บทที่ 8 : เด็กสาวเค่อเอ่อ
หลิงเทียนพาเด็กสาวกลับมาที่บ้านของมารดาเขา หลี่รู่รู้สึกตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าบุตรชายของเธอพาเด็กสาวกลับมาด้วย
ถึงแม้ว่าเสื้อผ้าที่เด็กสาวสวมใส่จะเรียบง่าย แต่ก็ไม่สามารถปกปิดความงามตามธรรมชาติได้ หลี่รู่มีความรู้สึกที่ดีต่อเด็กสาวผู้นี้
" นี่ ท่านแม่ของข้า " หลิงเทียนแนะนำ หลี่รู่ ให้เด็กสาวรู้จัก
"ข้าเค่อเอ่อ ยินดีที่ได้พบนายหญิง "
เด็กสาวดูเหมือนจะไม่สบายใจเมื่อได้พบกับหลี่รู่ ใบหน้าที่งดงามของเธอแลดูอมชมพูทำให้เธอดูน่ารัก
"เทียน อธิบายเรื่องนี้ให้แม่ " หลี่รู่เหลือบมองหลิงเทียนด้วยรอยยิ้มจาง ๆ
เธอไม่ได้คิดว่าบุตรชายของเธอจะกลับมาพร้อมกับเด็กสาว หลังจากออกไปนอกบ้านไม่นาน
" ท่านแม่ มันเป็นแบบนี้ ... " หลิงเทียนเล่าให้มารดาฟังถึงเรื่องราวที่เขาได้พบกับเด็กสาวคนนี้ เค่อเอ่อ และเขาไม่ได้ปิดบังเรื่องราวใดๆ ในขณะที่เขาได้เล่าถึงการต่อสู้กับฟางเจี้ยน
" นั่นคือฟางเจี้ยน ที่น่าอับอายแห่งเมืองวายุโปรย หรือไม่ ? มันไม่สำคัญหรอกถ้าเจ้าเอาชนะเขาได้ ถึงแม้ว่าตระกูลฟางจะมาที่นี่ และพยายามที่จะก่อให้เกิดปัญหา แต่เราอยู่ในสถานะที่ถูกต้อง "
หลี่รู่แสดงความรู้สึกไม่แยแส และพยักหน้า ในวินาทีต่อมาดวงตาที่อ่อนโยนของเธอเต็มไปด้วยความรักของมารดา ค่อย ๆ มองไปยังเด็กสาว
"เค่อเอ่อ เจ้าไม่เหลือใครแล้ว เจ้าสามารถอยู่กับเราได้ เมื่อเรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว
สาวใช้ของบ้านข้า เธอกลับไปที่หมู่บ้านของเธอเมื่อวานนี้เพื่อแต่งงาน เจ้าสามารถอยู่ห้องของธอได้ " หลี่รู่มองไปที่เด็กสาว
" ขอบคุณ นายหญิง "
เค่อเอ่อรีบแสดงความขอบคุณต่อเธอ ในขณะที่หน้าตาของเธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
" มา ข้าจะพาเจ้าไปเปลี่ยนชุด "
หลี่รู่จูงมือเด็กสาว และเดินเข้าไปในห้องนอนของเธอ ทิ้งหลิงเทียนให้ยืนนิ่งอยู่ผู้เดียว
