ตอนที่8 ผู้วิเศษ
หยวนแดนลึกลับ ยากลั่นร่างกายช่วยเพิ่มการดูดซับพลังจิตวิญญาณ ราคา: สิบตำลึงทอง
ยาสมาธิ ช่วยกลั่นจิตใจไม่ให้ตื่นเต้นยามเมื่อต้องต่อสู้กับผู้ฝึกยุทธหรือเจอสัตว์อสูรดุร้ายได้ ราคา: ยี่สิบตำลึงทอง
ยาชำระกระดูก ช่วยกลั่นร่างกายให้ผู้ฝึกยุทธทำความสะอาดกล้ามเนื้อและไขกระดูกเอาสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย ราคา: ร้อยตำลึงทอง
สายตาของเขากวาดผ่านราคาของขวดยาอย่างต่อเนื่อง, ลู่ซวน ไม่สามารถทำอะไรได้ ได้แต่รู้สึกกระตุกในหัวใจของเขา นี่เป็นสิ่งที่ดีทั้งหมดโดยเฉพาะขวดยาชำระกระดูก มันเป็นสิ่งที่ลู่ซวนต้องการในตอนนี้
แต่ราคาที่ทำให้ ลู่ซวน และ เหยาเล่ย ล้มเลิกความคิดที่จะซื้อมันทันที
หนึ่งตำลึงทองเทียบเท่ากับสิบตำลึงเงิน กล่าวคือลู่ซวนไม่มีเงินเยอะพอที่จะซื้อได้ เขาไม่สามารถแม้แต่จะซื้อขวดยาหยวนแดนลึกลับ ซึ่งมีราคาน้อยกว่าขวดยาชำระกระดูกที่มีราคาร้อยตำลึงทองได้
จำนวนเงินที่เหยาเล่ยมีอยู่ในเกณฑ์เดียวกับลู่ซวน เมื่อเขาออกเดินทางเขาได้เอาเงินมาสิบตำลึงทอง แต่ตอนนี้เขาใช้จ่ายไปประมาณครึ่งนึงแล้ว
"ให้ตายเถอะ! ราคาเหล่านี้มันคืออะไร มันมีไว้ให้พวกคนร่ำรวยเท่านั่นที่มาซื้อจริงๆ สิบตำลึงทอง ปู่คนนี้ของเจ้าสามารถนอนกับผู้หญิงหลายคนในหมู่บ้านภูเขาชิง เหยาเลย สบถด้วยเสียงต่ำ เขาได้เตรียมที่จะซื้อยาเพื่อที่จะเตรียมตัว แต่ดูเหมือนจะไร้ความหมาย
ลู่ซวน ได้ส่ายหัว: "เหยาเล่ย, ลืมมันเถอะ. ยาเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่เราสามารถซื้อได้ ไปกันเถอะ."
เมื่อเห็นว่าลู่ซวนต้องการจะไป เหยาเล่ยรีบดึงเขาไว้ "ท่านกำลังจะไปไหน? แม้ว่าข้าไม่สามารถซื้อมันได้นั่นหมายความว่าข้าไม่สามารถมองมันได้? มีหลายอย่างที่นี่ ลองดูอีกสักหน่อย "
ตั้งแต่เหยาเล่ยยังคงต้องการที่จะมองไปรอบ ๆ ลู่ซวนก็ไปกับเขา
สายตาของ ลู่ซวน ได้รับความสนใจจากม้วนหนังสือบางเล่มจากทางด้านข้าง เขาไม่สามารถที่จะอดใจได้ และเดินไปที่นั่น สายตาของเขาตรวจสอบผ่านคำอธิบายของม้วนหนังสือ
รูนเกราะเหล็ก เป็นอาคมที่สามารถนำมาใช้เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเกราะ มันจะเพิ่มการป้องกันของเกราะประมาณสิบถึงยี่สิบ เปอร์เซ็นต์ ราคา:หนึ่งพันตำลึงทอง!
รูนเพิ่มพลัง เป็นอาคมที่สามารถนำมาเพิ่มความแกร่งแกร่งให้กับอาวุธ จะเพิ่มพลังโจมตีของอาวุธได้ถึงสิบถึงยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ราคา: 1500 ตำลึงทอง! .........
