ตอนที่ 173 Claimhb Solais 4
ดวงตาของไฮด์แปรเปลี่ยนเป็นสีเลือด และกล้ามเนื้อแข็งก็ได้ฟีบเล็กลงไปนานแล้ว อย่างไรก็ตาม เขามีความมุ่งมั่นและเล็งเป้าไปยังธีโอดอร์โดยปราศจากความลังเล เขาไม่สนใจเรื่องความตายของเขาและใช้ดาบเงินโดยไม่ยั้งคิดใดๆ
แม้จะเห็นมันได้จากในระยะไกล แต่พลังอำนาจของดาบเทพเจ้าก็ถูกสลักลึกลงไปในความทรงจำของธีโอดอร์
‘บ้าจริง ฉันอยากที่จะยุติสถานการณ์บ้าๆนี้แล้ว’ธีโอสาปแช่งอยู่ข้างใน
ความตั้งใจที่จะลากเขาตายไปด้วยกันของไฮด์ได้รับการยืนยันอีกทีจากท่าทางและการโจมตีของเขา แม้ว่าไฮด์จะไม่สามารถหันหลังกลับให้กับสนามรบได้ด้วยการเปลี่ยนทัศนคติ อาวุธที่เขาถืออยู่นั้นร้ายแรงมากในสถานการณ์นี้ เพื่อแลกกับพลังชีวิตของเขา ตอนนี้เขาสามารถที่จะใช้พลังของClaimhb Solais ได้ทั้งหมด
ไฮด์อยู่ใกล้ชิดกับหน้าผาแห่งความตายมากขึ้น แต่ด้วยการดิ้นรนเฮือกสุดท้ายของเขามันเต็มไปด้วยเปลวไฟของปรมาจารย์ดาบ อย่างน้อยที่สุด พลังนี้มันก็ทรงอำนาจเท่ากับพลังที่เขาได้ใช้กวาดล้างวอร์ล็อค ดาบของไฮด์ชี้ไปยังธีโอดอร์โดยมีเป้าหมายเพื่อฆ่าเขา
ไฮด์หยุดลงและแสงสว่างรอบๆตัวเขาก็เปล่งแสงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม มันอาจจะเป็นพลังชีวิตที่หลงเหลืออยู่ของไฮด์ที่กำลังแปรเปลี่ยนเป็นพลังอันยอดเยี่ยม.....และธีโอดอร์ก็ได้แต่สงสัยว่าเขาจะเป็นยังไงหากเขาเข้าไปข้องเกี่ยวกับพลังนี้
ฉึก-ฟุ้บ ที่ระยะ10เมตรตรงหน้าไฮด์ แม้กระทั่งกระสุนเวทย์ยังสูญเสียพลังของมันและจางหายไป Claimhb Solais นั้นจะปฏิเสธการดำรงอยู่ของเวทมนต์ ดังนั้นกระสุนเวทย์ที่เข้ามาใกล้แสง โครงสร้างของเวทมนต์จึงพังทลายทันที และกระจัดกระจายไป
เวทมนต์ระดับสูงอาจจะใช้งานได้ แต่ธีโอไม่มีเวลามากพอที่จะร่ายมันและหยุดการโจมตี ในหลายๆทาง Claimhb Solais เป็นอาวุธที่จัดได้ว่าน่ารำคาญอย่างมาก
ธีโอดอร์ถอนหายใจ “ฟู่ มันช่วยไม่ได้ในเมื่อสถานการณ์มันเป็นเช่นนี้”
แม้จะเผชิญหน้ากับความตายก็ตามเขากลับหลับตาลง
‘มันมีอยู่สองวิธี’
เขาสามารถโจมตีจากด้านหน้าในขณะที่ยอมรับการโจมตีหรือหลบมัน ดาบเทพเจ้าจะไม่สามารถหลบหลีกได้ด้วยวิธีปกติ แต่ธีโอดอร์มี ‘วิธีที่ผิดปกติ’อยู่
นั่นก็คือการใช้อัมบราสมบัติแห่งชาติที่มีมิติเป็นของมันเองและจะอนุญาติให้เจ้าของมันกระโดดลงไปในมิตินั้น ธีโอดอร์สามารถที่จะหลีกเลี่ยงพลังอำนาจที่ไม่สมบูรณ์ของClaimhb Solais ได้หากเขาใช้ความสามารถนั้น
.....ไม่ เดี๋ยวนะ?
ราวกับสายฟ้าได้แล่นผ่านหัวของธีโอดอร์ “อา!”
