Reincarnation Of The Strongest Sword God ตอนที่ 9 – ศักดินับพัน
*ยศเปลี่ยนเป็นสมญานะครับ
Chapter 9 – ศักดินับพัน
แม้ว่าการโกหกของนักฆ่าเหล่านั้นจะทำให้ซือเฟิงโกรธ เขาต้องสงบสติอารมณ์ในการเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่รู้จักนี้
แม้กระทั่งสมาชิกของ Workshop น่าจะมีเหตุผลในการเห็นแก่ตัวของพวกเขาเอง แน่นอนพวกเขาจะซ่อนบางส่วนของการค้นพบที่สำคัญของพวกเขา, ความเงียบจะมอบอำนาจให้พวกเขาเหล่านั้นและทำให้เกิดโชคลา�
มีคนมากมายใน Workshop เป็นสมาชิกนอกหรือสมาชิกแกนกลาง หลังจากที่บางเวลา มีบางคนที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษที่จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นสถานะทางสังคมของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน ซือเฟิงก็หนึ่งในตัวอย่างเช่นกัน มิฉะนั้นเขาจะไม่สามารถเปลี่ยนจากสมาชิกหลักเป็นกัปตัน Workshop ได้ “พวกเขาบอกคนอื่นเฉพาะเรื่องที่ได้เห็นกล่องสมบัติเงินเร้นลับหลังจากได้ที่ได้เข้ามาหลังจากที่ได้เข้าไปในดินแดนที่สาบสูญและไม่ได้บอกอะไรอีกเลย แน่นอว่ามันจะต้องบางสิ่งที่สำคัญมากกับกล่องสมบัติเงินเร้นลับ และมันก็คือเควสลับนี้?” ซือเฟิงเรียกหน้าปัดระบบเควสออกมา เควสลับแห่งดินแดนที่สาบสูญ – “อดีตอันรุ่งโรจน์”
นอกเหนือจากชื่อก็ไม่มีข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับเควส ซือเฟิงไม่รู้ว่าเขาจะต้องทำอะไร
“มันเป็นเควสที่เปิดใช้งานในพื้นที่?” ด้วยประสบการณ์สิบปีใน God’s Domain ของเขา ซือเฟิงได้ค้นพบสาระสำคัญของเควสลับอย่างรวดเร็ว
มีเควสบางอันที่มีลักษณะพิเศษใน God’s Domain พวกนี้จะถูกกระตุ้นเฉพาะในบางพื้นที่เท่านั้น ไม่เพียงแค่นั้น เควสเหล่านี้ไม่ได้ให้ข้อมูลใดๆเลย ผู้เล่นต้องค้นหาด้วยตัวของพวกเขาเอง หลังจากเควสเสร็จสิ้น มันก็จะไม่ถูกเปิดใช้งานอีกต่อไป แม้ว่าผู้เล่นคนอื่นจะมาถึงที่แห่งนี้ สามารถเรียกได้ว่าเป็น Unique Quest ประเภทพิเศษ ในเวลาเดียวกัน มันเป็นเควสที่เต็มไปด้วยอันตรายมาก
การค้นหาวิธีการทำเควสให้เสร็จสิ้นในภูมิภาคที่ไม่รู้จักมันยังหมายถึงการจัดการกับมอนสเตอร์ที่ไม่รู้จักในภูมิภาค สำหรับเควสพิเศษเช่น, มอนสเตอร์ของภูมิภาคนี้ปกติหลายตัวจะเลเวลสูงกว่าเมื่อเทียบกับสภาพแวดล้อมปกติ โดยปกติ ผู้เล่นจะไม่มีโอกาสในการทำเควสให้เสร็จสิ้น มีนักฆ่า 6 คนเลเวลมากกว่า 20 ที่มายังที่นี่เมื่อครั้งที่แล้ว เควสได้รับการกระตุ้นในภูมิภาคนี้ด้วยมอนสเตอร์เลเวล 5 ดังนั้นนักฆ่าจึงทำเควสได้สำเร็จ “ไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้ ตั้งแต่ที่ฉันไม่สามารถออกไปได้ ฉันควรจะมองไปรอบๆก่อนดีกว่า ที่เลวร้ายที่สุดฉันจะตายและถูกส่งกลับไปที่เมือง” ซือเฟิงก้าวไปข้างหน้าด้วยก้าวใหญ่ขณะที่คิดถึงมันตลอด จากนั้นสักครู่หลังจากเดินผ่านหมอก ร่างที่เป็นด่างพร่ามัวเกิดขึ้นข้างหน้าซือเฟิง
