ตอนที่ 22 : โอสถเพลิงอัสนี
ในที่สุดทั้งคู่ก็กลับมาถึงตระกูลลี่
"นายน้อย ... ท่านลงมือกับคนตระกูลฟางเช่นนั้น ...มันจะไม่มีปัญหาหรือเจ้าคะ?"
เมื่อเด็กหนุ่มหันกลับไปมองสาวน้อยที่มีสีหน้ากังวล มันก็ยิ้มเล็กน้อย ก่อนที่จะลูบหัวนางอย่างอ่อนโยน
"เค่อเอ๋อเจ้าไม่ต้องกังวล ไม่มีอะไรหรอก สิ่งที่เจ้าเห็นนั่นเป็นเพราะมันรนหาที่เอง ถ้าไม่มาหาเรื่องข้า มันก็คงไม่ต้องทิ้งชีวิตไว้เช่นนั้นหรอก" หลิงเทียนตอบออกมาพร้อมเสียงหัวเราะ
ในฐานะปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญการใช้อาวุธจากชีวิตที่แล้ว เขาย่อมมีกฎส่วนตัวของเขา
ถ้าไม่มีใครมายุ่งกับเขาก็ดีไป! แต่หากใครร้าวรานเขามันต้องชดใช้เป็นร้อยเป็นพันเท่า!!
ฟางเฉียนคนนั้นกล้าข่มขู่เขาซ้ำยังจ้องจะเอาชีวิตเขา มันย่อมได้รับผลการกระทำของมัน
"ลูกเทียนเจ้าไปทำอันใดไว้กับตระกูลฟางเช่นนั้นรึ?"
ต้วนหลิงเทียนและเค่อเอ๋อพึ่งกลับมาถึง ลี่หลัวที่รอทั้งคู่อยู่กลับถามออกมาด้วยความสงสัยทันที
"ไม่มีอะไรมากหรอกท่านแม่" หลิงเทียนตอมออกมาพร้อมรอยยิ้มบางๆ สงสัยแม่ของเขาจะได้ยินบทสนทนาเมื่อครู่ของเขากับเค่อเอ๋อ
"บอกความจริงกับข้า!" ลี่หลัวกล่าวถามออกมาพร้อมกับหรี่ตาลงราวกับจันทร์เสี้ยว เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ใช่คนโง่
"ไม่ได้มีอะไรมากจริงๆท่านแม่ แค่หนึ่งในสมาชิกตระกูลฟางขู่จะเอาชีวิตข้า... " หลิงเทียนกล่าวออกมาอย่างสบายๆ พร้อมกับเอามือลูบจมูก
"ใครที่กล้าข่มขู่ว่าจะเอาชีวิตลูกชายของข้า?!" หลิงเทียนยังอธิบายไม่ทันจบ ลี่หลัวกลับกล่าวตะโกนถามออกมาด้วยความโกรธ!
แววตาของนางฉายแววอำมหิตออกมา น้ำเสียงของนางเย็นชาจนสั่นสะท้านใจผู้ฟัง ...
"ข้าได้ยินมาว่าเป็นผู้ดูแลร้านยาของตระกูลฟาง แต่ท่านแม่ไม่ต้องกังวลอะไร ข้า ‘ดูแล’ มันไปเรียบร้อยแล้ว " หลิงเทียนตอบออกมาพร้อมรอยยิ้ม
"ฟางเฉียน? ลูกชายของฟางเต๋างั้นหรือ? " ลี่หลัวขมวดคิ้วก่อนที่จะถามออกมา นางจำได้ว่าฟางเฉียนเป็นลูกชายฟางเต๋าเจ้าของร้านยาสาขาหนึ่งของตระกูลฟาง
ถึงแม้ว่าพรสวรรค์ด้านเต๋าแห่งการต่อสู้ของฟางเฉียนจะอยู่ในระดับเฉลี่ยของบุคคลทั่วไป แต่ว่ามันก็มีอายุ 20 กว่าปีแล้ว
ชายหนุ่มอายุขนาดนั้นกับกล้าข่มขู่ลูกชายวัย 15 ของเธอ ซ้ำมันยังกล้าขู่จะเอาชีวิตเขาอีกด้วย นางจะทำให้มันเสียใจที่กล้าทำอะไรเช่นนั้น ...