‘มันเป็นไปได้’ความรู้ที่สะสมมาตลอด1ปีที่ผ่านมาได้ขัดเกลาสัมผัสและจิตวิญญาณของจอมเวทย์ที่ชื่อว่าธีโอดอร์ มิลเลอร์ ให้แหลมคมขึ้น มันได้ยืนยันกับเขาว่าขณะนี้ ‘เวทมนต์นั้น’ มันสมบูรณ์แล้ว
ธีโอดอร์ได้ไขกุญแจดอกสุดท้ายเพื่อทำให้เวทย์สมบูรณ์แล้ว เขามองลงไปที่รูปแบบของอัมบราบนแขนขวา รวมถึงอำนาจเวทมนต์ทั้งสองที่กำลังหมุนรอบๆตัวเขา จากนั้นเขาก็ยืดมือทั้งสองข้างออกไป เขาไม่รู้ว่าทำไม แต่เขารู้ว่าท่าเช่นนี้มันดีที่สุด
‘เปลวเพลิงแห่งMuspelheim’ เปลวเพลิงได้ตอบสนองต่อการเรียกของธีโอดอร์และไหลออกมาจากหัวใจเขาราวกับลาวา
หลอดเลือดทั้งหมดที่มันผ่านต่างร้อนขึ้นราวกับพวกมันกำลังจะละลาย แต่ธีโอไม่สนใจ อำนาจเวทมนต์ได้ไหลผ่านหลอดเลือดเขาและเปลี่ยนมือขวาของเขาให้กลายเป็นสีแดง
‘ตราเลือดควาโล่’ก็เป็นเช่นเดียวกัน เมื่อพลังเวทย์ที่เยือกเย็นปรากฏขึ้น
ตรงกันข้ามกับแขนขวาของเขา แขนซ้ายของเขาคือถ้ำน้ำแข็ง ความหนาวเย็นได้บดบังความรู้สึกบางส่วนบนผิวหนังเขา ในความเป็นจริง แขนขวาของเขาถูกปกคลุมไปด้วยชั้นน้ำแข็งบางๆ และมันก็เปลี่ยนเป็นซีด ราวกับถูกน้ำแข็งกัด
แขนขวาที่เป็นสีแดงและแขนซ้ายที่เป็นสีฟ้า....!สีที่ไม่สอดคล้องกันทั้งสองก็คือสัญลักษณ์ของหยินและหยางในทวีปตะวันออก
วูบบบ
เมื่อหยินและหยางเทียมได้ถูกสร้างขึ้น พายุพลังเวทย์อันทรงพลังก็ก่อตัวขึ้นในมือทั้งสองข้างของธีโอดอร์ นี่คือการดำรงอยู่ซึ่งไม่อาจที่จะคงสภาพไว้ได้ มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่เป็นไปไม่ได้หากปราศจากความช่วยเหลือจาก’หยินและหยางเทียม’ ซึ่งธีโอดอร์ได้รับมันมาจากวิถีแห่งองเมียวของอาเบะ โนะ เซย์เมย์
จนถึงตอนนี้ เขาพึ่งจะได้มีประสบการณ์กับสิ่งนี้ อย่างไรก็ตาม จากจุดนี้ มันราวกับการเกิดเส้นขอบฟ้าใหม่ที่อยู่เหนือเกินขีดจำกัด หากนี่เป็นความสมดุลที่ไม่สามารถจะดำรงอยู่ได้ในโลกวัตถุ เขาก็จะลากมันไปในโลกอื่น
“ปลดปล่อยมิติ”
ในบรรดาความสามารถมากมายของอัมบรา นี่เป็นความสามารถระดับสูงซึ่งธีโอดอร์สามารถคงสภาพไว้ได้เพียง10วินาทีเท่านั้น มันจะทำให้พื้นที่รอบๆมือของธีโอดอร์เข้าไปสู่มิติที่ไร้แก่นสาร ดังนั้น เวทมนต์ที่ไม่สมบูรณ์จึงก้าวเข้าสู่ขั้นต่อไป
ตามทฤษฏีของหยินและหยาง โลกของมันในตอนนี้อยู่ในมือของธีโอดอร์แล้ว ทรงกลมสีแดงและสีฟ้าที่สมบูรณ์แบบได้ก่อตัวขึ้น มันเป็นรูปทรงที่เหมือนไข่ซึ่งห่อหุ้มโลก เปลือกของโลกที่เกิดมาเพื่อทำลายล้าง นี่เป็นโลกที่ไม่สมบูรณ์ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ชั่วขณะหนึ่งเนื่องจากการปลดปล่อยมิติของอัมบรา
แต่ทว่า นี่มันก็เพียงพอแล้ว ขณะที่เวทมนต์ของธีโอดอร์สมบูรณ์ ไฮด์ก็ได้ปลดปล่อยอำนาจของดาบเทพเจ้า
“จงเผาไหม้ ศัตรูของจักรวรรดิ-!”ไฮด์คำราม
รังสีสีเงินได้พุ่งออกมาจากตัวดาบเทพเจ้าราวกับดวงอาทิตย์ดวงเล็ก พลังอำนาจของดาบเทพเจ้า ที่ใช้พลังชีวิตเฮือกสุดท้ายของปรมาจารย์ดาบไม่สามารถที่จะเปรียบได้กับก่อนหน้านี้ มันเป็นพลังที่มากกว่าตอนที่เขาใช้ทำลายพวกวอร์ล็อค พลังนี้มันสามารถที่จะฆ่าได้แม้กระทั่งมังกร
แล้วทำไมละ....?
