บทที่ 28 : ครึ่งเดือนหลังจากนั้น
"เจ้าแน่ใจงั้นเหรอที่จะให้ข้าจารึกอาคมเพลิงอัสนีถึง 20 ชิ้น?"
หลิงเทียนรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยเมื่อเห็นกองวัตถุดิบที่ไขมันน้อยนำมา ...มันมากเกินไป
"ใช่แล้ว ลูกพี่"
ไขมันน้อยพยักหน้าราวกับลูกเจี๊ยบก่อนที่จะกล่าวถามออกมาว่า "ลูกพี่มีปัญหาอันใดหรือไม่?"
"ไม่มีปัญหาอะไรหรอก " หลิงเทียนส่ายหัว
จากนั้นหลิงเทียนก็พูดต่อ "ข้าแค่จะบอกเจ้าว่า อย่าได้ใช้อาคมจารึกเพลิงอัสนีนี้กับผู้ใดอีกนอกเหนือจาก ลี่หมิง มิฉะนั้น คงใช้เวลาไม่นานก่อนที่ทุกคนจะรู้ว่าที่เจ้าสามารถเอาชนะมันได้ มาจากอาคมจารึก แต่เจ้าสามารถใช้ซ้ำใส่ลี่หมิงได้ เพราะว่าหากมันพ่ายแพ้เจ้าอีกหรือพ่ายแพ้เจ้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าครั้งทุกคนจะคิดว่าคำกล่าวของมันเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น แต่เจ้าก็ต้องระวังอย่าให้มันมากเกินไปนัก"
"ถูกอย่างที่ลูกพี่กล่าว เหตุใดข้าจึงคิดไม่ถึงนะ?"
ไขมันน้อยตีหัวตัวเองอย่างโง่งม ก่อนที่จะกล่าวออกมา "ข้าว่าข้าแค่ใช้อาคมจารึกเพลิงอัสนีอีกไม่กี่ครั้ง มันก็คงไม่กล้ามาตอแยข้าแล้วล่ะ ... แล้วลูกพี่จะทำยังไงกับวัตถุดิบที่เหลือเหรอ หรือท่านจะเอาไปทิ้ง? "
หลิงเทียนกล่าวตอบออกมาเรียบๆว่า "วัตถุดิบเหลือใช้เหล่านี้ข้าจะเก็บไว้ เพื่อเอาไว้สอนการจารึกแก่เจ้า การจารึกอาคมครั้งแรกของเจ้าจะเป็นการจารึกอาคมเพลิงอัสนีนี่ล่ะ "
“ข้าต้องขอบคุณท่านมาก ลูกพี่” ใบหน้าของไขมันน้อยเต็มไปด้วยรอยยิ้มกว้าง
ทันใดนั้นหลิงเทียนก็ยื่นมือออกมาพร้อมจ้องมาทางเขาด้วยแววตาเรียบๆ ไขมันน้อยรู้สึกสงสัยจึงถามออกมาด้วยแววตาใสซื่อ "ลูกพี่ นี่หมายความว่าอันใดเหรอครับ?"
"ค่าเล่าเรียน!" หลิงเทียนตอบไขมันน้อยด้วยน้ำเสียงดุขึ้นเล็กน้อย
"จริงสิ แหะๆ ข้าเกือบลืมเสียแล้ว"
ไขมันน้อยหัวเราะออกมาก่อนที่เขาจะใช้มื้ออ้วนๆล้วงไปในอกเสื้อเพื่อหยิบถุงเก็บเหรียญเงินออกมายื่นให้หลิงเทียน"ลูกพี่ ข้าเตรียมไว้ให้ท่านตั้งนานแล้ว นี่เป็นเงินค่าเล่าเรียนสำหรับเดือนถัดไป"
หลิงเทียนยื่นมารับถุงใส่เหรียญก่อนที่เขาจะพยักหน้าเล็กน้อย "ตั้งแต่พรุ่งนี้ข้าจะมาพบเจ้าหลังเวลาอาหารกลางวัน เจ้าแค่รอข้าอยู่ที่บ้านข้าจะไปหาเอง จำไว้ด้วยข้าจะใช้เวลาสอนเจ้าแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้นในแต่ละวัน ข้าจะสอนเจ้าอย่างสุดความสามารถที่ข้ามี ส่วนเจ้าสามารถรับรู้ได้แค่ไหนนั่นเป็นเรื่องของเจ้าแล้ว"
"ขอบคุณมากลูกพี่ ข้าไม่รบกวนท่านแล้ว" ไขมันน้อยยิ้มแป้นแล้น ก่อนที่จะหันหลังจากไปอย่างมีความสุข
หลังจากที่โยนถุงเงินไปมาบนมือเพื่อวัดน้ำหนัก มุมปากของหลิงเทียนก็แสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย "ข้าต้องเก็บเงินเอาไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อข้าตัดผ่านไปยังระดับก่อเกิดแล้ว ข้าคงต้องหมดเงินมากมายกับวิชาชีพต่างๆที่ข้ารู้เป็นแน่ ... "
ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป หลิงเทียนจะใช้เวลาครึ่งชั่วโมงหลังอาหารเที่ยง เพื่อไปสอนไขมันน้อยที่บ้าน
.....