เมื่อเด็กสาวเดินตามหลี่รู่ไปที่ห้อง เธอเดินออกมาพร้อมกับสวมเสื้อผ้าที่สดใส ชุดใหม่ หลี่รู่ช่วยเธอแต่งหน้านิดหน่อย
ขณะนี้ผมยาวสีดำของเธอถูกผูกไว้ และใบหน้าที่สง่างามของเธอมีสีแดงอมชมพูสดใสที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ทำให้เธอดูเหมือนดอกบัวที่เพิ่งผลิบาน
คิ้วของเธอมีรูปร่างคล้ายใบไม้วิลโลว์ และตาเหมือนแอปริค็อต ทั้งหมดดูสมบูรณ์แบบสำหรับเธอ
หน้าอกที่เต่งตึงของเธอก็เหมือนดอกไม้บาน มันดูราวกับว่าจะสามารถระเบิดออกมาได้ทุกเวลา
เธอมีเอวที่คอดเรียวที่สามารถสวมกอดได้ด้วยแขนเพียงข้างเดียว ก้นกลม ขาเรียวยาว ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวของเธอทำให้เธอดูสวยและสง่างาม
" เป็นดังความหมายของชื่อเจ้า เจ้าเป็นเด็กสาวที่น่ารัก "
หลิงเทียน ยืนอยู่เคียงข้าง หลี่รู่ เขารู้สึกชื่นชมขณะที่มองไปที่เด็กสาว
"เค่อเอ่อเสื้อผ้าเหล่านี้เป็นของข้าเมื่อข้ายังเด็ก ต่อจากนี้ข้ายกให้เป็นของเจ้า"
เมื่อมองไปยังหลิงเทียนขณะที่เขากำลังยืนมองเค่อเอ่อ หลี่รู่หยอกล้อ ว่า "ดูสิ ข้าช่วยเจ้าแต่งหน้าเพียงเล็กน้อย และบางคนก็จ้องมองด้วยความคิดที่อยากจะกินเจ้า!"
คำพูดของมารดาทำให้หลิงเทียนอาย และรีบถอนสายตาจากเด็กสาว
สาวงามรูปร่างหน้าตาดี หลังจากแต่งแต้มเพียงเล็กน้อยก็ทำให้เขาหลงใหล
ในฐานะทหารของกษัตริย์ในชีวิตก่อนหน้านี้ เขาไม่เคยขาดผู้หญิงอยู่เคียงข้างเขา ถึงแม้ผู้หญิงเหล่านั้นจะสวย แต่ก็ขาดความสง่างาม ในจุดนี้พวกเธอล้วนไม่สามารถเทียบได้กับเค่อเอ่อ!
" นายหญิง ข้าเป็นเพียงสาวใช้คนหนึ่ง ... มันไม่เหมาะสำหรับข้าที่จะสวมเสื้อผ้าแบบนี้"
คำพูดของหลี่รู่ทำให้ใบหน้าของสาวน้อยกลายเป็นสีแดงจนดูราวกับว่าเลือดจะไหลออก เธอถูกครอบงำโดยความรู้สึกบางอย่าง
หลี่รู่ยิ้ม และกล่าวหยอกล้ออีกครั้ง "ใครบอกเจ้าว่าเจ้าจะเป็นสาวใช้? แม้ว่าข้าอยากจะให้เจ้าเป็นสาวใช้ของข้า แต่ข้ากลัวใครว่าบางคนจะไม่ยอม... "
หลิงเทียนก็พูดไม่ออก ตั้งแต่เริ่มแรกเขายังไม่ได้กล่าวสักคำ แต่เขายังคงตกเป็นเป้า!