มันแปลก ธีโอดอร์รู้สึกสงบกว่าเดิม เขาตัดสินใจที่จะตั้งชื่อเวทมนต์ที่ลอยอยู่ในฝ่ามือทั้งสองข้างของเขา นักประพันธ์ที่มีชื่อเสียงได้ใช้ชื่อนี้กับไข่ที่แตก
ธีโอดอร์นึกถึงชื่อนั้นจากอดีตของเขาและพึมพำ “Abraxas (ΑΒΡΑΣΑΞ).”
ขณะที่เขากระซิบ โลกก็ได้แตกออก....
และแสงก็กำเนิดขึ้น
***
มันงดงามเกินกว่าที่จะเรียกว่าการระเบิด แต่มันมีพลังมากพอที่จะก่อให้เกิดหายนะ Claimhb Solais และมหาเวทย์ Abraxas…
การปะทะกันของพลังอำนาจดังกล่าว โดยปกติจะสามารถเห็นได้ในเฉพาะยุคโบราณกาล มันได้ปกคลุมไปทั่วพื้นที่ที่สร้างขึ้นโดยดาบเทพเจ้า และมันทำให้ก่อเกิดรอยแตกที่แผ่กระจายไปทั่วราวกับใยแมงมุม ผลผวงของการปะทะกันของพลังทั้งสองเพียงพอที่จะทำให้พื้นที่นี่พังทลาย
หากชัยชนะเอนไปยังอีกข้างหนึ่ง ความสมดุลก็จะเอียง และพื้นที่ก็จะพังทลายลง พายุแห่งแสงถูกผลักดันไปในทิศทางเดียว มันเป็นแสงที่ดวงตาของมนุษย์ไม่อาจจับจ้องได้ การปะทะกันของพลังทั้งสองก่อให้เกิดเสียงร้องที่บาดหู
แสงที่เต็มไปทั่วพื้นที่ได้ลดลงและคลื่นอัดกระแทกก็เบาบางลง
“...มันจบแล้ว?”
ชาย ผู้ที่ถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังในสนามรบได้ยกเปลือกตาขึ้น สีของดวงตาเขาเป็นสีน้ำเงินเข้ม มันเป็นสีที่ไม่อาจจะสับสนกับดวงตาสีขาวของไฮด์ แท้จริงแล้ว เขาก็คือธีโอดอร์ มิลเลอร์ ผู้ที่อาจหาญต่อกรกับดาบเทพเจ้า Claimhb Solais และได้รับชัยชนะ
เขามองไปรอบๆพื้นที่ว่างเปล่าและค้นพบบางสิ่ง “นี่....”