มันเป็นเมือง เมืองที่ถูกทิ้งร้างมานานแล้ว รอบๆมีบ้านที่ถูกทำลาย พิจารณาจากขนาดของเมืองและความงดงามของอาคาร ดูเหมือนเมืองนี้เคยรุ่งเรือง แม้กระทั่งมันยิ่งเจริญรุ่งเรืองและสดใสกว่าเมืองไวท์ริเวอร์ อย่างไรก็ตามเมืองแห่ง 'ความเฟื่องฟู' นี้ไม่มีแม้แต่เงาของคนเลย ซือเฟิงเดินเข้ามาในเมืองอย่างเงียบๆ เขาสังเกตเห็นสภาพแวดล้อมขณะที่กำลังมองหาเบาะแสเกี่ยวกับเควสของเขา
มองผ่านเมืองที่อาจพอดีกับหลายล้านคนก็เหมือนกับการมองหาเข็มในกองหญ้า
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว หลังจากค้นหาผ่านถนนหลายสิบและหลายร้อยบ้าน ซือเฟิงยังคงค้นหาคำใบ้เดียวกับเควสของเขา ในช่วงที่ God’s Domain พึ่งเปิดให้เล่น มันก้เป็นเวลาที่ดีที่สุดในการเพิ่มช่องว่างให้กว้างกว่ากับผู้อื่น แต่ซือเฟิงเสียเวลาไปสำรวจสถานที่แห่งนี้ มีผู้เล่นมากมายที่ได้มาถึงเลเวล 1 แล้ว แต่ซือเฟิงยังคงหยุดชะงักที่ 34% ของเลเวล 2
ซือเฟิงลังเลใจ เขาควรมองหาเงื่อนงำของเควสต่อหรือไม่? หรือเขาควรจะให้ตัวเองจบที่นี่และฟื้นขึ้นมาที่เมือง?
“ฉันจะมองหาอีกหนึ่งชั่วโมง ถ้ายังไม่ดีแล้วฉันจะกลับไปที่เมือง” ซือเฟิงวางกำหนดระยะเวลาให้กับตัวเอง แม้ว่าเควสเหล่านี้จะมีค่า เขาไม่ได้มีเวลามากที่จะมาเสียกับมัน เขายังคงมีเควสมากมายที่เขาสามารถทำได้ มันไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปในที่นี้
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆทีละนิดละน้อย
ซือเฟิงได้มาถึงหอคอยกลางเมือง สถานที่แห่งนี้เคยเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับผู้วิเศษ มันเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการเรียนรู้เวทมนตร์ แต่ตอนนี้ อย่างไรก็ตามมันถูกทำลายอย่างไม่สามารถแก้ไขได้ แม้แต่คริสตัลเวทย์มนต์ที่ยอดของหอคอยก็แตกเป็นเสี่ยงๆ
ซือเฟิงเดินขึ้นไปบนหอคอย เขายืนอยู่ในหอสังเกตการณ์ของหอคอย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยทัศนียภาพของเมือง ซือเฟิงชิมอาหารตาอย่างช้าๆไม่ได้เร่งรีบแต่อย่างใด
หลังจากดูรอบๆ เขาก็ยังไม่พบสถานที่พิเศษใดๆ
เช่นเดียวกับที่ซือเฟิงกำลังจะออกไป “นักผจญภัยหนุ่มน้อย ยินดีต้อนรับเข้าสู่เมืองลอยฟ้า”
ชายชราที่มีเคราขาวก็ปรากฏตัวขึ้น เสียงของชายชราเต็มไปด้วยความผันผวนและภูมิปัญญา การปรากฏตัวฉับพลันของชายชรา ซือเฟิงตกใจแล้วก็กระโดด เขาเคยคิดว่าชายชรานั้นเป็นมอนสเตอร์บางตัวที่ปรากฏตัว อย่างไรก็ตามเขาปล่อยให้ลมหายใจออกมาหลวมๆหลังจากสังเกตเห็นตัวบ่งชี้สีเหลืองเหนือชายชรา
เมืองลอยฟ้า?