ในตอนแรก อาวุโส 5 ลี่ติงก็รู้สึกประหลาดใจ
แต่เมื่อได้เห็นว่าลูกชายของเขากลายเป็นเพื่อนของหลิงเทียนจริงๆเขาก็รู้สึกดีใจอย่างมาก
ถึงแม้ว่า ในช่วง 2-3 วันนี้เขามักจะได้ยินเสียงแปลกๆ ออกมาจากห้องของลี่ซวนก็เถอะ
"เพียะ!"
เสียงแปลกๆดังขึ้นอีกครั้ง
ลี่ติงส่ายหัวพร้อมรอยยิ้ม ก่อนที่จะเดินจากไป
ภายในห้อง เด็กหนุ่มที่มีเรือนคิ้วสง่างามเผยแววตาแหลมคมราวกับกระบี่ มองไปยังไขมันน้อย "สมองเจ้าเอาไปเก็บไว้ที่ใดหมด ข้าสอนกี่ครั้งแล้วเหตุใดเจ้าไม่รู้จักจดจำ ทรายม่วงทอง มันเอาไปผสมกับ หญ้าแผดเผา โดยตรงไม่ได้ เจ้าโง่ !"
"แหะๆ ลูกพี่อย่าตีข้าอีกเลย หากท่านตีข้าเช่นนี้สมองข้าเสื่อมไป จักทำเช่นไรเล่า"
ไขมันน้อยลูบศีรษะป้อยๆ ใบหน้าของมันแสดงออกถึงความรู้สึกผิดอย่างเห็นได้ชัด
"ฮึ่ม เหตุใดข้าถึงไม่รู้ก่อนนะว่าเจ้าโง่เง่าเช่นนี้ ก่อนที่ข้าจะพลาดตกลงมาสอนเจ้า หากข้ารู้เช่นนี้ข้าคงไม่รับปากเจ้า ฮึ่ม... ถ้าเดือนนี้เจ้าทำเรื่องที่ข้าสอนไว้ไม่ได้เจ้าอย่าหวังเลยว่าข้าจะมาสอนเจ้าอีก ต่อให้เจ้าจ่ายเงินเท่าไหร่ข้าก็ไม่ต้องการ ข้าไม่อยากเสียเวลาของข้าโดยเปล่าประโยชน์! "
หลิงเทียนแสดงออกถึงความผิดหวัง พร้อมกล่าวออกมาอย่างดุร้าย
ไขมันน้อยยิ้มอย่างขมขื่นก่อนที่จะกล่าวว่า "ลูกพี่ไม่ต้องกังวล ข้าจะพยายามให้มากขึ้น"
"ข้าหวังว่าเจ้าจะทำได้อย่างที่เจ้าพูด เอาล่ะครบกำหนดครึ่งชั่วโมงแล้ว ข้ากลับก่อนล่ะ หวังว่าพรุ่งนี้ข้าจะได้เห็นความก้าวหน้าของเจ้าบ้าง สักเล็กน้อยก็ยังดี" หลังจากกล่าวจบหลิงเทียนก็เดินออกมา
ครึ่งเดือนต่อมา
ยามเช้าเหล่าศิษย์ของตระกูลลี่ ต่างมารวมกันที่ หอฝึกยุทธ์หลัก เสียงในหอค่อนข้างดังเซ็งแซ่ไปด้วยบทสนทนาถึงประเด็นร้อนที่กำลังจะเกิดขึ้น
เหล่าศิษย์ของตระกูลลี่ ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย ก็ต่างสนทนากันอย่างออกรส
บทสนทนาของพวกมันตอนนี้เป็น เรื่องการประลองกันระหว่างลูกชายคนเล็กของอาวุโส 2 ลี่หมิง และลูกชายของอาวุโส 5 ลี่ซวน ล้วนๆ
"ลี่หมิงกล่าวว่าเขาพ่ายแพ้ลี่ซวนเพราะเขาป่วย ข้าไม่รู้ว่าจริงเท็จแค่ไหน"
"หากเขาแพ้ลี่ซวนอีกครั้ง นั่นย่อมหมายความว่าเขากล่าวเท็จ"
"ข้าก็คิดเช่นนั้น คนเรามันคงไม่บังเอิญแพ้ถึงสองครั้งเพราะความป่วยหรอกมั้ง?"