เมื่อมองเห็นราคาสูง ๆ เหล่านี้ลู่ซวงก็แทบหยุดหายใจและไม่สามารถทำอะไรได้ และกล่าวออกมา "เหยาเล่ย มานี่ที สิ่งเหล่านี้คืออะไร? ทำไมพวกมันจึงมีราคาแพง? "
"โอ้สิ่งเหล่านี้เป็นม้วนอาคม ผู้วิเศษเท่านั้นที่สามารถทำใด้ พวกเขาสามารถเผาผลาญเงินเท่าไหร่ก็ได้ และแน่นอนว่าพวกเขายังสามารถหาเงินเท่าไหร่ก็ได้ "เหยาเล่ยกล่าวในขณะที่เขากระดกลิ้น
"ม้วนอาคม? ผู้วิเศษ?”
คำพูดของ เหย่าเลย ทำให้ความทรงจำในหัวของ ลู่ซวน คิดอย่างรวดเร็ว
ในช่วงสิบวันนั้นนอกเหนือจากการบ่มเพาะลู่ซวน ได้นึกย้อนกลับไปในความทรงจำของผลึกกระบี่ นอกเหนือจาก เคล็ดไท่อี่วิญญาณหวน และ ทักษะกระบี่ก้าวพริบตา ส่วนสุดท้ายคือการเขียนอักขระอาคม
ลู่ซวนคิด แต่เดิมสิ่งเหล่านั้นไม่ได้มีประโยชน์อะไร แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันไม่ได้เป็นแบบนั้นอย่างสิ้นเชิง!
เมื่อดูความสนใจของลูซวนต่อผู้วิเศษเหยาเล่ย ก็เริ่มมีชีวิตชีวาขึ้น เขาเริ่มพูดอย่างคนรอบรู้ทุกสิ่งทุกอย่างและมุ่งมั่นที่จะสอนบทเรียนให้ ลู่ซวน
เขาค่อยๆไอออกมาสองครั้ง และเหยาเล่ย เริ่มบรรยายต่อ
"ผู้วิเศษ เป็นหนึ่งในสามอาชีพที่ใหญ่ที่สุดใน ทวีปกระบี่นภา และอีกสองอาชีพ คือนักเล่นแร่แปรธาตุและช่างฝีมือ
เมื่อเทียบกับนักเล่นแร่แปรธาตุที่สร้างยาและช่างฝีมือที่สร้างอุปกรณ์ส่วนผู้วิเศษสามารถสร้างรูนได้หลายแบบและรวมเอาไว้ในม้วนอาคม
"ม้วนอาคมสามารถนำมาใช้ร่ายมนตร์ให้กับอาวุธหรืออุปกรณ์ของผู้ฝึกยุทธ รูนที่แตกต่างกันย่อมมีลักษณะที่แตกต่างกันและระดับของประสิทธิภาพ ผู้ใช้สามารถเลือกชนิดของม้วนได้ตามความต้องการ
"และหลังจากอาวุธหรืออุปกรณ์ได้รับการร่ายเวทอาคมความแรงของมันจะเพิ่มขึ้นตามองศาที่แตกต่างกัน บางม้วนอาคมที่มีพลังสามารถยกระดับรัศมีของอาวุธได้!
"ด้วยเหตุนี้ม้วนอาคมจึงมีราคาสูงมาก"
"เป็นเรื่องที่น่าหลงใหลไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาสามารถเรียนรู้ได้ เนื่องจากต้องเรียนรู้อาคมหลายชนิดที่จะทำการสร้างอักขระ จึงต้องมีความสามารถมากและเป็นสิ่งที่คนต้องการมาก มีความจำเป็นยิ่งกว่านักเล่นแร่แปรธาตุและช่างฝีมือ "
"สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นผู้วิเศษจำเป็นต้องใช้วัสดุที่มีราคาแพงมาก ไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่คนทั่วไปสามารถซื้อได้ หากอักขระมีข้อผิดพลาดเล็กน้อยอักขระทั้งหมดก็จะเสียหายและวัสถุก็จะเสียเปล่า"
การฟังที่เหยาเล่ยพูดจิตใจของ ลู่ซวน กระวนกระวายตลอดเวลา ในขั้นต้นมีสิ่งล้ำค่าในใจของเขา แต่เขาไม่ได้ให้ความสนใจใด ๆ และไม่ได้วิเคราะห์เลย
ม้วนอาคมระดับต่ำยังคงมีราคาเกินหนึ่งพันตำลึงทอง ถ้าเขาสามารถกลายเป็นผู้วิเศษและสร้างม้วนอาคมแล้วละก็เขาจะไม่รวยหรือ? ยาหยวนแดนลึกลับ และ ยาชำระกระดูก? เขาจะสามารถกินพวกมันดั่งเช่นลูกอม!
