ตอนที่ 141: การมาถึง (4)
ยามหลายคนได้เตรียมพลั่วเหล็กไว้ พวกเขาพยักหน้าและเริ่มขุด โลงศพสีแดงถูกนำออกมาจากหลุมฝังศพและพวกเขาก็เปิดโลงศพ ร่างกายของแม็กกี้นอนอยู่ข้างใน
สาวสวยถูกปกคลุมไปด้วยดอกไม้แห้ง เธอสวมชุดสีดำที่สะอาด ดวงตาของเธอปิดและผิวของเธอก็ซีด มีรอยบนคอและหน้าอกของเธอ ถ้าไม่รู้ว่าเธอตายแล้วแองเจเล่คงคิดว่าเธอหลับอยู่
"วัสดุของโลงศพนั้นดี มันป้องกันไม่ให้ร่างกายสลายตัว" แองเจเล่พยักหน้า
"ครับ โลงศพถูกสร้างจากไม้เนื้อดีที่ได้จากต้นเพชรแดง โลงศพขนาดใหญ่จะใช้มากกว่าหนึ่งร้อยเหรียญทอง" ยามอธิบาย
เหรียญทองที่นี่แตกต่างจากที่โพ้นทะเล เหรียญทองที่นี่มีความบริสุทธิ์สูงกว่าและมีขนาดใหญ่กว่าดังนั้นเหรียญทองหนึ่งร้อยเหรียญในดินแดนนี้มีมูลค่าประมาณหนึ่งพันเหรียญทองในจักรวรรดิแรมโซด้า
ยามได้วางผ้าสีขาวขนาดใหญ่ลงบนพื้นหญ้าและเอาศพออกจากโลงศพ แองเจเล่ได้กลิ่นพูทรีซีน(สารเคมีชนิดหนึ่งซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร)ในอากาศในขณะที่ศพของแม็กกี้กำลังถูกวางลงบนผ้า
ยามปิดจมูกด้วยมือก่อนที่จะทำงานของพวกเขาเสร็จ
.
"ไปเฝ้าทางเข้าไว้ ถ้าปราศจากคำสั่งของข้าไม่ต้องให้ใครเข้ามา นอกจากนี้บอกเรย์เบ็นว่าข้ากำลังสืบสวนอยู่" แองเจเล่สั่ง
"ครับนายท่าน"
ยามออกไปทันทีหลังจากที่แองเจเล่พูดจบ พวกเขารู้ว่ามันไม่ใช่ความคิดที่ดีที่จะอยู่ใกล้ร่างที่เน่าเปื่อยนานเกินไปเพราะอาจมีเชื้อร้ายแรง
แองเจเล่รอยามออกไปและทำให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบๆ
เขาก้าวไปข้างหน้าและก้มลงข้างร่างกายของแม็กกี้ เขารีบถอดเสื้อผ้าออกและเริ่มตรวจหาบาดแผล
แองเจเล่ยกมือขึ้นในอากาศและชี้ไปที่ร่างกายของแม็กกี้
'อาการป่วยฉับพลัน.....ข้าหวังว่ามันจะเป็นความจริง' แองเจเล่เลียริมฝีปากเล็กน้อย
มือขวาของเขาปกคลุมไปด้วยแสงสีแดง แสงสีแดงตกลงบนร่างกาย แสงเหล่านั้นเริ่มเคลื่อนไหวรอบผิวของเธอและกะพริบหลายครั้ง
ในขณะเดียวกันก็มีพื้นที่สีดำปรากฏที่อกขวาของเธอทำให้มองเห็นได้อย่างชัดเจนเมื่อมีแสงสีแดง
แองเจเล่กดอกซ้ายของเธอด้วยมือขวาและลูบพื้นที่สีดำหลายครั้ง นอกจากนี้เขายังตรวจสอบท้องของแม็กกี้ด้วยฟังก์ชั่นการสแกนของซีโร่
"อาการป่วยฉับพลันตูดแกสิ" แองเจเล่กัดฟัน
แม้ว่าเขาจะโกรธแต่เขาก็ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร แองเจเล่ขยับมือขวาออกและใส่เสื้อผ้าสีดำให้เธอ
แองเจเล่ยืนขึ้นและเช็ดมือของเขาด้วยเศษผ้า
"มานี่!" เขาตะโกนไปทางเข้าและมียามหลายคนวิ่งมาหาเขาอย่างรวดเร็ว
