ตอนที่ 34 -- ค่ำคืนใต้แสงจันทร์ ตอนท้าย
แปลโดย Mikky
Re: Master Magic - ย้อนเวลาเพื่อเป็นจ้าวแห่งจอมเวทย์
ตอนที่ 34 -- ค่ำคืนใต้แสงจันทร์ ตอนท้าย
“คริมสัน….เบลด…!”
โคล้ดประหลาดใจ
เรดเวพอนคือเวทย์ที่เคลือบอาวุธด้วยคุณสมบัติ
หากไทม์สแควร์ถูกใช้ มันได้ยินยอมให้เรียกใช้เวลาเดียวกันทั้งเรดเวพอนและเวทมนต์ที่รุนแรงเพื่อที่จะผสมเข้าด้วยกัน ได้สร้างดาบเวทมนต์ขึ้น
ผมไม่ได้ชำนาญซักเท่าไหร่ในการใช้อาวุธ เพราะผมไม่ค่อยมีโอกาสที่จะใช้คาถาอย่างนี้
ดาบเปลวเพลิงถูกยกขึ้นจากดาบที่หักของโคล้ด และเปลวเพลิงวูปวาปไปมาทุกครั้งเมื่อมันขยับ ได้ทำการขจัดควันที่หลงเหลือภายในห้อง
“หากด้วยสิ่งนี้ล่ะก็…”
โคล้ดเหวี่ยงดาบที่ลุกเป็นไฟของเธอไปที่เคน
ดาบของเคนได้ประดับไปด้วยเครื่องประดับที่เป็นแร่เงิน ผมกล้าพูดเลยว่าด้ามจับดาบของเขาถูกเคลือบเพื่อที่จะเพิ่มพลังที่รุนแรงขึ้น ดาบตามมาตรฐานจะไม่สามารถทนต่อมันได้เป็นครั้งที่สอง หากว่ามันเป็นเพียงดาบตามมาตรฐานล่ะนะ
“ฮ่าาาาา!!”
“แล้วไงล่ะ!”
เคนรับการโจมตีรุนแรงเหลือร้ายของโคล้ดเข้าไป ดาบของเขาเหมือนกับเนยถูกตัดครึ่งอย่างสวยงาม
ใบดาบตกหมุนลงไปยังพื้น
“เป็นไปไม่ได้…!?”
“พี่สกรีนพ้อยของพี่แข็งแกร่งที่ในหมู่ของพวกเราตระกูลเลออนฮาร์ท ขณะที่สกรีนพ้อยท์ได้นำมาใช้ พี่ก็จะปลอดภัยจากเวทมนต์ทุกชนิด”
เคนมีใบหน้าดูลังเลสงสัย โคล้ดมีใบหน้าที่ยิ้มกว้าง
“นั่นคือเหตุผลว่าทำไมพี่จะไม่เป็นไรอย่างแน่นอน ใช่มั้ย?”
รอยยิ้มที่ดูเหยียดหยามลอยผ่านใบหน้าของเธอในขณะที่โคล้ดเหวี่ยงดาบเวทมนต์ของเธอต่อไป
เคนไม่มีอาวุธอีกต่อไป และดูเหมือนว่ามันยากสำหรับเขาที่จะหลบการโจมตี
ด้วยแต่ละการโจมตีเกราะและเสื้อของเคนถูกตัดเป็นชิ้น ๆ อย่างไรก็ตามไม่มีแม้ซักแผลเดียวอยู่บนร่างกายของเขา
คริมสันเบลดที่โคล้ดกำลังควงอยู่ในตอนนี้ เต็มไปด้วยพลังงานเวทมนต์จากเรดบลาสเตอร์ ท่ามกลางคาถาต่าง ๆ ในคลังเวทมนต์ของผม เรดบาสเตอร์ เป็นหนึ่งในคาถาที่รุนแรงที่สุดของผม
อะไรกันเนี่ยไอ้ความสามารถที่ทำให้ขนลุก…..สกรีนพ้อยท์…..
