ตอนที่ 23 : ระดับบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 5!
หลังจากที่ลี่หลัวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ นางจึงเริ่มกล่าวคำถามที่อยู่ในใจของนางออกมา นางจ้องมองบุตรชายด้วยแววตาแน่วแน่ ราวกับพยายามที่จะค้นหาความจริงอะไรบางอย่าง
"ท่านแม่ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ข้าเคยฆ่าคน" หลิงเทียนที่ได้เตรียมคำตอบเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว พูดตอบออกมาพร้อมรอยยิ้มบางๆ
"เจ้าเคยฆ่าผู้อื่นตั้งแต่เมื่อใดกัน?เหตุใดข้าจึงไม่เคยรับรู้มาก่อน? " ลี่หลัวถามขึ้น
"ท่านแม่ ก่อนหน้านี้ข้าเคยฆ่าคนในฝันของข้า มันก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าส่วนหนึ่งของการฝึกซ้อม ที่ท่านผู้อาวุโสตระเตรียมเอาไว้ให้ข้า ข้ายังคงจำได้เมื่อครั้งแรกที่ข้าฆ่าคนในฝัน ข้ารู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก จนแทบจะอาเจียน" หลิงเทียนอธิบาย
ในความฝัน!
สำหรับลี่หลัวแม้สิ่งที่บุตรชายของนางกล่าวมันยากเกินที่จะเชื่อถือ แต่นางก็ไม่มีเหตุผลอื่นมาอธิบายการเปลี่ยนแปลงของบุตรชายนางได้อีกแล้ว
"ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสในความฝันของเจ้า จะยอดเยี่ยมนัก ลูกเทียน ตอนนี้เจ้าต้องรีบไปที่ห้องโถงหลัก ท่านประมุขกำลังรอเจ้าอยู่"
หลังจากที่นางสูดหายใจเข้าลึกๆ นางก็พยายามข่มความสงสัยในตัวบุตรชายของนางเอาไว้ ก่อนที่จะกล่าวบอกมันออกมา
หลิงเทียนพยักหน้า และเดินตามมารดาไปที่ห้องโถงของตระกูลลี่
"ผู้อาวุโสลี่หนันเฟิง ข้าหวังว่าท่านจะสบายดี!"
ขณะที่พวกเขาเดินเข้าไปใกล้ถึงห้องโถงของตระกูลลี่ พวกเขาก็ได้ยินเสียงดังมาจากข้างใน
"เฉินลี่? เจ้ามาทำอะไรที่นี่? "
หลังจากได้ยินเสียง ลี่หลัวรู้สึกแปลกใจมาก เมื่อนางหันไปมองบุตรชาย นางก็สังเกตเห็นรอยยิ้มเจื่อนๆของมัน
"ลูกเทียน เจ้าไม่ได้ผิดใจกับตระกูลเฉินใช่ไหม?" หัวใจของลี่หลัวไม่อาจคลายความกังวลนี้ไปได้
เพราะถึงขนาดทำให้ประมุขที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลเฉินมาที่นี่ด้วยตัวเอง มันทำให้นางกังวลเป็นอย่างมาก
หลิงเทียนบอกนางเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างเขากับบุตรสาวคนโตของตระกูลเฉิน เฉินเม่ยเอ๋อ
"หากเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย ไม่มีทางที่เฉินลี่จะมาหาเจ้าเพราะเรื่องแค่นั้นเป็นแน่ ต้องมีอันใดที่มันสำคัญอย่างยิ่ง"
ลี่หลัวถอนหายใจ นางรู้สึกกังวลว่าบุตรชายของนางจะลงมือสังหารคนของตระกูลเฉินด้วยเช่นกัน
หลิงเทียนเดินช้าๆ ตามหลังมารดาที่เดินเข้าไปในห้องโถง ตอนนี้เขาสังเกตเห็นว่าบรรยากาศภายในห้องโถงไม่ค่อยสู้ดีนัก
"ฮึ!"
