บทที่ 1 การเกิดใหม่ (part 2)
บทที่ 1 การเกิดใหม่ (1 – 2)
“เกิดอะไรขึ้น ? เป็นอะไรไป ?” ผู้ชายวัยกลางคนหนึ่งสวมผ้ากันเปื้อน กระโจนเข้าไปยังห้องนั้นโดยที่มือข้างหนึ่งของเขายังถือทัพพีอยู่ ความวิตกกังวลปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เขารีบพยายามถามหญิงสาวคนนั้นที่อยู่บนเตียงอย่างลุกลี้ลุกลน “ซือ ซือ เกิดอะไรขึ้น ? เจ้าเป็นอะไรรึปล่าว ? เจ้าตกไปยังห้วงแห่งความฝันอีกแล้วงั้นรึ ?”
ยี่ซือนั่งอยู่บนเตียงและจ้องมองไปยังชายหนุ่มคนนั้นและเธอก็ได้ประหลาดใจกับร่างกายของเธอที่ฟื้นคืนกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
“อย่าบอกนะว่าเจ้าล้มลงหัวกระแทกมาอย่างรุนแรง ?” ยี่ หนานเทียนโบกมือไปมาที่หน้าของยี่ซือ
“พ่อ !” ยี่ซือคว้ามือของผู้ชายคนนั้นและนำมาไว้ที่อ้อมแขนของเธอ ยี่ หนานเทียนถึงกับน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ เมื่อได้เห็นสายตาของเธอ
เธอไม่ต้องการความรักจากใคร ถึงแม้จะเป็นแค่ความฝันเธอก็รู้สึกปลื้มปริ่มที่จะมีความสุขที่และได้พบกับพ่อแม่ของเธออีกครั้ง
“มันเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า ?” ยี่ หนานเทียนกำลังรู้สึกสับสนกับลูกสาวของเขา ลูกสาวของเขาไม่เคยที่จะมาใกล้ชิดแบบนี้กับเขามาตั้งแต่เธอมีอายุ 15 ปี และการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดของความรู้สึกของยี่ซือทำให้เขารู้สึกสับสน
“พ่อ เป็นเรื่องที่ดีมากจริงๆที่เจอพ่ออีกครั้ง” ยี่ซือพูดออกจากส่วนลึกของหัวใจของเธอ น้ำตาแห่งความรู้สึกอบอุ่นของยี่ซือนั้นได้หยั่งลึกไปถึงข้างในจิตใจของพ่อ
“เจ้าพูดเรื่องอะไร ? เจ้าพูดเหมือนข้ากำลงฟื้นจากความตาย” ยี่ หนานเทียนหัวเราะและลูบเบาๆที่หน้าของยี่ซือ ก่อนที่จะลงไปจากเตียงเขาได้บอกกับเธอว่า “ข้าจะไปทำอาหารเช้า จากนั้นเจ้าค่อยลงมากกินให้เต็มที่เลยเมื่อเจ้าตื่น !”
ยี่ หนานเทียนได้ลูบหน้ายี่ซืออีกครั้งก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
ยี่ซือที่นั่งอยู่บนเตียงและจ้องมองไปยังนาฬิกาดิจิตอลบนข้อมือของเธอราวกับว่ามันเป็นสิ่งที่ล้ำค่า
20 สิงหาคม 2050 เวลา 7.37 นาฬิกา
ปี 2050 ?
นี่มันปี 2050 !!!!! ?
หลังจากที่ยี่ซือกำลังสับสนกับช่วงเวลานั้น เธอก็รีบดีดตัวออกจากเตียงและรีบวิ่งไปที่โต๊ะของเธอจากนั้นเธอก็หยิบกระจกขึ้นมาด้วยมือที่กำลังสั่นเครือ เพื่อดูใบหน้าของเธอในตอนนั้น
ใบหน้าของยี่ซือ ราวกับเด็กอายุ 18 หรือ 19 ปีที่ปรากฏอยู่ในกระจก หน้าของเธออมชมพูดูมีชีวิตชีวาและมีโหนกตรงแก้มเล็กน้อยบนใบหน้า ใบหน้าของเธอในตอนนี้ช่างสวยงามเหลือเกิน
นี่คือใบหน้าเมื่อ 10 ปีที่แล้ว !!!
