ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTXV – 2  ความสามารถของเนตร

TXV- 1 ความสูญเสียที่อาจไม่อาจคาดคิด


         TXV- 1 ความสูญเสียที่อาจไม่อาจคาดคิด

 

          “มีเหตุบางอย่างเกิดขึ้น !”

 

          “ดวงตาของเซี่ยเหล่ยถูกสะเก็ตไฟฟ้า ! ใครก็ได้ช่วยที !”

 

          ในไซต์งานก่อสร้างเต็มไปด้วยเสียงตะโกนและผู้คนมากมายที่กำลังวิ่งอย่างโกลาหลไปรอบๆและบางคนก็ได้ใช้โทรศัพท์และกำลังเกิดความวิตกกังวลเพื่อที่จะเรียกรถพยาบาลในสถานที่ก่อสร้างที่แสนวุ่นวายนี้

 

          ในระหว่างทางเชื่อมของอาคาร เซี่ยเหล่ยนอนคู้ตัวอยู่บนพื้นอย่างน่าเวทนา ตาข้างซ้ายของเขาเป็นรูลึกลงไปกลิ่นของมันที่ออกมานั้นมีกลิ่นที่เลือดคละคลุ้งในอากาศเลือดสิ่งปฏิกูลต่างๆปกคลุมบนใบหน้าเขามันเป็นภาพที่ช่างน่าหดหู่เหลือเกิน

 

          “เทล  ชายหนุ่มคนนี้ เขายังอายุน้อยอยู่เลยไม่น่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับเขา ในตอนนี้ ดวงตาของถูกทำลายจนไม่มีชิ้นดี มันมีอะไรเลวร้ายกว่านี้ไหม ?” มีใครบางคนถอนหายใจออกมา

 

          “เขายังมีน้องสาวคนหนึ่งกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยในเร็วๆนี้ มันจะเป็นอย่างไรล่ะถ้าเธอเข้ามหาวิทยาลัยได้แล้วแต่พี่ชายเธอตาบอด ?”

 

          “เซี่ยเหล่ย เขาเป็นคนดีซึ่งขยันทำงานและทำงานเข้ากับคนอื่นๆได้ดี มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเขา ? ทำไมสวรรค์ถึงไม่ยุติธรรมกับโชคชะตาของเขาเช่นนี้”

 

          ผู้คนมากมายถึงกับถอนหายใจออกมาแสดงถึงความโศกเศร้าของโชคชะตาของเซี่ยเหล่ย

 

          แม่ของเซี่ยเหล่ยตายด้วยโรคร้าย เมื่อตอนเขายังเป็นเด็กและพ่อของเขาก็ได้หายตัวไปเมื่อ 5 ปีก่อน เขาได้คัดเลือกให้เข้าไปเรียนที่มหาวิทยาลัยจินตู่ ได้แต่เมื่อเขาคิดถึงน้องสาวของเขา เซี่ยเสวียซึ่งเธอยังเรียนอยู่ในมัธยมตอนต้นเขาฉีกจดหมายที่เขาได้รับจากมหาวิทยาลัยออกเป็นชิ้นๆด้วยดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยน้ำตาของเขา เมื่อน้องสาวถามเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้เขาก็บอกว่าเขาไม่สามารถเข้ามหาวิทยาลัยนั้นได้เพราะขาดเพียงไม่กี่คะแนน หลังจากนั้นเซี่ยเหล่ยเริ่มทำงานในโรงงานทุกวิถีทางเพื่อที่จะหารายได้ไปให้น้องสาวเขา ตอนนี้เซี่ยเสวียสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยจินตู่ได้เช่นเดียวกัน แต่หลังจากเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นมา…..

