บทที่ 17 : ข้าจะให้เจ้าชดใช้ด้วยชีวิตในอีกสามเดือน!
ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าพ่อบ้านฟาง จะกล้าลงมือในห้องโถงของตระกูลหลี่
นอกจากนี้เขายังใช้พลังความแข็งแรงของร่างกายถึงเก้าส่วน ในขณะที่เขาลงมือโจมตีอีกด้วย เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการฆ่าหลิงเทียนทันที!
พ่อบ้านฟาง ลงมืออย่างรวดเร็ว เขาพุ่งมาถึงด้านหน้า หลิงเทียนในพริบตา
ในขณะที่เขากำลังฟาดผ่ามือเข้าใส่ ร่างกายของหลิงเทียนสั่นสะท้านเขาหลบได้ในเสี่ยววินาที พลังของพ่อบ้านฟางฟาดลงบนพื้นอย่างรุนแรง!
แต่ถึงกระนั้นหลิงเทียนยังคงโดนพลังที่หลงเหลือ ตัวเขาลอยกระแทรกเข้าไปในกำแพงแล้วถ่มน้ำลายที่ปนเลือดออกมา ...
ใบหน้าของหลิงเทียนดูซีดเซียว และร่างกายของเขาสั่น เขาค่อยๆทรงตัวด้วยความยากลำบาก
เขากำหมัดแน่นและเล็บของเขาเจาะเข้าไปในฝ่ามือของเขา แต่เขาก็ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดใด ๆ ...
ดวงตาของเขาคมกริบ เขากำลังปลดปล่อยความตั้งใจฆ่าอย่างกระหายเลือด!
พ่อบ้านฟางหยั่งเท้าลงบนพื้น และพุ่งออกอีกครั้งหลังจากที่เขาลงมือโจมตีครั้งในครั้งแรก เขาต้องการโจมตีครั้งที่สองทันที!
" บัดซบ เจ้ากล้าดียังไง !!! "
ท่านประมุขของตระกูลหลี่ยืนขึ้นด้วยความโกรธ เขาตะโกนเสียงดังก้อง!
" หาที่ตาย ! "
พลังงานถูกขับออกจากฝ่าเท้าของผู้อาวุโส 6 จากนั้นเขาขยับตัวเหมือนสายฟ้าที่พุ่งเข้าหาพ่อบ้านฟาง
เขาพุ่งตัวไปพร้อมกับพลังงานต้นกำเนิด จากแรงดึงดูดของสวรรค์ และแผ่นดินทำให้เกิดเงาดำมหึมาถึงสี่ดวง ...
หมัดที่มีความแข็งแกร่งของช้างแมมมอธโบราณถึงสี่ตัว! ถ้ามันประทะกับพ่อบ้านฟาง แม้เขาจะไม่ตายในทันที แต่เขาจะต้องพิการอย่างแน่นอน!
อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาที่สำคัญนี้ ประมุขตระกูลของฟางขยับไปข้างหน้าและดึงตัวพ่อบ้านฟางขึ้นเพื่อหลบการโจมตีของผู้อาวุโสหลี่
ความเร็วของประมุขตระกูลฟาง เร็วกว่าผู้อาวุโสหลี่ปิงถึงสองเท่า!
ในขณะนี้มีเงาดำมหึมาแปดตัวที่กระพริบเหนือศีรษะของประมุขตระกูลฟาง ความแข็งแรงของช้างแมมมอธโบราณถึงแปดตัว!
" เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ? " หลี่ปิงเหลือบไปที่ประมุขฟางอี อย่างเย็นชา ก่อนที่จะเดินไปยืนข้างๆ หลิงเทียนเและถามเรื่องนี้
" ข้าไม่เป็นไร ขอบคุณผู้อาวุโสหก " หลิงเทียนส่ายหัว แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บ แต่เขาก็ไม่ได้เป็นอะไรมากนัก
เขารู้ว่านี่คือสัญญาณแห่งความอ่อนแอ
"ฟางอี!"
