ตอนที่ 146: ภายในป่า (1)
แองเจเล่และโอมิเคดต่างพอใจกับการแลกเปลี่ยน
มีเพียงสิ่งเดียวที่แองเจเล่เสียใจก็คือมีหนังสือโกลาหลเล่มเดียวที่มีคุณค่าในขณะที่หนังสือบันทึกอื่นไม่สมบูรณ์ที่เขียนในภาษาวัลโซฟและบารัน นอกจากนี้บันทึกที่ไม่สมบูรณ์เก่าๆส่วนใหญ่มีข้อมูลไร้ประโยชน์อยู่
แองเจเล่ยืดหลังตรงและวางหนังสือบันทึกเล่มที่ไม่สมบูรณ์เล่มสุดท้ายลง
"ท่านคิดว่าอย่างไร ท่านต้องการมันไหม" โอมิเคดยืนอยู่ข้างเขาด้วยการคาดหวังว่าแองเจเล่จะแลกเปลี่ยนอะไรกับเขาอีก
"ข้าขอโทษด้วย" แองเจเล่ส่ายหัว
"เอาล่ะ ข้าหวังว่าจะได้รับสิ่งอื่นจากท่าน ฮ่าฮ่า"
แองเจเล่ได้ยินคำพูดของโอมิเคดและยิ้มกว้างขณะที่พยักหน้า
"เยี่ยม ที่จริงแล้วข้าต้องการอะไรบางอย่างจากเจ้า ข้าคิดว่ามันเป็นงานที่ง่ายมาก'
"ท่านต้องการอะไร" โอมิเคดถามอย่างแปลกใจ
"รวบรวมโลหะให้ข้า ข้าต้องการมันทั้งหมด" เขาไม่ได้ซ่อนอะไร มันเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เขาตัดสินใจที่จะมาเมืองหลวง
"อืมม โลหะ มันไม่ใช่ปัญหาเลยแต่เราต้องออกจากหอคอยและไปคุยกับช่างตีเหล็กก่อน"
"ตกลง"
แองเจเล่เก็บหนังสือบันทึกโกลาหลใส่กระเป๋าและเดินลงบันไดลงพร้อมกับโอมิเคดทันที พวกเขาเดินทางไปร้านของช่างตีเหล็กโดยใช้รถม้าของโอมิเคดประมาณสองชั่วโมง
"เรามาถึงแล้วถนนของช่างตีเหล็ก"
ปราชญ์เปิดประตูและลงจากรถม้า
แองเจเล่ลงจากรถม้าด้วยเช่นกัน ขณะที่เขาลงบนพื้นเขาก็รู้สึกเหนียวที่พื้นรองเท้าของเขา
พื้นผิวสีดำเหมือนน้ำมันอยู่ในสายตาของแองเจเล่
มีหลายอาคารที่เรียบง่ายเรียงรายอยู่สองด้านและเขาก็ได้ยินเสียงช่างตีเหล็กทุบค้อนบนทั่งเหล็กภายในร้านค้าของพวกเขา
กลิ่นเผาไหม้ได้ลอยไปตามอากาศของถนน สถานที่นี้มันมืดมนและสกปรกทำให้แองเจเล่รู้สึกไม่ดี
แองเจเล่เห็นนักผจญภัยที่มีดาบกางเขน โล่เหล็กและค้อนกำลังดูร้าน
รถม้าของปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใคร คนเดินเท้าและนักผจญภัยได้เหลือบมองแต่ไม่มีใครมาทักทายโอมิเคด มันดูเหมือนว่าเขามาที่นี่บ่อยๆและคนอื่นก็ไม่แปลกใจกับการปรากฏตัวของเขา
โอมิเคดพาแองเจเล่ไปร้านช่างตีเหล็กที่ใหญ่ที่สุดบนถนนที่ตึกขนาดใหญ่ที่มีทางเข้าสามทางอยู่ข้างหน้า ชื่อของร้าน'ร้านช่างตีเหล็กฟรานเชสโก้'ถูกสลักไว้ที่ป้ายทองแดงด้านบน
มีเพียงไม่กี่คนที่ที่อยู่ในร้านและแองเจเล่เห็นหญิงวัยกลางคนที่ห้อยดาบใหญ่ไว้ที่หลังกำลังด่า
"เจ้าแก่บัดซบ! ฟรานเชสโก้พูดจริงหรือ 5,000 เหรียญทองสำหรับฝัก สักวันหนึ่งเจ้าจะจมน้ำตายในกองเหรียญทอง"
"ถ้าเจ้าไม่มีเงินก็ไม่ต้องมาที่นี่ ไสหัวไป" มีเสียงหยาบคายดังมาจากข้างใน
"F....!" หญิงวัยกลางคนชูนิ้วกลางให้ฟรานเชสโก้และออกไปอย่างโกรธเกรี้ยว