คิดถึงเรื่องนี้ลู่ซวนไม่สามารถยับยั้งความตื่นเต้นของเขาได้อีกต่อไป เขาไม่สามารถรอและต้องการที่จะเรียนรู้อักขระอาคมเหล่านั้นในใจของเขา
"เหยาเล่ย ข้ามีบางสิ่งที่ข้าต้องไปทำข้าจะกลับไปก่อน เจ้าสามารถเลือกดูร้านค้าได้อย่างช้าๆ โอ้ใช่หลังจากนั้นข้าจะทำการบ่มเพาะ โปรดจำไว้ว่าอย่ามารบกวนข้า "ลูซวนโยนประโยคสักสองสามประโยคแล้วรีบวิ่งกลับไปที่ห้องพัก
เหยาเล่ย เพิ่งพูดเป็นไฟแลบจนน้ำลายกระเด็นออกปากเขาไม่ได้คิดว่า ลูซ่วนจะรีบจากไปเร็วเช่นนี้และเขาตกใจชั่วขณะ หลังจากที่เขาได้เฝ้าดู ลู่ซวน วิ่งออกจาก ถนนวิญญาณสินค้า แล้วเขาก็ตะโกนออกมาว่า "พี่ลู่ซวนรอข้าด้วยสิ!"
เหยาเล่ย ตะโกนขณะที่เขาวิ่งตามลู่ซวน เมื่อไม่มีลู่ซวนอยู่เขาก็ไม่รู้จะอยู่ทำไมอีกอย่างราคาสินค้าที่นี้แพงมากเขาไม่มีเงินที่จะซื้อได้
หลังจากที่ได้เข้าไปดูความทรงจำเหล่านี้อย่างรอบคอบเกี่ยวกับอาคมแล้วมันก็ไม่ได้เป็นไปตามความคาดหมายของ ลู่ซวน ในหน่วยความจำชิ้นเล็ก ๆ นี้มีเพียงทักษะพื้นฐานที่น่าสนใจเท่านั้น มากที่สุดก็สามารถนำมาใช้เพื่อร่ายอาคมลงบนอาวุธ แต่สำหรับ ลู่ซวน แค่นี้มันก็มากเกินพอแล้ว
อาวุธที่นักฝึกยุทธใช้แตกต่างจากอาวุธที่ใช้โดยบุคคลทั่วไป คนที่ใช้โดยคนธรรมดาไม่ได้มีพละกำลังมหาศาลใด ๆ แต่สามารถใช้เป็นอาวุธธรรมดาเท่านั้นและไม่อาจทำการร่ายอาคมลงไปได้
อาวุธของนักฝึกยุทธถูกแบ่งออกเป็นสี่ขั้นมีขั้นเหล็กไหล ขั้นสมบัติล้ำค่า ขั้นจิตวิญญาณและขั้นอุปกรณ์ขั้นศักดิ์สิทธิ์ในตำนาน นักฝึกยุทธที่ทำการกลั่นร่างกายแล้วสามารถใช้อาวุธขั้นเหล็กไหลเท่านั้นและอาวุธสมบัติล้ำค่าใช้สำหรับนักฝึกยุทธที่สูงกว่าขั้นกลั่นร่างกาย สำหรับลู่ซวนนั่นเป็นสิ่งที่ยังห่างไกล
ควรทราบว่าตอนนี้ลู่ซวนยังไม่มีอุปกรณ์ขั้นเหล็กไหล
แต่ถึงแม้จะมีทักษะอาคมขั้นพื้นฐานลู่ซวน ก็ยังรู้สึกว่ามันลึกซึ้งมาก อักขระรูนก็ซับซ้อนมาก ๆ ในช่วงเวลานั้น ลู่ซวน ลืมเกี่ยวกับการทำเงินและโยนความสนใจทั้งปวงในการเรียนรู้ทักษะอาคม
ทักษะอาคมสร้างความสำคัญต่อความสามารถและการรับรู้การกระทำของ ลู่ซวน สะท้อนความสามารถของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
หลังจากใช้เวลาสามชั่วโมงเต็มและตรวจสอบความทรงจำอย่างรอบคอบเมื่อเทคนิคการจารึกอักขระอาคมของผู้เริ่มต้นเริ่มเป็นที่ชัดเจนสำหรับเขา
ในการสร้างม้วนอาคมจำเป็นต้องใช้แผ่นกระดาษพิเศษและหมึกพิเศษที่ใช้เขียนอักขระรูน ที่แตกต่างกันจำเป็นต้องใช้หมึกที่แตกต่างกัน
สิ่งเหล่านี้ล้วน แต่ฟุ่มเฟือยและตอนนี้ลู่ซวนฝึกฝนความสามารถในการใช้อาคมเท่านั้น เขาไม่มีเงินมากพอที่จะให้ความฟุ่มเฟือยได้
