดมือลงและลูบคาง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด