ตอนที่ 116: แนวคิด (1)
ความสามารถทางจิต = พลังจิต
___________________________________________________________
ฟิ้ว
กอนดอร์ได้ปาดาบโค้งเป็นเส้นสีขาวไปในอากาศ แองเจเล่ก้าวถอยหลัง มันได้ตกลงไปที่พื้นดินและตัดหญ้าไปบางส่วน เขาอยู่ห่างจากจุดที่มันตกลงประมาณหนึ่งเซนติเมตร
เขาจ้องมองไปที่กอนดอร์ที่กำลังบ้าคลั่งที่พุ่งมาจากพุ่มไม้และดึงดาบโค้งออกจากพื้นดิน
กอนดอร์ได้คลั่งหลังจากที่ได้เห็นว่าแองเจเล่เพิ่งทำอะไร อย่างไรก็ตามการโจมตีของเขาแองเจเล่หลบได้ทั้งหมด แองเจเล่เคลื่อนไหวคล่องแคล่ว เขาก้าวถอยหลังและเอนตัวไปทางด้านขวาและซ้ายเพื่อหลบการโจมตีทั้งหมดของกอนดอร์
มันเป็นการต่อสู้ฝ่ายเดียว มันเกือบจะเหมือนว่าพวกเขากำลังเล่นเกมกันอยู่
"หยุด" กอนดอร์ได้ยินเสียงเข้มมาจากข้างหลังเขา "ข้ายังไม่ตาย"
กอนดอร์ลังเลและทันใดนั้นก็ฟันไปข้างหน้า
ฟิ้ว
แองเจเล่กระโดดถอยหลังและมองไปที่กอนดอร์อย่างสงบ เขาไม่ได้พยายามที่จะสวนกลับการโจมตีของกอนดอร์เพียงแค่แทงดาบไปที่ทุ่งหญ้า
"เอาล่ะ เอาสูตรมาให้ข้าได้แล้ว ข้าไม่สนใจเรื่องความบาดหมางระหว่างตระกูลสตีเฟ่นและตระกูลนันแนลลี่" แองเจเล่พูดเสียงเบา
อความีรอยยิ้มที่ขมขื่นบนใบหน้า เขาลุกขึ้นยืนด้วยความช่วยเหลือของกอนดอร์
"ข้าเดาว่าข้าคงตายไปแล้วถ้าข้าไม่ได้บอกข้อเสนอของข้าเร็วพอ เจ้าค่อนข้างเก่ง"
"แน่นอน แผนของข้าคือการฆ่าเจ้าและค้นหาร่างกายของเจ้า" แองเจเล่ยักไหล่ "อย่างไรก็ตามข้อเสนอของเจ้ามันมีน่าหลงใหลมาก"
แองเจเล่หลอดสีเขียวขนาดเล็กออกมาและโยนไปทางอควา
อควาจับไปที่หลอดและดึงจุกออกก่อนที่เขาจะสูดดม
"เจลรักษาใช่ไหม ขอบคุณ" อควาบอกให้กอนดอร์ช่วยเขานั่งลงข้างต้นไม้ขนาดใหญ่และฉีกเสื้อผ้ารอบบาดแผล จากนั้นเขาก็เทเจลลงบนฝ่ามือและทาลงบนบาดแผล
มีควันสีเขียวออกมาจากบาดแผลของเขาหลังจากที่เจลซึมเข้าไปและอควาก็ร้องครวญครางออกมา
"อาจารย์" กอนดอร์รู้สึกกังวลอีกครั้ง เขาต้องการที่จะคว้าไปที่หลอดในมือของอควา "อาจารย์ ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม เกิดอะไรขึ้น"
"ใจเย็นๆข้าไม่เป็นไร การโจมตีที่ข้าได้รับนั้นไม่ถึงชีวิตเพราะแองเจเล่จงใจหลีกเลี่ยงอวัยวะของข้า ข้าแค่จำเป็นต้องหยุดเลือด" อควาฝืนยิ้ม
แองเจเล่หยุดดูพวกเขา เขาเริ่มเดินไปรอบๆเนื่องจากเขาต้องการตรวจสอบว่ามีพืชที่ไม่รู้จักอยู่แถวนี้หรือไม่
มันต้องใช้เวลาสักครู่สำหรับอควาเพื่อที่จะอธิบายทุกสิ่งทุกอย่างให้กอนดอร์
"แองเจเล่ขอโทษด้วยที่ให้รอ" อควาพยายามยืนขึ้น
"ไม่เป็นไร" แองเจเล่ยิ้มและหันกลับไป "ตอนนี้เจ้าให้สูตรข้าได้หรือยัง แล้วรูปแบบคาถาที่เจ้าร่ายด้วย นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่เจ้าสัญญาไว้ ข้าสนใจในคาถาโลหะมากและข้าหวังว่าข้าจะสามารถรวมมันเข้ากับทักษะดาบของข้าได้"
.
"แน่นอนๆ มันเป็นการแลกเปลี่ยนที่ยุติธรรม" อควายิ้มเช่นกันกอนดอร์ดูโล่งใจหลังจากที่ได้ฟังคำอธิบายของอควาเกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
"ขอบคุณท่านแองเจเล่สำหรับเจล.....สำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ข้าเข้าใจท่านผิดไป" กอนดอร์โค้งขอโทษแองเจเล่
แองเจเล่ประหลาดใจ "เจ้ากำลังขอโทษข้างั้นหรือ" เขาถาม "เจ้าโง่หรือเปล่า ข้าเพิ่งแทงดาบเข้าไปในหน้าอกของอาจารย์ของเจ้า"
กอนดอร์ยืดหลังตรงและส่ายหัว
"ข้าเข้าใจได้ว่าทำไมท่านถึงทำอย่างนั้น ท่านไม่ได้ผิดอะไร อาจารย์ของข้าเป็นศัตรูของท่านแต่ท่านก็ยังไว้ชีวิตเขา ข้ารู้ว่ามีเพียงสิ่งเดียวที่ท่านต้องการก็คือความรู้ที่เรามี" กอนดอร์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
อควาเพียงแค่ยืนฟังบทสนทนาอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆแต่แองเจเล่รู้ว่าอควาพอใจกับสิ่งที่กอนดอร์เพิ่งพูด แองเจเล่คิดว่ากอนดอร์จะเกลียดเขาเพราะเขาเกือบจะฆ่าอาจารย์ของเขาแต่จริงๆแล้วเขาไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับคำขอโทษจากกอนดอร์
แองเจเล่คิดว่ากอนดอร์เยาะเย้ยเขาแต่มันดูเหมือนว่ากอนดอร์จะขอโทษเขาอย่างจริงใจ
"ข้าปรารถนาว่าสักวันหนึ่งข้าจะเป็นเหมือนท่าน ข้าชื่นชมท่านที่จะทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ได้ความรู้" กอนดอร์พูดต่อ
มันเป็นครั้งแรกของแองเจเล่ที่ได้รับการยกย่องเช่นนี้....
"ขอบคุณ มาแลกเปลี่ยนกันก่อนเถอะ" แองเจเล่หยุดกอนดอร์จากการพูดอะไรอีก "อควา ตอนนี้เราสามารถเริ่มได้หรือยัง"
อความีประสบการณ์มากกว่ากอนดอร์ เขาล่าช้าในการแลกเปลี่ยนเพราะเขายังไม่ไว้ใจแองเจเล่อย่างเต็มที่
'จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาฆ่าเราหลังจากที่ได้รับสิ่งที่เขาปรารถนา....' อควาลังเล
"ไม่ต้องห่วงอาจารย์ คนเช่นท่านแองเจเล่เป็นคนรักษาสัญญา เขาเพียงแค่ต้องการความรู้ที่เรามี เราควรเชื่อใจคนที่รักการเรียนรู้" กอนดอร์พูดขณะที่ยิ้ม เขารู้ว่าอควากำลังคิดอะไร มันเกือบจะเหมือนกับว่ากอนดอร์โจมตีแองเจเล่ที่เป็นคนที่แตกต่างไปจากคนที่กำลังพูดตอนนี้
สีหน้าของแองเจเล่กระตุกเล็กน้อย เขาอยากจะบอกกอนดอร์จริงๆว่าเขาไม่ใช่คนที่น่ายกย่อง หลังจากที่เห็นรอยยิ้มที่จริงใจของกอนดอร์เขาก็เริ่มขนลุก
"เอาล่ะ....มาแลกเปลี่ยนกันเถอะ" เขาวางแผนที่จะปล่อยให้อความีชีวิตหลังจากที่เห็นคาถาโลหะของเขา นอกจากนี้เขาต้องการที่จะได้รับความรู้ที่อความี อควาที่ตายแล้วจะมีเพียงสูตรเหลือไว้ให้แองเจเล่ อย่างไรก็ตามอควาที่มีชีวิตมีอะไรให้มากกว่านั้น
แองเจเล่ไม่ได้รักษาสัญญากับเคลลี่เพราะมีเพียงสิ่งเดียวที่เขาสนใจคือข้อเสนอที่ให้เขามากกว่า ในขณะนี้การปล่อยให้อควาอยู่รอดเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า การช่วยเคลลี่จะมีเพียงผลประโยชน์ระยะสั้นให้กับแองเจเล่แต่เขาจะได้รับผลประโยชน์ระยะยาวด้วยการอยู่ข้างอควา
แองเจเล่เงยหน้าขึ้นและตรวจสอบสภาพอากาศ จากนั้นเขาก็เดินไปทางกอนดอร์และอควาแล้วนั่งกับพวกเขาบนพื้นหญ้า
"คาถาโลหะเป็นสาขายหนึ่งของคาถาโบราณ มันแทบจะไม่มีข้อมูลหลงเหลืออยู่ในโลกใบนี้ นอกจากนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องมีความรู้บางอย่างในการเรียนรู้มันเช่นเดียวกับอนุภาคพลังงานน้ำ ทุกคนจะมีโลหะตามธรรมชาติอยู่ในร่างกาย พ่อมดสามารถทำให้วัสดุทุกสิ่งทุกอย่างแข็งขึ้นด้วยคาถาโลหะ คาถาเหล่านี้มักจะใช้ในงานสถาปัตยกรรมและงานหัตถกรรม อย่างไรก็ตามมีพ่อมดฝึกหัดที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาระบบคาถาโลหะและเขาเริ่มใช้คาถาเหล่านี้ต่อสู้ คาถาโลหะมันไม่แข็งแกร่ง เจ้าต้องมีพลังจิตและมานาสูงเพื่อสามารถควบคุมพวกมันได้"
อควาดื่มน้ำที่ลูกศิษย์ของเขาให้เขาและอธิบายต่อ
"คาถาโลหะของข้าพบในซากปรักหักพักที่ถูกละทิ้ง ประมาณหนึ่งร้อยปีก่อนข้าได้รับการว่าจ้างโดยกลุ่มทหารรับจ้าง หัวหน้าเป็นพ่อมดฝึกหัดที่ต้องการผจญภัยในซากปรักหักพัง ข้าเป็นเพียงคนเดียวที่เหลือรอดจากการเดินทาง ข้าได้รับบันทึกของพ่อมดฝึกหัดคนนั้น ข้าค่อนข้างมีความสามารถและข้อมูลทั้งหมดที่ข้าได้รับจากพ่อมดฝึกหัดและซากปรักหักพังทำให้ข้าเป็นตัวข้าในตอนนี้"
แองเจเล่พยักหน้า "ถ้าเช่นนั้น.....คาถาโลหะมันเหมาะสำหรับการต่อสู้ระยะประชิดใช่ไหม"
"เจ้าจะพูดแบบนั้นก็ได้ แต่เจ้าต้องมีร่างกายของพ่อมดในการเรียนรู้ระบบพิเศษเช่นนี้และเจ้าต้องใช้เวลานานในการเตรียมคาถา คาถาโลหะไม่ได้หมายถึงการใช้สำหรับต่อสู้ แม้ว่าเจ้าจะเชี่ยวชาญพวกมันเจ้าก็อาจจะไม่บรรลุเป้าหมายที่ยอดเยี่ยมอะไร ข้าคิดว่ามันจะกลายเป็นศิลปะที่จะหายไปไม่ช้านี้ พ่อมดฝึกหัดไม่คิดว่าคาถาเช่นนี้มันคุ้มค่ากับการเรียนรู้" อควาถอนหายใจ เขาดูหดหู่เล็กน้อย
"ข้าสนใจ" แองเจเล่วางมือขวาไว้ที่ด้ามจับดาบของเขาและจับมันแน่น
"ข้าบอกเจ้าแล้วว่ามันเป็นเรื่องยากถ้าเจ้ายืนยันเช่นนั้นก็มาแลกเปลี่ยนกันเถอะ ถ้าเจ้าหยุดช่วยเคลลี่ในการต่อสู้กับเราข้าก็จะให้รูปแบบของคาถาโลหะทั้งหมดที่ข้ารู้กับเจ้าและข้อมูลที่จำเป็นที่สามารถช่วยเจ้าในการเรียนรู้พวกมัน" อควายิ้ม
"เยี่ยม" แองเจเล่พยักหน้า
"ส่วนที่ยากที่สุดในคาถาโลหะเป็นรูปแบบคาถา พวกมันมีความซับซ้อนและเจ้าต้องมีมานามากพอ...." อควาเริ่มอธิบายทุกอย่างเกี่ยวกับระบบของมันให้แองเจเล่ กอนดอร์นั่งขัดสมาธิอยู่ด้านข้างแล้วฟังคำพูดของอาจารย์อย่างเงียบๆ
********************
สามชั่วโมงต่อมา....
แองเจเล่เดินออกมาจากพุ่มไม้อย่างช้าๆ
เขาหันหัวไปและเห็นอควากับกอนดอร์เฝ้าดูเขาจากไป
"ข้าไม่ได้คาดหวังว่างานวิจัยของเขาจะมีความซับซ้อน พ่อมดฝึกหัดคนเดียวมีความรู้อย่างไม่น่าเชื่อ ข้าสงสัยว่าข้าจะค้นพบอะไรในโลกนี้" แองเจเล่พึมพำ
'ซีโร่ เจ้าสร้างระบบของคาถาโลหะเสร็จสิ้นหรือยัง' แองเจเล่ถาม
[สร้างระบบเสร็จ 13% ได้รับรูปแบบคาถาหนึ่งรูปแบบ ศักยภาพในการยกระดับคาถา 54%]
ศักยภาพในการยกระดับคาถาถูกตั้งโดยแองเจเล่ เขาอยากรู้ว่าการปรับปรุงที่เขาสามารถทำได้ในคาถามีเท่าไหร่ 0% หมายถึงคาถานั้นสมบูรณ์แบบแล้วและมันไม่ต้องปรับปรุงอะไรเพิ่มแต่ถ้ามัน 100% นั่นหมายความว่าคาถาสามารถปรับปรุงได้อย่างมาก เปอร์เซ็นต์จะลดลงหลังจากที่ปรับปรุงแต่ละครั้ง รูปแบบคาถาพื้นฐานมักจะมีศักยภาพในการยกระดับคาถาสูง
แองเจเล่เช็ดหญ้าออกจากตัวของเขา 'ด้วยสูตรยาฝันร้ายที่ข้าได้มาข้าคิดว่าข้าได้รับทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้าต้องการแล้ว'
แองเจเล่ยิ้ม มีค่าตอบแทนเป็นหินเวทมนต์คุณภาพสูงหลายก้อนที่เขาได้รับมาจากอควา ยาฝันร้ายอาจจะคุ้มค่ามากกว่ามันแต่อควาพอใจกับการแลกเปลี่ยน
แองเจเล่เดินตรงไปยังเมืองเอ็มม่าหลังจากที่เดินลงจากเขา มันเป็นเวลาเที่ยงวันแต่แสงแดดไม่ได้ทำให้ร่างกายของเขาร้อนขึ้น
หลังจากนั้นประมาณสิบนาทีเขาเห็นถนนเส้นหลักไปยังเมืองเอ็มม่า รถม้าได้ผ่านไปและมีนักเดินทางหลายคนที่มีกระเป๋าที่หนักที่หลังของพวกเขา
มีชายวัยกลางคนกำลังมองหาสมุนไพรในป่าพร้อมกับตะกร้าในมือแต่การปรากฏตัวของแองเจเล่ไม่ได้ทำให้คนที่ถนนกังวลอะไร
พวกเขาเพียงแค่มองมาที่เขาชั่วครู่
แองเจเล่ไม่ได้สวมชุดคลุมสีเทาของเขาดังนั้นเขาจึงดูเหมือนนักล่าธรรมดา เขาออกจากป่าและเข้าร่วมกับผู้คนที่กำลังจะเข้าเมือง