ตอนที่10 ฉวยโอกาสนี้เพื่อปล้นเขา
การใช้หมึกเวทย์มนตร์แล้วจารึกให้เป็นรูปแบบของเตาใส่บนตัวแคร์รี่ เป็นวิธีที่เขาคิดไว้อย่างตั้งใจ
หมึกเวทย์มนตร์เป็นประเภทของวัสดุที่สามารถประดิษฐ์สิ่งของต่างๆได้โดยการใช้หมึกเวทย์มนตร์จารึกบนแผ่นกระดาษ เพื่อเอาไว้ใช้เป็นม้วนเวทย์มนตร์
แน่นอนว่าเวทย์มนตร์จะไม่ทำงานขึ้นโดยการจารึกหมึกเวทย์มนตร์บนพื้นผิวใด ๆ มันมีข้อกำหนดที่เข้มงวดเกี่ยวกับคุณภาพของวัสดุ แต่โชคดีที่ชุดเกราะของแคร์รี่เป็นชุดเกราะที่มีเวทย์มนตร์ดังนั้นจึงเป็นไปตามข้อกำหนดนี้
ในบรรดาม้วนเวทย์มนตร์ที่ เย่ชุ่ย ปาออกไปบางส่วนของพวกมันถูกผสมกับหมึกเวทย์มนตร์เพิ่มเติม หมึกเวทย์มนตร์เหล่านี้ถูกเก็บไว้ภายในลูกฝ้ายและห่อด้วยกระดาษ การร่ายเวทย์มนตร์【 สายลม 】ที่ เย่ชุ่ย ใช้การควบคุมลูกฝ้ายที่เต็มไปด้วยหมึกเวทย์มนตร์ ระหว่างช่วงเวลาของการโจมตีชุลมุนกับแคร์รี่ก่อนหน้านี้ เย่ชุ่ย ได้ใช้【 สายลม 】เพื่อควบคุมลูกฝ้ายเพื่อเขียนเวทมนตร์รูปแบบเตาที่สมบูรณ์แบบ บนร่างกายของ แคร์รี่
เวทมนตร์ชนิดนี้มีโครงสร้างที่เรียบง่ายจึงไม่ยากที่จะทำให้เสร็จสมบูรณ์ แน่นอนว่ามันอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับนักเวทย์ระดับขั้นต้นทั่วไปที่จะประสบความสำเร็จในการจัดการแผนการนี้ นั่นคือเหตุผลที่ เย่ชุ่ย อยากจะแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจของเขาต่อ แฮมเมอร์ ที่เชี่ยวชาญเวทย์ สายลม
เย่ชุ่ย ใส่พลังเวทมนตร์เข้าไปทำให้เกิดการเผาไหม้ทันที
แม้กระทั่งเมื่อไม้กายสิทธิ์ของ เย่ชุ่ย ออกจากตัวแคร์รี่ แต่เปลวไฟก็ยังไม่ดับ เป็นเพราะชุดเกราะเวทย์มนตร์ของแคร์รี่ มีผลึกเวทมนตร์ซึ่งสามารถให้พลังเวทย์ได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้จากการโจมตีของเด็บบี้ก่อนหน้านี้ได้ทำให้เกราะเสียหายเป็นรอยแหว่งและพลังเวทมนตร์รั่วออกมาจากชุดเกราะและเป็นแหล่งจ่ายไฟอย่างต่อเนื่องทำให้เวทมนตร์รูปแบบเตาเผาไหม้อยู่ตลอดเวลา - สถานการณ์เช่นนี้ไม่สามารถทำอะไรได้
"เวทย์มนตร์นี้มันคืออะไร ...... อ๊ากก ...... "
แคร์รี่ตะโกนร้องด้วยความกลัวและเอามือปัดไปที่ร่างกายของเขาพยายามที่จะดับเปลวไฟ เมื่อร่างกายของเขาจู่ ๆ ก็เกิดไฟไหม้เขาก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันทีสีหน้าเต็มไปด้วยอาการหวาดกลัว ถ้าเป็นการร่ายเวทย์เปลวเพลิงธรรมดามันก็จะใช้เวลาไหม้ไม่นานและดับลง แต่เปลวเพลิงบนร่างกายของเขามีการเผาไหม้และไม่มีทีท่าว่ามันจะดับลงแต่อย่างใด
"นี่ ...... " คนรอบข้างมองอย่างตลึง พวกเขาคิดว่า เย่ชุ่ย และ เด็บบี้ ไม่สามารถต่อสู้กับแคร์รี่ที่อยู่ในโหมดเทพสงครามศักดิ์สิทธิ์ได้
หรือว่านี้เป็นเวทย์มนตร์เปลวเพลิงระดับตำนาน
【เปลวเพลิงอเวจี】? เปลวไฟที่ไม่สามารถจะยับยั้งได้ซึ่งจะไม่หยุดจนกว่าเป้าหมายจะถูกเผาเป็นขี้เถ้า?