ยี่ซือ!! “คงจะเป็นตัวข้าอย่างแน่นอน” หน้าที่ยังไม่มีบาดแผลที่เกิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อ 10 ปีที่แล้ว
แต่ ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น ?
ยี่ซือวางกระจกแล้วก็มองไปยังรอบห้อง ซึ่งมีเตียงไม้ไผ่ มีชั้นวางหนังสือและมีโต๊ะคอมพิวเตอร์ พร้อมกับป้ายโฆษณาบททดสอบแห่งโชคชะตาที่แขวนอยู่บนผนัง
เธอกลับมาในช่วงเวลาเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ?
เธอกลับมาในช่วงเวลา 10 ปี !
หัวใจของยี่ซือเต็มไปด้วยความสุข แต่มันก็ถูกแทนที่ด้วยอารมณ์อย่างอื่นของเธอหลังจากนั้นต่อมา
เทพเจ้าไม่ได้ทอดทิ้งเธอ ! เมื่อเธอคิดว่าเธอจะต้องจบชีวิตด้วยความเศร้าเสียใจแต่กระนั้นเธอก็ได้รับโอกาสในการกลับมาอีกครั้ง !
นี่จะเป็นโอกาสสำหรับเธอที่จะแก้ไขความผิดพลาดของเธอหรือไม่ !
ยี่ซือไม่ได้สัมผัสความรู้สึกแบบนี้มานานแล้ว เธอจึงรีบยืนขึ้นแล้วรีบวิ่งไปยังห้องนั่งเล่น
ยี่ หนานเทียนกำลังยุ่งอยู่การสำหรับการเตรียมอาหารเช้าในขณะที่ จั้ว เสี่ยวหลางกำลังปัดฝุ่นออกจากตู้กับข้าว ทั้งสองคนก็ได้เงยขึ้นไปมองเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของยี่ซือ
สิ่งแรกที่ ยี่ซือสังเกตเห็นหลังจากที่เธอได้เข้าห้องนั่งเล่นก็คือฉากที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่และมันก็ไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานมากแล้ว
เธอกระพริบตา และได้กลืนน้ำลายลงคอ
มีหลายต่อหลายครั้งที่เธอคิดว่าเธอจะเป็นลูกสาวที่ดีของพ่อ ถ้าพ่อของเธอนั้นสามารถฟื้นจากความตายได้และแม่ของเธอจะไม่ได้จากเธอไปไหน เธอจะหยุดการดื้อรั้น เห็นแก่ตัว หยุดทำตัวมีปัญหาของเธอ เธอจะเป็นลูกสาวที่ดีของพ่อแม่และเชื่อฟังท่าน
ยี่ซือยังไม่เชื่อในสายตาตัวเอง ว่าเธอจะได้รับโอกาสแบบนี้อีกครั้ง
ยี่ซือเธอได้กลั้นหัวเราะเอาไว้ก่อนที่จะปล่อยมันออกมา “พ่อ แม่ อรุณสวัสดิ์” ยี่สือพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง
จั้ว เสี่ยวหลางได้นั่งอยู่บนโซฟาในขณะที่เธอกำลังจ้องมองไปที่ยี่ซือที่กำลังทำงานในครัวอย่างขมักเขม่น เธอสะกิดยี่ หนานเทียนและกระซิปว่า “เกิดอะไรขึ้นกับ ซือ ซือ ทำไมในช่วงเวลาไม่กี่วันนี้เธอถึงเป็นเด็กดี ?” ไม่เพียงแต่เธอได้เลิกคบกับเพื่อนที่เป็นอันธพาลของเธอเท่านั้นเธอยังสัญญาว่าจะช่วยงานบ้านอีกด้วย “มันต้องมีอะไรบางอย่างแน่ !”