เสียงตะโกนดังออกมาจากประมุขของตระกูลหลี่ มันดังเหมือนกับฟ้าร้อง ในห้องโถงทั้งหมดเริ่มสั่นด้วยพลังของเขา
" ตระกูลหลี่ของข้าจะสืบสวนเรื่องระหว่างตระกูลฟางของท่าน และหลิงเทียนด้วยตัวเอง! แต่สมาชิกของตระกูลฟางของท่าน กล้าที่จะลงมือโจมตี และทำร้ายสมาชิกตระกูลหลี่ของข้า ภายในบ้านของตระกูลหลี่! ดูเหมือนว่าท่านต้องการที่จะทำสงครามกับตระกูลหลี่ของข้า! ท่านสามารถให้คำอธิบายในเรื่องที่เกิดขึ้นแก่ข้าและตระกูลหลี่ได้หรือไม่ ? " ประมุขหลี่โกรธมาก เขาถือว่า หลิงเทียนเป็นสมบัติของตระกูลหลี่
ถ้าหลิงเทียนต้องถูกสังหารไป ไม่ต้องพูดถึงความจริงเกี่ยวกับผู้อาวุโสที่เก้าที่นางจะไม่ยอมรามือจากเรื่องนี้โดยเด็ดขาด และแม้แต่ตระกูลหลี่ ก็จะลุกขึ้นสังหารตระกูลฟางจนกว่าจะพินาศย่อยยับ!
" ท่านประมุขหลี่ โปรดอภัยให้เขา บุตรชายคนเดียวของพ่อบ้านฟาง กลายเป็นคนพิการหลังจากที่โดนหลิงเทียนทำร้าย บุตรชายของเขาจะต้องนอนอยู่บนเตียงไปตลอดชีวิตของเขา เขานั้นมีเหตุผลในการโจมตีหลิงเทียน และเขาไม่มีเจตนายั่วยุตระกูลหลี่ และในตอนนี้ หลิงเทียน ปลอดภัยแล้ว ทำไมเราไม่ปล่อยให้มันผ่านไป ? "
ไม่มีใครคาดคิดว่าประมุขฟาง จะนิ่งเฉยเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
" ฟางอี! " ใบหน้าของประมุขหลี่ เปลี่ยนเป็นโกรธแค้น
แต่ก่อนที่เขาจะสามารถดำเนินการต่อ เขาถูกขัดจังหวะโดยหลิงเทียนที่เดินออกมาไม่กี่ก้าว
" ท่านประมุข ข้าต้องการจะสะสางปัญหานี้เอง"
หลิงเทียนกล่าวโดยไม่ได้รอให้ประมุขหลี่ตอบ ดวงตาที่บวมของหลิงเทียนจ้องมองไปที่พ่อบ้านตระกูลฟาง
เขาเป็นเหมือนเทพอาซูราที่เพิ่งเดินออกจากนรก ร่างกายของเขากำลังปลดปล่อยความต้องการฆ่าอย่างกระหายเลือด ทำให้ผู้คนที่อยู่ในห้องโถงรู้สึกหนาวเหน็บ
" เจ้าคือฟางเกวียนใช่หรือไม่ ? ในอีกสามเดือนข้างหน้า ข้าจะไปเยือนตระกูลฟาง และข้าจะให้เจ้าชดใช้การกระทำในวันนี้ด้วยชีวิตของเจ้า! "
หลังจากที่เขาพูดเสร็จสิ้น เขาหันกลับ และเดินออกไป
" ตกลง! อีกสามเดือนต่อจากนี้ ข้าจะรอเจ้า ในเวลานั้นข้าจะฆ่าเจ้าด้วยมือสองข้างของตัวเอง และแก้แค้นให้กับบุตรชายของข้า! "
แต่เดิมเขาเชื่อว่าเขามิอาจจะแก้แค้นให้กับบุตรชายของเขาได้ แต่เมื่อฟางเกวียนได้ยินในสิ่งที่หลิงเทียนกล่าว ดวงตาสีแดงเข้มของเขาเต็มไปด้วยความดีใจและตื่นเต้น
...
" นั่นย่อมขึ้นอยู่กับเจ้า ว่ามีความสามารถเพียงพอหรือไม่ "
หลิงเทียนไม่ได้หันไป เขาหัวเราะอย่างชา และเดินออกจากห้องโถงของตระกูลหลี่ไป
ชีวิตก่อนหน้าของหลิงเทียน เขาไม่เคยถูกผู้ใดทำร้ายเช่นนี้มาก่อน เนื่องจากเขามีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก!
ในช่วงชีวิตนี้พ่อบ้านฟาง เป็นคนแรกที่กล้าประกาศว่าจะเอาชีวิตเขา
ในอีกสามเดือนเขาจะไปเยือนตระกูลฟาง และใช้เลือดของเขาล้างความอัปยศที่เขาได้รับในวันนี้ ...
การฆ่าเท่านั้นที่สามารถสยบความโกรธในหัวใจของเขา!