"นายท่านมีอะไรให้รับใช้"
"เอาศพกลับเข้าไปในโลงศพและฝังไว้"
ยามนำร่างกลับเข้าไปในโลงศพและปกคลุมด้วยโคลน แองเจเล่เดินออกจากสุสานหลังจากที่ทำทุกสิ่งทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว
'เธอไม่ได้ตายด้วยอาการป่วยอย่างบังเอิญ' แองเจเล่นั่งอยู่ในรถม้าและพูดอยู่ในลำคอ
'แม็กกี้ถูกทารุณกรรมก่อนที่เธอจะถูกฆ่า จุดสีดำบนร่างกายของเธอเป็นหลักฐาน นอกจากนี้มันยังเป็นพิษจากดอกจุดเขียว พิษทำให้กล้ามเนื้อของเธอหดตัวทำให้ดูเหมือนหัวใจวาย คนที่ฆ่าเธอจะต้องจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ'
แองเจเล่หลับตา อนุภาคพลังงานสีดำค่อยๆออกมาจากมือขวาของเขา
'ให้ข้าลองคาถาติดตามที่ข้าเรียนไม่นานมานี้' เขาวาดสามเหลี่ยมในอากาศด้วยอนุภาคพลังงาน
หลังจากที่สามเหลี่ยมแข็งตัวในอากาศแองเจเล่ก็หยิบขวดสีดำออกมาและเทผงสีเทาลงบนขอบของมัน
ชี่
หลังจากผ่านไปหลายวินาทีขอบของสามเหลี่ยมสีดำก็เปลี่ยนเป็นคริสตัลโปร่งใส มีช่องว่างสีดำอยู่ตรงกลางและมีปากสีแดงปรากฏออกมา
ปากเปิดเล็กน้อย แองเจเล่ได้ยินเสียงกระซิบแปลกๆ ปากไม่ได้พูดภาษาแอนแมค มันเป็นภาษาที่เขาเข้าใจเพียงคนเดียว
"พูดมาว่าเจ้าอยากรู้อะไร"
แองเจเล่หรี่ตา
"แม็กกี้ เธอเป็นเพื่อนของข้าใครฆ่าเธอ" แองเจเล่ตอบด้วยภาษาเดียวกันกับที่ปากกำลังใช้
"คฤหาสน์ที่ใหญ่ที่สุดทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง เจ้าของคือฆาตกร" ปากตอบโดยไม่ลังเล
"ดี" การแสดงออกของแองเจเล่เปลี่ยนไป
ปากค่อยๆหายไปในความมืด คริสตัลสามเหลี่ยมเปลี่ยนเป็นหมอกสีดำและหายไปราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"เรย์เบ็น มีคฤหาสน์ที่ใหญ่ที่สุดทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองใช่ไหม ใครเป็นเจ้าของ" เขาถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
"มันเป็นคฤหาสน์ของพัศดีเจอรัลครับ" เรย์เบ็นตอบอย่างสุภาพ
เขาสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในน้ำเสียงของแองเจเล่และพูดเสริม "นายท่านถ้าท่านต้องการอะไรบางอย่างข้าสามารถทำให้ท่านได้ เจ้าชายจัสตินมอบอำนาจให้ท่านมีอำนาจสูงสุดในเมือง"
"บอกให้ยามไปทำลายล้างตระกูลเจอรัลให้ข้า"
"ข้า..." เรย์เบ็นตกใจ เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
"เขา ฆ่า ผู้หญิง ของ ข้า" แองเจเล่พูดทีละคำ
"ถ้าท่านมีหลักฐานข้าสามารถ...." เรย์เบ็นตอบอย่างสุภาพ
"ฆ่าพวกเขา เจ้าคิดว่าข้าโกหกงั้นหรือ"
เรย์เบ็นขยับริมฝีปากแต่ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจที่จะไม่พูดอะไร
**************************
ภายในตอนเย็นมีกลุ่มคนโจมตีคฤหาสน์ของเจอรัลและฆ่าทุกคนที่พวกเขาเห็น
ทั้งตระกูลเจอรัลรวมถึงคนรับใช้เสียชีวิต ต่อมาญาติของเจอรัลที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อื่นๆของเมืองก็ถูกทำร้ายเช่นกัน
ในคืนเดียวคนหลายสิบคนถูกสังหาร คฤหาสน์ของเจอรัลย้อมไปด้วยเลือดแต่เจ้าเมืองประกาศบนกระดานว่าพวกเขากำลังสืบสวน
พลเมืองรู้อยู่แล้วว่าเจอรัลต้องทำให้คนที่มีอำนาจไม่พอใจดังนั้นแม้แต่นักข่าวก็ไม่ได้ขุดลึกเข้าไปในเรื่องนี้ พวกเขาทำราวกับว่าพวกเขาไม่เคยรู้ว่ามีคนที่ชื่อเจอรัลเพราะพวกเขาไม่อยากมีปัญหา
เช้าวันต่อมา
ที่คฤหาสน์ของเจอรัล
.
อาคารสีเทาหลายหลังนั้นตั้งเงียบๆอยู่ตรงกลางสวน
มีกุหลาบขาวผสมกับกุหลาบแดงอยู่ข้างสวน คราบเลือดเต็มช่องว่างระหว่างพื้นหญ้า กลิ่นคาวผสมกับกลิ่นหอมของกุหลาบลอยอยู่ในอากาศ
รถม้าสีเงินค่อยๆผ่านทางเข้าของคฤหาสน์
ชายหนุ่มที่มีผมยาวสีน้ำตาลในรถม้าเปิดหน้าต่างและมองไปที่คฤหาสน์ เขามีหน้าตาธรรมดาๆแต่ดวงตาของเขาแหลมคมและมีรัศมีลึกลับอยู่รอบตัวเขา
"เจ้าทำงานได้ดี" ชายหนุ่มพูดอย่างสงบ
ทหารที่ขี่ม้าอยู่ข้างรถม้าโค้งให้เล็กน้อย "มันเป็นเกียรติของข้าที่ได้รับใช้ท่าน"
ชายหนุ่มพยักหน้าและปิดหน้าต่าง
"พาข้าไปหารองเจ้าเมือง ข้าไม่ได้พูดกับเขาหลายปีแล้ว"
"ครับนายท่าน" ทหารพยักหน้า
รถม้าวิ่งตามถนนด้วยความเร็วเต็มที่และออกจากพื้นที่นี้หลังจากผ่านไปหลายนาที
******************
"แองเจเล่ยินดีต้อนรับกลับ" อดอล์ฟกอดแองเจเล่แน่น
"มันเป็นเรื่องของเวลาที่เจ้าจะมาเยี่ยมข้า"
"ขอโทษด้วยที่ข้าช้าอาจารย์" แองเจเล่กอดกลับและยิ้ม
"เข้ามาสิ" อดอล์ฟหันกลับไปและพาแองเจเล่เข้าไปในบ้านของเขา
อดอล์ฟไม่ได้ย้าย เขายังคงอาศัยอยู่ในบ้านที่แองเจเล่เคยมาหลายครั้ง พวกเขาเดินเข้าไปในห้องอ่านหนังสือและนั่งลง อดอล์ฟบอกให้สาวใช้นำแก้วเครื่องดื่มร้อนๆมาให้สองแก้ว พวกเขาหยุดการสนทนาชั่วครู่และเริ่มจ้องกันและกัน
"เจ้าได้ทำลายขีดจำกัดแล้วใช่ไหม" ทันใดนั้นอดอล์ฟก็ถาม
"ครับ"
"ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็เป็นพ่อมดทางการแล้วใช่ไหม"
"ครับข้าเป็นแล้ว!" แองเจเล่มองไปในดวงตาของอดอล์ฟ
อดอล์ฟเปิดปาก ริมฝีปากของเขาสั่น มีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเขา หลังจากผ่านไปหลายวินาทีเขาก็คว้าผ้าไหมและเช็ดน้ำตาของเขา
.
"ขอแสดงความยินดีด้วย!" อดอล์ฟสงบลงหลังจากที่ร้องไห้อยู่ครู่หนึ่ง
แองเจเล่รู้ว่าความฝันของอดอล์ฟคือการกลายเป็นพ่อมดทางการแต่เขาล้มเหลวในการบรรลุเป้าหมาย อดอล์ฟรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นนักเรียนของเขาแองเจเล่ประสบความสำเร็จในการทำลายขีดจำกัด มันเป็นอีกทางหนึ่งที่ทำให้ความฝันของเขาเป็นจริง
อดอล์ฟมองที่แองเจเล่แต่ภายในดวงตาของเขากำลังแสดงให้เห็นว่าเขากำลังคิดถึงสิ่งอื่น เขาเป็นคนช่วยแองเจเล่กลายเป็นพ่อมดฝึกหัด แองเจเล่ประสบความสำเร็จในการกลายเป็นพ่อมดทางการ เขาไม่สามารถแม้แต่จะจินตนาการได้ว่าแองเจเล่พยายามแค่ไหนในการบรรลุเป้าหมาย แองเจเล่ยังเด็กอยู่และมีอนาคตที่ดีรอเขาอยู่ข้างหน้า อดอล์ฟรู้ว่าเขาเพิ่งประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่
"เจ้าพยายามได้ดี สักวันหนึ่งทั้งโลกพ่อมดจะรู้ชื่อของเจ้า" อดอล์ฟยังคงหายใจอย่างแรง
"ถ้าปราศจากความช่วยเหลือของอาจารย์ข้าก็คงจะไม่มีวันไปถึงอีกด้านของทะเล อาจารย์เป็นเหตุผลที่ทำให้ข้าประสบความสำเร็จ" แองเจเล่จับมือของอดอล์ฟและมองไปในดวงตา
"ดูแลตัวเองด้วยอาจารย์ ถ้าท่านต้องการความช่วยเหลือข้าก็พร้อมจะช่วยเสมอ"
"ขอบคุณ...." อดอล์ฟหายใจเข้าลึกๆและค่อยๆหายใจออก
"นี่เป็นหนังสือพ่อมดที่ท่านให้ข้า" แองเจเล่ปล่อยมือและเอาหนังสือออกมาจากกระเป๋าของเขา
"ท่านให้ข้าในวันนั้น ตอนนี้ข้าจะส่งคืนให้กับเจ้าของที่แท้จริง"
อดอล์ฟคว้าหนังสืออย่างระมัดระวังและวางกลับเข้าไปที่ชั้นหนังสือ
"โอ้ ข้าเกือบลืม เจ้าอยากเห็นโซเฟียไหม"
แองเจเล่พยักหน้า "แน่นอน ครั้งที่แล้วที่เราพูดกันมันก็หลายปีแล้วและมันจบลงด้วยความอึดอัด เธอกำลังทำอะไรอยู่"
อดอล์ฟถอนหายใจ "เธอทุกข์ทรมานจากภาวะซึมเศร้าหลังจากที่เธอถูกนักกวีหลอก ที่จริงแล้วตอนนี้เธอเกลียดผู้ชายทุกคน"
แองเจเล่ขมวดคิ้ว
"อาจารย์หมายถึงกวีคนนั้นหรือ ท่านได้พยายามหาเขาหรือไม่"