หายใจเข้าลึก ๆ ลู่ซวนสงบจิตใจตัวเองและเริ่มฝึกการวาดอักขระ
สำหรับอักขระอาคมทฤษฎีและการปฏิบัติทั้งสองสิ่งนี้จะขาดไม่ได้ ตั้งแต่ที่เขาได้รับความทรงจำของผลึกกระบี่ ลู่ซวน ก็รู้เทคนิคการใช้อาคมขั้นพื้นฐานแล้ว แต่ถ้าเขาต้องการจะวาดออกมาจริงๆก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด
เนื่องจากมีวัสดุไม่เพียงพอที่จะให้ปฏิบัติ ลู่ซวน เขาสามารถใช้พลังจิตวิญญาณในการเขียนในอากาศเท่านั้น
การเขียนในอากาศเป็นเทคนิคที่ค่อนข้างสูงสำหรับทักษะอาคม ถ้าเป็นคนทั่วไปตอนเริ่มต้นพวกเขาจะไม่สามารถเรียนรู้ได้อย่างประสบความสำเร็จ แต่ ลู่ซวน ได้สืบทอดมรดกแห่งความทรงจำเหล่านี้โดยตรงและรับการเก็บรักษาไว้ในใจ ตอนนี้เขากำลังฝึกการประสานงานและระดับการรับรู้ของร่างกายเท่านั้น
ลู่ซวนกำลังฝึกการวาดอักขระ เรียกว่า อักขระกัมปนาท หลังจากทำการร่ายอาคมใส่อาวุธมันจะทำให้อาวุธมีโอกาสเกิดการระเบิดด้วยความรุนแรงขึ้นด้วยความเสียหายสองเท่าหรือมากกว่า เป็น อักขระ ที่มีพลังและมีประโยชน์มาก
เขาเอานิ้วยื่นออกมา ลู่ซวน เริ่มขยับพลังจิตวิญญาณของร่างกายของเขา เเละมีแสงกระพริบอ่อนๆพลังจิตวิญญาณก็ถูกรวมตัวกันไว้ที่ปลายนิ้วของเขา
ลู่ซวนเริ่มเขียนบทแรกของอาคมตามความทรงจำในหัวของเขาโดยขยับนิ้วไปที่มันควรจะไป
นิ้วขยับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องและเส้นพลังวิญญาณปรากฏขึ้นทันทีต่อสายตาของ ลู่ซวน และจำนวนเส้นเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ใบหน้าของลู่ซวนเริ่มซีดขึ้นเรื่อย ๆ เขาไม่มีพลังวิญญาณมากนัก
ในฐานะที่เป็นผู้ฝึกยุทธขั้นกลั่นร่างกายไม่มีทางใดที่จะเก็บพลังวิญญาณไว้ในตันเถียนที่ตัวเขาได้ ตอนนี้ขณะที่ลู่ซวนกำลังวาดขระ เขาอาศัยพลังจิตวิญญาณอย่างเดียวในเส้นลมปราณของเขา
ลู่ซวนกัดฟันแน่นและอดทน แต่นิ้วของเขาไม่สามารถทนต่อได้และเริ่มสั่นไหวเนื่องจากการสั่นสะเทือนนี้ภาพในอากาศกระพริบแล้วหายไป ความพยายามแรกในการวาดอักขระคือความล้มเหลว
การวาดอักขระครั้งแรกนี้เขาไม่ได้ทำมันผิดพลาด ปัญหาในความล้มเหลวเวลานี้ไม่ใช่เพราะทักษะการวาดภาพของ ลู่ซวน แต่เป็นเพราะเขาไม่มีพลังวิญญาณที่เพียงพอ
แม้ว่าเขาจะล้มเหลวลู่ซวนก็ไม่ได้ท้อแท้เลย เพราะเขารู้ว่าตอนที่กำลังวาดอักขระ เขาไม่เข้าใจพลังจิตวิญญาณของเขาดีพอ ส่งผลให้พลังวิญญาณครึ่งนึงมันรั่วไหลออกมา
ถ้าเขาสามารถใช้พลังวิญญาณของเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพจะไม่เป็นปัญหาเลย ดังนั้นขั้นตอนต่อไปสิ่งที่เขาต้องปฏิบัติคือการควบคุมการรั่วไหลของพลังวิญญาณของเขา