ชายวัยกลางคนสบถออกมาหลังจากที่พวกมันเดินสวนหลิงเทียนเพื่อออกไปนอกห้องโถง พวกมันต่างจ้องหลิงเทียนด้วยแววตาเอาเรื่อง
"ท่านประมุข... นี่?"
ลี่หลัวมองไปที่ท่านประมุขลี่หนันเฟิงด้วยความรู้สึกสับสน ก่อนที่นางจะหันไปมองบุตรชายของนาง ทั้งสองคนจากตระกูลฟางต้องการให้บุตรชายของนาง หลิงเทียนชดใช้ด้วยชีวิต แต่เมื่อบุตรชายของนางมาถึง พวกมันกลับเดินออกไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
"ทั้งหมดต้องขอบคุณเฉินเม่ยเอ๋อ นางคาดเดาว่าตระกูลฟางจะมาหาเรื่องถึงตระกูลลี่ เพื่อกล่าวถึงการสังหารที่หลิงเทียนกระทำ เฉินเม่ยเอ๋อจึงให้ข้าพานางมาที่นี่เพื่ออธิบายเรื่องราว นางกล่าวว่าตัวนางนั้นอยู่ในเหตุการณ์ขณะที่หลิงเทียนดับชีวิตของฟางเฉียนด้วย ทั้งนี้เนื่องจากฟางเฉียนเป็นฝ่ายหาเรื่องและท้าทายหลิงเทียนก่อน ดังนั้นหลิงเทียนจึงไม่มีความผิด" ท่านประมุขลี่กล่าวออกมาพร้อมเสียงหัวเราะ
"เฉินเม่ยเอ๋อ ข้าต้องขอบคุณเจ้าแล้ว" ลี่หลัวมองไปที่เด็กสาวแล้วยิ้มบาง ๆ
"ลูกเทียน ครั้งนี้เจ้าต้องขอบคุณแม่นางเฉินเม่ยเอ๋อ นางอุตส่าห์มาเป็นพยานให้เจ้า ทำไมเจ้ายังไม่ขอบคุณนางอีก? " ลี่หลัวมองไปที่หลิงเทียน
ดวงตาของหลิงเทียนเปล่งประกายด้วยความทึ่งเล็กน้อยขณะที่มองไปยังเฉินเม่ยเอ๋อ และสงสัยว่าทำไมนางถึงช่วยเขา
"ขอบคุณ เฉินเม่ยเอ๋อ"
เนื่องจากมารดาของเขากล่าวถามออกมาแล้ว เขาจะไม่กล่าวขอบคุณนางก็คงไม่ได้ ยังไงก็ต้องรักษาหน้าของนางเอาไว้บ้าง
"ไม่เป็นไร"
เฉินเม่ยเอ๋อกระพริบตาของนางก่อนที่นางจะแย้มยิ้มออกมาราวกับดอกไม้ผลิบาน
เมื่อเทียบกับหญิงสาวก้าวร้าวเอาแต่ใจในเหลาอาหาร ตอนนี้นางเปลี่ยนไปราวกับคนละคน
"ท่านประมุขเฉิน อบรมดูแลเฉินเม่ยเอ๋อมาดียิ่งนัก" ประมุขลี่หนันเฟิง ยิ้มให้กับชายวัยกลางคนที่กำลังยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่ด้านข้างเฉินเม่ยเอ๋อ
ชายวัยกลางคนผู้นี้เป็นประมุขของตระกูลเฉินนามว่าเฉินลี่ เฉินลี่ส่ายหัวก่อนที่จะมองไปยังหลิงเทียนด้วยรอยยิ้ม
"บุตรสาวของข้าจะสามารถเปรียบเทียบกับคุณชายน้อยหลิงเทียนที่มีฝีมือและความสามารถสูงขนาดนี้ตั้งแต่วัยเยาว์ได้เช่นไร? เมื่อเขาเติบโตขึ้นกว่านี้ ข้าเกรงว่าทั่วทั้งเมืองวายุโปรยจะไม่มีผู้ใดเทียบเคียงเขาได้"
"ผู้อาวุโสเก้าข้าขอถามท่านหน่อยได้หรือไม่ว่า บุตรชายของท่านแต่งงานแล้วหรือยัง?" เฉินลี่หันไปถามลี่หลัว
หลังจากที่เฉินลี่กล่าวถามออกมาจบประโยค ลี่หลัว หลิงเทียน และลี่หนันเฟิงต่างตกตะลึง ทั้งสามคนมองไปที่เฉินเม่ยเอ๋ออย่างไม่รู้ตัว เมื่อสังเกตเห็นพวงแก้มของนางแดงขึ้น พวกเขาก็รู้เจตนาของคำถามนี้ได้เป็นอย่างดี
‘เฉินเม่ยเอ๋อ เจ้าคงไม่คิดจะแต่งงานกับข้าหรอกนะ?’