 

          คลื่นกระแสไฟฟ้าที่รุนแรงที่กำลังไหลผ่านร่างของเซี่ยเหล่ย ร่างกายของเขาขดตัวพร้อมกับความเจ็บปวดและในที่สุดเขาก็ได้หมดสติไป

 

          มีคนบางคนตะโกนเรียกชื่อเขาอยู่ข้างๆใบหูเขาแต่เซี่ยเหล่ยนั้นไม่ได้ยินเสียงเลยแม้แต่น้อย เขาก็กำลังมุ่งหน้าไปสู่แม่น้ำแห่งความตายและกำลังตรงดิ่งไปสู่นรก

 

          การไหลผ่านของเวลานั้นไม่มีใครสามารถสังเกตเห็นได้

 

          เซี่ยเหล่ยเปิดตาของเขาได้ระยะเวลาหนึ่งเขามองเห็นเพียงแสงสว่างอันเล็กน้อยซึ่งมันเป็นใบหน้าของเพื่อนในวัยเด็กของเขา ‘ หม่าเสี่ยวอัน ’ เซี่ยเหล่ยเปิดตาข้างขวาของเขาแล้วก็ได้มองเห็นภาพที่มองไม่ค่อยชัด

 

          “เหล่ย… ต้องลืมตาขึ้นมา !!!” เสียงของหม่าเสี่ยวอันสั่นเล็กน้อยและพูดด้วยเสียงที่สั่นเครือ

 

          “เอ่อ…. ที่นี่มันที่ไหน ?”  ขณะที่เขาพูด หม่าเสี่ยวอันดูเหมือนจะจำอะไรได้บางและนำมือไปแตะที่ตาซ้ายของเขา ดวงตาของเขาถูกห่อหุ้มด้วยผ้าพันแผลและความเจ็บปวดจากแผลไฟไหม้นั้นทรมานเหลือเกิน

 

          หม่าเสี่ยวอันจับมือเซี่ยเหล่ย “อย่ากังวลไปเลย หมอบอกว่าตาข้างซ้ายของคุณอาจจะไม่บอดก็ได้ คุณพักผ่อนเถอะ มันค่อยๆจะฟื้นตัวเอง”

 

          “อาจจะ ? มันหมายความว่ายังไงคำว่าอาจจะ ?” เซี่ยเหล่ยเริ่มหงุดหงิดและหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น

 

          หม่าเสี่ยวอันยืนนิ่งแต่ดูเหมือนว่าเขาจะรู้อะไรบางอย่างแต่เขาไม่กล้าที่จะพูดถึงมัน

 

          “พูดออกมา !” เซี่ยเหล่ยเริ่มกระวนกระวาย

 

          ในขณะนั้นมีชายวัยกลางคนเดินเข้ามาในประตูห้อง เขาสวมชุดสูทอย่างดีและมีอุปกรณ์ราคาแพงมากมายบนตัวและเขาเป็นหัวหน้าของบริษัทการก่อสร้างเฉินฉัวหู่

 

          หม่าเสี่ยวอันทำตัวเหมือนอากาศเมื่อเขาเห็นเฉินฉัวหู่เข้ามาในห้อง

 

          เซี่ยเหล่ยพยายามลุกขึ้นนั่งบนเตียงและทักทายว่า “ท่านหัวหน้าเฉิน มี…... ?”

 

          เซี่ยเหล่ยถูกพูดแทรกกลางประโยคโดยหัวหน้าเฉินฉัวหู่ “มันเกิดอะไรขึ้นกับคุณ รู้มั้ย ความเสียหายที่คุณทำต่อโรงงานมีมากแค่ไหนไม่เพียงแต่คุณจะทำลายเครื่องเชื่อมไฟฟ้า คุณยังทำลายหม้อแปลงไฟฟ้าอีกด้วยจะรู้ไหมว่าเครื่องเชื่อมไฟฟ้าและหม้อแปลงนั้นมีค่าใช้จ่ายมากแค่ไหนใครจะเป็นคนรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ ?”

 

          ความโกรธที่ท่วมท้นบนใบหน้าของเซี่ยเหล่ย เขาคิดว่าท่านหัวหน้าเฉินฉัวหู่จะมาดูอาการของเขาว่าเป็นอย่างไรบ้าง แต่มันไม่ใช่เป็นอย่างที่เขาคิดเลยเขามาทวงค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นในโรงงาน !

