ตอนที่6 ทักษะการต่อสู้
เคล็ดไท่อี่วิญญาณหวน เป็นทักษะการบ่มเพาะที่อยู่ในความทรงจำ ลู่ซวนได้ท่องจำมันอย่างขึ้นใจ ดังนั้นเขาไม่มีความกังวลที่จะลืม เพียงแค่ใช้ความพยายามเพียงเล็กน้อย
หลังจากเวลาผ่านไปไม่นาน การโคจรของเส้นลมปราณทั้งยี่สิบหกจุด ลู่ซวนก็ได้จดจำมันอย่างสมบูรณ์
แต่ตอนนี้ลู่ซวนยังไม่คิดจะทำการบ่มเพาะ เพราะเขาพึ่งจะได้ชิ้นส่วนเคล็ดไท่อี่วิญญาณหวนมา มันเป็นทักษะการบ่มเพาะที่ดีเยี่ยม ลู่ซวนเริ่มที่จะเข้าไปในความทรงจำอีกครั้ง เพื่อที่จะดูความทรงจำที่เหลือ
หลังจากเข้าไปในความทรงจำอย่างรวดเร็ว ลู่ซวนก็ไม่ผิดหวังเขาได้เคล็ดวิชากระบี่ออกมา
สำหรับผู้ฝึกยุทธทุกคน การต่อสู้แบ่งออกเป็นสามส่วน ส่วนแรกคือระดับความแข็งแรงของร่างกาย แน่นอนนั้นคือพื้นฐานสำหรับทุกคน สำหรับผู้ฝึกวรยุทธ์ทุกคนการเอาชนะระดับที่สูงกว่าตัวเองเป็นแค่เรื่องในตำนานเท่านั้น
ส่วนที่สอง ทักษะการบ่มเพาะ ยิ่งคุณมีเคล็ดวิชาการบ่มเพาะที่ดี ก็ยิ่งทำให้การฟื้นตัวและการยั่งยืนของคุณดีขึ้น และส่วนที่สามเป็นส่วนสำคัญที่ในการต่อสู้นั้นคือวิชาการต่อสู้
ถ้ามีผู้ฝึกยุทธทั้งสองคนเกิดการต่อสู้กัน คนที่มีทักษะการต่อสู้ที่ดีกว่าแน่นอนเขาจะมีข้อได้เปรียบ ในที่สุด
เคล็ดวิชาการต่อสู้ เฉกเช่นเดียวกับ เคล็ดการบ่มเพาะ ถูกแบ่งออกเป็น สวรรค์ ปฐพี ซวน และหวงมีระดับ สูง ระดับกลาง ระดับต่ำ
ในขณะเดียวกัน ยิ่งมีทักษะต่อสู้ที่สูงมันก็ยิ่งล้ำค่า เคล็ดวิชากระบี่ มันคือทักษะการต่อสู้ประเภทหนึ่งที่ลู่ซวนได้มันมาจากความทรงจำมันมีชื่อว่า เพลงกระบี่ดุจพริบตา เป็นชื่อที่มาจากคุณสมบัติที่โดดเด่นด้านทักษะในเรื่องความรวดเร็วของมัน! กระบี่จะออกมาอย่าว่องไว
กระบี่เป็นประเภทที่มีน้ำหนักเบา ซึ่งแตกต่างจากอาวุธประเภทหนักที่ใช้ออกและเก็บลำบาก แม้ว่าศัตรูจะมีการโจมตีที่แข็งแกร่ง ตราบใดที่คุณโจมตีถึงก่อน ความแข็งแกร่งก็ไม่สามารถทำอะไรได้
ความสามารถของเพลงกระบี่ดุจพริบตา ตามความทรงจำของลู่ซวน มันเป็นทักษะระดับหวง ขั้นสูง!