ซือเฟิงตกใจเมื่อคิดถึงเมืองที่มีชื่อเสียงแห่งนี้ของ God's Domain
เมืองลอยฟ้า ชื่อของเมืองนี้เคยสั่นสะเทือนทั้งทวีปของ God’s Domain มีอาชีพในตำนานนับไม่ถ้วนในเมืองแห่งนี้ แม้แต่เดมิก็อดผู้โดงดังยกระดับเป็นนักบุญแห่งดาบ อุลเทียร์(Ultear) เป็นเมืองที่แม้แต่ตัวของพระเจ้าเองก็กลัว ช่วงน่าเสียดายที่เมืองแห่งนี้ได้ตกลงในช่วงเวลาแห่งสงครามของพระเจ้าครั้งที่สาม มันกลายเป็นความเสียใจของ God’s Domain
“ผู้อาวุโสที่เคารพ มีอะไรที่ผมสามารถช่วยเหลือคุณได้หรือไม่” ซือเฟิงยิ้มและถามด้วยเสียงอย่างเป็นทางการ
“ช่วยเหลือ?” ชายชราเคราขาวส่ายหัวของเขา เขาพูดขณะที่ยิ้ม “ไม่ ข้าไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือใดๆ ข้าคิดว่าเจ้าต้องการที่จะแข็งแรงขึ้น ข้าสามารถช่วยเจ้าได้ แต่เจ้ายินดีที่จะยอมรับการทดสอบของข้าหรือไม่?”
“แน่นอน ผมยินดีที่จะรับการทดสอบของคุณ” ซือเฟิงรู้สึกโล่งใจ มันคือลู่ทางไปสู่เควส อดีตอันรุ่งเรืองอยู่ที่นี่แล้ว เขาไม่จำเป็นต้องตายเพื่อจะกลับไปที่เมือง สูญเสียทั้งเลเวลและ SP ผู้เฒ่าพยักหน้ารับความพึงพอใจและพูดอย่างสุภาพ “ข้าจะมอบทางเลือกให้เจ้า ตัวเลือกแรกคืออุปสรรคปกติ หลังจากผ่านพ้นไปแล้วเจ้าจะได้รับหีบสมบัติเหล็กลี้ลับ ตัวเลือกที่สองเป็นอุปสรรคแบบยากเป็นที่เจ้าจะได้รับหีบสมบัติเงินเร้นลับ นอกจากนี้ เจ้าจะได้รับรางวัลเพิ่มขึ้นอยู่กับอัตราความสำเร็จของเจ้า ตัวเลือกที่สามคืออุปสรรคนรก ที่ซึ่งคุณจะได้รับรางวัลหีบสมบัติทองวิจิตร นอกจากนี้เจ้ายังจะได้รับรางวัลเพิ่มขึ้นอยู่กับอัตราความสำเร็จของเจ้า”
“นักผจญภัยหนุ่มน้อย ทางเลือกไหนกันที่เจ้าเลือก?”