แองเจเล่รู้ว่าเสียงนั้นต้องมาจากชายที่แข็งแกร่งและสูงเพียงแค่ได้ยิน
โอมิเคดยักไหล่และมองไปที่แองเจเล่
"มันก็ยังเป็นร้านช่างตีเหล็กที่ดีที่สุดในเมือง ข้อเสียคือราคาของมัน"
แองเจเล่หัวเราะและตามโอมิเคดเข้าไปในร้าน เมื่อเข้าไปมีไอน้ำที่รุนแรงโดนใบหน้าของเขา
มีชายร่างยักษ์สูงสามเมตรกำลังเหวี่ยงค้อนขนาดเท่าหัวตีโลหะร้อนสีแดง อีกด้านหนึ่งกำลังมีคนสี่คนพยายามสูบลมอย่างดีที่สุดเพื่อให้เตาหลอมของเตาเผาไหม้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม ทั้งห้าคนใช้พื้นที่มากที่สุดในร้าน
มีเพียงพื้นที่เล็กๆที่แสดงอาวุธและโล่ที่สร้างขึ้น
"ฟรานเชสโก้นำแท่งโลหะทั้งหมดที่เจ้ามีมาที่นี่ เพื่อนของข้าอยากเห็นพวกมัน" โอมิเคดตะโกนใส่ชายร่างยักษ์แต่เสียงของเขามันดังน้อยกว่าเสียงค้อนและเสียงสูบลม
"แท่งโลหะ เจ้าจะเอาไปทำอะไร" ชายร่างยักษ์ยืดหลังตรงและวางโลหะลง
มีเหงื่อและน้ำมันปกคลุมกล้ามเนื้อของเขา เขามีหัวล้าน ไม่มีขนคิ้วหรือเคราและมีตุ้มหูทองขนาดใหญ่ที่หูซ้าย
"ข้างต้องการพวกมันไม่ใช่เขา ที่นี่มีโลหะที่แตกต่างกันกี่ประเภท" แองเจเล่ถามและก้าวไปข้างหน้า
"อะไร เจ้า" ฟรานเชสโก้บอกให้คนสูบลมหยุดทำงานสักครู่และเริ่มสังเกตชายร่างเล็กข้างหน้าเขา เขาสังเกตเห็นชุดคลุมสีดำที่ปกคลุมร่างกายของแองเจเล่อย่างรวดเร็วและดูเหมือนว่าชุดคลุมทำให้เขานึกถึงอะไรบางอย่าง
"อา......ความมืด....." ฟรานเชสโก้หยุดพูดคำต่อไปแต่แองเจเล่มองเห็นความเคารพในสายตาของเขา "ท่านต้องการอะไร ข้ามีแท่งที่แตกต่างกันอยู่ตรงนี้" เขาหันกลับไปและคว้าไปที่กล่องขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยแท่งโลหะสีเข้ม
"รอสักครู่ข้ามีอีก"
ก่อนที่แองเจเล่จะตอบชายร่างยักษ์ก็เดินไปที่มุมหนึ่งแล้วเดินเข้าไปในห้องเก็บของและย้ายกล่องขนาดใหญ่ห้ากล่องมาไว้ข้างหน้า แต่ละกล่องสูงประมาณหนึ่งเมตรและเต็มไปด้วยแท่งโลหะ
มีทั้งหมดหกกล่องที่วางอยู่ข้างหน้าแองเจเล่ มีแท่งสีขาว สีแดงเข้ม สีเงินในขณะที่ส่วนที่เหลือเป็นสีดำที่ส่องแสงสีเงิน
"มีเหล็กดวงดาวสามกล่อง เหล็กกล้าเยื่อขาว เหล็กกล้าแก่นเลือดและทองแดงนทีอย่างละกล่อง นี่เป็นแท่งโลหะที่หายากที่สุดในร้านของข้า ท่านสนใจตัวไหนหรือไม่"
แองเจเล่ขมวดคิ้ว เขาไม่รู้ว่าชายร่างยักษ์กำลังพูดอะไรอยู่และเขาก็ตัดสินใจที่จะตรวจสอบกับซีโร่
"ข้าไปดูใกล้ๆได้ไหม"
"แน่นอน" ฟรานเชสโก้หลบไปด้านข้างและยิ้ม
แองเจเล่ก้าวไปข้างหน้าและซีโร่ก็สแกนแท่งโลหะทั้งหมด เหล็กดวงดาวนั้นแข็งและยืดหยุ่นแต่มันไม่มีความต้านทานเวทมนต์
เหล็กกล้าเยื่อขาวไม่ยืดหยุ่นแต่แข็งมาก มันเป็นสิ่งที่ดีสำหรับการสร้างอาวุธที่แหลมคมแต่มันไม่สามารถใช้ทำโล่ได้ มันมีความต้านทานเวทมนต์ต่ำเช่นกัน