ดาบที่สูญเสียผู้ใช้ของมัน Claimhb Solais ได้ตกอยู่ในสถานที่ที่ไฮด์พึ่งยืนอยู่กอนหน้า แต่ร่างกายของไฮด์กลับไม่พบในบริเวณใกล้เคียง ธีโอสงสัยว่าไฮด์อาจจะถูกพัดปลิวไปจากผลพวงของคลื่นอัดกระแทกหรือเขาอาจจะกลายเป็นขี้เถ้าหลังจากที่พลังชีวิตถูกดูดออก
ไม่ว่าจะเป็นวิธีใดก็ตาม นี่นับเป็นจุดจบที่น่ากลัวสำหรับ1ใน7เทพดาบแห่งจักรวรรดิ
ดวงตาของธีโอดอร์หรี่แคบลงขณะที่จมลงไปในความคิด
‘ไฮด์และดาบเทพเจ้า’ธีโอมีคำถามมากมายเกี่ยวกับเจ้านายของไฮด์ ทุกคนที่รู้วิธีใช้ดาบเทพเจ้าจะต้องตระหนักถึงผลข้างเคียงในการใช้มัน แต่ถึงแม้ว่าเขาจะสูญเสียแขน ทำไมเขาจึงยอมเสียสละปรมาจารย์ดาบด้วยวิธีนี้?จากมุมมองของฉัน มันยากที่จะเข้าใจได้
มันคือใคร?บางทีไฮด์อาจจะรู้เรื่องนี้และยอมรับราคาที่ต้องจ่าย อย่างไรก็ตามในขณะที่ธีโอดอร์กำลังตัดความเป็นไปได้ทั้งหมด เขากลับรู้สึกแย่ คนที่สามารถใช้ปรมาจารย์ดาบเป็นเครื่องมือและเป็นคนที่ได้รับสมบัติจากยุคโบราณกาล ดาบเทพเจ้า Claimhb Solais….
ธีโอดอร์รู้สึกว่าคนเช่นนี้เป็นคนที่ต่อกรด้วยยากเสียยิ่งกว่ากลุ่มการค้าออร์คุส
ขณะนั้น ช่วงเวลาที่ธีโอดอร์กำลังสับสน....
กึกกึก...!
ดาบเทพเจ้า ที่ติดอยู่กับพื้นดิน เริ่มสั่นสะเทือนและส่งเสียงร้องออกมา ธีโอดอร์ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นเขาจึงอดที่จะถอยหลังไปหลายก้าวไม่ได้
แต่ทว่า ความตะกละกลับตะโกนร้องออกมาอย่างฉับพลัน –อย่าพึ่งถอย ผู้ใช้!หากเจ้าปล่อยมันไป ดาบเทพเจ้าจะกลับคืนสู่นายของมัน!
“อะไรนะ?!”ธีโอดอร์ตะโกนร้องด้วยความประหลาดใจ
ความตะกละอธิบายอย่างเร่งรีบ –มันก็เหมือนกับเวทย์โบราณ!แม้ว่ามันจะมีความหยิ่งที่ต่ำกว่า แต่ดาบเทพเจ้าเป็นอุปกรณ์ที่มีสัญชาตญาณในการกลับบ้าน!เจ้าต้องตัดสินใจก่อนที่พื้นที่นี้จะพังลงโดยสมบูรณ์!
ในตอนนี้ ดาบเทพเจ้ายังไม่อาจที่จะขยับได้เพราะว่าพื้นที่นี้ แม้ว่ามันจะเป็นผู้สร้างก็ตาม อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ไฮด์ได้ตายไปแล้ว สนามรบก็ควรจะหายไปในไม่ช้า และดาบเทพเจ้าจะกลับคืนสู่บุคคลผู้ลึกลับนั่น
ธีโอดอร์อาจจะชนะไฮด์ แต่ความเสี่ยงเกี่ยวกับดาบเทพเจ้านั้นมันยิ่งใหญ่เกินไป มันอาจจะยากที่จะเอาชนะหากไฮด์ยังไม่ได้ใช้พลังอำนาจของมันในการเอาชนะวอร์ล็อค ธีโอดอร์ตัดสินใจได้และรีบถามความตะกละ “ฉันต้องทำยังไง?บางทีแก.....แกสามารถกินดาบเทพเจ้าได้?”
-ไม่ ข้าไม่สามารถกินมันได้ พลังเวทมนต์แตกต่างไปจากพลังศักดิ์สิทธิ์โดยสิ้นเชิง เจ้าสามารถใช้ดาบได้ แต่ข้าไม่สามารถดูดซับมันได้ มันอาจจะเป็นไปได้หากข้าปลดผนึกลำดับที่7 แต่มันไม่มีความหมายที่จะต้องคิดถึงมันในตอนนี้
“แล้วฉันต้องทำยังไง?”
-ลองคิดเกี่ยวกับมันดู
ดวงตาของธีโอดอร์เบิกกว้างขึ้นในคำถัดไป
-เจ้าเคยอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน!
คำแนะนำดังกล่าวทำให้ความคิดของธีโอดอร์แก้ไขปัญหาได้ในทันที ย้อนกลับไปในระหว่างที่เอลเดอร์ลิชโจมตีมิลเลอร์ บารอนี่ ...วิธีที่เขาใช้ปิดผนึกหนังสือเวทย์โบราณของเนโครแมนเซอร์ ที่เขาไม่สามารถจะกินได้?
