บทที่ 6 นักชิมอาหาร
สารบัญ : https://goo.gl/R83Hq6
.
.
หลังจากได้เป็นนางกำนัลของนางสนมที่จักรพรรดิโปรดปรานแล้ว ก็ได้รับการปฏิบัติที่ดีขึ้น
ชนชั้นของเธอสูงขึ้นจากใต้ฐานปิรามิดกลายเป็นที่ไหนสักแห่งตรงกลาง จากที่คุยกันนั้น พวกเขาบอกเธอว่าเงินที่ได้ก็เพิ่มขึ้นมากด้วย แต่ยี่สิบเปอร์เซ็นของเงินตรงนี้จะส่งให้ครอบครัว หรือไม่ก็พ่อค้าที่ขายเธอมา
เธอได้รับห้องเล็กๆ ห้องใหม่ที่ไม่ใช่คนงานอีกต่อไป เตียงของเธออัพเกรดขึ้นจากเสื่อที่ถักมาจากเชือกฟางเป็นฟูก ห้องของเธอใหม่พอที่จะใส่ได้ เธอดีใจมากที่เธอไม่ต้องกลัวจะเหยียบเพื่อนร่วมก้องของเธอหลังตื่นนอน
วังหยก ที่พระสนมเกียคุโยอยู่นั้น ยังมีพระสนมอีกสี่คน หลังจากที่เจ้าหญิงเริ่มกินอาหารทารกได้แล้ว ก็ไม่จำเป็นจะต้องจ้างแม่นมคนใหม่อีกต่อไป
เห็นได้ว่าการที่เธอได้เลื่อนชนชั้นจากที่ต่ำสุดที่เคยเป็นเพื่อนร่วมงานกันมากก่อนนั้น ถึงแม้ว่าเธอจะเห็นความไม่พอใจจากคนอื่นบ้าง แต่มันก็ไม่น่ารำคาญเท่าที่เธอคิดไว้ แถม เธอเห็นสายตาของความเห็นใจแทนด้วย
(ทำไมกันนะ?)
เธอจะรู้เหตุผลนั้นเร็วๆ นี้
เธอเคยเห็นอาหารหลวงที่ทำมาจากสมุนไพรมากมายจากตาของเธอเอง
หนึ่งในนางกำนัลของพระสนมเกียคุโย หงเหนียง วางจานอาหารเล็กๆ ไว้หน้ามาวมาวไว้ทีละอัน
พระสนมเกียคุโยส่งสารตาขอโทษแต่ไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะหยุดนางเลย นางกำนัลสามคนทีเหลือมองเธออย่างน่าสงสาร
นักชิมอาหาร
ทุกคนต่างหวาดกลัวเพราะสิ่งที่เกิดกับมกุฎรัชกุมาร
อาจจะเกี่ยวกับข่าวลือเกี่ยวกับการป่วยของเจ้าหญิง และการที่มีการใช้ยาพิษ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนใช้ทั้งหลายที่ไม่รู้ว่ายาพิษมาจากไหนต่างหวาดกลัว
ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องที่แปลกเลยที่พวกเขาจะนำคนที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับพิษมาชิมอาหารมาตรวจสอบเป็นชิ้นๆ
นี่ไม่ใช่แค่เฉพาะพระสนมเกียคุโยเท่านั้น มันยังรวมไปถึงอาหารของเจ้าหญิงและอาหารของจักรดิพรรดิตอนที่พระองค์ทรงมาเยี่ยมด้วย
ปรากฎว่ามียาพิษส่งให้พระสนมเกียคุโยถึงสองครั้ง ตอนที่ทุกคนต่างรู้เรื่องว่าพระสนมเกียคุโยทรงตั้งพระครรภ์แล้ว ครั้งแรกแค่เบาๆ ส่วนอีกครั้งหนึ่งทำให้แขนขาชาและยังทำลายประสาทอีกด้วย
นางกำนัลที่เคยทำตัวเป็นคนชิมอาหารพิษอย่างกลัวๆ จนถึงตอนนี้ รู้สึกขอบคุณกับเธอมาก
มาวมาวมองจานแล้วขมวดคิ้ว จานที่ว่านี้ทำมาจากดิน
(ถ้ากังวลเกี่ยวกับพิษละก็ ใช้จานที่ทำมาจากเงินสิ)
เหมาเหมาคีบชิ้นส่วนของนามาสุ* ด้วยตะเกียบและมองมันอย่างระมัดระวัง
เหมาเหมาหยิบตะเกียบและจ้องมองอย่างจริงจัง
เธอดมกลิ่น
เธอวางมันไว้บนลิ้น ทำให้แน่ใจว่ามันไม่ทำให้ชา และกลืนมันลงอย่างช้าๆ
(จริงๆ นะ ฉันไม่ควรมาเป็นคนตรวจสอบพิษเลย)
ถ้ามันเป็นพิษ มันควรจะเป็นพิษที่ออกฤทธิ์ทันที เพราะมันจะไม่มีความหมายที่มาวมาวลองชิมให้ก่อนเลยถ้ามันเป็นพิษที่ออกฤทธิ์ช้า
มาวมาว ที่ค่อยๆ พยายามทำให้ตัวเองชินกับการทดลองพิษ เธออาจกลายเป็นคนที่ต้านทานพิษจำนวนมาก