" ท่านประมุข ตระกูลหลี่มักมีวีรบุรุษเสมอ หลิงเทียนมีความทะเยอทะยานมากในขณะที่อายุยังน้อย! เนื่องจากเขาได้มีข้อตกลงด้วยชีวิตและความตายไว้กับพ่อบ้านฟางเกวียนแล้ว จึงไม่มีเรื่องใดให้กล่าวอีกต่อไป ในอีกสามเดือนข้างหน้า ตระกูลฟางจะรอต้อนรับเขา! " ฟางอีหันไปมองหลี่น่านและหัวเราะเยาะ
หลังจากที่เขากล่าวเสร็จ ฟางอีไม่สนใจหลี่น่านที่กำลังโกรธแค้น เขาพาพ่อบ้านฟางเกวียนจากไปทันที
" ท่านประมุข หลิงเทียนทำเกินไปแล้ว!"
ผู้อาวุโสหลี่ปิงขมวดคิ้ว ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวล
เขาไม่ได้เป็นห่วงชีวิต หรือความตายของหลิงเทียน แต่เขาเป็นห่วงว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นกับหลิงเทียน บุตรชายของเขาก็จะไม่มีน้ำยาบ่มเพาะร่างกาย
ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เขาสังเกตเห็นว่าบุตรชายก้าวหน้าขึ้นมากหลังจากได้แช่น้ำยาบ่มเพาะร่างกาย ก น้ำยาบ่มเพาะร่างกายของถือเป็นสิ่งล้ำค่า!
ผู้อาวุโสหลี่น่าน มีการแสดงออกที่ซับซ้อน
ก่อนหน้านี้เมื่อหลิงเทียนมีความต้องการที่จะสังหารพ่อบ้านฟาง อย่างรุนแรง
แม้กระทั่งเขาก็รู้สึกว่าถูกยับยั้งเอาไว้
เขาไม่เข้าใจว่าหลิงเทียน ผู้ซึ่ง คาดว่าไม่เคยฆ่าใครมาก่อน จะมีเจตจำนงในการฆ่าที่รุนแรงเช่นนั้นได้อย่างไร ...
ในความเห็นของเขา มีเพียงขุนศึกที่ผ่านศึกมานับร้อยครั้งเท่านั้นที่จะสามารถแพร่เจตจำนงในการฆ่าที่รุนแรงและน่าสะพรึงกลัวเช่นนั้นได้
" นับตั้งแต่ที่เขาไดตัดสินใจ เราก็ต้องเชื่อมั่นในตัวเขา และหวังว่าเขาจะสร้างความมหัศจรรย์อีกครั้ง ผู้อาวุโสที่หก ข้าอยากรู้เรื่องระหว่างหลิงเทียน และตระกูลฟาง ท่านไปสืบหาความจริงให้ข้าที "
ความลึกลับของหลิงเทียน ทำให้เกิดความหวังเพิ่มขึ้นในหัวใจของผู้อาวุโสหลี่น่าน
" ตกลง ท่านประมุข" ผู้อาวุโสหลี่ตอบ
แม้ว่าหลิงเทียนจะสามารถเอาชนะหลี่เจียได้ อาจถือได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์
หลี่เจียอยู่ในระดับที่สี่ของการบ่มเพาะร่างกาย ขณะที่พ่อบ้านฟางเกวียนอยู่ในระดับการบ่มเพาะร่างกายระดับที่ เก้า พวกเขาไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้
หลิงเทียนในระดับที่สามของการบ่มเพาะร่างกาย ตั้งใจจะเอาชนะการบ่มเพาะร่างกายระดับที่เก้า ในเวลาเพียงสามเดือน นี้เป็นสิ่งที่มิอาจเชื่อได้ในความคิดของเขา
ระดับการบ่มเพาะร่างกาย แบ่งออกเป็นเก้าระดับ แต่ละระดับสามารถก้าวหน้าได้ยากกว่าระดับก่อนหน้า หลิงเทียนที่เพิ่งกล่าววาจาอย่างหนักแน่น กำลังเดินลากเท้าด้วยความเจ็บปวด เขาก้าวเท้าไปยังทิศทางของบ้านด้วยความเชื่องช้า
ในระหว่างทาง ด้วยความภาคภูมิใจของเขา เขาย่อมไม่แสดงความอ่อนแอใดๆ ออกมา ขณะที่เขากลับมาถึงลานบ้าน ในที่สุดเขาก็ไออย่างรุนแรง เลือดเต็มพื้น
" นายน้อย เกิดอะไรขึ้น ? ท่าน ท่านไดรับบาดเจ็บ "
เมื่อเห็นภาพเช่นนี้ เค่อเอ้อที่กำลังล้างผักอยู่ในลาน ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นซีดเซียว
หลังจากรีบวางสิ่งของในมือแล้ว เธอพาหลิงเทียนกลับไปที่ห้องของเขา ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา
" นายน้อย ท่านอย่าเป็นอะไรนะ" เด็กสาวเริ่มร้องไห้
"เด็กโง่ ข้าได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ข้าไม่เป็นไร ข้าต้องการพักผ่อนสักครู่หนึ่ง " หลิงเทียนเช็ดน้ำตาจากดวงตาของเด็กสาวออก พร้อมกับยิ้มให้เธอ
อีกหนึ่งชั่วโมงต่อมาหลี่รู่ พึ่งกลับมาจากตลาดในเมือง ขณะที่เธอเดินเข้ามาในลาน
เธอสังเกตเห็นพื้นที่เต็มไปด้วยเลือด ใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปอย่างมาก
" เทียน ใครทำร้ายเจ้า ? "
หลี่รู่วิ่งเข้าไปในห้องหลิงเทียน เสียงของเธอสั่นเล็กน้อย
" ท่านแม่ ข้าไม่เป็นไร และข้าได้พูดคุยกับท่านประมุขเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว ข้าจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวข้าเอง ท่านต้องเชื่อใจข้า!"