หลังจากได้ยินคำพูดของหลี่รู่ใบหน้าของเด็กสาวกลายเป็นสีแดงมากขึ้น
แม้ว่าหลี่รู่ และหลิงเทียนไม่ได้คิดว่าเค่อเอ่อเป็นเด็กรับใช้ แต่เค่อเอ่อที่ชาญฉลาด และมีเหตุมีผลก็ยังคงต้องรับผิดชอบในทุกเรื่อง
เธอเป็นห่วงนายน้อย และนายหญิง ผู้มีเมตตาที่ยินยอมให้เธอได้อาศัยอยู่ด้วย ถ้าเธอไม่ได้ทำอะไรเพื่อตอบแทนพวกเขา เธอย่อมรู้สึกไม่สบายใจ
เค่อเอ่อได้รับการยอมรับจากหลี่รู่ และหลิงเทียนอย่างรวดเร็ว เค่อเอ่อฉลาดและมีความคล่องแคล่ง เธอสามารถเข้ากับครอบครัวของพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว
ตึกของตระกูลฟาง
ในลานขนาดกลางชายหนุ่มวัยกลางคนเดินกระวนกระวายใจ ก่อนจะแวะเข้าไปที่ห้องนอนใกล้ ๆ ทันใดนั้นประตูห้องนอนก็เปิดออก และชายชราก็ออกมาจากข้างใน "ท่านซาน ลูกชายของข้าเป็นอย่างไรบ้าง" ชายวัยกลางคนรีบถามชายชรา
"พ่อบ้านฟาง คนที่ทำเช่นนี้ได้ช่างไร้ความปราณีนัก กระดูกเขาหักเกือบทั้งร่าง แม้แต่เม็ดยาทองคำ ระดับเก้า ก็ยังไม่สามารถช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของเขาได้ ข้าไม่สามารถทำอะไรได้ ข้าเสียใจด้วย " ชายชราถอนหายใจขณะที่สั่นศีรษะ
"อะไรน่ะ?!" ชายวัยกลางคนทำหน้าบิดเบี้ยว
แม้ว่ายาทองคำระดับ เก้า ที่ตระกูลฟางของพวกเขาจ่ายเงินซื้อมาเพื่อรักษา
ยังไม่สามารถช่วยอะไรได้ นั่นหมายความว่าบุตรชายของเขาจะต้องพิการ และอยู่บนเตียงไปตลอดชีวิตของเขา ?
"ฟางเซียง!"
ขณะที่ชายวัยกลางคนที่เต็มไปด้วยพลังเดินเข้ามา จากนั้นเขายื่นกล่องที่ประณีตให้กับพ่อบ้านฟางเซียง
" นี่เป็นยาเม็ดทองคำ ระดับแปด รีบนำไปให้ลูกชายของเจ้ากินซะ "
“ท่านประมุข” ฟางเซียง จ้องมองอย่างไม่เต็มใจ
เขาต้องการที่จะขอร้องให้ท่านประมุขเก็บยาเม็ดทองคำ ระดับแปดไว้ เป็นเพราะเขารู้ดีว่าตระกูลฟาง มียาเม็ดทองคำ ระดับแปด เพียงเม็ดเดียวเท่านั้น แต่เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ เขารับยาในสถานะของพ่อบ้านตระกูลฟาง
เมื่อท่านประมุขส่งยาเม็ดทองคำระดับแปดแก่เขา เขาไม่สามารถห้ามความดีใจได้
" ฟางเซียง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะฟางเจี้ยง สร้างปัญหา ทำให้ลูกของเจ้าได้รับบาดเจ็บ ข้าต้องขอโทษสำหรับเหตุการณ์ในวันนี้ สำหรับลูกชายที่ไร้ความสามารถของข้า ข้าจะลงโทษเขาอย่างหนัก " ท่านประมุขฟางยี่กล่าวด้วยความอับอาย และเสียใจ
“ท่านประมุข”
ฟางเซียงตื้นตันใจมาก จนเขาคุกเข่าลง เศษของความไม่พอใจในหัวใจของเขาหายไปอย่างสมบูรณ์
" ลุกขึ้น และรีบนำยาไปให้ลูกชายของเจ้า" ท่านประมุขฟางยี่กล่าว
ฟางเซียงลุกขึ้นยืน และยกมือขึ้นเพื่อรับยาเม็ดทองคำระดับแปดจากประมุขฟางยี่
" พ่อบ้านฟาง ข้าขอพูดตามตรง ...ถึงแม้จะให้เขาทานยาเม็ดทองคำระดับแปด หรือยาเม็ดทองคำระดับเจ็ด ก็ไม่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บของลูกชายเจ้าได้!" ชายชราที่ยืนอยู่ข้าง ๆ พูดขึ้น