“คลัง จงเปิด!”ธีโอดอร์ร้องออกมา
ทันทีที่ธีโอดอร์ร้อง ลิ้นของความตะกละก็พุ่งออกไปทันที ในพื้นที่ที่กำลังพังทลาย แสงสีดองได้ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าเช่นเดียวกับช่วงเวลาที่ลิ้นของความตะกละพันรอบดาบเทพเจ้าโดยสมบูรณ์
ดาบเทพเจ้าจะถูกปิดผนึกก่อนหรือพื้นที่นี้จะพังก่อน?ก่อนที่ธีโอดอร์จะได้เห็นผลลัพธ์ ธีโอดอร์ก็ได้กลับมายังพื้นที่รอบๆซิโปโต
“เอ๊ะ?”เขาอุทานออกมา
ทิวทัศน์โดยรอบแตกต่างจากท้องฟ้าที่มืดสนิทของสนามรบ ดังนั้นธีโอดอร์จึงรับรู้ว่าเขาได้กลับมายังพื้นที่ราบแล้ว ในความจริง เขากลับมายังจุดที่เขายืนอยู่ก่อนที่ไฮด์จะใช้พลังของดาบเทพเจ้า
“…ธีโอ?นั่นนายใช่ไหม?”เสียงของแรนดอล์ฟดังเข้ามาในหูของธีโอดอร์
“แรนดอล์ฟ?นายรออยู่ที่นี่หรอ?”ธีโอดอร์ถาม
“แน่นอนอยู่แล้ว ฉันจะรออีกอย่างน้อย3วัน”แรนดอล์ฟพูดโอ้อวด
อย่างไรก็ตาม ธีโอดอร์เข้าใจว่าคำพูดของแรนดอล์ฟนั้นคือความจริง หากไฮด์เอาชนะการต่อสู้และกลับมาที่นี่ เขาจะต้องต่อสู้รอบสองกับแรนดอล์ฟที่โกรธเกรี้ยว ธีโอดอร์รู้สึกได้ถึงก้อนอารมณ์ที่ดันขึ้นในลำคอของเขาและถอนหายใจออกมา
หลังจากที่กลับมารวมตัวกับแรนดอล์ฟ ในที่สุดธีโอดอร์ก็ตระหนักได้ว่าเขาได้พ่ายแพ้1ใน7เทพดาบแห่งจักรวรรดิ
ธีโอดอร์มองลงไปที่มือซ้ายของเขา ‘…มันอยู่ที่ไหนสักแห่งในนี้’
Claimhb Solais ดาบเทพเจ้าที่จะกลับไปหาเจ้านายของมัน ได้ถูกจับเอาไว้โดยลิ้นของความตะกละ
มันอยู่ในตรงมุมของคลังเก็บของของธีโอดอร์ อยู่รวมกับ ‘Death’s Worship’ ที่ธีโอดอร์ไม่อาจจะดูดซับได้ แต่มีหลายวิธีที่เขาจะสามารถใช้ดาบเทพเจ้าได้ มันสามารถที่จะใช้เป็นเครื่องสังเวยเพื่ออัญเชิญ ‘ฟาฟเนอร์’หรือใช้ต่อกรกับชนชั้นสูงของจักรวรรดิได้
เขาไม่รู้เกี่ยวกับตัวตนของเจ้านายมัน แต่เขาจะต้องเจ็บปวดอย่างมากจากการสูญเสียดาบเทพเจ้า ธีโอดอร์หัวเราะเมื่อคิดเช่นนั้น
แรนดอล์ฟมองเขาด้วยความอยากรู้และถาม “อะไร นายรู้สึกดีที่ชนะ?”