...
ลี่หมิงเดินทางมาถึงหอฝึกยุทธ์แล้ว เขากำลังเตรียมจะเข้ามาตรงกลางหอ
แต่เขาก็ต้องรู้สึกประหลาดใจกับบทสนทนาของทุกคนในหอ
ถึงพ่อเขาจะไม่ให้เขาอธิบายเรื่องผลกระทบของเม็ดยาเพลิงอัสนีแก่ผู้ใด
แต่เขาก็ไม่คิดเลยว่า ทุกคนกลับสงสัยเขาอย่างนี้
พวกเขาคิดจริงๆเหรอว่าลี่ซวนนั่นสามารถเอาชัยเขาได้ด้วยฝีมือ?
"ไอบัดซบลี่ซวนหมูอ้วนสกปรกโสโครกสารเลว ครานี้เจ้าต้องเป็นฝ่ายที่นอนเป็นผักครึ่งเดือน!"
ลี่หมิงกล่าวออกมาด้วยโทสะ เสียงบดกันของฟันดังขึ้นอย่างน่าหวาดกลัว
"ลี่ซวนมานู่นแล้ว!"
สิ้นคำ ผู้คนทั้งหมดไม่ว่าจะหญิงหรือชายก็หันไปมองตรงทางเข้าหอฝึกยุทธ์หลัก
มองไปไกลๆ ทุกคนกลับพบ ชายหญิงที่ท่าทางสง่างามเดินมา โดยมี ชายร่างอ้วนท้วมเดินตามหลังต้อยๆ ราวกับเป็นข้ารับใช้
"ข้าได้ยินมาว่า ลี่ซวน ยกให้หลิงเทียนเป็นลูกพี่ของเขา"
"เหอะ! ยกย่องนับถือคนที่ใช้สกุลอื่นเช่นนี้ น่าอับอายยิ่งนัก"
"เขาเป็นลูกน้องของคนที่ใช้สกุลอื่นแล้วจะอย่างไร เหตุใดเจ้าไม่พูดให้เสียงดังหน่อยเล่า เป็นลูกผู้ชายเสียเปล่า เฮอะ ขี้ขลาดเช่นเจ้าสิ น่าอับอาย!"
"ถูกแล้วแม้หลิงเทียนจะมิได้ใช้สกุลลี่เป็นชื่อสกุลของเขา แต่เขาก็นำเกียรติยศมาสู่ตระกูลลี่ แถมเขายังคลี่คลายปัญหาให้ตระกูลลี่หลายต่อหลายครั้ง เจ้ามีปัญญาเทียบเขาได้หรือไม่เล่า!"
"ระยะเวลานัดหมาย 3 เดือนจักครบในวันพรุ่งนี้ ข้าสงสัยว่าหลิงเทียนเขากล้าไปเยือนสกุลฟางจริงๆงั้นหรือ"
...