หลังจากผ่านการดูแลเอาใจใส่อย่างถี่ถ้วนจากเค่อเอ้อ เขาทานยาแก้ไข้เม็ดทองคำระดับเก้าที่ท่านประมุขนำมาให้ ความเจ็บปวดได้หายไปบางส่วน เขาจึงพยายามสร้างรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา
" มันคือฟางอี ใช่หรือไม่ ? " หลี่รู่ถามด้วยเสียงต่ำ
"ไม่ใช่ เขาคือพ่อบ้านฟางเกวียนของตระกูลฟาง ท่านแม่ เขาจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน สามเดือนนับจากนี้คือวันตายของเขา! "
ดวงตาของหลิงเทียน เต็มไปด้วยความเย็นชา ขณะที่เขาพูดจบ
หลังจากนั้นผลยาของยาแก้ไข้เม็ดทองคำเกรดเก้าออกฤทธิ์ ทำให้หลิงเทียนหลับสนิท
"เค่อเอ้อ ดูแลเทียนให้ดี"
หลี่รู่ทำการตรวจสอบร่างกายของหลิงเทียน หลังจากที่แน่ใจว่าบุตรชายของเธอไม่เป็นอะไรมาก เธอถอดหายใจออกมา จากนั้นเธอก็เดินออกจากลานไป เพื่อไปพบท่านประมุข
หลังจากท่านประมุขกล่าว เธอได้เข้าใจลำดับเหตุการณ์ทั้งหมด และเธอเข้าใจสิ่งที่บุตรชายของเธอกล่าว นั้นความหมายว่าอย่างไร
เธอหายใจเข้าลึก ๆ แม้ว่าดวงตาของเธอเต็มไปด้วยเจตจำนงแห่งการฆ่าอย่างรุนแรง แต่เมื่อเธอคิดถึงความต้องการของบุตรชาย เธอก็พยายามฝืนตัวเอง
เธอตัดสินใจว่าถ้าบุตรชายเสียชีวิตขณะที่ต่อสู้กับฟางเกวียนในอีกสามเดือนข้างหน้า เธอก็จะลงมือฆ่าฟางเกวียน แม้จะทำให้ตระกูลฟางโกรธแค้นก็ตาม!
เพื่อเห็นแก่บุตรชายของเธอ เธอจะละทิ้งทุกอย่าง ... แม้แต่ชีวิตของเธอ!
เมืองหลวงที่เคยเงียบสงบ กำลังวุ่นวายกับเสียงผู้คนที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นขณะที่ตระกูลฟางตั้งใจป่าวประกาศการประลองในครั้งนี้ ...
“เฮ้! เจ้าได้ยินข่าวหรือไม่ ? มีข่าวลือว่าศิษย์ของตระกูลหลี่ที่ใช้แซ่อื่น ได้ประกาศ
ว่าจะท้าประลองกับพ่อบ้านฟางเกวียน ในอีกสามเดือนข้างหน้านี้! "
"ใช่ ข้าได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ ศิษย์ที่ใช้แซ่อื่นนั้น ชื่อหลิงเทียน เขาเป็นบุตรชายของผู้อาวุโสที่เก้าของตระกูลหลี่ เมื่อเดือนที่ผ่านมา เขาได้ช่วยเด็กสาวที่ขายร่างกายของเธอเพื่อฝังศพมารดาของเธอ ความขัดแย้งจึงเกิดขึ้นระหว่างเขากับตระกูลฟาง และเขาก็ทำให้ลูกน้องคนหนึ่งของฟางเจี้ยนพิการด้วย!"
