ตอนที่9 โจมตีไปหมดแล้ว!?
แฮมเมอร์ไม่ได้สนใจในเวทมนตร์การโจมตีและชอบใช้เวทย์มนตร์ที่เรียบง่าย ซึ่งส่วนใหญ่เขาเอาไว้รับสินค้ารายการต่างๆและเวทมนตร์สายลม ซึ่งเป็นการร่ายเวทย์ที่เขาทำได้ดีที่สุด
ก่อนหน้านี้เมื่อเขาปาม้วนเวทย์มนตร์ออกอย่างไร้จุดหมาย เย่ชุ่ย ต้องการซื้อเวลาเพื่อทำการร่ายเวทมนตร์【 สายลม 】เพื่อควบคุม ม้วนเวทย์มนตร์ และบังคับมันเพื่อโจมตี แคร์รี่
นี้เป็นการโจมตีที่เขาคิดได้ เวทย์มนตร์การโจมตีของเขามีจำกัด แต่เขาสามารถปลดปล่อยเวทย์มนตร์【 สายลม 】และ【 ละอองฝุ่น 】ได้ตามที่เขาต้องการและยังสามารถรักษาเวทมนตร์เหล่านี้ได้เป็นเวลานาน ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะใช้ม้วนเวทย์มนตร์เพื่อชดเชยเวทย์โจมตีที่เขามีการร่ายจำกัด และทำการเปลี่ยนเวทย์มนตร์ [ สายลม ] ให้เป็นเวทย์โจมตี
ภายใต้การควบคุมของเขาทั้งหมดม้วนเวทย์มนตร์ลอยไปหา แคร์รี่ และจะทำการเปิดใช้งานเมื่อพวกมันลอยไปอยู่ตรงหน้า
เปลวเพลิง สายฟ้า ละอองฝุ่น สายลม สายน้ำ ......
เนื่องจากม้วนเวทย์มนตร์ถูกควบคุมโดย เย่ชุ่ย ซึ่งใช้ไม้กายสิทธิ์ เขาสามารถควบคุมม้วนเวทย์มนตรสี่ถึงห้าม้วนเพื่อโจมตีแคร์รี่ได้ในครั้งเดียว นอกจากนี้การโจมตีในแบบที่ไม่คาดฝันยังทำให้แคร์รี่ไม่สามารถป้องกันการโจมตีเหล่านี้ได้ แคร์รี่พยายามเฝ้าระวังม้วนเวทย์มนตร์ที่ลอยอยู่บนใบและพยายามมุดไปยังบริเวณเป้าของกางเกง
ในสายตาของ เย่ชุ่ย มันดูราวกับว่าเขากำลังเล่นวีดีโอเกมที่มีเซ็นเซอร์เคลื่อนไหว ...... และในชีวิตก่อนหน้าของเขาในฐานะแฮ็กเกอร์มือหนึ่ง เย่ชุ่ย ยังมีฝีมือระดับโลกในการเล่นเกม!
ก่อนหน้านี้เมื่อเย่ชุ่ย ปาม้วนเวทย์มนตร์ใส่แคร์รี เเคร์รี่ยังสามารถพึ่งพาความเคลื่อนไหวที่รวดเร็วเพื่อหลบหลีก แต่ตอนนี้เขาได้แต่อดทนและเหวี่ยงดาบไปรอบ ๆ เพื่อป้องกัน อย่างไรก็ตามเขายังคงได้รับการโจมตีอย่างต่อเนื่องโดยม้วนเวทย์มนตร์
เส้นผมของเขาถูกไฟเผาและใบหน้าของเขาก็ไหม้เกรียม และด้วยฝุ่นโคลนบนร่างกาย เกราะที่แพรวพราวก่อนหน้านี้ไม่สามารถมองเห็นได้อีกต่อไป
มองไปที่แคร์รี่ที่กระโดดหลบและกรีดร้องอย่างต่อเนื่องท่ามกลางการระเบิดของม้วนเวทย์มนตร์ ฝูงชนโดยรอบไม่รู้ว่าจะตอบสนองต่อเหตุการณ์นี้อย่างไรดี มันเกิดเรื่องแบบนี้ต่อหน้าพวกเขา เย่ชุ่ย ใช้วิธีนี้ในการโจมตี แคร์รี่ เพียงแค่ใช้เงินชนะฝ่ายตรงข้าม?