เวลานี้คลื่นแห่งความโกรธเริ่มปะทุในใจของนาง ยากที่จะระงับเอาไว้ได้!
"ลูกเทียนเขาทำร้ายเจ้าหรือไม่?"ลี่หลัวหันไปมองหลิงเทียนอย่างกังวลตั้งแต่หัวจรดเท้า จากลักษณะของนางตอนนี้ ถ้าฟางเฉียนผู้นั้นสร้างแม้แต่รอยขีดข่วนให้หลิงเทียนรับรองมันไม่ได้ตายดีแน่!
"ท่านแม่อย่างกังวลเลย ข้าไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน ไม่เชื่อท่านลองถามเค่อเอ๋อดูสิ โอกาสจะสัมผัสตัวข้ามันยังไม่มีด้วยซ้ำ" หลิงเทียนกล่าวออกมา หลังจากสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของมารดา
ลี่หลัวหันไปมองเค่อเอ๋อ ก่อนที่นางจะผงกหัวอย่างน่ารักราวกับลูกเจี๊ยบตัวน้อยๆก้มจิกอาหาร
ตอนแรกนางก็กังวลว่านายน้อยจะได้รับบาดเจ็บ ทว่านายน้อยก็ไม่ได้เป็นอะไร แต่เมื่อนางคิดย้อนกลับไปถึงผลของคนที่หาเรื่องนายน้อยนั้น กลับทำให้นางหวาดกลัวจนใบหน้าน้อยๆเริ่มฉายแววกังวลเล็กน้อย
"เค่อเอ๋อ เหตุใดสีหน้าเจ้าไม่ค่อยดี เจ้าไม่สบายรึเปล่า?"ลี่หลัวถามขึ้นหลังจากที่เห็น สีหน้ากังวลของนาง
นางเริ่มมองว่าเค่อเอ๋อจะกลายมาเป็นลูกสะใภ้ของนางอยู่พักหนึ่งแล้ว ดังนั้นความกังวลที่นางมีต่อเค่อเอ๋อย่อมไม่น้อยกว่าความกังวลของหลิงเทียนที่มีต่อนาง
เค่อเอ๋อส่ายหน้าไปมาเบาๆ ตอนนี้สีหน้าของนางค่อยๆดีขึ้น
"มาๆ ข้าจะพาเจ้าไปพักผ่อน ... " ลี่หลัวกล่าวขึ้นก่อนที่จะจูงมือเค่อเอ๋อเข้าบ้าน
หลังจากที่แม่ของหลิงเทียนพาเค่อเอ๋อเข้าไปพักแล้ว แววตาของมันก็หรี่ลงเล็กน้อย
สำหรับเขาปฏิกิริยาของเค่อเอ๋อและความกังวลของนางนั้น..เป็นเรื่องปกติ เพราะนางไม่ได้เป็นแบบเขา...
กับคนที่เคยใช้ชีวิตอยู่กับการนองเลือด..เหยียบย่ำซากศพของผู้อื่นเช่นเขาย่อมต่างกันไกลโข สำหรับเขาการฆ่าคนมันแทบไม่ต่างอะไรกับการเหยียบย่ำมดตัวหนึ่ง หัวใจของเขาชาชินกับเรื่องพวกนี้เต็มทีแล้ว
หลังจากที่หลิงเทียนเอาวัตถุดิบเข้าไปเก็บในห้อง เขาก็เดินไปกล่าวกับแม่ของเขาว่าจะไปข้างนอก แล้วเขาเดินออกมาจากบ้าน
ตอนนี้เขากำลังจะไปหา ผู้อาวุโส ลี่หัว
......