ในขณะที่หลิงเทียนกำลังจูงมือเค่อเอ๋อเดินเข้ามา เขาก็ได้ยินบทสนทนามากมายเกี่ยวกับตัวเขา
แต่เขาก็หัวเราะออกมาโดยไม่ได้สนใจอะไร
จากนั้นหลิงเทียนก็มองไปยังไขมันน้อยก่อนที่จะกล่าวออกมา “เจ้าอย่าได้ลงมือทำร้ายเขาหนักเกินไปล่ะครานี้ ให้หยุดมือเมื่อสั่งสอนให้เขารู้แล้วว่าผู้ใดเป็นผู้ชนะ มิฉะนั้นอาวุโส 2 อาจจะไปเอาเรื่องกับบิดาของเจ้าได้ แม้ว่าบิดาเจ้าจะเป็นคนใจกว้างแต่เจ้าก็ต้องเห็นใจท่านด้วย เจ้าเข้าใจหรือไม่?”
สิ้นคำหลิงเทียน ไขมันน้อยก็พยักหน้ารับ
ตอนนี้คนที่เขาชื่นชมมากที่สุดในโลก คือ ต้วนหลิงเทียน
เมื่อเหล่าคนของตระกูลลี่ทั้งหมดเห็นพวกเขาสามคนเดินทางมาถึง พวกเขาต่างพร้อมใจกันเปิดเส้นทางเดินให้
ต้วนหลิงเทียนกำลังเดินจูงมือเค่อเอ๋ออยู่ด้านหน้า ส่วนไขมันน้อย ลี่ซวนเดินตามหลังคนทั้งสองมา
เมื่อถึงลานฝึกซ้อม ไขมันน้อยก็เดินออกไปหาลี่หมิงที่ยืนรอมันอยู่ ก่อนที่มันจะหันไปยิ้มให้แก่ลี่หมิงพร้อมเอ่ยคำออกมา "ลี่หมิงเจ้าก็ฟื้นตัวไวดีเหมือนกันนี่ ตอนนี้เจ้าหายดีแล้วหรือไม่"
"ลี่ซวนวันนี้ข้าจะล้างความอัปยศที่เจ้ามอบให้ข้า!" ลี่หมิงกล่าวขึ้นพร้อมกับใบหน้าที่แดงขึ้นเพราะโทสะ
ตอนนี้โทสะที่เขาอดกลั้นไว้ตลอดครึ่งเดือนกำลังจะระเบิดออก
"เจ้าไม่ต้องกังวล ลูกพี่ของข้าบอกข้าว่าอย่าทำร้ายเจ้าหนักเช่นนั้นอีก"
ลี่ซวนหัวเราะเย้ยหยันออกมา ท่าทางของเขาดูล้อเลียนลี่หมิงอย่างมาก
"ไออ้วนบัดซบ หาที่ตาย!"
ลี่หมิงจ้องลี่ซวนอย่างอาฆาต ก่อนที่เขาจะระเบิดพลังพุ่งตรงไปยังลี่ซวนราวเสือดาว
วิชายุทธ์ระดับสีเหลือขั้นกลางถูกส่งไปยังลี่ซวนด้วยความอำมหิต
"เพลงหมัดปราบพยัคฆ์ งั้นเหรอ?"
เห็นฉากตรงหน้า ดวงตาของหลิงเทียนก็หรี่ลงเล็กน้อย
เขาจำได้ว่าลูกชายคนเล็กของอาวุโส 7 ลี่ซุน ก็ใช้เพลงหมัดปราบพยัคฆ์ นี้เช่นกัน
แต่อย่างไรก็ตามระดับของลี่ซินนับว่าอ่อนด้อยกว่าลี่หมิงอยู่มาก ความรุนแรงและกลิ่นอายพยัคฆ์ของกระบวนท่าต่างกันไกลโข
นี่คือความแตกต่างระหว่างผู้เชี่ยวชาญและผู้ฝึกหัด
วิชายุทธ์จะถูกแสดงออกได้อย่างสมบูรณ์เมื่อผู้ฝึกสามารถเข้าใจแก่นแท้ของวิชาได้
ลี่ซวนเดินตรงไปข้างหน้าเพื่อเตรียมรับการโจมตี
เขาไม่ได้ใช้วิชายุทธ์ใดๆ เขาทำเพียงกำมือปล่อยหมัดธรรมดาไปยังลี่หมิงเท่านั้น
ทันใดนั้นมุมปากของเขาก็ฉีกยิ้มขึ้นมาอย่างชั่วร้าย พร้อมกับเปิดการใช้งานอาคมจารึกเพลิงอัสนี...