" เว้นเสียแต่ว่า เจ้ามียาสร้างกระดูก แต่ยาสร้างกระดูกไม่มีเหลือแล้ว"
มือที่ยื่นออกไปของฟางเซียง ค้างแข็ง และความหวังที่ยังวนเวียนอยู่ในใจก็แตกสลายอย่างไร้ความปราณีอีกครั้ง
" อย่างไรก็ตาม ให้เขากินมัน จากนั้นล้วนแล้วแต่โชคและวาสนาของเขา" ประมุขฟางยี่กล่าว
" ท่านประมุขไม่จำเป็น ข้าเชื่อวาจาของท่านซาน ข้าไม่ต้องการเสียยาสมุนไพรอันล้ำค่านี้ให้กับลูกชายของข้า" ฟางเซียงส่ายหัว
"สิ่งที่ข้าต้องการทำมากที่สุด คือการค้นหาว่าผู้ใดเป็นคนลงมือทำร้ายลูกข้า ข้าจะต้อง
แก้แค้น! ”
หายใจเข้าลึก ๆ ดวงตาของฟางเซียง เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
"พ่อบ้านฟาง เจ้าสามารถมั่นใจได้ว่าตระกูลฟางทั้งหมด จะทุมเทความพยายามค้นหาผู้ลงมือให้จงได้ !" ท่านประมุขฟางยี่กล่าวอย่างหนักแน่น
" ขอบคุณท่านประมุข "
บ้านของตระกูลหลี่
ข่าวที่น่าตื่นตระหนกได้แพร่กระจายในหมู่สมาชิกตระกูลหลี่อย่างรวดเร็ว ในเดือนหน้าเด็กหนุ่มผู้มีพรสวรรค์ หลี่เจียจะประลองกับ หลิงเทียนบุตรชายของผู้อาวุโสที่เก้า!
เพื่อความเป็นธรรมในการประลองครั้งนี้ ผู้อาวุโสที่เจ็ดได้เชิญให้ท่านประมุขและผู้อาวุโสสูงสุดเป็นพยานในการต่อสู้ ข่าวนี้ทำให้เกิดความรู้สึกตื่นเต้นในตระกูลหลี่
" ขณะที่หลี่ซินถูกหลิงเทียนหักแขน ข้ารู้ว่าผู้อาวุโสที่เจ็ด และหลี่เจียจะไม่ยอมนิ่งเฉยแน่ ใครจะรู้ว่าพวกเขาจะดำเนินการอย่างรวดเร็วเช่นนี้! "
"เขา เขา ... อยู่ในระดับสี่ของของการบ่มเพาะร่างกาย จะประลองกับระดับแรกของการบ่มเพาะร่างกาย เขาต้องการแก้แค้นแทนน้องชายของเขา หลี่เจียยินยอมที่จะละทิ้ง
ความภาคภูมิใจของตัวเอง!"
"ข้าสงสัยว่าหลิงเทียนกำลังคิดอะไรอยู่ในขณะที่เขายอมรับคำท้าประลองของหลี่เจีย
สมองของ หลิงเทียน น่าจะได้รับความกระทบกระเทือนขณะที่เขาต่อสู้กับหลี่ซิน? "
" หลี่เจียจะไม่แสดงความเมตตาในการต่อสู้ครั้งนี้ และแม้ว่าเขาจะไม่สามารถฆ่าหลิงเทียนได้ แต่ก็จะทำให้หลิงเทียนกลายเป็นคนพิการเหมือนน้องชายเขา!"
ไม่มีใครคาดหวังว่าหลิงเทียนจะสามารถเอาชนะได้
หนึ่งในนั้นคือนักสู้ที่มีชื่อเสียงของตระกูลหลี่ เขามีพรสวรรค์ที่ร้ขีดจำกัด ซึ่งก้าวเข้าสู่การบ่มเพาะร่างกาย ระดับที่สี่ เมื่อเขาอายุเพียงสิบหกปี
อีกคนหนึ่งเป็นลูกศิษย์ที่ใช้แซ่อื่น เขาเพิ่งก้าวเข้าสู่ขั้นตอนแรกของการบ่มเพาะร่างกาย
ถึงแม้ว่าการใช้กระบวนท่าที่แปลกประหลาด จะทำให้เขาสามารถเอาชนะหลี่ซินได้ในระดับที่สองของการบ่มเพาะร่างกายได้ แต่ย่อมไม่มีผู้ใดคาดหวังว่าเขาจะสามารถเอาชนะหลี่เจียได้
แม้ว่าหลี่เจียและหลี่ซินเป็นพี่น้องกัน แต่ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน
ขณะที่ตระกูลหลี่ทั้งหมดกำลังให้ความสนใจเกี่ยวกับการประลองที่กำลังจะเกิดขึ้น ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งหมดต่างนิ่งเฉยเหมือนพวกเขาล้วนไม่มีตัวตน
“เสร็จสิ้น!”