"หืม เด็กน้อยข้าคิดว่านี่ยังไม่ได้เป็นเวลานัดหมายของพวกเรา เจ้ามาหาข้าทำไมรึ? "
ดวงตาของอาวุโสลี่หัวหรี่ลงเล็กน้อยเมื่อเห็นหลิงเทียน
"ผู้อาวุโส ข้ามีเรื่องมารบกวนท่าน ข้าอยากให้ท่านช่วยหลอมเม็ดยาให้ข้าหน่อย" ต้วนหลิงเทียนกล่าวความต้องการของเขาออกมา
“โอ้? เม็ดยาอันใดที่เจ้าต้องการ?” ลี่หัวกล่าวถามออกมาพร้อมเสียงหัวเราะ
"เม็ดยาเพลิงอัสนี" ประกายตาของหลิงเทียนค่อยๆสว่างขึ้น ในขณะที่กล่าวชื่อยา
"เด็กน้อย แม้เม็ดยาเพลิงอัสนีจะเป็นโอสถที่จัดอยู่ในหมวดหมู่โอสถปรับแต่งร่างกาย แต่ว่ามันก็มีค่าไม่น้อย ที่สำคัญคือข้าไม่มีแม้แต่สูตรที่จะหลอมมัน” ลี่หัวกล่าวออกมาอย่างจนปัญญา ก่อนที่เขาจะหัวเราะออกมาอย่างขื่นขม
"ผู้อาวุโส หากข้าสามารถให้สูตรยาแก่ท่าน ท่านจะหลอมมันได้หรือไม่?" ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม เขาไม่สนใจท่าทีสลดของลี่หัว
"จะ...เจ้ายินดีจะมอบสูตรเม็ดยาเพลิงอัสนีให้แก่ข้า?" ลี่หัวกล่าวออกมาพร้อมความตื่นเต้น ลมหายใจของเขาแรงขึ้นเล็กน้อย
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการหลอมโอสถ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ โอกาสในการหลอมโอสถชนิดต่างๆ เพื่อสั่งสมประสบการณ์และพัฒนาทักษะด้านการหลอม
ถึงแม้เขาจะเป็นนักหลอมโอสถระดับเก้า แต่ว่าโอสถที่เขาหลอมได้ ก็มีน้อยนิดนัก ...
"ใช่แล้ว" ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า
"อาจารย์ของเจ้ายินยอมให้เจ้ามอบสูตรยาแก่ผู้อื่นเช่นนั้นหรือ?"ลี่หัว สูดลมหายใจเข้าอย่างยากลำบากในขณะที่ถามออกมา
"อาจารย์กล่าวกับข้าว่าสูตรยาที่ท่านมอบให้ข้า มันนับว่าเป็นของข้าแล้ว ข้าจะมอบมันให้แก่ใครก็ได้ตามที่ข้าพอใจ นอกจากนี้เม็ดยาเพลิงอัสนียังไม่ได้เป็นโอสถล้ำค่าอะไร มีนักหลอมโอสถในทวีปเมฆามากมายนักที่สามารถหลอมมันได้ง่ายๆ " หลิงเทียนกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้มบางๆ
ไม่ได้ล้ำค่าอันใด?
หลังจากได้ยินคำกล่าวของหลิงเทียน ลี่หัวถึงกับต้องเม้มปากด้วยความเศร้าใจ
ถึงแม้จะมีผู้หลอมโอสถที่สามารถหลอมเม็ดยาเพลิงอัสนีได้อยู่บ้าง แต่ว่าธรรมชาติทั่วไปของผู้หลอมโอสถแล้ว ผู้ใดจะไม่หวงแหนสูตรยากันเล่า?
ต่อให้พวกเขามีสูตร แต่ใครจะยินดีมอบมันให้แก่ผู้อื่น?