"หลิงเทียนทำให้เขาพิการ เขาเป็นบุตรชายของพ่อบ้านฟาง!"
"ข้าจำได้แล้ว เมื่อเดือนก่อน ฟางเจี้ยนประสบกับความพ่ายแพ้ ด้วยมือของเด็กหนุ่มผู้หนึ่ง และตอนนั้นข้าอยู่ที่นั่นด้วย เด็กหนุ่มผู้นั้นคือหลิงเทียน ? หากมองจากรูปร่างข้าคิดว่าเขาเป็นชายหนุ่มอายุ สิบหกปี ... "
"ไม่เป็นความจริง เขายังอายุไม่ถึงสิบหกปี แต่เขากล้าท้าประลองพ่อบ้านฟาง การประลองที่แลกด้วยชีวิตและความตาย ทำไมเขาถึงไม่มีสมองเช่นนี้ ผู้คนในเมืองนี้ต่างรู้ดีว่า พ่อบ้านฟาง นั้นบ่มเพาะร่างกายอยู่ในระดับที่เก้า "
" คนหนุ่มสาว ย่อมหยิ่งผยอง!"
......
การพูดคุยที่คล้าย ๆ กันเกิดขึ้นทั่วเมือง ทุกคนต่างคาดคิดว่าหลิงเทียนกำลังฆ่าตัวตาย
ที่บ้านของตระกูลหลี่
ในห้องโถงใหญ่ท่านประมุขหลี่น่าน และบรรดาผู้อาวุโสของตระกูลหลี่ได้มาประชุมกัน แม้กระทั่งผู้อาวุโสคนที่เจ็ดที่เพิ่งหมดตัวไปเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา เขาก็เข้าร่วมการประชุมด้วย
ข่าวที่แพร่กระจายไปทั่วเมือง ได้เข้าสู่หูของบรรดาผู้อาวุโสของตระกูลหลี่ พวกรู้สึกเขากังวล
สามเดือนนับจากนี้ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับหลิงเทียน ย่อมหมายความว่าบุตร ของพวกเขาจะไม่มีน้ำยาปรับสภาพร่ายกาย เพื่อใช้ในการบ่มเพาะพลังอีกต่อไป ?
“ท่านประมุข”
“ท่านประมุข”
นอกจากผู้อาวุโสที่เจ็ดหลี่คุน และผู้อาวุโสที่เก้าแล้ว ผู้อาวุโสทุกคนต่างมีความกังวลใจเมื่อมองไปที่ประมุขหลี่น่าน
หลี่น่านยกมือขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้ทุกคนกล่าวต่อ
"ข้ารับรู้ความเข้าใจ ของพวกเจ้าทุกคน แต่เรื่องนี้ได้รับการพิจารณาแล้ว นอกจากนี้ข่าวดังกล่าวได้แพร่กระจายจากตระกูลฟาง ดังนั้นถ้าเราจะยอมรับความพ่ายแพ้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับชื่อเสียงของตระกูลหลี่ นั่นหมายความว่าเราต้องเชื่อมั่นในตัวของหลิงเทียนเท่านั้น ข้าได้คุยเรื่องนี้กับผู้อาวุโสสูงสุดแล้ว สำหรับสามเดือนต่อจากนี้ตระกูลหลี่จะทุ่มเท และพยายามที่จะช่วยหลิงเทียน! พวกท่านมีใครคัดค้านหรือไม่ ? "
ในขณะนี้พวกผู้อาวุโสของตระกูลหลี่ สามารถทำได้เพียงแค่ฝืนหัวเราะเท่านั้น
มันสายเกินไปแล้วที่จะยกเลิกข้อตกลงในการประลอง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางเลือก
หลังจากที่ผู้อาวุโสทุกท่านกลับไป ขณะที่ผู้อาวุโสที่เจ็ดหลี่คุน เดินกลับบ้าน มุมปากของเขาขดเป็นรอยยิ้มที่เย็นชา
" หลี่ซิน หลี่เจีย มีใครบางคนจะแก้แค้นแทนพวกเจ้า หลิงเทียนกล้าที่จะท้าประลองกับ ผู้ที่มีการบ่มเพาะร่างกายระดับเก้า เจ้ามันร่นหาที่ตายชัดๆ! "