สามทางเลือก ทุกข้อที่ยากกว่าข้ออื่นมันจะมีสิ่งล่อตาล่อใจมากกว่าข้ออื่น นักฆ่า 6 คนที่เลเวลมากกว่า 20 เลือกอุปสรรคแบบยาก พวกเขากลับมาพร้อมกับหีบสมบัติเงินเร้นลับแต่เลือกที่จะซ่อนรางวัลเพิ่มเติมไว้ นั่นหมายความว่ารางวัลเพิ่มเติมนั้นยิ่งดีไปกว่าหีบสมบัติเงินเร้นลับ หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซือเฟิงตัดสินใจที่จะท้าทายอย่างกล้าหาญ บุคคลที่กลับมาเกิดใหม่ควรมีความกล้าหาญ
“ผู้อาวุโสที่เคารพ ผมเลือกอุปสรรคนรก” ซือเฟิงมั่นใจว่าสามารถจัดการกับอุปสรรคนี้ได้ ถ้าเขาสามารถทำมันได้สำเร็จ แล้วมันจะมีผลดีต่อการพัฒนาในอนาคตของเขา “ฮ่าฮ่าฮ่า! คนหนุ่มสาวมั่นใจว่าเต็มไปด้วยพลัง! ข้าชื่นชมเจ้าอย่างแท้จริง แต่จงอย่างเสียใจกับการเลือกของเจ้า” ผู้เม่าหายไปหลังจากหัวเราะอย่างอบอุ่นหัวใจ
ระบบ: เควส “อดีตอันรุ่งโรจน์” ได้รับการยอมรับ เผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ 1000 ตัวที่มีเลเวลเดียวกัน ถือว่าผ่านหลังจากฆ่ามอนสเตอร์ 500 ตัว กำหนดจำกัดเวลา 4 ชั่วโมง บทลงโทษหากเควสล้มเหลว – ลดคุณสมบัติทั้งหมดลง 10 แต้ม
คุณสมบัติถือว่าเป็นแก่นแท้แห่งอาชีพ ถ้าหากคุณสมบัติทั้งหมดของซือเฟิงลดไป 10 แต้ม อย่างที่สุดเขาก็คงเป็นคนพิการ
“บทลงโทษนี้แน่นอนว่าโหดเหี้ยม” หนังศรีษะของซือเฟิงรู้สึกด้านชา ขณะที่เขามองไปที่นักรบอสุรหายนับไม่ถ้วนที่ปรากฏอยู่ใต้หอคอย
เริ่มนับถอยหลัง มีเวลาเหลืออยู่ห้าวินาทีก่อนที่มอนสเตอร์จะโจมตี
[นักรบอสุรกาย](มอนสเตอร์ปกติ)
เลเวล 2
HP 230
การต่อสู้กับหนึ่งในนั้นอาจทำได้ง่าย แต่ต่อสู้กับมหาสมุทรของพวกมัน แม้กระนั้นแม้ซือเฟิงจะเริ่มตื่นตระหนก การวิ่งเข้าไปเป็นการฆ่าตัวตายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซือเฟิงจะกลายเป็นถูกล้อมและถูกฆ่าตายอย่างรวดเร็ว ทางเลือกเดียวคือการต่อสู้กับมอนสเตอร์ทีละตัว ซือเฟิงมีประสบการณ์มากมายในการต่อสู้ เขารีบวิ่งลงมาจากหอคอยและยืนอยู่ที่บันได
บันไดอนุญาตให้มอนสเตอร์สองตัวผ่านไปได้ในแต่ละครั้ง ดังนั้นจึงเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการโจมตี ซือเฟิงจะสามารถเคลียร์เควสนี้ได้ตราบใดที่เขาเฝ้าบันได
เมื่อห้าวินาทีขึ้น, นักรบอสุรกายทุกตัววิ่งเข้ามายังหอคอยด้วยการปล่อยความดุร้ายป่าเถื่อน อย่างไรก็ตามบันไดแคบเกินไป เป็นผลให้พวกมันกำลังบล็อกตัวอื่น ซือเฟิงต้องเผชิญหน้ากับนักรบอสุรกาย 2 ตัวต่อครั้งเท่านั้น เกี่ยวกับการโจมตีของนักรบ ซือเฟิงสามารถหลบพวกมันได้อย่างง่ายดาย
แสงอสนีบาตคำราม! สับ!
สามริ้วแสงของดาบไขว้กันเปล่งประกายออกมา สร้างความเสียหายสูงถึง 60 ไปยังนักรบอสุรกายทั้งหมดทันที ภายในพื้นที่สอง – สิบหลา สับที่ตามมาได้สร้างความเสียหาย 33
ภายในทันที นักอสุรกายตัวแรกมีเพียง HP เหลือเพียงครึ่งนึงเท่านั้น ในขณะที่หลายสิบตัวอื่นๆ ที่อยู่เบื้องหลังได้สูญเสียหนึ่งในสี่ของ HP ของพวกมัน
ก่อนหน้านี้ ซือเฟิงต้องเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์เลเวลสูงที่มีพลังป้องกันที่สูงมาก ผลกระทบของแสงอสนีบาตคำรามและสับลดลงอย่างมาก
ตอนนี้ ซือเฟิงกำลังเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์อยู่ในเลเวลเดียวกัน แสงอสนีบาตคำรามจะแสดงฤทธิ์ที่ทรงพลังของสกิลความเสียหายแบบ AOE ได้
ด้วยความสามารถในการเพิ่มความเสียหายของแสงอสนีบาตคำราม ซือเฟิงต้องการการโจมตีเพียง 5 ครั้งจากดาบของเขาเพื่อจบการต่อสู้กับนักรบอสุรกายตัวแรก
เพื่อเพิ่มความเร็วในการสังหารของเขา ซือเฟิงเปิดใช้งานการปลดปล่อยแรงโน้มถ่วงเพื่อเพิ่มความเร็วในการโจมตีของเขา
ควบคู่กับเพิ่มความเสียหาย นักรบแต่ละคนต้องใช้เวลาเพียงสามวินาทีในการจัดการเท่านั้น
แต่น่าเสียดายที่นักรบอสุรการไม่ให้ค่าประสบการณ์ใดๆ แต่ทักษะความเชี่ยวชาญมีโอกาส 100% เพิ่มขึ้น 1 แต้ม
ทุกๆการตายของนักอสุรกาย SP ของซือเฟิงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซือเฟิงเริ่มมีความสุขหลังจากได้เห็นภาพดังกล่าว
NPC ผู้เฒ่าอาจไม่จิตนการได้ว่าเป็นนักดาบ เลเวล 2 จะมีทักษะ AOE ที่ทรงพลังดังกล่าว ด้วยสกิลดังกล่าว ซือเฟิงนั้นกลัวกลยุทธ์ฝูงชนน้อยที่สุด ซือเฟิงสามารถหลบการโจมตีได้อย่างง่ายดายในสถานการณ์ 1 ปะทะ 2
ผู้เล่นคนอื่นอาจล้มเหลวในเควสแบบนี้ แต่ซือเฟิงก็สามารถทำมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
หลังจากสองชั่วโมงผ่านไปแล้ว แสงอสนีบาตคำรามก็ไปถึงเลเวล 2 หลังจาก SP เพิ่มขึ้น 300 แต้ม ความเสียหายของสกิลเพิ่มขึ้นจาก 130% เป็น 135% และคูลดาวน์ลดลงจาก 30 วินาทีเป็น 28 วินาที
SP ของ Chop ก็ยังเพิ่มขึ้นเป็น 426/600 มันจะขึ้นไปถึงเลเวล 3 หลังจากได้เพิ่มอีกหน่อย ความเร็วในการฟาร์มมอนสเตอร์ของซือเฟิงเพิ่มขึ้นอีกครั้งหลังจากแสงอสนีบาตตคำรามถึงเลเวล 2 นักรบอสุรกายล้มไปเป็นชุด เมื่อมีนักรบเหลือเพียง 20 คนเท่านั้น ยังมีเวลาเหลืออีกหนึ่งชั่วโมงครึ่งสำหรับเควส ด้วยการมช้อสนีบาตคำรามกับตัวอื่นๆ นักรับอสุรกายที่เหลือ 20 คนสุดท้ายก็ล้มลงไปเช่นกัน
“ไม่เลว. นี่คือรางวัลของคุณเจ้าหนู” ผู้เฒ่ามาอีกครั้งด้วยอาการหัวเราะ เมื่อมองไปที่ซือเฟิง ผู้เฒ่าได้เอาหีบสมบัติทองวิจิตรและดาบยาวสีดำ
ระบบ: เควส “อดีตอันรุ่งโรจน์” เสร็จสิ้น ของรางวัล 1 กล่องสมบัติทองวิจิตร 1 อาวุธเวทย์มนต์(อาชีพที่เกี่ยวข้อง) ได้รับสมญา “ศักดินับพัน”
[ศักดินับพับ](สมญา)
เมื่อใช้สมญานี้ พันธมิตรในรัศมี 30 หลาจะได้รับการเพิ่มคุณสมบัติ 10% ผู้ใช้ที่มีสมญาจะได้รับ ความแข็งแรง+5 และ ความอดทน+5 เพิ่มขึ้น
“ข้าให้รางวัลแก่เจ้าแล้ว ตอนี้เจ้าไปได้แล้ว” ผู้เฒ่าโบกมือของเขาหลังจากให้รางวัลเสร็จ
วิสัยทัศน์ซือเฟิงเบลอ เมื่อเขาลืมตาขึ้นเขาก็กลับมาที่ลานจัตุรัสของย่านใบสีแดง
ดิ! ดิ! ดิ!
ระบบการสื่อสารของซือเฟิงดังอย่างต่อเนื่อง แบล็คกี้กำลังติดต่อเขาอยู่
“พี่ชายเฟิง ในที่สุดพี่ก็รับสาย ทำไมผมไม่สามารถติดต่อพี่ได้ก่อนหน้านี้? ตอนนี้ผมควรทำอะไรดี? เลเวลของผมตามหลังคนอื่นอยู่” แบล็คกี้ตื่นตกใจมาก อย่างไรก็ตามเขายังคงอดทนถามเพราะเขาเชื่อในซือเฟิง
เขาเสียเวลาไปเจ็ดชั่วโมงเพื่อมายังย่านใบสีแดง ขณะที่เขายังอยู่ในเลเวล 0, แต่ผู้เล่นที่เต็มไปตามถนนอยู่ในเลเวล 1 กันแล้ว
เขาควรทำอย่างไรเพื่อชดเชยช่องว่างนี้? ตอนนี้ไม่มีใครอยากให้เขามาปาร์ตี้ ข้อกำหนดขั้นต่ำคือเลเวล 1 มือใหม่ เลเวล0 เช่นเขาจะถูกผลักออกไป
“ฉันไม่ดีเอง ฉันกำลังทำเควสจนมาถึงจัตุรัสกลาง ฉันจะพานายไปกับฉันสู่เลเวล” ซือเฟิงขอโทษ
ตอนนี้มันใช้เวลามากกว่า 8 ชั่วโมงนับตั้งแต่ God’s Domain เปิดให้บริการ และซือเฟิงใช้เวลามากกว่า 5 ชั่วโมงในการทำเควสของเขา ในช่วงนี้ผู้เล่นส่วนใหญ่ได้พุ่งขึ้นสู่เลเวล 1 แล้ว ขณะที่ผู้เล่นมืออาชีพบางคนใกล้เคียงกับเลเวล 2 แล้ว
ในการเป็นคนที่ได้กลับมาเกิดใหม่ ช่วยให้เพิ่มเลเวลแบล็คกี้เป็นเรื่องง่าย มันจะใช้เวลาไม่นานก่อนที่แบล็คกี้จะไปถึงระดับผู้เล่นมืออาชีพได้