ต่อให้เป็นเมืองที่ใหญ่กว่าเมืองวายุโปรยเม็ดยาเพลิงอัสนี ก็ยังมีราคาไม่น้อย
เม็ดยาเพลิงอัสนีเป็นโอสถที่ช่วยเหลือผู้บ่มเพาะในระดับการบ่มเพาะร่างกายอย่างมาก เมื่อกินมันลงไปแล้วทั่วร่างกายจะรู้สึกราวกับว่ามีเปลวเพลิงและอัสนีบาตปะทุไปทั่วร่าง มันจะช่วยเพิ่มขีดจำกัดของร่างกายและเร่งปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกาย ซ้ำยังช่วยให้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย
ที่สำคัญหากใช้ร่วมกับโอสถเสริมกายา มันจะช่วยเพิ่มความเร็วให้การบ่มเพาะอย่างมาก ไม่ใช่แค่เท่าตัว มันจะส่งผลในการเพิ่มความเร็วการบ่มเพาะถึงสองเท่า!
"เด็กน้อย ข้าต้องขอบใจเจ้ามาก"ลี่หัวลุกขึ้นยืนก่อนที่จะโค้งคำนับไปยังหลิงเทียน
สำหรับนักหลอมโอสถแล้ว สูตรยามีคุณค่าต่อชีวิตของพวกเขามากนัก
"ท่านผู้อาวุโสอย่าได้ทำเช่นนี้ ข้าให้สูตรยาแก่ท่าน อันที่จริงก็เพราะความเห็นแก่ตัวของข้า ข้าต้องการความช่วยเหลือจากท่านในการหลอมโอสถ เพื่อใช้ในการบ่มเพาะร่างกายของข้า พวกเราต่างได้ประโยชน์กันทั้งคู่ จริงหรือไม่" หลิงเทียนกล่าวออกมาด้วยท่าทางซุกซนราวกับลิง หลังกล่าวจบมันยังแลบลิ้นออกมา
"เจ้าคิดเช่นนั้นไม่ได้หรอก การหลอมเม็ดยาเพลิงอัสนี ไม่ได้ลำบากอะไรกับข้าเลย มันใช้พลังงานต้นกำเนิดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น สิ่งสำคัญคือสูตรยาที่เจ้ามอบให้ต่างหาก มูลค่าของมันสูงนัก” ลี่หัวส่ายหัวพร้อมกับกล่าวออกมา
เรื่องที่เขากังวลคือราคาของสูตรยาเพลิงอัสนี ตราบเท่าที่ตระกูลลี่สามารถหลอมโอสถตัวนี้ได้ล่ะก็ ...
เรื่องที่ตระกูลลี่จะผงาดอยู่เหนือตระกูลเฉินและตระกูลฟางอยู่ไม่ไกลแล้ว!
"ถ้าผู้อาวุโสกังวลเรื่องราคา เช่นนั้นท่านก็มอบเงินหลังจากที่ขายได้ให้ข้าส่วนนึงเป็นไง" หลิงเทียนกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม คิ้วของเขาโค้งขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์
"เจ้านี่นะเด็กน้อย เอะอะก็เรื่องเงินๆทองๆ เอาล่ะๆ ข้าจะพูดกับผู้นำตระกูลถึงเรื่องส่วนแบ่งให้เอง เจ้าไม่ต้องกังวล" ลี่หัวกล่าวออกมาพร้อมกับส่ายหัว เขาสงสัยจริงๆทำไมเด็กน้อยคนนี้ถึงชอบเงินนัก
ถ้าหลิงเทียนรู้ความคิดของลี่หัวตอนนี้ รับรองมันต้องยิ้มเจื่อนๆออกมาเป็นแน่ ...
จากความทรงจำของจักรพรรดิที่กลับชาติมาเกิดในหัวของเขา ไม่ว่าจะหลอมโอสถ หรือหลอมสร้างยุทธภัณฑ์ทุกอย่างใช้เงินจำนวนมหาศาลแทบทั้งสิ้น
ตอนนี้เขายังอยู่ในระดับการบ่มเพาะร่างกาย ค่าใช้จ่ายจึงยังไม่ค่อยสูงสักเท่าไร
แต่หลังจากนี้ในตอนที่เขาต้องการตัดผ่านไปยังระดับก่อกำเนิดและพัฒนาพลังงานต้นกำเนิด รวมทั้งการเริ่มต้นหลอมโอสถและอาวุธด้วยตัวเองล่ะก็
ตอนนั้นค่าใช้จ่ายย่อมมหาศาล อย่างน่าหวาดกลัว
นอกจากหลอมสร้างโอสถและยุทธภัณฑ์แล้ว การจารึกอาคมต่างๆ หรือใช้มันเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างพลังงานต้นกำเนิดนั้น ราคาของวัตถุดิบต่างๆที่ต้องจ่าย มันน่าขนลุกมาก!