ทันใดนั้นเองราวกับหนังเก่าฉายวนซ้ำ ภาพเมื่อครึ่งเดือนก่อนบังเกิดขึ้นอีกครั้ง
ร่างกายของลี่หมิงหยุดชะงักราวกับถูกสายอัสนีบาตฟาด ความแข็งแกร่งของกำปั้นเขาสลายหายไปเหลือเพียงหมัดที่พุ่งไปอย่างไร้เรี่ยวแรง ตอนนี้เขาไม่สามารถต้านทานหมัดธรรมดาของลี่ซวนได้
ปังงง!
กำปั้นของลี่ซวนปะทะกำปั้นของลี่หมิงอย่างจังจนมันกระเด็นออกไป ตอนนี้ลี่หมิงได้รับบาดเจ็บแล้ว
หลังจากนั้น พายุหะกำปั้นก็กระหน่ำลงมาอย่างไร้ปราณี ...
เหล่าผู้คนของตระกูลลี่ที่อยู่ในหอฝึกยุทธ์ล้วนไร้คำพูดใดๆจะกล่าว
พวกเขาคุ้นตากับฉากต่อสู้ตรงหน้ามาก เพราะเมื่อครึ่งเดือนที่แล้วมันก็เป็นเช่นนี้ ...
เดือนที่แล้วลี่หมิงถูกลี่ซวนจู่โจมอย่างไร ครึ่งเดือนผ่านไปมันก็ยังคงเป็นเช่นนั้น
"ไม่จริง มันเป็นไปมิได้ ... นี่มันเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?" หลังจากที่ลี่ซวนหยุดมือ ลี่หมิงก็พบว่าอาการราวกับกลืนกินเม็ดยาเพลิงอัสนีบาตก็สลายหายไปจนหมดสิ้นแล้ว เหลือเพียงความเจ็บปวดจากการถูกทำร้าย
เขาตกใจอย่างมากและไม่อยากจะเชื่อว่าเกิดเรื่องอะไรแบบนี้ขึ้นได้อีกครั้ง
ถ้าครึ่งเดือนที่แล้วลี่ซวนโชคดี แล้วครั้งนี้มันโชคดีอีกเช่นนั้นหรือ?
เรื่องบังเอิญเช่นนี้มันเกิดขึ้นอีกได้อย่างไร?
"เจ้าอยากจะกลับไปนอนเป็นผักอีกสักครึ่งเดือน หรือจะเลิกตอแยกับข้า เจ้าเลือกมา!"
หน้าของลี่ซวนสั่นกระเพื่อมจากการเอ่ยเสียงดังกังวาน ท่ามกลางสายตาชื่นชมของเหล่าสาวกทุกคนของตระกูลลี่ที่มองมายังมัน ลี่ซวนกลับไม่สนใจ มันกลับหันไปมองหลิงเทียนเล็กน้อย
รอยยิ้มประจบประแจงเริ่มฉายขึ้นบนใบหน้าอ้วนกลมของมัน ช่างดูแตกต่างกับตอนข่มขู่ลี่หมิงราวกับคนละคน "ลูกพี่ข้าทำตามที่ท่านกล่าวแล้วนะ ข้าไม่ได้ลงมือรุนแรงอะไร ครั้งนี้เขาคงนอนพักรักษาเพียงแค่ 2-3 วัน"
หลิงเทียนพยักหน้าตอบรับอย่างยินดี
"พี่สะใภ้ข้าทำดีหรือไม่?"