หัวใจของหลิงเทียนเต้นแรงขึ้น เขาไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นได้
ในเหลาอาหารเมื่อเช้าเขาและเฉินเม่ยเอ๋อ นั้นเปรียบราวกับ น้ำกับไฟ เขาคิดไม่ถึงจริงๆว่าหญิงสาวก้าวร้าวผู้นั้นจะกลับกลายมาเป็นแบบนี้ได้
ตอนนี้หลิงเทียนหันไปทางมารดา มันก็พบว่านางกำลังจ้องมองมันด้วยแววตาล้อเลียนรวมทั้งแฝงแววตาสงสัย ราวกับต้องการให้มันกล่าวตอบคำถามข้อนี้ออกมา ...หลิงเทียนได้แต่ส่ายหน้า
"อ่า ช่างโชคร้ายยิ่งนักประมุขเฉิน ก่อนหน้านี้ข้าได้หาภรรยาสำหรับบุตรชายของข้าเอาไว้แล้ว" ลี่หลัวมองไปที่เฉินลี่ด้วยความรู้สึกผิด
"อา.. น่าเสียดายยิ่งนัก โชคร้ายจริงๆ เช่นนั้นวันนี้ข้าและบุตรสาวก็ไม่มีอะไรที่จะรบกวนพวกท่านอีกแล้ว เอาเป็นว่าพวกข้าขอตัวลากลับก่อน แล้วกัน ไว้พบกันใหม่"
เฉินลี่พยักหน้า ขณะที่เขาเดินไปกับเฉินเม่ยเอ๋อ
เมื่อเฉินเม่ยเอ๋อเดินออกไป นางเหลือบมองหลิงเทียนด้วยความขมขื่น ใบหน้าของนางสลดลง ...
"ผู้อาวุโสเก้า ทำไมข้าถึงไม่ทราบเรื่องที่ท่านตัดสินใจเลือกภรรยาให้กับหลิงเทียน?" ประมุขลี่หนันเฟิงมองไปที่ลี่หลัวด้วยความสงสัย
"ท่านประมุข, ข้าตัดสินใจให้เค่อเอ๋อเป็นภรรยาของหลิงเทียน"
รอยยิ้มที่จริงใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของลี่หลัว เมื่อนางพูดถึงเค่อเอ๋อ สิ่งที่นางกล่าวทำให้หลิงเทียนรู้สึกประหลาดใจ
เขาคิดในใจ ‘ถ้าเค่อเอ๋อได้ยินที่ท่านแม่กล่าว รับรองนางต้องอายม้วนเป็นแน่’
"เช่นนั้นเอง พวกเขาช่างเหมาะสมกันยิ่งนัก" ประมุขลี่หนันเฟิงพยักหน้าออกมาพร้อมรอยยิ้ม
"ผู้อาวุโสเก้า อาวุโสลี่หัวอยากจะพบข้า ตั้งแต่ก่อนที่พวกคนจากตระกูลฟางจะมาเสียอีก ตอนนี้ก็สายมากแล้ว ข้าคงต้องขอตัวก่อน"
เมื่อได้ยินคำกล่าวของประมุขลี่ หลิงเทียนก็เผยรอยยิ้มออกมา มันรู้ดีถึงสาเหตุที่อาวุโสลี่หัวขอพบประมุขของตระกูลลี่
"ข้าหวังว่าประมุขตระกูลคงไม่ขี้เหนียวกับข้าหรอกนะ ถึงแม้เม็ดยาเพลิงอัสนีจะเป็นแค่โอสถระดับต่ำ แต่สำหรับตระกูลลี่มันก็นับว่ามีค่าอย่างยิ่ง"
ถ้าเด็กๆในตระกูลใช้โอสถนี้พร้อมกับโอสถเร่งการบ่มเพาะต่างๆ ความเร็วในการบ่มเพาะของพวกมันจะเพิ่มขึ้นถึงสองเท่า!