ทำไมครอบครัวตระกูลหลง ถึงเป็นอันดับหนึ่งในหมู่บ้านภูเขาชิง? พวกเขาตระกูลหลงมีผู้นำชื่อหลงซาน มีเคล็ดวิชาการต่อสู้ที่ชื่อ หัตถ์มังกร
แม้ชื่อของหัตถ์มังกรจะดูทรงพลัง แต่ความเป็นจริงมันเป็นเพียงทักษะต่อสู้ระดับหวงขั้นต่ำเท่านั่น
แค่มีทักษะการต่อสู้ระดับหวงขั้นต่ำก็เพียงพอที่จะสามารถปกครองเหนือหมู่บ้านเล็กๆได้แล้ว มันทำไห้ตระกูลต่างๆเกรงกลัว สามารถเห็นได้ว่ามันมีค่าอย่างมาก และมีประสิทธิภาพต่อการต่อสู้
ความสามารถของลู่ซวนตอนนี้มี เคล็ดไท่อี่วิญญาณหวนและเพลงกระบี่ดุจพริบตา ตราบใดที่เขามีเวลาตระกูลหวง จะเป็นแค่เรื่องตลกต่อเขา ยิ่งกว่านั้นภายในตันเถียนของลู่ซวนยังมีผลึกกระบี่ที่ลึกลับ ที่กำลังรอให้เขาค้นหาความทรงจำต่อไป
ภายในวันเดียว ร่างกายของลู่ซวนมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล ที่สามารถทำให้โลกต้องสั่นสะเทือน เขามีการบ่มเพาะที่ยอดเยี่ยม และมีทักษะระดับหวง ขั้นสูงอาจจะกล่าวได้ว่า วันข้างหน้าเขาจะมีอนาคตที่สดใส
หลังจากที่เขาจัดการกับความทรงจำนอกจากมีเคล็ดไท่อี่วิญญาณหวนและเพลงกระบี่ดุจพริบตา เขายังสามารถพบบางอย่างที่ดูคลุมเครือ มันเป็นอักขระรูนและสัญญาลักษณ์ต่างๆอีกมากมาย
ลู่ซวนไม่ค่อยจะรู้เรื่องพวกนี้มากนักดูเหมือนทวีปกระบี่นภา จะมีอาชีพทึ่เรียกกันว่า ผู้วิเศษ พวกเขาสามารถร่ายอาคมลงอาวุธและชุดเกราะเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง
ผู้วิเศษไม่ได้คนธรรมดาจะเป็นกันง่ายๆ ลู่ซวนได้แต่คิด แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม
ถึงแม้เขาจะได้รับขั้นตอนเริ่มต้นของอาคม ลู่ซวนก็ไม่คิดจะเรียนมันแม้แต่น้อย ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเขาเอง
ถึงแม้จะรู้ว่าเขาสามารถพัฒนาไปได้ไกลกว่าตระกูลหลง แต่ตอนนึ้ความแข็งแกร่งของเขายังไม่สามารถเทียบได้กับตระกูลหลง
ถ้าเขาต้องการปกป้องพี่สาวที่ถูกบังคับแต่งงานโดยหลงไท่ มีเพียงวิธีเดียวคือเข้าร่วมนิกายกระบี่เมฆาและยืมพลังของนิกายกระบี่เมฆา เพื่อยับยั้งต่อตระกููลหลง
เขาขมวดคิ้วมองไปที่ซากศพ ลู่ซวงรู้สึกไม่ปลอดภัยเขาลุกขึ้นยืนแล้วเดินลึกเข้าไปในภูเขา แม้หลงไท่และหลงหยางจะส่งคนมาค้นหาแต่ป่าใหญ่ขนาดนี้ใช่ว่าจะหาเจอได้ง่ายๆ
หลังจากเดินมาไกลกว่าจุดเดิมแล้ว ลู่ซวนก็หยุดลงเขาไม่กล้าที่จะเดินต่อไปลึกกว่านั้น ใครจะรู้ได้ว่าอาจมีสิ่งชีวิตที่น่ากลัวอยู่ในส่วนลึกของภูเขา จากนั้นเขาก็นั้งลงสูดลมหายใจเข้าลึกๆคลายความกังวลใจออกไป และเริ่มลงมือบ่มเพาะพลัง