ลี่ซวนหันไปทางเค่อเอ๋อก่อนจะยิ้มแป้นแล้นออกมา ใบหน้าราวกับซาลาเปาของมันยามยิ้มลูกตามันหายไปจนหมดสิ้น
เมื่อได้ยินคำกล่าวของลี่ซวน เค่อเอ๋อก็หน้าแดงเพราะความเขินอายทันที
"เหอะ เจ้าอย่าได้ลำพองใจไปนัก ด้วยความช่วยเหลือของเม็ดยาเพลิงอัสนี และโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 7 กระบวน เจ้ายังมีระดับอยู่แค่ระดับบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 4 เจ้าไม่ละอายหรืออย่างไร"
หลิงเทียนกล่าวกับลี่ซวนขึ้นมาทันที
เนื่องจากเขาถูกยกย่องให้เป็นลูกพี่อย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ ช่วยไม่ได้ที่จะให้ความช่วยเหลือลูกน้องของเขาบ้าง เขาปรับเปลี่ยนสูตรโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวนที่มันเคยใช้ให้กลายเป็นโอสถน้ำ บ่มเพาะร่างกาย 7 กระบวน ..ที่เป็นโอสถระดับสูงขึ้นอีกขั้นให้มัน
และแน่นอนว่าเรื่องนี้ย่อมเป็นความลับระหว่างเขากับลี่ซวน แม้แต่ผู้อาวุโส 5 ก็ไม่รับทราบเรื่องครั้งนี้
และเมื่อลี่ซวนรู้ว่า โอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวนที่ใช้กันในตระกูลนั้น หลิงเทียนเป็นผู้สร้างขึ้น มันยิ่งรู้สึกนับถือลูกพี่ของมันมากขึ้นไปอีก
ลี่ซวนหัวเราะแก้เขินเล็กน้อยก่อนที่จะเกาหัวด้วยความละอาย "ลูกพี่ ท่านคิดว่าคนอื่นจะเป็นปีศาจเช่นท่านกับพี่สะใภ้กันหมดหรือไร... "
เมื่อวานระดับการบ่มเพาะของเค่อเอ๋อนั้นเลื่อนขึ้นตามหลังหลิงเทียนมาติดๆ นางสามารถตัดผ่านไปยังระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 7 ในเวลาเพียงไม่นาน ทำให้ลี่ซวนอดไม่ได้ที่จะยอมรับนับถือพี่สะใภ้ที่แสนงดงามคนนี้ให้อยู่ในระดับปีศาจเช่นลูกพี่ของมัน
"ปีศาจบ้านเจ้าสิไออ้วน "
หลิงเทียนมองไขมันน้อยด้วยแววตาดุร้าย ก่อนที่จะจูงมือเค่อเอ๋อเดินออกจากหอฝึกยุทธ์ไป
ฝูงชนรอบๆต่างเปิดทางเดินให้เขา พร้อมทั้งมองมายังทั้งสองด้วยแววตาเคารพ
เมื่อ 4 เดือนที่แล้ว ต้วนหลิงเทียนต่างถูกทุกคนก้มหน้ามองลงมาอย่างดูถูก
แต่ว่าตอนนี้แม้เจ้าตัวจะไม่รู้ ต้วนหลิงเทียนกลับกลายเป็นคนที่พวกมันแหงนมองขึ้นไปอย่างนับถือ ...
บางคนรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ทำดีกับเขาในยามที่เขาอ่อนแอ
ถ้าพวกเขาสามารถเป็นลูกน้องหรือผู้ติดตามหลิงเทียนเช่นลี่ซวนได้ จะยอดเยี่ยมขนาดไหนกันล่ะ!
"ลูกพี่ ท่านรอข้าด้วย!"
ไขมันน้อยรีบวิ่งตามหลิงเทียนกับเค่อเอ๋อไป ร่างกายกลมๆป้อมๆของมันแลดูน่าตลกอย่างมากยามที่ออกวิ่ง
เมื่อร่างของทั้งสามคนจากไปทุกสายตาก็หันกลับมามองร่างที่นอนหมดสภาพอยู่กลางลาน ลี่หมิงที่ดูเต็มไปด้วยความแค้นใจกำลังเหม่อมองฟ้าอย่างน่าสมเพช เสียงจากคนที่อยู่รอบๆเริ่มดังขึ้น "เหอะ ลี่หมิงจะกล่าวอ้างว่าเขาป่วยอีกหรือไม่ล่ะครั้งนี้?"
"ข้าว่าครั้งที่แล้วที่เขาพ่ายแพ้ก็มิได้ป่วยอันใด มันเป็นเพียงคำกล่าวอ้างเท่านั้น ข้าอยากรู้นักครานี้ยังกล้าอ้างอันใดอีกหรือไม่ น่าอดสูนัก!"
"ใช่ ช่างน่าอดสูนัก!"
...
ลี่หมิงกัดริมฝีปากของเขาจนเลือดออกเมื่อได้ยินเสียงเยาะเย้ยถากถางเขา เขาได้แต่หัวเราะออกมาอย่างขื่นขม
เขาไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดเหตุการณ์ประหลาดเช่นนี้จึงเกิดกับเขาอีกครั้ง