แน่นอน ว่าเหตุผลหลักที่หลิงเทียนมอบสูตรยาให้อาวุโสลี่หัวนั้น เพราะ..
เขามีความจำเป็นที่ต้องใช้เม็ดยาเพลิงอัสนีเช่นกัน ด้วยความช่วยเหลือของยาตัวนี้ การที่เขาจะทะลวงผ่านไปยังระดับผู้บ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 7 ภายในเวลาสองเดือนครึ่ง ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
"ลูกเทียน เหตุใดเจ้าถึงยิ้มหน้าบานเช่นนั้นเล่า? ตอนนี้ข้าขอบอกเจ้าเอาไว้เลยนะ หลังจากนี้ไม่ว่าเจ้าจะทำอะไรก็ตาม ห้ามเจ้าทอดทิ้งเค่อเอ๋อเด็ดขาด มิฉะนั้นข้าจะไม่มีวันอภัยให้เจ้าแน่!" ลี่หลัวบอกกับหลิงเทียนอย่างจริงจัง
"ท่านแม่ ท่านพูดถึงเรื่องอะไรกัน?" หลิงเทียนกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้มเจื่อนๆ
มารดาของเขาคิดจะทำอันไรกันแน่?
"ลูกเทียน ในช่วงไม่กี่เดือนต่อจากนี้หากเจ้าคิดจะออกไปข้างนอก เจ้าต้องบอกข้าก่อน ข้าจะออกไปด้วยกันกับเจ้า" ลี่หลัวกล่าว
"ท่านแม่กังวลว่าพวกตระกูลฟางจะมาหาเรื่องข้าเช่นนั้นหรือ?" หลิงเทียนสามารถเดาได้
"ถูกแล้ว ฟางสิงและฟางเต๋าไม่ใช่ตัวดีอันใด ข้ากังวลว่าพวกมันจะหาทางทำเรื่องเลวร้ายกับเจ้า"
"ท่านแม่ ฟางเต๋าเป็นบิดาของฟางเฉียนการที่มันจะหาทางแก้แค้นข้าเพื่อลูกชายของมันย่อมไม่แปลก แต่เหตุใดผู้อาวุโสลำดับที่สามของตระกูลฟาง ถึงจ้องจะทำร้ายข้าด้วยล่ะ" หลิงเทียนรู้สึกสงสัย
"ลูกเทียน ฟางสิงและฟางเต๋าพวกมันมีความสัมพันธ์ที่พิเศษนัก ทั้งคู่เป็นพี่น้องกันคลานตามกันมา" ลี่หลัวอธิบาย
"อ๋อ" หลิงเทียนเข้าใจแล้ว
เขาคิดไม่ถึงว่าฟางเฉียนจะเป็นหลานชายของผู้อาวุโสสามของตระกูลฟาง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมพวกมันถึงมาเอาเรื่องเขาถึงตระกูลลี่ แต่ตระกูลฟางย่อมรู้ดีว่าพวกมันเป็นฝ่ายผิด มิฉะนั้นพวกมันคงไม่ได้มากันแค่สองคน แต่คงต้องนำประมุขของตระกูลฟางมาด้วยเป็นแน่
หลังจากนั้นสิบวันผ่านไป อาวุโสลี่หัวก็เรียกหลิงเทียนให้เข้าพบ
อาวุโสลี่หัวเรียกเขามานวดรักษาให้มันเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่ซ่อนเร้นอยู่ได้อย่างสมบูรณ์ จนกระทั่งหายขาด ก่อนที่อาวุโสลี่หัวจะนำเม็ดยาเพลิงอัสนีที่หลอมเสร็จชุดแรกมอบให้แก่เขา
เม็ดยาเพลิงอัสนีเปล่งประกายสวยงาม ชุดแรกมีทั้งหมด 30 เม็ด
"หลิงเทียนนี่พันเหรียญเงินที่ข้าเป็นหนี้ค่ารักษาของเจ้า ส่วนนี่เป็นเหรียญเงินอีก 30,000 เหรียญจากตระกูล เป็นราคาที่ตระกูลมอบให้เจ้าสำหรับสูตรโอสถเพลิงอัสนี"
อาวุโสลี่หัวหยิบเงินจำนวนมากออกมา ก่อนที่มันจะมอบให้หลิงเทียน