และสิ่งที่น่ากลัวเหนือสิ่งอื่นใดคือ….
เสื้อผ้าของเคนที่ฉีกขาดกระจายออกมา และผิวที่เปลือยเปล่าซึ่งดูเหมือนหล่อหลอมไปด้วยกล้ามเนื้อเริ่มที่จะมองเห็น
นี่มันไม่ตลกเลยนะ…..
โคล้ดกำลังตัดเสื้อผ้าของเคนออกเหมือนว่าเธอถูกครอบงำโดยปีศาจ
นี่เธอเกลียดพี่ชายมากถึงขนาดนี้?
“อึก….โคล้ดยัยสารเลวววว!”
เคนถูกลอกคาบจนหมดเขามีเพียงแค่กางเกงคู่เดียว เขาเหลือบมองมาที่โคล้ดด้วยความหงุดหงิดและเกลียดชัง
……..ผมไม่รู้สึกเห็นอกเห็นใจแม้แต่น้อยสำหรับเขา
“ผู้บัญชาการเคน สำหรับพวกเราได้ทอดทิ้งคุณและวิ่งหนีไปด้วยตัวเองได้โปรดยกโทษให้พวกเราด้วย”
“ผมมาเพื่อช่วยคุณแล้วครับ ผู้บัญชาการเคน”
หลังจากควันหายไปแล้ว ลูกน้องของเคนดูเหมือนว่าได้กลับมากันแล้ว
“ผู้บัญชาการ….เคน…?”
ลักษณะที่ดูไม่เหมาะสมของเคนได้แสดงต่อหน้าลูกน้องของเขาทั้งหมด
ดาบซึ่งชี้ไปที่เขาโดยน้องสาวของเขา และเขาก็ยังสวมแค่กางเกงของเขาเท่านั้น มันเป็นรูปลักษณ์ที่น่าอนาถเกินที่จะบรรยายได้
ผมรู้สึกสงสารเขาถึงจะแค่เล็กน้อยก็เถอะ
“โฮ่ย…..พวกแก….อย่ามอง!อย่ามองมาที่ชั้นนะโว้ยย!”
“ยะ...อย่างไรก็ตามหากพวกเราปล่อยคุณเอาไว้ผู้บัญชาการเคนก็จะ…”
“มันเร็วไป 1000 ปี ที่พวกนายจะมากังวลเกี่ยวฉัน รีบ ๆ ไปได้แล้ว”
เมื่อมองไปที่หน้าของเคนที่ถูกย้อมเป็นสีแดงด้วยความโกรธและความอับอาย ความโกรธภายในตัวผมก็หายไปอย่างปลิดทิ้ง
โคล้ดก็ดูเหมือนมีใบหน้าที่สดใสกลับมาเรียบร้อยแล้ว
มันเหมือนว่าเธอได้ปัดเป่าความขัดข้องใจที่ซ่อนไว้มานานของเธอ
เธอยกดาบขึ้นในท่าทางที่กำลังข่มขู่และบอกกล่าวไปยังเคน
“ผมไม่ใช่คนของเลออนฮาร์ทอีกต่อไป ผมคือโคล้ด เพียงแค่โคล้ดเท่านั้น”
โคล้ดบอกกล่าวออกไปอย่างเด็ดขาด
เคน ลูกน้องของเขาและแม้กระทั่งผมเหมือนถูกกลืนกินโดยจิตวิญญาณและพลังที่เธอได้แสดงออกมา
----------และหลังจากความเงียบเข้าปกคลุมครู่หนึ่ง
เคนขบฟันพร้อมกับกำหมัดของเขา เขาตะโกนกลับไปยังลูกน้องของเขาในขณะที่เขาได้จับเอาด้ายเชือกสุดท้ายของกางเกงที่กำลังเลือนลง
“พวกแกมัวเหม่ออะไรอยู่! เอาเลย! รีบ ๆ โจมตีพวกมันซะ!”