หลิงเทียนมองไปที่แหวนบนนิ้วกลาง ในมือขวาของเขา แล้วยิ้มเล็กน้อย
อาศัยความรู้ที่สึกลึกซึ้งเกี่ยวกับเทคนิคการจารึกของจักรพรรดิสงคราม เขาย่อมประสบความสำเร็จในการจารึกแหวนในการลงมือครั้งแรกของเขา
"หลี่เจีย เมื่อวันนั้นมาถึง ข้าจะทำให้เจ้าประหลาดใจ ."
มุมของปากหลิงเทียนยกขึ้น ปรากฏรอยยิ้มที่ชั่วร้าย
"นายน้อย น้ำพร้อมแล้ว"
เด็กสาวเดินออกมาจากบริเวณด้านหลังของห้องนอน ขณะที่เธอเตรียมน้ำในถังอาบน้ำให้หลิงเทียนเสร็จสิ้น
" เค่อเอ่อ ลำบากเจ้าแล้ว ไปพักเถอะ"
หลิงเทียนเดินไปยืนตรงหน้าเค่อเอ่อ ก่อนใช้แขนของเขาเพื่อช่วยซับเหงื่อบริเวณหน้าผากเด็กสาว ซึ่งเป็นการกระทำที่อ่อนโยนมาก
"เค่อเอ่อ, จากนี้ไปงานหนักเช่นนี้ ข้าจะทำเอง " หลิงเทียนกล่าวด้วยท่าทีสงสาร
" หามิได้ นายน้อย หลังจากที่ข้าอาบน้ำด้วยน้ำยาที่ท่านมอบให้ ข้ารู้สึกแข็งแรงขึ้นมากขึ้น" เด็กสาวส่ายแขนเล็กๆ ของเธอ และรอยยิ้มที่สัมผัสได้ปรากฏขึ้นบนหน้า
" ดูเหมือนว่าเค่อเอ่อของข้า ในตอนนี้ร่างกายของเจ้าจะพัฒนาขึ้นจนสามารเริ่มขั้นตอนการบ่มเพาะพลังได้แล้ว " หลิงเทียนสัมผัสแขนเล็ก ๆ ของสาวน้อย และยิ้มให้
" นายน้อย ข้ารู้ว่าท่านปฏิบัติต่อข้าเป็นอย่างดี และข้าก็รู้ด้วยว่าตระกูลหลี่มีกฎเกณฑ์ของตัวเอง สมาชิกในตระกูลไม่ได้รับอนุญาตให้ถ่ายทอดทักษะให้กับผู้อื่น ข้ามีความสุขตราบเท่าที่ข้าสามารถติดตามนายน้อยและนายหญิงได้ ไม่ว่าข้าจะเป็นนักสู้
หรือไม่ " เค่อเอ่อกล่าวอย่างสมเหตุสมผล
" เด็กโง่ ถ้าข้าต้องการชี้แนะวิธีการบ่มเพาะร่างกายให้กับเจ้าด้วยขั้นตอนธรรมชาติ มันย่อมไม่เป็นวิธีการบ่มเพาะของตระกูลหลี่ เอาละ เจ้าไปพักผ่อนได้แล้ว ข้าจะไปหาเจ้าที่ห้อง ในช่วงเย็น ”
“เค่อเอ่อทำไมใบหน้าเจ้าเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่ ?” หลิงเทียนส่ายหัว และยิ้มเบา ๆ
" นายน้อย ท่านชั่วร้าย ท่านข่มขู่ข้า "
หลังจากพูดคุยกับหลิงเทียน ??เค่อเอ่อเดินกลับออกไป ทิ้งให้หลิงเทียนหัวเราะอยู่ผู้เดียว