นี่ไม่ใช่งานของหมอยาหรอก แต่มันงานที่เติมเต็มความปรารถนาของเธอเองล้วนๆ
ถ้าเป็นตอนนี้ละก็ เธอคงต้องถูกเรียกว่า ‘นักวิทยาศาสตร์สติไม่ดี’ แน่ๆ
ขนาดๆ พ่อของเธอที่สอนความสามารถทางการแพทย์กับเธอ ยังช็อกเลย
มันไม่มีการเปลี่ยนแปลงต่อร่างกายมาวมาวเลย เธอจึงมั่นใจว่ามันไม่มียาพิษที่เธอรู้จัก พระสนมเกียคุโยจึงเริ่มที่จะเสวย
ต่อไปคืออาหารทารกที่ไม่มีรสชาติเลย
“ฉันคิดว่าเปลี่ยนจานเป็นจานที่ทำมาจากเงินจะดีกว่านะ”
มาวมาวพูดกับหัวหน้าของเธอ หงเหนียน โดยไม่ใส่อารมณ์ใดๆ
เธอถูกเรียกมาที่ห้องของหงเหนียนเพื่อรายงานสถานการณ์ในวันนี้ มันเป็นห้องที่กว้างขวาง แต่ไม่มีเครื่องประดับอะไรที่จะบอกถึงบุคลิกของเธอ
คนสวยผมสีดำถอนหายใจแห้งๆ
“มันเป็นสิ่งที่ท่านจินชิบอกไว้น่ะ”
เธอสารภาพด้วยหน้าตาแบบแปลกใจว่าพวกเขาไม่ใช่เครื่องจานช้อนเงินอย่างมีจุดประสงค์
เพราะจินชิบอกให้ทำแบบนั้น
เหมือนกับว่าเขาเป็นคนที่สั่งให้เธอมาตรวจพิษด้วย
มาวมาวฟังหงเหนียนด้วยความเย็นชา ตอกกลับด้วยอารมณ์เสีย”
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าทำไมเธอต้องปิดบังความรู้ของเธอที่เกี่ยวกับยาพิษและยา ถ้าเธอบอกว่าเธออ่านอ่านเขียนได้เธอก็คงได้ค่าจ้างมากกว่านี้”
“เพราะฉันมีชีวิตอยู่อย่างหมอยา ถึงแม้ว่าฉันจะถูกลักพาตัวมา พวกนั้นก็ยังได้เงินแบ่งกัน คิดแล้วก็โมโห”
เธอพูดคำบางคำอย่างหยาบคายด้วยอารมณ์ร้อน แต่หัวหน้านางกำนัลก็ไม่ได้ว่าอะไร
“คือเธอจะบอกว่าถึงแม้ว่าเงินที่เธอได้ลดลง มันก็จะส่งไปเป็นค่าเหล้าของพวกนั้นสินะ”
ดูเหมือนว่านางกำนัลจะฉลาดพอที่จะเข้าใจเจตนาของมาวมาว
“ตามใจเธอเลย ถ้าเธอทำงานไม่ดี อีกหนึ่งปีเธอก็จะถูกเปลี่ยนคนแหละ”
เธอเห็นใจ แต่มันก็ไม่ใช่อะไรเธอจะต้องทำความเข้าใจ
หงเหนียนหยิบเหยือกมาจากโต๊ะแล้วส่งมันให้มาวมาว
“นี่คือ...”
ขณะที่มาวมาวกำลังจะถาม ความเจ็บก็วิ่งพล่านสู่มือ เธอทำเหยือกตกไปยังเตียง ทำให้เหยือกแตก
“โอ้ นี่มันค่อนข้างแพงมากเลยนะ เธอคงจ่ายมันด้วยเงินที่เธอได้จากการเป็นนางกำนัลไม่ได้หรอก เงินที่ส่งให้ครอบครัวก็คงไม่พอด้วย เธอก็คงต้องติดหนี้ไปอะนะ”
มาวมาวพูดไม่ออก เข้าใจสิ่งที่หงเหนียนพูด ยิ้มอย่างเหยียดหยาม
“ขอโทษค่ะ ถ้าหักออกจากที่ส่งจากบ้านทุกเดือนแล้วกัน ถ้ามันไม่พอละก็ก็เอาที่ฉันได้ไปด้วย”
“ฉันจะส่งไปบอกท่านอ๋องด้วยละกัน”
ฮงเหนียนหยิบเหยือกที่ตกลงไปแล้ววางไว้บนโต๊ะ และหยิบแผ่นไม้ออกมาจากลิ้นชัก ขยับพู่กันอย่างคล่องแคล่ว
“นี่คือลายละเอียดเกี่ยวกับเงินที่ได้จากการเป็นนักชิมยาพิษนะ เป็นค่าเสี่ยงอันตราย ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจละก็ ถามได้เลยนะ”
เงินที่ได้นั้นได้เกือบๆ เท่าๆ กับที่มาวมาวได้เลย ถ้าไม่รวมกับค่ายาพิษที่ได้เหมือนกับคอมมิชชั่น แปลว่ามาวมาวได้ผลกำไรมากขึ้น
(เธอนี่เจรจาเก่งจังเลยนะ)
เธอก้มหัวอย่างสุดๆ และออกจากห้องไป
คนแปล: ขอโทษที่ตอนก่อนๆ เขียนว่าขันทีผิดจริงๆ นะคะ ขออภัยจริงๆ ที่ไม่ได้ตรวจสอบให้ดีก่อนแปลค่ะ จะพยายามพัฒนาฝีมือแปลนะคะ -/\-