ผลึกกระบี่คล้ายเป็นดั่งสมบัติยังคงหมุนเวียนอยู่ภายในตันเถียนอย่างช้าๆราวกับก่อนหน้านี้ไม่ได้เกิดอะไรขึ้น ลวดลายประหลาดบนตัวกระบี่มีกลิ่นอายลึกลับ ลู่ซวนไม่ได้รู้สึกอึดอัดเกี่ยวกับมันแต่อย่างใด เมื่อเขามีความแข็งแกร่งอาจจะเข้าใจความลึกลับของมันได้
หลังจากนั้งเอาขาไขว้กันแล้วลู่ซวนไม่ได้ใช้เคล็ดเดินลมปราณ แต่ เปลี่ยนไปใช้เคล็ดไท่อี่วิญญาณหวนแทน เคล็ดวิชานี้ลู่ซวนได้จดจำมันไว้ในหัวแล้ว การโคจรของเส้นลมปราณทั้งยี่สิบหกจุดเขาจดจำมันอย่างแม่นยำ
ในครั้งแรกของการโคจรลู่ซวนไม่กล้าที่จะเร่งรีบเขาใช้วิธีการดูดพลังงานจิตวิญญาณในอากาศเข้าสู่ร่างกาย ความเร็วในการดูดซับเร็วกว่าเคล็ดการเดินลมปราณหลายเท่า
พลังงานจิตวิญญาณที่เข้าสู่ร่างกาย ลู่ซวนเริ่มเคลื่อนไหว เขาควบคุมพลังงานวิญญาณ ผ่านเส้นลมปราณจุดแรก ไม่กล้าที่จะเสียสมาธิแม้แต่น้อย
ตามวิธีการ เคล็ดไท่อี่วิญญาณหวน เขาค่อยๆโคจรไปตามเส้นทาง ตอนนี้เส้นลมปราณจุดแรกเต็มไปด้วยพลังงานวิญญาณและแทรกซึมเข้าไปในเนื้อและกระดูกของร่างกายทำให้ร่างกายเขาผลัดเปลี่ยนใหม่
หลังจากเสร็จสิ้นการโคจรผ่านเส้นลมปราณจุดแรกแล้ว ก็โคจรต่อไปที่เส้นลมปราณสอง สาม และสี่...
ก่อนหน้านึ้ ลู่ซวน ใช้เคล็ดการเดินลมปราณ เขาสัมผัสได้ถึงการโคจรลมปราณแค่หนึ่งจุดเท่านั้นการโคจรพลังชี่ครบหนึ่งรอบผ่านไปอย่างรวดเร็วแต่หลังจากไปใช้เคล็ดไท่วิญญาณหวนแล้ว เส้นลมปราณทั้งยี่สิบหกจุดจำเป็นต้องมีการโคจรทั้งหมด เวลาที่ใช้ก็ค่อนข้างนาน แต่กลับส่งผลลับที่ยิ่งใหญ่มหาศาล
การโคจรเคล็ดไท่อี่วิญญาณหวนหนึ่งรอบ เท่ากับโคจรเคล็ดการเดินลมปราณร้อยรอบ!
นอกจากนี้ เนื่องจากเส้นลมปราณที่เคล็ดไท่อี่วิญญาณหวนโคจรผ่านได้ทั่วร่าง ด้วยเหตุนี้ทำให้ร่างกายทั้งหมดถูกขัดเกลาทั่วร่าง ทำให้กำลังกายทั้งหมดเพิ่มขึ้น
ทุกคนไม่สามารถที่จะเป็นแบบเขาได้ นี้คือความพิเศษของเคล็ดวิชาการบ่มเพาะ
หลังจากใช้เวลาถึงครึ่งชั่วโมง ลู่ซวน ก็จบรอบการโคจร การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น เหตุผลทำไมถึงช้า หนึ่ง มีการโคจรเส้นลมปราณมากกว่าหนึ่งจุด ประการที่สอง เขาพึ่งเคยใช้เคล็ดการบ่มเพาะนี้และไม่คุ้นเคยกับมัน ด้วยการโคจรไม่กี่ครั้ง ความเร็วก็ขึ้นช้าๆ
แม้มันจะเป็นครั้งแรกแต่เขาก็รู้สึกทึ่งในเคล็ดไท่อี่วิญญาณหวน เขารู้สึกถึงความแข็งแรงในตอนนี้ เมื่อเทียบกับความแข็งแรงก่อนหน้านั้น มันเทียบกันไม่ได้ผลที่น่าทึ่งและน่าตกใจนี้ ถ้าได้บอกกล่าวแก่คนอื่นๆ พวกเขาอาจตกใจช็อคได้
หลังจากเสร็จสิ้นการโคจรครบรอบ ลู่ซวน ก็คุ้นเคยกับเส้นทางการโคจรมากขึ้น เขาดูดพลังงานจิตวิญญาณเข้าไปอีกครั้ง และเริ่มโคจรต่อรอบสอง