“ดี....คำพูดของนายไม่ผิดนัก ฉันรู้สึกดีมากกว่าที่ฉันคิด”
มันเป็นการต่อสู้กับ1ใน7เทพดาบแห่งจักรวรรดิ ซึ่งเป็น1ในผู้ปกป้องแห่งจักรวรรดิแอนดราสและฆ่าคนของเมลเทอร์ไปมากมาย ดังนั้น ในฐานะจอมเวทย์ที่เต็มไปด้วยความรักต่ออาณาจักรเมลเทอร์แล้ว นี่จึงทำให้เขารู้สึกภูมิใจต่อชัยชนะมาก
เขาได้รับดาบเทพเจ้าและได้รับชัยชนะจากปรมาจารย์ดาบ คำพูดของแรนดอล์ฟทำให้ธีโอดอร์ตระหนักถึงตัวเขามากขึ้น
แรนนดอล์ฟรอให้เขาสงบลงก่อนที่จะพูดว่า“แล้วเราจะกลับไปที่เมืองไหม?คนจากกลุ่มการค้าออร์คุสอาจจะปรากฏตัวขึ้น....ฉันสามารถที่จะจัดการกับพวกเขาได้”
“ในตะวันออก พวกเขาเรียกนี่ว่าการเอาชนะโดยการเพิกเฉย”
“อ่า ถูกต้อง มีเรื่องแบบนั้น!”แรนดอล์ฟตบมือขณะที่เขานึกถึงสุภาษิต
“งั้นเราจะกลับไปยังเมือง พวกเราจะพักผ่อนเงียบๆก่อนที่จะกลับไปเมลเทอร์”
ท่าทางของธีโอดอร์ดูเหมือนปกติดี แต่Abraxas เป็นเวทมนต์ที่อยู่เหนือขีดจำกัดของธีโอดอร์ แม้ว่ามันจะประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม แต่มันก็เกิดผลกระทบกับวงกลมของเขา
เขาสามารถจับภาพเวทมนต์ได้จากความรู้สึกชั่วพริบตา แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดขึ้นอีก ธีโอดอร์ได้ใช้มหาเวทย์ดังกล่าวไป ดังนั้น มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่ร่างกายของเขาจะไม่ได้รับผลกระทบ
อย่างไรก็ตาม แรนดอล์ฟเงียบชั่วขณะก่อนที่จะส่ายหัว “ไม่ ฉันขอโทษ แต่ฉันไม่สามารถไปกับนายได้”
“หะ?”
“นี่คือทางแยกของพวกเรา ฉันจะไปที่จักรวรรดิแอนดราส ไม่ใช่อาณาจักรเมลเทอร์”
ธีโอดอร์รู้ว่าแรนดอล์ฟไม่ได้ไปเพื่อเก้าอี้ที่ว่างของ7เทพดาบ ดังนั้นเขาจึงเปิดปากขึ้นด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยคำถามและถามว่า “นั่น....ทำไมกัน?”
“น้องสาวของฉันยังอยู่ในอาณาจักรนั้น”
ธีโอดอร์ตกใจเมื่อเข้าใจคำพูดของแรนดอล์ฟ“นายวางแผนที่จะพาเธอออกมาจากที่นั่น?”
“ใช่ ฉันคุ้นเคยกับความสามารถออร่าแล้ว และตอนนี้ฉันเป็นปรมาจารย์ดาบแล้ว ดังนั้นฉันจึงสามารถดูแลเธอได้ ไม่ดีสำหรับนายหรอ?ฉันมาเพื่อที่จะตอบแทนนาย แต่หนี้ของฉันกลับเติบโตขึ้นเรื่อยๆ”
แรนดอล์ฟมีลักษณะของขุนนาง ซึ่งแตกต่างจากรูปลักษณ์ภายนอกที่หยาบกร้านของเขา นี่คือใบหน้าของชายคนหนึ่งที่รู้จักบุญคุณ แต่ไม่ได้หันเหไปจากความรับผิดชอบของเขา ธีโอดอร์ไร้ซึ่งคำพูด ทำให้แรนดอล์ฟพูดต่อ “มันจะไม่เป็นไรงั้นหรือหากพวกเรากลายเป็นเหล่าขุนนางในเมลเทอร์?อย่างน้อยที่สุด ฉันควรจะเป็นเอิร์ล เป็นยังไง?”
“….ฉันจะดูแลมัน”
“เห้ นี่คือเรื่องระหว่างพวกเรา ใช่มั้ย?”
ธีโอดอร์ยิ้มให้กับท่าทางของแรนดอล์ฟ พวกเขาพูดเช่นนี้ แต่ทั้งคู่กลับรู้ความจริง....ความจริงที่ว่าปรมาจารย์ดาบจะไม่ต่ำไปกว่าเอิร์ล และการลี้ภัยจะไม่ง่ายอย่างที่ได้ยิน
ถึงกระนั้น ชายทั้งสองคนก็ยังคงหยอกล้อกันจนจบ พวกเขาอยู่ที่ซิโปโตเป็นเวลา3วัน ก่อนที่พวกเขาจะร่ำลากันในตอนเช้า