“แต่ว่าเด็กคนนั้นเป็นน้องสาวของคุณเคนนะครับ….”
“ไม่ใช่ว่าเมื้อกี้มันเพิ่งประกาศตัวเป็นศัตรูเรอะ?จัดารมันซะ!”
------นี่เป็นช่วงเวลาที่ดี?
ผมร่ายไทม์สแควร์ รวมทั้งเรดเวฟและบลูเวฟเข้าด้วยกันแล้วยิงมันออกไป
เสียงระเบิดดังขึ้นตามมาด้วยควันสีขาวปกคลุมห้องไว้
“ผู้บัญชาการ นี่เป็นม่านควัน”
“ไปเร็ว!ไล่ตามพวกมันไป!”
“นั่นเป็นการผลีผลามเกินไป”
อีกฝ่ายสับสนในสิ่งที่จะทำ ผมคว้าไปยังมือของโคล้ด
(เซฟคุง!)
(โคล้ด ตรงนี้!)
ตามปกติเมื่อคุณรวมเวทมนต์จากคุณสมบัติเรดกับบลูเข้ากัน ความขัดกันของพวกอาจมีความเป็นไปได้สูงที่ทำให้เกิดการระเบิด อย่างไรก็ตามเมื่อเวทย์ที่มีพลังต่ำ ด้วยผลจากเวทย์พื้นที่กว้างอย่าง“เวฟ”ถูกรวมเข้ากัน มันอาจเป็นไปได้ที่จะสร้างกลุ่มควันขึ้นมา
ผมจะให้ชื่อว่าเบิร์สเวฟ?
ผมดึงไปยังมือของโคล้ดและวิ่งไปยังทางออกของร้านค้า
หลายก้าวที่ผมก้าวไปข้างหน้า ความเจ็บปวดได้สันไหวในขาของผมได้เพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ และเท้าของผมก็เริ่มหนักขึ้น เหงื่อเย็นเริ่มไหลลงหลังของผม
ผมโหมหนักมากเกินไป?
ในขณะที่ผมกำลังคิดเกี่ยวกับหลาย ๆ อย่าง จู่ ๆ ร่างกายของผมก็เริ่มลอยขึ้นกลางอากาศ และผมรู้สึกได้ถึงสัมผัสนุ่มนวลของร่างกายกำลังกอดผมอยู่
“ช่วยจับไว้แน่น ๆ ทีนะ….”
โคล้ดอุ้มผมด้วยท่าอุ้มเจ้าหญิงและวิ่งออกไปจากร้านค้า
ผู้ชายเสื้อดำยังไม่ได้สติบนบันใดใกล้ทางออก
“พวกมันอยู่ตรงนี้!จับพวกมันเร็ว!”
ชายเสื้อดำบางทีคงเรียกสหายของเขาก่อนที่เขาจะสลบไป กำเสริมได้มาถึงค่อนข้างช้าแต่พวกเขาแต่ละคนมีอาวุธและเข้าใกล้พวกผมอย่างรวดเร็ว ก่อนที่พวกเขาจะจับพวกผมได้ ผมเรียกใช้เทเลพอร์ทและลอยอยู่เหนือตึก
“โธ่เว้ย พวกเขาหนีไปโดยใช้เทเลพอร์ท!”
“พวกมันเป็นนักเวทย์ ไม่มีใครที่ซักคนเลยเหรอที่สามารถใช้เทเลพอร์ทตามหลังพวกเขาไป!?”
“หากชั้นมีความสามารถอย่างนั้น แล้วทำไมชั้นจะยังคงเป็นลูกจ้างอยู่ล่ะ!?”