 

          หม่าเสี่ยวอันไม่สามารถยอมรับการกระทำเช่นนี้ได้เขาก็ได้พูดอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “ที่ท่านทำแบบนี้มันหมายความว่ายังไงท่านเฉิน เพื่อนของผมมีโอกาส 90% ที่ตาของเขาจะบอดและสิ่งที่ท่านกำลังพูดถึงสิ่งเหล่านี้ ท่านไม่มีความเห็นอกเห็นใจกันบ้างเลยรึ ?”

 

          คำพูดของหม่าเสี่ยวอันทำให้ท่านเฉินหน้าแตกอย่างยับเยิน

 

          ทันใดนั้นหม่าเสี่ยวอันก็คิดขึ้นมาแล้วว่าเขาเผลอพูดข่าวร้ายออกมาแต่เขาก็ไม่สามารถเอาคำพูดคืนกลับไปได้แล้วเขาได้แต่ยืนนิ่งและไม่รู้ทำอย่างไรต่อเมื่อยืนต่อหน้าเซี่ยเหล่ย

 

          เฉินฉัวหู่หัวเราะออกมาอย่างเย็นชาและพูดว่า “ถึงตาของเขาจะบอดแล้วมันเกี่ยวอะไรกับผมล่ะ ? พวกเรามีก็แค่สัญญาว่าจ้างหรือจะมีหรือไม่มี มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมอยู่แล้ว”

 

          เซี่ยเหล่ยโกรธมากและมันได้แสดงออกทางสีหน้าเขาอย่างชัดเจนและก็ยังได้ยินเสียงกัดฟันอย่างรุนแรง

 

          เฉินฉัวหู่กำลังเติมน้ำมันลงบนกองไฟ “ผมจะส่งเจ้าไปที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งเพราะสภาพของคุณตอนนี้มันน่าเวทนายิ่งนัก ค่าใช้ในโรงพยาบาลเป็นเงิน 10000 หยวนที่คุณต้องการ และผมจะพูดอะไรอีกอย่างนะ 10000 หยวนนี้เป็นค่าชดเชยสำหรับคุณ หวังว่ากรณีนี้คงจะจบแต่เพียงเท่านี้และหวังว่าคงจะไม่ได้ยินเรื่องการร้องเรียนความยุติธรรมจากคุณอีก”

 

          “ไอ้ ชาติชั่ว !!!!” หม่าเสี่ยวอันพูดอย่างโกรธจัด “ตาของเขาที่บอดไปมันมีค่าเพียงแค่ 10000 หยวนงั้นรึ ?”

 

          เฉินฉัวหู่ชี้ไปที่หน้าของหม่าเสี่ยวอันและพูดจาอย่างเหยียดหยามว่า “มันไม่ใช่เรื่องของคุณ อย่ามาสะเออะ ! หากคุณกำลังจะหาเรื่องผม ผมก็จะให้ความฉิปหายกับคุณ ไอ้เศษสวะ ! คุณไม่รู้หรอว่าผมเป็นใคร ผมคือเฉินฉัวหู่ผู้ยิ่งใหญ่  หากใครกล้ามีเรื่องกับผม ผมจะทำให้มันสำนึกผิดไปตลอดชีวิต !”

 

          ในขณะนั้นเซี่ยเหล่ยคว้าแก้วน้ำที่อยู่บนโต๊ะข้างเตียงของเขาไปที่หน้าของเฉินฉัวหู่

 

          ในตอนนั้นเฉินฉัวหู่ไม่ทันตั้งตัวและไม่สามารถหลบแก้วที่กำลังลอยมาตรงหน้าเขาได้  มันพุ่งมาชนศีรษะของเขาและเกิดแผลขนาดใหญ่ทำให้เลือดของเขาไหลออกมายังใบหน้า

 