"แคร์รี่ ...... แคร์รี่...... "
เมื่อมองไปที่ลูกชายของเขาที่กำลังถูกเผา บุสก้า ก็ยิ่งกังวลและไม่สบายใจ เขารีบวิ่งไปข้างหน้า เย่ชุ่ย: "แฮมเมอร์สิ่งที่เจ้าได้สั่งสอนเขามันมากพอแล้ว เอาละรีบดับเปลวไฟเร็วเข้า!"
"ถ้างั้น" เย่ชุ่ย มีท่าทางสบายๆและเขาต้องการการเจรจาต่อรองกับสถานการณ์ที่ได้เปรียบของเขา เขาฉีกยิ้มขณะที่เหยียดมือออกไปที่ บุสก้า "บุสก้า โปรดส่งมอบใบสัญญาให้กับข้า"
"สัญญาอะไร ...... " บุสก้า ทำงุนงงขณะที่เขามองลูกชายของเขาที่กำลังกระโดดขึ้นและลงท่ามกลางเปลวเพลิง
"ถึงแม้ว่าลูกชายของเจ้าจะเป็นนักดาบที่มีระดับสี่ แต่จากรูปลักษณ์ของมัน ข้าคิดว่าเขาอาจจะมีอายุได้อีก 2-3 นาที" เย่ชุ่ย ยิ้มอย่างเย็นชา
หน้าผากของ บุสก้า เต็มไปด้วยเหงื่อเขาขบฟันขณะที่รีบหยิบกระดาษสีเหลืองขึ้นมาและโยนให้ เย่ชุ่ย , เย่ชุ่ยเห็นว่ามีการทำสัญญากู้ยืมเงินพร้อมกับลายมือชื่อ เด็บบี้ เขาใช้มือทั้งสองข้างฉีกสัญญาเป็นชิ้น ๆ
"ข้าได้ให้หนังสือสัญญาไปแล้วเร็วเข้ารีบดับไฟให้ลูกชายของข้า!" บุสก้ายังคงตะโกนด้วยความเป็นห่วง
"ไม่มันยังเร็วเกินไปข้ายังมีหนี้อื่นที่ยังไม่ได้ชำระกับเจ้าเลย" เย่ชุ่ย ยังคงพูดอย่างใจเย็น "ไม่กี่วันมานี้เนื่องจากเป็นเพราะเจ้า กิจการของ ร้านเวทย์มนตร์แอนโทนี่ ได้รับการหยุดชะงักอย่างรุนแรงและสามวันที่ผ่านมา เจ้าได้ทำลายสินค้าไปค่อนข้างมาก เนื่องจากปัณหาเหล่านี้มันมาจากเจ้า และเจ้าไม่คิดจะชดใช้ค่าเสียหายให้กับพวกข้าหรือ? "
"เจ้า...... เจ้ากำลังพยายามที่จะใช้ประโยชน์จากข้า!" บุสก้า ตะโกนออกมาด้วยสีหน้าฉุนเฉียว
เย่ชุ่ย ชี้ไปที่แคร์รี่ซึ่งยังคงร้องตะโกนออกมาดัง ๆ : "ดูเหมือนว่าลูกชายเจ้าอาจมีอายุได้อีกไม่กี่นาที"
“......”
บุสก้า จ้องมองเย่ชุ่ย ราวกับตาของเขากำลังจะออกมาจากเบ้า เขาดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามในขณะที่เสียงกรีดร้องอย่างต่อเนื่องของแคร์รี่ทำให้เขาไม่กล้าจะต่อรองอะไร: "เท่าไหร่ ...... เจ้าต้องการให้ข้าจ่ายเงินเท่าไหร่?"
"เหรียญทองร้อยเหรียญ" เย่ชุ่ย ตอบทันที
"ร้อยเหรียญทอง!?" บุสก้า โกรธมาก "ทำไม ... ทำไมเจ้าไม่ปล้นแทนเลยละ"
"เจ้าคิดว่าตอนนี้ข้ากำลังทำอะไร?" เย่ชุ่ยตอบพร้อมรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็ไอเล็กน้อย: "เวลาเหลือไม่มากแล้ว"
“......”
บุสก้า โกรธมากจนเนื้อตัวสั่น เหรียญทองหนึ่งร้อยเหรียญซึ่งเกือบหนึ่งในสามของสินทรัพย์ทั้งหมดของเขา คราวนี้ เย่ชุ่ย เป็นเหมือนสิงโตที่ปากเปิดกว้าง เรียกเอาเงินร้อยเหรียญทอง
.............
อย่างไรก็ตามมองไปที่เปลวเพลิงเผาไหม้อย่างต่อเนื่อง เเละฟังเสียงร้องของแคร์รี่ ซึ่งดูเหมือนจะอ่อนลง ในที่สุดเขาก็ขบฟันของเขาและหยิบการ์ดสีทองโยนให้ เย่ชุ่ย ด้วยความเจ็บปวด: "นี่เป็น บัตรจากธนาคารของโนม ในบัตรทองนี้มีเหรียญทองหนึ่งร้อยเหรียญ นี้เป็นบางอย่างที่เจ้าควรรู้! "
ธนาคารโนมเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในทวีป ไอเกนดาส เนื่องจากมีการจัดตั้งขึ้นโดยความซื่อสัตย์หรือกล่าวคือ ธนาคารโนม มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือนั้นเอง บัตรที่ บุสก้า มอบให้ เย่ชุ่ย เป็นบัตรที่สะดวกซึ่งออกโดย ธนาคารโนม บัตรทองมีเหรียญทองหนึ่งร้อยเหรียญและตราบเท่าที่มีพลังเวทมนตร์หรือออร่าดาบพวกเขาสามารถรับรู้ได้ว่าเงินฝากอยู่ข้างในเท่าใด
เย่ชุ่ย พยักหน้าด้วยความพึงพอใจและโยนบัตรทองไว้ในกระเป๋าของเขา
เด็บบี้กลายเป็นตะลึงอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นบัตรที่เข้าไปในกระเป๋าของเย่ชุ่ย: ตั้งแต่เกิดมาหญิงสาวคนนี้ไม่เคยเห็นเงินเป็นกอบเป็นกำมาก่อนเลย ......
"ตอนนี้เจ้าสามารถยกเลิกเวทย์มนตร์ในร่างกายของลูกข้าได้หรือยัง!" บุสก้า ถามด้วยเสียงสั่นๆ
"ด้วยความยินดี."
เย่ชุ่ย พยักศีรษะขณะสีหน้ายิ้มแย้มและเล็งไม้กายสิทธิ์ของเขาไปที่ แคร์รี่: "สายน้ำ!"
เวทย์มนตร์ขึ้นพื้นฐาน【สายน้ำ】
สายน้ำซึ่งเป็นเหมือนฝนตกในฤดูใบไม้ผลิที่กลั่นตัวขึ้นเรื่อย ๆ บนอากาศและเทลงบนร่างของแคร์รี่ เมื่อเสียงดัง ซ่าา เมฆของไอน้ำสีขาวปรากฏขึ้นและเปลวเพลิงบนร่างของแคร์รี่ได้ดับไปภายใต้ผลกระทบของเวทย์มนตร์สายน้ำ ร่างกายของแคร์รี่ก็ถูกล้างออก
แคร์รี่ นอนอยู่บนพื้นดินขณะที่ไอน้ำที่ปล่อยออกมากระทบร่างกายของเขาขณะที่เขาหายใจอย่างเหนื่อยล้า ใบหน้าของเขาที่ถูกไฟไหม้เป็นสีดำและชุดเกราะที่เปล่งประกายของกลายเป็นหมองคล้ำ ใครไม่รู้ผ่านมาเห็นนึกว่าเป็นคนจรจัด
บุสก้า กลายเป็นโง่งม: "มันง่ายแบบนั้นหรือ?"
เย่ชุ่ยพยักหน้า:" ถูกต้องมันง่ายแบบนั้นละ "
"แต่ ...... แต่ ...... " บุสก้า กำลังงุนงง เขาเคยคิดว่า เย่ชุ่ย ใช้เวทมนตร์ขั้นสูงหลังจากการร่ายเวทย์มนตร์เปลวเพลิง แต่เวทยมนต์เปลวเพลิงธรรมดาจะทำการไหม้แค่ชั่วคราวก่อนที่มันดับลง อย่างไรก็ตามเปลวเพลิงที่ แคร์รี่โดน ยังคงเผาไหม้ไม่หยุด เขาไม่เคยคิดเลยว่าน้ำฝนจะดับไฟได้ .... ถ้าเขารู้ก่อนหน้านี้เขาจะไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเย่ชุ่ย เขาเองก็สามารถช่วยลูกชายของเขาดับไฟได้
"เจ้า....เจ้า ...... " ตระหนักได้ว่าเขาถูก หลอกลวง โดย เย่ชุ่ย, บุสก้า เกือบกลายเป็นบ้าเขาต้องการที่จะวิ่งไปหาเย่ชุ่ยและกระโดดกัดเขา
"ข้าจะใช้เวทมนตร์ขั้นสูงได้ยังไงในเมื่อข้าเป็นนักเวทย์ขั้นต้นระดับสองเท่านั้น" เย่ชุ่ย ดูน่ารังเกียจและล้อเลียนว่า "โอ้ข้าลืมบอกเจ้าเรื่องนี้ว่าลูกของเจ้าไม่ได้อยู่ในอันตรายตั้งแต่เริ่มแรก ไม่ว่ายังไงเขาก็ยังเป็นนักดาบระดับสี่ เขาจึงไม่ได้รับบาดเจ็บมาก ที่ดูเหมือนได้รับความทุกข์ทรมานเพราะโดนการโจมตีม้วนเวทย์มนตร์เป็นสิบๆครั้งจากเปลวไฟดังนั้นเตาไฟขนาดเล็กที่ใช้ปรุงอาหารจึงไม่อาจทำร้ายได้ แม้ว่าเขาจะถูกเผาทั้งวัน ชีวิตของเขายังคงไม่ตกอยู่ในอันตราย ...... เขาลนลานตื่นตระหนกและกรีดร้องไปเอง"
บุสก้า: "...... อ๊าาากกก"
- นี่คือเสียงกรีดร้องของความเกลียดชัง