โคล้ดมองไปอย่างเงียบ ๆ ที่ผู้ชายข้างล่างที่ยังคงทะเลาะกันอยู่
“มันคงดีหากไม่มีคนของพวกเขาได้เห็นหน้าของพวกเรา]”
“พวกเราอาจถูกเห็นโดยพี่ชายของเธอและพนักงานร้านค้า”
มันเป็นไปได้ว่าพวกเราอาจถูกต้องการตัวสำหรับการทำให้เกิดความเสียหายต่อร้านค้า
ถ้าหากเช่นนั้นแล้วจอมเวทย์จากสมาคมสหภาพเวทมนต์คงจะรีบทำการค้นหาพวกเราและพวกเราอาจถูกจับได้
พวกเขามีเวทมนต์แปลกประหลาดมากมายที่พวกเราไม่ทราบ และคนจำนวนมากที่ทำงานให้กับสมาคมจอมเวทย์ พวกเขาอาจอธิบายได้ว่าเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุด
ยิ่งไปกว่านั้น การใช้เวทมนต์ประเภทสืบสวน มีวิธีการหลายอย่างซึ่งพวกเขาสามารถใช้เพื่อที่จะติดตามจอมเวทย์คนอื่น ๆ
ดังนั้นเมื่ออำนาจจากสมาคมจอมเวทย์เดินเรื่องแล้ว อาชญากรส่วนใหญ่ถูกจับได้อย่างรวดเร็ว
เอาเถอะพวกเราเป็นเพียงแค่กลุ่มของเด็ก เพิ่มเติมคือเป็นครั้งแรกของพวกเราที่กระทำความผิดเพราะงั้นมันอาจเพียงแค่เสียเงินค่าปรับเล็ก ๆ น้อย ๆ
ดูเหมือนว่าหนี้ผมเริ่มมากขึ้นแล้ว….
“ผมคิดว่ามันอาจไม่เป็นไรแล้วล่ะ ผมไม่คิดว่าพี่จะกล้าทำให้เรื่องนี้รู้กันไปทั่วหรอก”
“ก็จริงนะ เขาอาจกลายเป็นความอับอายของครอบครัว ผมสงสัยว่าเขาคงจะเก็บไว้เงียบ….อย่างไรก็ตามเจ้าของของร้านค้าที่ถูกทำลายอาจบ่นก็ได้…”
นี่เป็นนิสัยที่แย่มากที่ติดตัวผมมา
ขณะที่เลือดขึ้นหน้า ผมก็สูญเสียความเยือกเย็นไปทันที
มาสเตอร์มักจะเตือนผมให้ระวังอย่างมาก แต่ลักษณะเฉพาะส่วนนี้ของผมไม่เคยเปลี่ยนไป
“งั้นค่อยไปขอโทษพวกนั้นทีหลัง?การต่อสู้กันในบาร์เกิดขึ้นอยู่ทุกวัน และหากพวกเราแสดงความจริงใจต่อพวกเจ้าของร้าน มันอาจเป็นไปได้ว่าพวกเราอาจรอดออกมาได้ด้วยการจ่ายเงินบางส่วนใช่มั้ย?”
โคล้ดกำลังยิ้มหวาน ด้วยรอยยิ้มเป็นประกายตามปกติของเธอ
ดูเหมือนว่าเธอกลับมาเป็นปกติแล้ว สิ่งที่ดีของรอยยิ้มหนุ่มหน้าตาดี
แม้มันจะไม่ดีเท่าผมก็เถอะ
ผมได้ยิ้มกว้างให้เธอเหมือนกัน และเธออาจรู้สิ่งที่ผมคิดอยู่ก็ได้
โคล้ดมองมาที่ผมด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน
การจ้องของเธอบริสุทธิ์เกินไปสำหรับผม นั่นทำให้ผมรู้สึกอายเล็กน้อยจนเป็นฝ่ายเบือนหน้าหนี
“ขอบคุณมากนะ เซฟคุง”
“ผมเพียงแค่โกรธไปเอง และผมโกรธไปโดยไม่ได้รับอนุญาต ยิ่งไปกว่านั้นในตอนจบผมยังถูกช่วยไว้โดยโคล้ด เธอไม่มีอะไรที่จะต้องขอบคุณ”
มันเป็นสิ่งที่น่าอายมากจริง ๆ
โคล้ดยังคงมองผมต่อไปในขณะที่ยิ้ม
ได้โปรดหยุดได้แล้ว ยัยบ้า
ที่จริงแล้วผมไม่ใช่เพื่อนที่ดี
“โคล้ด เธอบอกว่าฉันเป็นคนแรกที่โกรธเพื่อประโยชน์ของเธอ นั่นไม่จริงหรอก”
“ฮ่ะ?”