          “ไอ้สารเลว #$@$@ ! คุณกล้าที่จะทำร้ายผมเรอะ !” เฉินฉัวหู่พูดอย่างบ้าคลั่ง

 

          มีชายหนุ่มสองคนได้อยู่ประตูพวกเขามีท่าทีแปลกๆและมีสายตาที่ก้าวร้าวแค่ดูภายนอกก็บอกได้เลยว่าพวกเขานั้นเป็นคนอัลพาลที่จะมาทำร้ายเขาแน่ๆ

 

          “เอามันให้ตาย !” เสียงตะโกนของเฉินฉัวหู่เขาชี้ไปที่เซี่ยเหล่ยที่กำลังนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล

 

          ชายหนุ่ม 2 คนนั้นพุ่งตรงเข้ามา !!!!!

 

          หม่าเสี่ยวอันใช้ร่างของตัวเองเพื่อเป็นเกราะกำบังให้กับเซี่ยเหล่ยและเขาก็ได้ขมวดคิ้วของเขาทนต่อความเจ็บปวดขณะที่ชายหนุ่มสองคนนั้นได้กระแทกหัวของเขากับไหล่และศอก เขาปกป้องเซี่ยเหล่ยอย่างสุดชีวิตเพื่อไม่ใครมาทำร้ายเพื่อนของเขา

 

          “พวกคุณทำอะไรกัน ?” นางพยาบาลที่เดินผ่านห้องของเซี่ยเหล่ย เธอตกใจกับสิ่งที่เห็นและรีบตะโกนร้องให้คนช่วย “ใครก็ได้ ช่วยด้วย !!! มีคนโดนทำร้ายในโรงพยาบาล”

 

          พยาบาลคนนั้นรีบวิ่งไปเรียกผู้รักษาความปลอดภัย

 

          “เดี๋ยววววว !!!” เฉินฉัวหู่ทิ้งทวนโจมตีครั้งสุดท้ายอย่างรุนแรงและเดินออกไปจากประตูพร้อมกับชายหนุ่มทั้งสองคน

 

          สุดท้ายแล้วหม่าเสี่ยวอันก็เดินมาหาเซี่ยเหล่ยอย่างทุลักทุเล ศีรษะของเขาเริ่มบวมและความเจ็บปวดจากการกระแทกเริ่มคืบคลานเข้ามา

 

          “ทำไมถึงห้ามเหล่ยไว้ล่ะ ?” มันไม่ใช่สภาพที่พร้อมของเซี่ยเหล่ยที่จะสู้กับคนพวกนั้นได้ “ผมจะฆ่ามันนน !” เขาตะโกนออกมา

 

          “ฆ่ามัน ?”  มันก็เป็นเพียงแค่สิ่งสกปรกโสโครกคนหนึ่ง ในทางกลับกันเจ้ายังมีน้องสาวที่ต้องดูแล มันจะจัดงานเลี้ยง ดื่มเหล้าตามที่เขาต้องการได้ แต่เจ้านั้นยังมีวันดีๆที่ยังหลงเหลืออยู่มันคุ้มหรือเปล่าที่จะแลกสิ่งบางอย่างกับมัน ? หม่าเสี่ยวอันถอนหายใจออกมา “สงบสติอารมณ์ซะ เหล่ย !”

 

          ปกติแล้วเซี่ยเหล่ยไม่ใช่คนที่หุนหันพลันแล่นหรือบ้าบิ่นแต่อย่างใด ตั้งแต่ที่พ่อแม่ของเขาได้จากไปทำให้เขานั้นโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่ในเหตุการณ์วันนี้มันทำให้เขารู้สึกสิ้นหวังกับทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง เขาไม่สามารถใจเย็นลงได้เพราะว่าเขามีโอกาสตาบอดถึง 90 เปอร์เซ็นต์

 

          “ผมขอโทษ หม่าเสี่ยว….” เซี่ยเหล่ยไม่สามารถพูดจนจบประโยคได้เพราะตอนนี้ความคิดของเขาสับสนวุ่นวายไปหมด

 

          หม่าเสี่ยวอันนำมือไปวางที่ไหล่ของเซี่ยเหล่ย “ทำไมต้องทำเป็นทางการขนาดนี้ห้ะ ? ผมต้องทำแบบนี้กับหม่าเสี่ยวด้วยรึปล่าว  ?”