หลังจากที่คัดลอกสูตรยาให้แก่อาวุโสลี่หัวเสร็จสิ้น หลิงเทียนก็กลับที่พัก
ในระหว่างที่เขาเดินกลับ เขายังไม่ลืมที่จะกล่าวเตือนอาวุโสลี่หัว
"ผู้อาวุโสลี่หัว ข้าคงต้องขอรบการท่านเรื่องวัตถุดิบที่ใช้ในการหลอมเม็ดยาเพลิงอัสนีสำหรับข้าด้วย ตอนนี้ข้ายากจนมาก ข้าคงไม่มีปัญญาจ่ายค่าวัตถุดิบท่าน "
ต้วนหลิงเทียนกล่าวจบก็จากไปทันที ...ผู้อาวุโสลี่หัวที่ได้ยินถึงกับต้องคิ้วกระตุก
"เด็กน้อยผู้นี้ เมื่อวานมันพึ่งได้รับเหรียญเงินจากข้าไปถึงพันเหรียญ ตอนนี้กลับบอกว่ายากจน เฮ่อ อายุมันยังไม่ได้มากมายอะไร ใยมันไร้ยางอายยิ่งนัก!" อดไม่ได้ที่ลี่หัวจะกล้าวออกมาพร้อมรอยยิ้มขมขื่น หลังจากที่หลิงเทียนจากไป
หลังจากที่หลิงเทียนกลับมาถึงห้อง มันก็เอาวัตถุดิบที่ไปตระเวนซื้อกับเค่อเอ๋อวันนี้ออกมาทันที
ต้วนหลิงเทียนกำลังจะใช้วัตถุดิบพวกนี้ในการจารึกอาคม
‘อาคม สะกดการเคลื่อนไหว’ นี้มันเป็นอาคมที่หลิงเทียนเคยใช้เพื่อเอาชนะลี่เจี๋ย ถึงแม้ว่าอาคมนี้จะมีผลกับผู้บ่มเพาะที่มีระดับต่ำกว่าระดับบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 7 เท่านั้น การใช้มันกับผู้ที่อยู่ในระดับการบ่มเพาะร่างกายกันที่ 9 คงไม่ต่างอะไรกับการสะกิด และยั่วยุโทสะพวกมัน
แต่คราวนี้หลิงเทียนจะปรับปรุงและจารึกอาคมสะกดการเคลื่อนไหวที่แตกต่างจากของเดิมเล็กน้อย
หากเขาไม่สามารถฆ่าฟางเจี้ยนได้ด้วยระดับของตนเองหลังจากบ่มเพาะเป็นเวลาสองเดือนครึ่งแล้วล่ะก็ เขาจะใช้อาคมนี้เพื่อช่วยเหลือในการเอาชีวิตของมัน!
"ฟางเจี้ยน ตอให้เจ้ามีระดับบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 9 แต่เจ้าต้องตายด้วยมือของข้า!"
เมื่อนึกถึงวันที่ฟางเจี้ยนทำร้ายมันในห้องโถงของตระกูลลี่ ความโกรธแค้นก็ปะทุขึ้นมาในอกของหลิงเทียน มันไม่มีวันยกโทษให้ผู้ที่ทำร้ายมันอย่างเด็ดขาด
ตอนนี้สำหรับเขาและฟางเจี้ยนนั้นเป็นศัตรูที่อยู่ร่วมโลกเดียวกันไม่ได้ ไม่มันก็เขาต้องตายกันไปข้าง!!