“เจ้าไม่มีมีความสุข งั้นรึ ที่ลูกสาวของเรากลับมาเชื่อฟังพวกเรา ?” ยี่ หนานเทียนยิ้มกับภรรยาของเขาและบอกให้ยี่ซือนั่งข้างๆพวกเขา
ยี่ซือได้นั่งลงข้างๆพ่อแม่ของเธอ เธอมีความสุขมากๆถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าพ่อและแม่เรียกเธอให้มานั่งข้างๆเพราะว่าอะไร ชีวิตของเธอในตอนนี้ราวกับเธอได้อยู่บนสรวงสวรรค์ เธอรู้สึกดีกับทุกๆสิ่งทุกๆอย่างในตอนนี้
ยี่ หนานเทียนได้พูดอย่างชัดเจนว่า “ซือ ซือเจ้าเคยบอกพ่อว่าเจ้าอยากได้ ตู้เกมส์แห่งโชคชะตาและข้าให้สัญญากับเจ้าไปแล้วว่า ข้าจะซื้อให้ถ้าเจ้าสามารถเข้ามหาวิทยาลัยได้และในตอนนี้ ข้าจะทำตามสัญญาของข้าและตู้เกมส์แห่งโชคชะตาจะอยู่ในห้องเจ้าในวันพรุ่งนี้”
ยี่ซือกำลังตกตะลึงกับคำพูดของพ่อ ทรงจำที่ผ่านมาทั้งหมดของเธอกำลังโลดแล่นอยู่ในสมองเธอราวกับภาพยนต์เรื่องหนึ่ง
ใช่… เกมส์แห่งโชคชะตา
และชะตาชีวิตของยี่ซือก็ได้เปลี่ยนไปนับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ชะตาของครอบครัวของเธอก็ได้เปลี่ยนไปเช่นกัน !
ถ้ายี่ซือสามารถเลือกที่จะเริ่มต้นใหม่ แล้วสิ่งไหนล่ะที่เธอจะเลือก ?
“อย่างไรก็ตามเจ้าต้องบอกกับข้าว่าทำไมเจ้าต้องการที่จะได้ตู้เกมส์มากนัก ? เจ้าสามารถที่จะเล่นเกมส์โดยสวมแค่หมวกธรรมดา แต่ทำไมเจ้าต้องการเล่นเกมส์โดยใช้ภาพ 3 มิติ ?”
ยี่ หนานเทียนได้ตระหนักถึงความสับสนวุ่นวายภายในจิตใจของยี่ซือและเขาก็ได้มองเธอจากนั้นก็มีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเขา
ตู้เกมส์เป็นเพียงการเล่นเพื่อเดิมพันกับเพื่อนเท่านั้น แม้ว่าพ่อแม่ของเธอไม่ใช่คนที่มีเงินทองมากมาย แต่พวกเขาก็เต็มใจที่จะซื้อสินค้าราคาแพงนี้ให้เธอด้วยความรักจากพ่อแม่ ราคาที่พวกเขาได้จ่ายไปสำหรับตู้เกมนี้มีมูลค่าหลายแสน
ยี่ ซือได้บอกพ่อแม่ในช่วงเวลานั้นว่าอย่างไร ? เธอบอกว่าเธอต้องการที่จะพุ่งเข้าไปในโลกของโชคชะตา
และมันเกิดอะไรขึ้นในตอนจบ ? สุดท้ายแล้วเธอได้ทำมัน แต่ยังไงก็ตามความต้องการที่จะทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุดบนท้องฟ้าต้องแลกมาด้วยบางอย่าง เธอก็ได้สูญเสียเพื่อนของเธอและครอบครัวของเธอไป ความสุขทั้งหมดและชีวิตของเธอทั้งหมดได้จางหายไป ทั้งหมดนี้เป็นความโง่เขลาและความโอ้อวดของเธอ …….
ติดตามข่าวสารได้ที่ >>>>>>ที่นี่<<<<<< ครับ
###################################################################