ในช่วงเวลาสั้น ๆ นั้น เย่ชุ่ย อาจจะเขวี้ยงปาม้วนเวทมนต์ไปประมาณร้อยกว่าม้วนในทันที มันมีมูลค่าเท่าไหร่ร้อยม้วน? มันเป็นเหรียญเงินห้าสิบเหรียญ!
พวกเขาไม่ได้ตกใจว่า เย่ชุ่ย นักเวทย์ระดับสอง สามารถโจมตีแคร์รี่นักดาบระดับสี่ได้ พวกเขาตกใจกับวิธีการที่ใช้เงินแบบทิ้งขว้าง ของ เย่ชุ่ย ... ..
มีการเปิดใช้งานม้วนเวทย์มนตร์อย่างต่อเนื่อง
ไม่มีเสียงจากแคร์รี่อีกต่อไป เขาถูกล้อมรอบด้วยม้วนเวทย์มนตร์และระเบิดอย่างต่อเนื่อง แคร์รี่ถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นและมีเพียงร่างสีดำที่เห็นจางๆว่ายืนอยู่
เย่ชุ่ย ควบคุม ม้วนเวทย์มนตร์ แล้วขว้างมันไปที่ร่างสีดำที่มีเปลวเพลิงและสายฟ้ากระพริบเป็นครั้งคราว
และแคร์รี่ไม่มีการขยับเขยือนเหมือนว่าเขาตายแล้ว
"แคร์รี่ ...... " บุสก้า มีความไม่สบายใจที่ไม่อาจกล่าวได้บนใบหน้าของเขาขณะที่เขาตะโกนดังขึ้น แต่ก็ไม่มีคำตอบใด ๆ เลย
ฝูงชนโดยรอบต่างก็คิดไปต่างๆนาๆ-
แคร์รี่โดนโจมตีอย่างต่อเนื่องจนไปสู่ความตายจาก เย่ชุ่ย อย่างนี้หรือ?
ตูมมมมม!
เปลวเพลงม้วนอันสุดท้ายระเบิดขึ้นท่ามกลางฝุ่นและร่างที่อยู่ในฝุ่นยังไม่ได้ตอบสนองใด ๆ
ในขณะนี้ เย่ชุ่ย ก็เหนื่อยและหมดแรง เขาจ้องมองร่างไม่ไหวติงและไม้กายสิทธิ์ในมือของเขาชี้ไปที่ร่างในฝุ่นกลัวที่จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
สภาพแวดล้อมกลายเป็นเงียบและมีเสียงจาก บุสก้า เรียกแคร์รี่อย่างต่อเนื่อง
เด็บบี้ คว้าดาบใหญ่ของเธอและเดินไปยัง เย่ชุ่ย ด้วยใบหน้าที่ตกตะลึงของเธอ: "แฮมเมอร์เจ้าใช้วิธีการแบบนี้เพื่อเอาชนะเขา แล้ว ...แล้ว.."
เย่ชุ่ย ยิ้มใบหน้าระรื่นจนหน้าหมั้นใส้และดูเหมือนว่าเขากำลังจะบอกกับเธอว่าไม่จำเป็นต้องกล่าวชมเขา ยังไม่ทันพูดอะไร เด็บบี้ชิงพูดมาอีกว่า "ค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้มันเท่าไหร่!? เจ้าได้รับม้วนกระดาษมากมายจากที่ไหน? "
"....... ข้าได้จารึกเองในสองสามวันนี้ที่แล้ว" เย่ชุ่ยอธิบาย
"เป็นไปไม่ได้มีเพียงเจ็ดม้วนที่อยู่ในร้านของเรา ส่วนเจ้าได้จารึกไว้ร้อยกว่าม้วนในเวลาเพียงไม่กี่วันนี้?" เด็บบี้ ก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
"ใช่แล้ว ...... " เย่ชุ่ย "อาจจะเป็นเพราะหายนะกำลังจะเกิดขึ้น ข้าจึงมีปฎิหาริย์ทำให้สามารถยกระดับพื้นฐานของข้า ดังนั้นแล้วข้าจึงจารึกได้เร็วมาก ...... "
เด็บบี้ เงียบไม่ค่อยแน่ใจแต่ก็เธอรู้สึกตื่นเต้นแล้วเธอก็ถอนหายใจ: "ถ้าม้วนเวทย์มนตร์เหล่านี้ถูกขายข้าจะได้รับเงินเท่าไหร่ ...... "
"...... " เย่ชุ่ย พูดไม่ออก หญิงสาวคนนี้ไม่สนใจเรื่องรายละเอียดอื่น ๆ เลยหรือ
เด็บบี้ เธอหันไปมองที่ แคร์รี่ ร่างที่อยู่ในหมอกฝุ่นและถามอย่างกังวล: "ไม่ขยับเขยือนเขาอาจจะตายไปแล้วหรือ?"
"มันยากที่จะพูด แต่มันก็สามารถเป็นไปได้โดนม้วนเวทย์มนตร์ระเบิดไปซะขนาดนี้" เย่ชุ่ย ตอบอย่างลังเล เขาไม่แน่ใจเกี่ยวกับสถานการณ์ของแคร์รี่ หลังจากความคิดบางอย่างเขาชี้ไม้กายสิทธิ์ร่ายมนตร์ไปข้างหน้า: "ละอองฝุ่น!"
เวทย์มนตร์【ละอองฝุ่น】
ผลที่เกิดคือการล้างอากาศของฝุ่นละอองทำให้อากาศบริสุทธิ์ ......
ตามทิศทางเวทมนตร์ที่ เย่ชุ่ย กวาดไป มีสายลมเล็กน้อยพัดผ่านมา สายลมอ่อนโยนเป็นอย่างมากจนไม่อาจรู้สึกได้และมีละอองฝุ่นที่อยู่ในอากาศตกลงไปที่พื้นดิน เมื่อวิสัยทัศน์ที่เปิดออก ได้เห็นภาพชัดเจนขึ้น มองเห็นแคร์รี่คุกเข่าลงบนพื้นตรงกลางระหว่างทางถนน มือทั้งสองข้างของเขาจับไปที่ดาบยาวที่ถูกแทงลงไปที่พื้นดิน มันยังค่อนข้างกดดันอยู่เมื่อมองไปที่ดาบ ......
"อย่าบอกข้าว่าผู้ชายคนนี้ยังต้องแอ็คท่าก่อนตายหรือ?" เย่ชุ่ย ไม่สามารถที่จะหยุดพูดเสียดสีเขาได้
อย่างไรก็ตามความรู้สึกของเด็บบี้ก็เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ : "แย่แล้ว ข้าจำท่าทางนี้ได้ นี่คือการป้องกันการเคลื่อนไหวที่มีเพียงนักดาบระดับกลางเท่านั้นที่สามารถเรียนรู้ได้ ทักษะเทพสงครามศักดิ์สิทธิ์! "
"ไอบ้าเอ้ย ข้าอุตส่าโจมตีเขาตั้งนาน!" เย่ชุ่ย กล่าวอย่างหัวเสีย
ขณะที่เย่ชุ่ยกำลังบ่นอยู่ แคร์รี่ผู้ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่ได้เคลื่อไหว ก็ทำการเคลื่อนไหวหน้าดำมืดของเขาแสดงออกถึงความโกรธมากในขณะที่เขาเงยหน้าขึ้นและปล่อยเสียงตะโกนออกมา ลุกขึ้นจากพื้นดินแสงจาง ๆ ไหลผ่านร่างของเขา
เด็บบี้ได้ยกดาบไว้ในมือแล้ว: "ทักษะเทพสงครามศักดิ์สิทธิ์ทรงพลังอย่างมากเฉพาะชีวิตที่ตกอยู่ในอันตรายเท่านั้นที่จะกระตุ้นการทำงานของมัน ... อย่างไรก็ตามด้วยการใช้ท่านี้ จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าสู่โหมดเทพสงครามศักดิ์สิทธิ์ได้ในเวลาอันสั้นซึ่งจะเพิ่มกำลังและความเร็วของตัวเองได้เป็นสองเท่า ......
ความเร็วของแคร์รี่ก็เริ่มเร็วขึ้นเรื่อย ๆ และวิ่งไปด้านหน้าของ เย่ชุ่ย และ เด็บบี้ ภายในพริบตา
"ระวังทักษะลูกข่างยักษ์ข้าด้วย ...... " เด็บบี้ได้เตรียมตัวพร้อมแล้วขณะที่เธอกล่าวเตือน เย่ชุ่ย ยกดาบที่ใหญ่โตของเธอและเริ่มหมุนไปทางแคร์รี่
อย่างไรก็ตามเมื่อแคร์รี่ได้เอาดาบของเขาฟันออกไปและได้ยินเสียง "เคร้งงง" เมื่อดาบยาวของเขาปะทะดาบยักษ์ของเด็บบี้แรงฟันของแคร์รี่ทำให้เด็บบี้หมุนไปด้านข้างและล้มลงไป ก้นของเธอกระแทกพื้นและดาบลูกข่างยักษ์ถูกหยุดไว้อย่างสมบูรณ์
แคร์รี่ที่อยู่ในโหมดของเทพสงครามศักดิ์สิทธิ์จึงมีความแข็งแรงเป็นสองเท่า!
เย่ชุ่ย ตะโกนเรียกด้วยความเป็นห่วงและรีบวิ่งไปหา เด็บบี้ทันที อย่างไรก็ตามแคร์รี่รีบวิ่งไปด้านหน้า เย่ชุ่ย แล้วคว้าไปที่คอของเขา ยกร่างของ เย่ชุ่ยขึ้น เขาพูดด้วยเสียงแหบแห้งว่า "สับเจ้า ข้าจะสับร่างเจ้าเป็นชิ้นๆ ...... "
แขนขาทั้งสี่ของ เย่ชุ่ย ห้อยลงมาในอากาศและรู้สึกว่าชีวิตของเขากำลังถึงจุดจบขณะที่เขาหายใจลำบาก
อย่างไรก็ตามในขณะนี้ใบหน้าที่แดงของ เย่ชุ่ย ก็เปิดเผยรอยยิ้มแทน
อันที่จริงเขายังคงมีการเคลื่อนไหวล่าสุดที่เขายังไม่ได้ใช้
เล็งไม้กายสิทธิ์ของเขาไปที่เกราะของแคร์รี่ -
ชุดเกราะของแคร์รี่ได้รับความเสียหายอย่างหนักและอยู่ในสภาพที่น่ากลัวอย่างไรก็ตามนอกเหนือจากความเสียหายที่เกิดจากเปลวเพลิงและสายฟ้าทั้งหมดแล้ว จะเห็นได้ว่ามีเครื่องหมายเส้นสีดำในเกราะถ้าใครตั้งใจมองอาจจะเห็นได้
เครื่องหมายลายเส้นเหล่านั้นแอบซ่อนมาในม้วนเวทย์มนตร์โดย เย่ชุ่ย และได้จารึกใส่เกราะแคร์รี่ โดยใช้เวทมนตร์【 สายลม 】ในระหว่างการโจมตีที่วุ่นวายก่อนหน้านี้
เส้นสีดำมันเป็นหมึกเวทย์มนตร์
เครื่องหมายลายเส้นเป็นเวทมนตร์แบบง่ายๆซึ่งเป็นเวทมนตร์ที่ใช้งานได้จริงและง่ายที่สุด - จารึกลายเส้นเป็นรูปแบบของเตาเวทย์มนตร์
เมื่อไม้กายสิทธิ์ของ เย่ชุ่ย สัมผัสเกราะของแคร์รี่เขาก็ป้อนพลังเวทย์ของเขาเข้าไป
ทำการติดไฟบนเตาเวทย์มนตร์
ช่วงเวลานี้ แคร์รี่ก็โดนไฟลุกท้วมตัว..