 

          เมื่อเขาเห็นหม่าเสี่ยวอันถูกรังแก หลังจากนี้เซี่ยเหล่ยจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องเซี่ยเสวียด้วยชีวิตของเขาทั้งหมด

 

          “เหล่ยต้องการให้เราบอกเรื่องนี้กับเซี่ยเสวียมั้ย ?”

 

          “ไม่...ไม่ อย่าบอกเรื่องนี้กับเธอ” เซี่ยเหล่ยตอบอย่างกังวล “ตอนนี้เธอน่าจะอยู่ในโรงเรียนและกำลังสอนพิเศษบางคนอยู่ ถ้าเธอรู้เรื่องนี้แล้วละก็เธอคงจะไม่สบายใจ”

 

          “แต่สักวันเธอก็ต้องรู้ ไม่ช้าหรือเร็ว”

 

          “เมื่อมันถึงเวลานั้น….” เซี่ยเหล่ยกัดริมฝีปาก “พวกเราคงจะต้องคุยกัน”

 

          ทันใดนั้นพยาบาลก็ได้เดินเข้ามาพร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ถามเซี่ยเหล่ยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อกี้ แต่พวกเขา 2 คนก็ไม่ได้พูดอะไร เรื่องนี้ยังคงเป็นที่สงสัยสำหรับเจ้าหน้าที่และพยาบาลที่ยังคงค้างคาใจต่อไป

 

          หม่าเสี่ยวอันอยู่ข้างๆเซี่ยเหล่ยจนถึงกลางคืนและเมื่อหม่าเสี่ยวอันกลับไป เขารู้สึกนอนไม่หลับ ความคิดวิ่งวนไปวนมาในหัวของเขาคิดถึงค่ารักษาพยาบาล คิดถึงอนาคตของน้องสาว และความฝันของเซี่ยเสวียที่จะเดินทางไปมหาวิทยาลัยจินตู่และเรื่องต่างๆมากมาย ในมันที่สุดเขาก็ไม่อาจเอาชนะความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวันได้เขาก็ได้หลับตาลง

 

          หลังจากที่เขาหลับไปได้สักพักหนึ่ง ตาซ้ายของเซี่ยเหล่ย มันถูกปลุกขึ้นมามันเป็นเรื่องที่อธิบายยากเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้แต่มันมีบางสิ่งบางบางอย่างที่พยายามเจาะเข้าไปในตาซ้ายของเขา

 

          เซี่ยเหล่ยตะโกนเรียกพยาบาลแต่ก็ไม่มีใครได้ยินเขามองหาปุ่มข้างเตียงแต่เมื่อเขาจะกดมันปรากฏว่าปุ่มชำรุด !

 

          “ซวยสุดๆ ซวยจริงๆ เราจะดวงซวยไปถึงไหนเนี่ย ? มันเป็นโรงพยาบาลร้างเหรอข้าตะโกนเรียกหาใครหรือไม่มีใครมาหาข้าเลย” เซี่ยเหล่ยรู้สึกหดหู่ และเขาก็พยายามคลานออกจากเตียงและเดินอย่างช้าๆไปที่ประตู

 

          เซี่ยเหล่ยต้องการที่จะไปที่โต๊ะพยาบาลแต่เขาก็หยุดข้างประตู

 