ในขณะที่หลิงเทียนกำลังจะทำการจารึกอาคม
“ลูกเทียน” เสียงร้อนรนของลี่หลัวดังขึ้นจากด้านนอก
หัวใจของเขากระตุกเล็กน้อย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเรื่องอะไร
มุมปากของเขาฉีกยิ้มเยาะเย้ยออกมา
“เหอะ ตระกูลฟางตอบโต้ได้รวดเร็วดีจริงๆ! แต่พวกมันช่างกล้านักที่มาเอาเรื่องข้าถึงที่นี่ หน้าของมันนับว่าหนาใช้ได้”
"ท่านแม่หาข้าอยู่งั้นหรือ?" หลิงเทียนกล่าวตอบในขณะที่เปิดประตูออกไป
ลี่หลัวสูดหายใจเข้าลึกๆ หลังจากที่รีบร้อนวิ่งมา
เนื่องจากอาวุโสลำดับที่สามของตระกูลฟางมากล่าวถึงเรื่องที่หลิงเทียนลงมือสังหารฟางเฉียนแก่นาง ทำให้นางอยู่ในอาการตื่นตระหนก จึงรีบมายืนยันเรื่องนี้กับหลิงเทียน
ฟางเฉียนมีระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 6
แต่กลับถูกลูกชายของนางสังหาร? ลูกชายของนางพึ่งมาถึงระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 4 เมื่อเช้านี้เอง!
หลังจากรีบสอบถามความเป็นไปจากหลิงเทียนอย่างรวดเร็ว..
ลี่หลัวถึงกับตื่นตะลึงกับเหตุการณ์ที่ได้รับฟัง
ยิ่งกว่านั้นนางยังรู้สึกทึ่งกับการที่ลูกชายของนาง สามารถสังหารฟางเฉียนด้วยการลงดาบเพียงครั้งเดียว! เพียงหนึ่งกระบวนท่า! ...
ผู้ฝึกยุทธ์ระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 4 สามารถสังหารผู้มีระดับบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 6 ลงได้ง่ายดาย
เพียงดาบเดียวที่พาดผ่านลำคอ!
แต่ลี่หลัวก็ตระหนักได้ว่า เพลงดาบของบุตรชายนางน่าหวาดกลัวถึงเพียงไหน
"เทียนเรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้เหตุใดไม่บอกแม่ล่ะลูก?"
ลี่หลัวมองบุตรชายของนางด้วยความกังวล
"ก็ท่านแม่ไม่ได้ถามข้านี่นา ตอนนี้ตระกูลฟางมาเอาเรื่องเช่นนั้นหรือ?" หลิงเทียนกล่าวถามออกมาด้วยท่าทางเขินอายเล็กน้อย
"ใช่แล้ว ตอนนี้อาวุโสลำดับที่สามฟางสิงและเจ้าของร้านยาตระกูลฟางรวมหัวกันมา พวกเขากำลังร้องเรียนให้ผู้นำตระกูลส่งมอบตัวเจ้า ... แต่เทียนลูกแม่ ไม่ต้องกังวลไป เพราะเราเป็นฝ่ายถูก พวกมันผิดเองที่หาเรื่องลูกชายของแม่ก่อน อย่าว่าแต่สองคนนี้เลย ต่อให้ผู้นำตระกูลฟางมาด้วยตัวเอง เขาก็ทำอะไรเจ้าไม่ได้! "
ลี่หลัวตบเบาๆไปที่แขนของหลิงเทียน
ตอนนี้นางสัมผัสได้อย่างรวดเร็วว่าลูกชายของนางนั้นสงบยิ่งกว่านางเสียอีก
นางคิดอะไรได้บางอย่าง ตอนนี้คิ้วของนางขมวดขึ้นด้วยความสงสัย
"ลูกเทียน นี่เป็นการฆ่าคนครั้งแรกของเจ้าไม่ใช่เหรอ เหตุใดเจ้าถึงสงบนักเล่า?"