เหล็กกล้าแก่นเลือดไม่สามารถทนต่ออุณหภูมิที่สูงและมันเป็นโลหะที่มีความต้านทานต่ำ สิ่งสุดท้ายคือทองแดงนที มันสามารถทนอุณหภูมิและรังสีได้สูงแต่ความแข็งของมันต่ำ ทองแดงนี้มักจะใช้สำหรับทำวัสดุฉนวนความร้อน
"เจ้ามีสิ่งที่มีความยืดหยุ่นได้ดีเมื่อหลอมละลายและมีความแข็งสูงหลังจากที่เย็นหรือไม่" แองเจเล่ถาม
"อืมมม ขอข้าคิดสักครู่" ฟรานเชสโก้ลูบคางและคิดอยู่ครู่หนึ่ง
"นายท่าน เรายังมีเหล็กเชื้อเพลิงอยู่สองกล่องใช่ไหม" ทันใดนั้นชายที่ทำหน้าที่สูบลมพูด
"เหล็กเชื้อเพลิง เจ้าพูดถูก ลีสันไปนำกล่องมาที่นี่"
"ครับ พวกเจ้ามากับข้า" ลีสันตอบและเข้าไปในห้องเก็บของ หลังจากที่ผ่านไปหลายนาทีก็มีกล่องที่มีแท่งเหล็กสีดำสองกล่องวางลงข้างหน้าแองเจเล่ แท่งเหล่านี้มีรูขนาดเล็กด้วยเหตุผลบางอย่าง
"เหล็กเชื้อเพลิง มันคืออะไร" แองเจเล่อยากรู้
ฟรานเชสโก้อธิบายทันที "เหล็กเชื้อเพลิงเป็นโลหะที่ติดไฟได้เมื่อมีจุดหลอมเหลวสูงแต่เมื่อมันสว่างขึ้นท่านก็ไม่สามารถดับมันได้ง่ายๆ"
เขาคว้าเหล็กเท่ากำปั้นจากกล่องในขณะที่พูด
"ลมจะทำให้มันเผาไหม้ได้นานขึ้น เหล็กเชื้อเพลิงขนาดนี้จะอยู่ได้ทั้งวันถ้าท่านไม่ได้พยายามดับมัน เหล็กนี้มาจากแร่ใต้น้ำพิเศษ มันอันตรายมากถ้าท่านใช้มันในป่า"
"น่าสนใจ...." แองเจเล่คว้าแท่งเหล็กและสังเกต
มันหนักและแข็ง ผิวของมันปกคลุมไปด้วยรูเล็กๆและมันดูเหมือนรังผึ้ง
แองเจเล่ดมมัน กลิ่นของมันเหมือนยาง
"ข้ารู้จักสิ่งนี้ ปกติมักจะใช้ในการโจมตี คลุมมันด้วยผ้าชุบน้ำมันแล้วเมื่อมันสว่างขึ้นก็ยิงมันด้วยบัลลิสต้า ความเสียหายของมันน่าทึ่งมาก" โอมิเคดพูดในขณะที่มองไปที่แองเจเล่ "แต่มันไม่ได้หายาก แร่นี้หาได้ง่ายมาก"
"ข้าจะเอาแท่งโลหะทั้งหมดที่เจ้าให้ข้าดู พวกมันทั้งหมดราคาเท่าไหร่"
"ถ้าท่านต้องการเพียงแค่วัสดุข้าสามารถลดให้ท่านได้" ชายร่างยักษ์ถูมือและทำการคำนวณ "ประมาณ 120,000 เหรียญทอง"
"120,000 เหรียญทอง.....ไม่มากเท่าไหร่" โอมิเคดพยักหน้า "ข้าจะจ่ายเอง ฟรานเชสโก้ลงบิลของข้า ไปที่หอคอยของข้าและเอาเหรียญทองก่อนสิ้นเดือน"
"ตกลง"
แองเจเล่พยักหน้า เขาไม่ได้มีเหรียญทองมากมายดังนั้นเขาจึงต้องให้ปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่จ่ายเงินแท่งโลหะ
"ขอบคุณโอมิเคด"
"ไม่เป็นไร ข้ายังมีคำถามที่จะถามท่านและความรู้เป็นสิ่งไม่มีราคา" โอมิเคดยิ้ม
ทั้งสองจ้างรถม้าสี่คันเพื่อขนกล่องกลับไปที่หอคอยของโอมิเคด
จัสตินมาเชิญแองเจเล่เพื่อไปงานเลี้ยงเมื่อเขากลับมาที่หอคอย พวกเขายังบอกด้วยว่าจะมีขุนนางจำนวนมากอยู่ในงานเลี้ยง
แม้ว่าแองเจเล่ต้องการปฏิเสธคำเชิญแต่เขาก็ยังได้รับความช่วยเหลือจากจัสตินดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะเข้าร่วมและดูว่ากษัตริย์กำลังคิดอะไร