          “หมอและพยาบาลที่นี่คงรู้ว่าถ้าไม่มีเงินและบาดแผลจากเฉินฉัวหู่ก็ทำให้รู้สึกปวดหัวอย่างอธิบายไม่ได้ตลอดทั้งวัน พวกเขารู้ว่าข้าคงไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลตัวเองได้ พวกเขาจึงเลือกที่จะเมินเฉยต่อคำขอร้องของข้าและคงไม่มีการทำความสะอาดบาดแผลที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอนเพราะว่ามันดึกแล้ว พวกเขาอาจจะมองเราด้วยสายตาแปลกๆ แต่ก็ช่างมันเถอะเราสามารถแบกรับความเจ็บปวดนี้ได้อีกนาน”  เซี่ยเหล่ยหันหลังกลับไปยังเตียงของเขาและปล่อยให้ความคิดนี้มันไหลผ่านไป

 

          เมื่อเขาเปิดประตูห้องน้ำ เซี่ยเหล่ยก็มองเห็นเงาสะท้อนของตัวเองในกระจก

 

          เซี่ยเหล่ยเป็นคนที่ข้างหล่อเหลาและมีคุณสมบัติที่เพียบพร้อมหลายอย่าง เขามีความสูง 180 เซนติเมตร เขาก็มีร่างกายที่แข็งแรงและถูกยกย่องว่าเป็นผู้ชายที่สดใสและมีชีวิตชีวาแต่มันน่าเสียดายสิ่งเหล่านั้นกลายเป็นอดีตไปแล้ว ถ้าหากว่าตาซ้ายของเขาเกิดบอดขึ้นมาจริงๆและมีรอยแผลเต็มตัวของเขา สาวๆหลายคนจะต้องเมินเฉยเขาแน่นอน

 

         การเห็นภาพสะท้อนนั้นทำให้เขารู้สึกเศร้ามากกว่าเดิม

 

          ความคิดแปลกๆผ่านมาในหัวของเซี่ยเหล่ย “แผลนี้ข้าได้รับบาดเจ็บในช่วงระยะเวลากลางวันแต่ทำไมมันถึงระแคะระคายตอนในเวลากลางคืน ไม่สิ…..มีดวงตาของเรามันเกิดอะไรขึ้น ดวงตาของเราเป็นอะไรไป !”

 

          เซี่ยเหล่ยเข้ามายังห้องน้ำได้ยืนอยู่หน้าอ่างล้างหน้าและเขาก็หันหน้าไปทางกระจกจากนั้นเขาเอื่อมมือของเขาไปแกะผ้าพันแผลที่ดวงตาซ้ายของเขาออก

 

          ที่ละชั้นทีละชั้นในที่สุดผ้าพันแผลชั้นสุดท้ายก็ได้ถูกแกะออกและเซี่ยเหล่ยมองเห็นดวงตาข้างซ้ายของเขา เขาถึงกับตกตะลึงเมื่อเขาเห็นสิ่งนั้น !

 

          ดวงตาข้างซ้ายของเขาถูกปกคลุมด้วยหมอกสีขาวหนาทึบ สิ่งที่แปลกที่สุดเมื่อเขาสังเกตเห็นเขารู้สึกถึงแสงไฟในห้องน้ำเมื่อมองผ่านตาซ้ายของเขามันค่อนข้างเบลอมาก

 

          “มันเป็นไปได้ยังไง !!!!!!” เซี่ยเหล่ยตกใจเป็นอย่างมาก

 

          ภายใต้สถานการณ์นี้ถึงแม้ว่าดวงตาดวงตาซ้ายของเขาได้รับบาดเจ็บแต่ก็จะมีหมอกหนาหนาปกคลุมไปทั่วทั้งดวงตาทำให้ไม่สามารถมองเห็นอะไรได้แต่อย่างไรก็ตามเขามองเห็นเฉพาะแสงที่ผ่านเข้ามาเท่านั้น !

 

          มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย !......

 

          ขอบคุณครับ แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้า ติดตามข่าวสารและเรื่องราว https://www.facebook.com/Tranxending-Vision-1843606792370694/ ขอเพียงแค่กดไลค์กดติดตาม ก็เป็นกำลังใจให้ผมแปลต่อได้แล้วคร้าบบบ ฝากด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

 

###################################################################

 

         

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด