บทที่ 1 เหมาเหมา
Monologue ของหมอยา (Kusuriya no Hitorigoto)
ลงวันละตอนนะครับ ติดตามเพิ่มเติมได้ที่
แฟนเพจ : https://www.facebook.com/karbikon/
.
.
'ฉันอยากจะกินคุชิยากิกลางแจ้งจัง...'
[*คุชิยากิ คือ เนื้อปิ้งเสียบไม้และผัก]
เหมาเหมาถอนหายใจ มองไปยังท้องฟ้าที่เมฆฝนเริ่มก่อตัว ในขณะที่
รอบๆ ตัวของเธอเป็นโลกที่สวยที่สุดเท่าที่เธอเคยเจอมา ในขณะที่มือเธอถือตระกร้าผ้า
'นี่มันสามเดือนแล้วเหรอนี่? สงสัยจังว่าพ่อกำลังกินอะไรนะ'
ก่อนหน้านี้ ระหว่างที่เธอกำลังหาผักอยู่ในป่า ก็เจอกับคนในหมู่บ้านแถวนั้นที่ชื่อว่า อิ จิ นิ ซัง ลักพาตัวมา
(*อิ จิ นิ ประมาณว่า คุณหนึ่ง คุณสอง คุณสาม ใช้เรียกพวกตัวประกอบ)
ช่างเป็นกิจกรรมที่น่ารำคาญเสียจริงๆ พูดง่ายๆ คือ การตามล่าหาคนเข้าวังเพื่อใช้งานเนี่ย
ก็นะ ก็มันได้เงิน นอกจากนี้แค่ทำงานอีกสองปีก็ได้กลับบ้านด้วย เป็นสถานที่ทำงานที่ก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับคนด้วยละ ตอนที่เคยเป็นหมอยาการคุยกับคนอื่นก็เป็นเรื่องน่ารำคาญอยู่
คนลักพาตัวนี่ จับสาวอายุนัอยๆ มาขายขันธีเพื่อจ่ายค่าเหล้า นอกจากนี้ก็เพื่อทดแทนลูกสาวของตัวเองด้วย แต่อย่างไรก็ตาม เหมาเหมาก็โดนจับเข้ามาพัวพันอยู่ดี
แต่ถ้าไม่ใช่เพราะแบบนี้ ก็คงไม่มีโอกาสได้ยุ่งเกี่ยวกับคนในวังแน่ๆ
สาวในวัง ใส่ชุดสวยๆ อัดไปด้วยเครื่องสำอางและน้ำหอม มียิ้มอ่อนๆ บนปากของพวกเธอเสมอ
ทำให้หมอยาอย่างเธอต้องมาคิดว่า รอยยิ้มของสาวสวยพวกนั้นเป็นยาพิษที่อันตรายหรือไม่
วังหลวงและหอนางห่างจากที่ที่เธออยู่ไม่ต่างกันมากเท่าไหร่
เธอขนตะกร้าผ้าของเธอ มุ่งหน้าไปยังด้านในของตึก ที่ต่าง
จากข้างนอก คือมีห้องโถงที่แห้งเหือดไม่มีสีสัน ซึ่งมีหินที่ให้กรอกน้ำวางอยู่ ทั้งผู้หญิง ผู้ชายต่างก็ซักผ้ากันอย่างแข็งขัน
วังด้านในนั้นผู้ชายเข้าไม่ได้ มีแค่บุคคลสำคัญหรือราชวงศ์ หรือไม่ก็คนที่สูญเสียสิ่งสำคัญไปจะเข้าได้ แน่นอนว่าคนที่จะทำงานที่นั้นก็ก็ตัองทำแบบอย่างหลัง
ระหว่างที่คิดว่ามันบิดแล้ว เหมาเหมาก็คิดว่ามันทำไปเพราะผลประโยชน์หรือเปล่านะ
เธอวางตะกร้าลง มองไปยังตระกร้าที่วางเรียงรายไปตามพื้นใกล้ๆ อาคาร ไม่ใช่ว่ามันสกปรก แต่มันวางไว้เพื่อรอแสงอาทิตย์
เธอมองไปยังป้ายไม้ที่แปะอยู่บนตะกร้าที่วาดพืชและตัวเลขบนนั้น
คนใช้ในวังนี้อ่านตัวหนังสือไม่ออกก็มี เพราะเป็นหญิงที่ถูกลักพาตัวมา แต่ก่อนที่จะพาเข้ามานั่งวังก็ต้องสอนมารยาทเล็กๆ น้อย แต่ตัวอักษรก็ยากไป เพราะคนที่เป็นนางในนี้ครึ่งหนึ่งเคยอยู่ในชนบทมาก่อน
ถ้าจะพูดถึงความอึดอัดในภายในราชวังแล้วก็ค่อนข้างมาก เพราะจำนวนมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้ว่ามันจะนับไม่ได้กับสวนดอกไม้ของจักรพรรดิองค์ก่อน ตอนนี้นั้น ครอบครัวใหญ่นี้ประกอบไปด้วยคนใช้และนางในสองพันคน และขันธีอีกสามพันคน
ภายในนี้ เหมาเหมาเป็นคนใช้ที่ต่ำที่สุด ที่ไม่ได้รับแม้กระทั่งสวัสดิการและยังและโดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่มีผู้หนุนหลัง ที่ได้มาจากการที่คนถูกลักพาตัวมารวมกันเยอะๆ ก็นะ ถ้าเธอมีหน้าอกแบบดอกพีโอนี ผิวขาวเหมือนพระจันทร์เต็มดวง เธอก็อาจจะไม่ต้องเป็นคนใช้ชั้นต่ำสุดแบบนี้ก็ได้ ที่เหมาๆ มีนั้นคือผิวใสที่มีกระบนใบหน้า กับมือเท้าที่เหมือนกิ่งไม้ที่ตายแล้ว
(รีบๆ ทำงานนี้ให้เสร็จดีกว่า)
เมื่อหาตะกร้าที่มีดอกพลัม และคำว่า “หนึ่ง-เจ็ด” เขียนไว้บนนั้น เธอก็รีบเพิ่มความเร็วเพื่อที่จะกลับห้องก่อนที่ท้องฟ้าหม่นๆ นี้จะเริ่มร้องไห้
เจ้าของตระกร้าซักผ้าที่เป็นนางกำนัลชั้นล่างนั้น เมื่อเปรียบเทียบกับนางสนมชั้นล่างแล้ว ห้องส่วนตัวของเธอจะสวยกว่าแต่หรูหรามากเกินไป เพื่อที่จะให้รู้ว่าเจ้าของห้องนั้นเป็นลูกคนรวย ก็เป็นไปได้ว่าจะมีคนใช้ด้วย ในชั้นล่างนี้มีคนใช้ได้สองคนอย่างมาก แต่คนใช้อย่างเหมาเหมานั้นไม่มีเจ้านายที่จะต้องเสิร์ฟและซักผ้าให้อย่างที่เธอทำอยู่ตอนนี้
นางสนมชั้นล่างนี้ได้รับอนุญาตให้มีห้องส่วนตัวในวังด้านใน แต่ว่านั้นก็อยู่ในมุมของพื้นวังซึ่งยากที่จะถูกจักรพรรดิจับตามอง ถึงอย่างนั้น ถ้านางสนมถูกเรียกใช้ให้ไปนอนด้วยแม้ครั้งเดียวก็จะได้เปลี่ยนห้อง ถ้าถูกเรียกอีกครั้งหนึ่งก็แปลว่าได้เลื่อนขั้นแล้ว
ในอีกมุมหนึ่ง นางสนมที่ผ่าน วัยที่เหมาะสมมาแล้วโดยที่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย และครอบครัวไม่ได้มีอำนาจทางการเมือง ก็จะทำให้ชั้นต่ำไปอีก และยิ่งไปกว่านั้นก็อาจจะถูกเอาไปให้คนอื่นแทน แต่ก็นั่นแหละ ความโชคร้ายแบบนั้นก็ขึ้นอยู่กับบุคคลด้วย การที่ถูกกลายเป็นของกำนัลของขันธีเป็นความกลัวของนางสนมเป็นอย่างมาก
เหมาเหมาเคาะประตูเบาๆ
“วางไว้ตรงนั้นเลย”
สาวใช้เปิดประตูและตอบอย่างเรียบๆ และในห้องนั้น มีนางสนมกับกลิ่นหวานๆ ที่โชยมาจากแก้วไวน์
ก่อนที่จะเข้าไปยังวังด้านใน เธอถูกบอกว่าให้ทำตัวให้สวยๆ แต่เธอก็ไม่สนใจ หลังจากที่ถูกครอบงำโดยดอกไม้ที่สวยงามและเตะจมูกมาก เธอก็ไม่ได้รีบออกจากห้องนั้นในทันที
(ถ้าเธออยู่ในห้องนั้น จะไม่มีใครมาหาเธอนะ)
เหมาเหมารับผ้ามาตากห้องข้างๆ และกลับไปที่ซักผ้า
ยังมีงานมากมายที่เหลืออยู่
ไม่ใช่ว่าเธอชอบหรอก แต่เธอวางแผนจะทำงานเพื่อจะได้เงิน
ขยันเป็นธรรมชาติ นั่นแหละคืออดีตหมอยาเหมาเหมา
ถ้าทำงานอย่างเป็นผู้ใหญ่แล้วก็อาจจะออกไปก็ได้
แต่ไม่มีทางแน่ๆ ที่จะเป็นได้เป็นนางสนม
แต่มันก็น่าเสียดายที่จะบอกได้ว่าความคิดของเหมาเหมานั้นมองโลกแง่ดีเกินไป
ไม่มีใครรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น นี่แหละชีวิต
เธอมองการไกลได้ดีกว่าเด็กหญิงอายุ 17 ปี ทั่วไป แต่ก็ยังมีอะไรบางอย่างที่เธอห้ามไม่ได้
ความอยากรู้อยากเห็นและความหื่นกระหายในความรู้
และ เซ็นส์ของความยุติธรรมเล็กน้อย
ในอีกสองวันต่อมา เหมาเหมาได้รู้ความจริงประหลาดๆ
การตายต่อเนื่องของทารกในวังใน หรือที่เรียกว่า คำสาบต่อเนื่องของครอบครัวนางสนม แต่สำหรับเหมาเหมาแล้ว มันแปลกประหลาด แต่ก็เป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับเธอ