บทที่ 5 การเปลี่ยนแปลงของเกมส์แห่งโชคชะตา (part 2)
บทที่ 5 การเปลี่ยนแปลงของเกมส์แห่งโชคชะตา (5-2)
บางคนก็ชื่นชม ในขนะที่บางคนก็ด่าสาปแช่งเพราะความอิจฉา ถึงแม้จะเป็นแบบนั้นยี่ซือก็ไม่ได้สนใจอะไรมากเพราะตอนนี้เธอกำลังสนใจหนังสือสุ่มทักษะอาชีพของเธออยู่
“สุ่ม” มันเป็นคำที่ยี่ซือกลัวอย่างมาก เพราะว่าตัวเธอนั้นไม่ใช่คนที่โชคดีตลอด ตั้งแต่เธอเด็กๆเล้วเธอไม่เคยมีโชคกับหวยหรืออะไรพวกนั้นเลย
เมื่อของรางวัลมันเป็นการสุ่ม...... เธอไม่เคยได้อย่างอื่นเลยนอกจากของไม่มีค่า
ยี่ซือหายใจเข้าลึกๆก่อนจะทำการเปิดหนังสือสุ่มทักษะอาชีพ หัวใจของเธอหยุดเต้นไปชั่วขณะหนึ่ง
การแปรผันพลังเข้าสู่เวทมนต์ : นักล่า(ทักษะติดตัว) เปลี่ยนแปลง 10% ของพลังโจมตีที่ทำได้เป็นพลังในการร่ายเวทมนต์(MP): ระดับที่ต้องการเพื่อใช้งานทักษะ 1
ยี่ซือกระพริบตาและมองไปยังบนฟ้า วันนี้ดวงอาทิตขึ้นทางทิศตะวันตกหรอ?
ดวงอาทิตย์ส่องสว่างอยู่บนฟ้าและดูเหมือนมันจะขึ้นทางทิศตะวันออกนะ !!
หรือว่าโชคชะตาของเธอได้เปลี่ยนไปแล้ว?
“การแปรผันพลังเข้าสู่เวทมนต์ ”….. เป็นทักษะที่โกงมาก มันสามารถได้รับจากการสุ่มจริงๆหรอ? ไม่มีทาง การมีอยู่ของทักษะนี้มันต้องเป็นข้อผิดพลาดของเกมแน่ๆ 10% ของพลังโจมตีที่ทำได้จะเปลี่ยนแปลงเป็นพลังในการร่ายเวทมนต์(MP)
ถึงแม้จะเป็นช่วงท้ายๆของเกมส์ ทักษะของนักล่านั้นใช้พลังในการร่ายเวทมนต์(MP)แค่ 500 หน่วยเอง แต่พลังโจมตีที่ทำได้ประมาณ 8000-20000 ถ้าเป็นแบบนี้เธอจะมีพลังในการร่ายเวทมนต์(MP)ไม่จำกัดเลยสิ !!!!
ในเกมส์แห่งโชคชะตานี้ ปริมาณของพลังในการร่ายเวทมนต์(MP)เป็นตัวบ่งบอกว่าตัวละครนั้นๆจะมีพลังโจมตีรวมสูงสุดที่เท่าไหร่ นักล่านั้นจะใช้ปืนแก้วบริสุทธิ์ และใช้พลังในการร่ายเวทมนต์(MP)นั้นมีปัญหาเสมอสำหรับนักล่า ถ้าพลังในการร่ายเวทมนต์(MP)สูงสุดของตัวละครจะสามารถใช้ทักษะในการต่อสู้ได้ประมาณ 30 ทักษะก่อนที่พลังในการร่ายเวทมนต์(MP)จะหมดลง แต่ถ้ายี่ซือมีทักษะ “การแปลงของพละกำลัง” มันจะทำให้เธอมีเป็นเครื่องจักรสังหารดีๆนี้เอง
ยี่ซือขยี้ตาแรงๆ เธอยังคงไม่เชื่อว่าเธอจะโชคดีขนาดนี้เพราะเธอเป็นคนที่โชคไม่ดีมาตลอด
ยี่สือสามารถมองเห็นทักษะนั้นได้อย่างชัดเจน หนังสือทักษะที่วางอยู่บนมือเธอ ความหยาบกร้านของหน้ากระดาษกำลังบอกเธอว่าทักษะที่เธอได้รับนั้นเป็นของจริง
มือของยี่ซือนั้นสั่นและเธอก็พลิกหน้าหนังสือโดยไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย หนังสือเล่มนั้นหายไปและมีแสงสว่างออกมา ยี่สือรู้สึกไม่แน่ใจว่าตัวเธอได้รับทักษะแล้วหรือยัง จึงทำการตรวจสอบในหน้าทักษะของเธอจากนั้นเธอก็พบชื่อทักษะ “การแปรผันพลังเข้าสู่เวทมนต์ ” เมื่อเธอตรวจสอบเสร็จแล้วเธอจึงสามารถคลายความกังวลของเธอลง
มันเยี่ยมไปเลย !!!
ยี่ซือกำลังมีความสุขและได้กระโดดโล้ดเต้นออกมา นั้นทำให้เป็นจุดสนใจแก่ผู้เล่นที่กำลังส่งภารกิจรอบๆนั้น
มันน่าอายมากๆ เธอจึงหันหลังไปหาเลมมี่และยิ้มออกมาพร้อมกับพูดมา “ขอบใจนะเลมมี่”
เด็กน้อยเลมมี่จับหูตัวเองแล้วหัวเราะ “ท่านนักล่า หนูเห็นว่าท่านดีใจกับของขวัญที่หนูให้ไป”
“แน่นอนอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งกว่ามีความสุขละ”
“ถ้างั้นท่านพอจะทำตามคำขออีกอย่างของหนูได้ไหม?”
ยี่ซือพยักหน้า ถ้าเป็นไปตามความรู้ในอดีตของเธอ เลมมี่จะพาเธอไปยังอาจารย์ผู้สอนของอาชีพเธอ
“คนอันพาลจากป่าหินได้ขโมยตุ๊กตาที่แม่ทำให้หนู ท่านสามารถนำมันกลับมาให้หนูได้ไหม?”
นี้มันภารกิจชนิดไหนเนี้ย ?
ยี่ซือตกใจเพราะเธอไม่เคยทำภารกิจนี้มาก่อนเลย แม้ว่าตัวเธอจะประกาศว่าตัวเธอนั้นเป็นสารานุกรมแห่งโชคชะตาที่รู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับเกมแห่งโชคชะตา
อย่าบอกนะว่า.... ยี่ซือคิดได้ทันใดนั้น เธอก็เปิดหน้าคุณลักษณะของเด็กน้อยเลมมี่ และก็เป็นอย่างที่เธอคิดไว้ ความสนิทสนมของเธอและเด็กน้อยเลมมี่อยู่ในขั้นสนิทสนม
ในที่สุดยี่สือก็เข้าใจแล้วว่าทำไมยังมีภารกิจลับที่เธอยังไม่รู้มาก่อน ยี่ซือทำภารกิจเร็วมากและแสดงการขอบคุณอย่างจริงใจต่อของขวัญของเลมมี่ นั้นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมความสนิทสนมของเธอและเลมมี่จึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนทำให้เลมมี่มอบภารกิจลับให้กับเธอ
“แน่นอน” หลังจากที่ยี่สือรับภารกิจลับจากเด็กน้อยเลมมี่ ยี่ซือทำภารกิจหลักและมุ่งหน้าไปหาอาจารย์ผู้ฝึกสอนโซลผู้ที่ฝึกสอนทักษะสำหรับนักล่ามือใหม่
ป่าหินเป็นหนึ่งในดันเจี้ยนที่ติด 1 ใน 10 ที่เป็นดันเจี้ยนยากมากสำหรับผู้เล่นมือใหม่ ระดับที่ต้องการเข้าดันเจี้ยนคือ 8 – 20 ยี่ซือยังไม่สามารถลงดันเจี้ยนคนเดียวได้ เธอจึงตัดสินใจเพิ่มพูนระดับตัวเองให้ถึง 8 และติดต่อลู่ชางเพื่อเข้าสู่ดันเจี้ยน
ด้วยจดหมายคำแนะนำของเลมมี่และกระดาษไม่กี่แผ่น ยี่ซือมุ่งหน้าไปยังจุดเพิ่มพูนทักษะที่อยู่ข้างหลังหมู่บ้าน
ผู้เล่นมือใหม่กำลังพยายามเพิ่มระดับและไม่มีคนที่มีระดับเพียงพอต่อการเรียนรู้ทักษะเลย ในขณะที่ผู้เล่นไม่กี่คนที่ติดอยู่ที่นี้ ยี่ซือเป็นเพียงคนเดียวที่เรียนรู้ทักษะเหล่านี้ได้
ยี่สือมุ่งหน้าไปยังอาจารย์ผู้ฝึกสอนโซลและทักทายด้วยความเคารพก่อนจะประกาศเจตนารมณ์ของเธอ
โซลไม่มีท่าทีว่าจะตอบกลับ เขานั่งอยู่ใต้แสงอาทิตย์ กำลังเหลาลูกธนูด้วยมีดที่แหลมคม
เขาเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ เหมือนกับว่าตัวเขากำลังแกะสลักผลงานชิ้นสำคัญของตัวเองอยู่
ยี่สือยีนอย่างเงียบสงบ ข้างเขา ผู้มอบหมายภารกิจทุกๆคนอาจจะมีลักษณะนิสัยที่ต่างกัน อาจจะเฮฮา เงียบขรึม หรือแม้แต่เจ้าเล่ห์ก็ยังมี แต่โซลที่นั่งอยู่ข้างหน้ายี่ซือนั้น เขากำลังซึมเศร้า
การยืนเฉยๆข้างหน้าผู้มอบหมายภารกิจมันเป็นการเสียเวลาโดยใช่เหตุ แต่ถ้าไปถ้ำน้ำแข็งดูจะมีประโยชน์กว่า
สีผิวของโซลนั้นมีสีซีดและผมที่มีสีขาวเหมือนหิมะซึ่งบ่งบอกถึงอายุของเอลฟ์ ภายนอกของเอลฟ์นั้นไม่ว่านานแค่ไหนก็ไม่เปลี่ยนแปลงเมื่ออายุมากขึ้น แต่ผิวและผมของเอลฟ์จะขาวมากขึ้นและมากขึ้น เมื่อเอลฟ์มีอายุมากขึ้น
การเคารพผู้ผู้อาวุโสมันเป็นมารยาทที่ดี ยี่ซือได้แสดงถึงความอดทนเมื่อเธอเจอกับผู้ฝึกสอนอาวุโส
หลังจากนั้นสักพักใหญ่ๆ โซลได้หันไปมองยังเอลฟ์สาวที่อยู่ข้างหน้าเขาด้วยดวงตาสีหยกที่ดูน่าเกรงขามของเขา เขาพูดอย่างแพ่วเบาว่า “ทำไมนักล่าที่ไม่มีธนู เขาถึงเรียกตัวเองว่านักล่าล่ะ ? ”
ติดตามข่าวสารได้ที่ ช่วยกด Like และกด Share https://www.facebook.com/ReignHunters/ นะขอบคุณค้าบบบบบ
###################################################################