"อาวุโสลี่หัว ข้าต้องขอบคุณท่านมาก" หลิงเทียนคว้าตั๋วเงินจากมือของผู้อาวุโส ท่าทางของมันไม่ค่อยสุภาพสักเท่าไร
"ข้าสังเกตเห็นว่าร่างกายของเจ้าถึงจุดสูงสุดของระดับแล้ว ดูเหมือนว่าเจ้ากำลังคิดที่จะตัดผ่านไปยังระดับบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 5 เร็วๆนี้ใช่หรือไม่? ด้วยพรสวรรค์ของเจ้ารวมกับความช่วยเหลือของเม็ดยาเพลิงอัสนี การตัดผ่านไปยัง ขั้นที่ 7 ในเวลาสองเดือน ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ถึงยามนั้นอาศัยดาบที่รวดเร็วปานสายฟ้าของเจ้า คงไม่มีปัญหาอะไรที่จะเอาชีวิตของฟางเจี้ยน!" สายตาของอาวุโสลี่หัวหรี่ลงเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะค่อยๆกล่าวออกมา
"ผู้อาวุโส ท่านรู้เรื่องที่เกิดขึ้นได้อย่างไร?" หลิงเทียนรู้สึกสงสัย
ดูเหมือนว่าเรื่องราวเมื่อครึ่งเดือนก่อนถูกอาวุโสลี่หัวล่วงรู้เสียแล้ว เขายังล่วงรู้ถึงเรื่องที่ มันใช้ระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 4 สังหารฟางเฉียนที่มีระดับบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 7 (???อันนี้งง ตอนก่อนยัง6)
"ไม่มีความลับอันใดในเมืองวายุโปรยแห่งนี้หรอก เรื่องนี้เมื่อครึ่งเดือนก่อนท่านประมุขเป็นคนบอกข้าเอง ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะปกปิดความสามารถเอาไว้ได้แนบเนียนเช่นนี้ ดูเหมือนการที่ลี่เจี๋ยพิการด้วยมือของเจ้า คง ไม่ได้เป็นเพราะความโชคร้ายของเขาอย่างเดียวกระมัง! "อาวุโสลี่หัวมองไปยังหลิงเทียนด้วยสายตาลึกซึ้ง
"ข้าแค่มีโชคนิดหน่อย" หลิงเทียนยิ้มออกมาด้วยความเอียงอาย หลังจากที่เขารับเงินแล้ว เขาก็กลับทันที
"เสียดายนักที่คนอย่างเขาคงไม่หยุดอยู่แค่เมืองวายุโปรย หากไม่เป็นเช่นนั้นคงไม่ยากอะไรที่ตระกูลลี่จะมีอำนาจเบ็ดเสร็จในการครอบครองเมือง" อาวุโสลี่หัวกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเสียดาย ก่อนที่เขาจะถอนใจหายออกมา
เป็นธรรมดาที่หลิงเทียนจะไม่ล่วงรู้ความคิดดังกล่าวของอาวุโสลี่หัว เขาพุ่งตรงไปยังบ้านของเขาทันทีหลังจากที่ออกจากที่พักของอาวุโสลี่หัว
หลังจากเตรียมถังอาบน้ำและผสมโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 7 กระบวน เสร็จสิ้น เขาก็ถอดเสื้อผ้าออก
หลังจากนั้นเขาก็ลงไปแช่ในถังน้ำพร้อมกับกินโอสถเพลิงอัสนี
ทันใดนั้นเอง ทั่วร่างกายของหลิงเทียนก็สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดไปทั่วร่าง...ความเจ็บปวดเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆตามเวลา !
เปรี้ยง !!
ยามนี้หลิงเทียนรู้สึกราวกับว่าร่างกายของมันถูกสายอัสนีบาตและเปลวเพลิงจู่โจมอย่างหนักหน่วง ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วสรรค์พางกาย อดไม่ได้ที่มันจะส่งเสียงร้องโอดครวญ ฮึ่ม! เบาๆ ออกมาตลอดเวลา
โชคดีแค่ไหนแล้ว ที่ชีวิตของเขาได้รับโอกาสครั้งที่สองในการดำรงอยู่อีกครั้ง ความเจ็บปวดแค่นี้มีเหรอที่เขาจะทนมันไม่ได้ แค่ความเจ็บปวดเล็กน้อยราวกับถูกสายอัสนีฟาดฟันและเปลวเพลิงเผาผลาญจากเม็ดยา เขาทนมันได้อย่างง่ายดาย!
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ความเจ็บปวดทั่วร่างกายของเขาค่อยๆจางหายไป ตอนนี้ราวกับว่ารูขุมขนทั่วร่างของเขาเปิดออก พวกมันเร่งดูดซับฤทธิ์ยาจากยาโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย7กระบวน ในถังน้ำ อย่างบ้าคลั่ง
ยามนี้ความเร็วในการดูดซับโอสถรวดเร็วกว่าเดิมถึงสองเท่า!
“ทักษะเก้ามังกรจักพรรดิ์สงคราม รูปแบบอสรพิษ!”
ในขณะที่หลิงเทียนกำลังดูดซึมโอสถอยู่นั้น เขาก็เริ่มโคจรและบ่มเพาะพลังตามรูปแบบทักษะดังกล่าว
เส้นเลือดในร่างกายของเขามีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆร่างกายของเขากำลังเปลี่ยนแปลงด้วยความเร็วที่น่าอัศจรรย์ นั่นหมายความว่าเขากำลังจะทะลุผ่านระดับได้อย่างรวดเร็ว!
ระดับการบ่มเพาะร่างกาย ขั้นที่ 5!
หลิงเทียนลืมตาออกมา แววตาของมันเปล่งประกายออกมาด้วยความยินดี ตามที่คาดเอาไว้ เม็ดยาเพลิงอัสนีไม่ได้ทำให้เขาผิดหวัง
ปกติหลิงเทียนมักจะต้องใช้เวลาดูดซับน้ำโอสถอยู่เกือบครึ่งวัน ซึ่งนั่นเป็นขีดจำกัดของเขาแล้ว ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณเม็ดยาเพลิงอัสนี
เพียงแค่ยามบ่ายเท่านั้น เขากลับดูดซับโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 7 กระบวนจนหมดสิ้น จนทำให้เขาตัดผ่านระดับขั้นได้อย่างง่ายดาย เวลาที่ใช้น้อยลงถึงสองเท่า!