โคล้ดงงนิดหน่อย ผมจึงชี้นิ้วไปทางร้านค้า
ตรงนั้นมีร่างของเด็กหญิงคนหนึ่งที่กำลังหาอะไรบางอย่าง
“มิลลี่ซัง….?”
“หลังจากวันนี้ที่กำลังแยกกัน พวกเรารู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกนิดหน่อยเกิดขึ้นกับเธอ นั่นแหละทำไมที่ฉันเดาว่าเธอก็คงรู้สึกกังวลมากและได้ออกค้นหาเธอ”
เธอคงมีความคิดที่เหมือนกันกับผม
“ในครั้งนี้ มันบังเอิญเป็นผมที่เป็นคนที่พยายามช่วยโคล้ด อย่างไรก็ตามหากหลายสิ่งเปลี่ยนไปแตกต่างเล็กน้อย มันอาจเป็นมิลลี่ที่พยายามช่วยเธอ”
“นั่น...ก็..จริง”
โคล้ดก้มหน้าลง
ดวงตาของเธอชื้นแฉะขึ้นเล็กน้อยด้วยน้ำตา
“อีกอย่างตอนที่ผมเข้าไปโจมตีเธอ คนที่โกรธและตำหนิผมแล้วยังเป็นคนที่หยุดพวกไว้ก็เป็นมิลลี่ใช่มั้ยล่ะ? เพราะงั้นแล้วคนแรกที่โกรธเพื่อเธอที่จริงก็คือมิลลี่”
ท่ามกลางความเร่งรีบและวุ่นวายข้างล่างนั่น มิลลี่ได้นำตัวเองผ่านเหล่าฝูงชนและได้มองหาพวกเราอย่างกระวนกระวาย
แม้ตอนนี้ผมสามารถบอกได้ว่าใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกังวลและความกระวนกระวายใจ
เธอได้ชนผู้ใหญ่และกระแทกไปยังพื้น แต่เธอก็รีบลุกขึ้นและค้นหาพวกเราอีกครั้ง
ได้เห็นฉากเหล่านี้ต่อหน้าเธอ ก่อนที่เธอจะรู้ ดวงตาของเธอก็เริ่มไหลรินน้ำตาก้อนใหญ่ลง
“จำได้มั้ยข้อตกลงที่พวกเรามีเธอบอกว่าเธอจะเชื่อฟังหนึ่งคำขอจากผมถ้าหากผมชนะใช่มั้ย?”
โคล้ดที่ยังคงร้องไห้อยู่ได้หันหน้ามาที่ผม
“อย่าทรยศมิลลี่ ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เธอจะปกป้องมิลลี่ ไปพร้อมกับผม”
“สัญญาอย่างนั้น ไม่มีความหมายอะไรหรอก…”
เธอเช็ดน้ำตาจากหน้าของเธอและมองมายังผมด้วยรอยยิ้ม
“นั่นเพราะผมวางแผนที่จะทำแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้ว!”
ภายใต้ค่ำคืนที่สว่างไปด้วยแสงจันทร์ โคล้ดกำลังยิ้มให้ผมด้วยรอยยิ้มหนุ่มหล่อที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น
แม้ว่ามันยังไม่ดีเท่าผมก็ตาม~
==========
ติดตามข่าวสารและตอนใหม่ๆได้ก่อนใครที่ https://www.facebook.com/RachanTranslations/