ตอนที่ 89: การประมูล (2)
เขารู้สึกเหมือนกับที่เวลาอ่านสูตรของยารับรู้ ตัวสูตรเองไม่มีความลับแต่มันเป็นการเตรียมรูนและคำพูดที่ทำให้แองเจเล่รู้สึกเหมือนสูตรเหล่านี้มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ
ความรู้สึกแปลกๆเกิดขึ้นเมื่อแองเจเล่อ่านสูตรด้วยสายตาของเขาและเขาไม่รู้สึกอะไรขณะที่ตรวจสอบในคลังข้อมูลของชิป
เขาเริ่มอ่านสูตรไปสักพักหนึ่งแต่ไม่สามารถสรุปได้ เขาวางสูตรกลับเข้าไปในชั้น เขาใช้อนุภาคพลังงานเชิงลบใส่หนังสือดังนั้นจึงมีพ่อมดเท่านั้นจึงสามารถเปิดมันได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ
'สถานที่นี้ไม่ปลอดภัยพอและข้าอาจจะต้องหาที่อยู่ใหม่ ข้ายังสามารถใช้ร้านที่นี่ได้เพื่อขายยาที่ข้าสร้างขึ้นและทำเงินได้ดี'
ร้านค่อนข้างเงียบและดีแต่แองเจเล่คิดว่าความปลอดภัยเป็นประเด็นสำคัญ นอกจากนี้เขายังมีอุปกรณ์และวัสดุอื่นๆอีกมากมายที่ต้องการพื้นที่ขนาดใหญ่
ชั้นหนังสือสีน้ำตาลสองชั้น หนังสือทั้งหมดอยู่ในชั้นแรกและมีกล่องสองกล่องอยู่ที่ชั้นที่สอง มีไข่มุกแดงที่แองเจเล่ได้รับผ่านภารกิจของโรงเรียน เขาเอากล่องขนาดใหญ่สีดำออกมาหนึ่งกล่องจากชั้น มันมีลายแปลกๆและรูนบนพื้นผิวของมัน
แองเจเล่เปิดกล่องอย่างระมัดระวัง มีหัวใจกำลังเต้นสองชิ้นอยู่ข้างในและหัวใจที่แปลกประหลาดนี้เรืองแสงเนื่องจากเปลวไฟสีเขียวทั้งหมดกระจายออกมา
"หัวใจของช้างเรืองแสง.....ข้าสามารถทำให้มันกลายเป็นอุปกรณ์เวทมนต์ได้แต่ข้ารู้สึกว่ามันสิ้นเปลือง ข้าไม่คิดว่าข้าจะค้นหาอะไรที่เหมือนเช่นนี้ได้อีกครั้ง" แองเจเล่พึมพำ "ถ้าข้ามีข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดแล้วข้าควรสามารถใช้พวกมันเป็นแกนของบริวารของข้า"
แองเจเล่ส่ายหัวและคว้าหัวใจทั้งสองชิ้นขึ้นมา
'ซีโร่ เจ้ามีแผนที่ดีกว่าการที่ทำให้พวกมันเป็นอุปกรณ์เวทมนต์หรือไม่' เขาถาม
[กำลังวิเคราะห์.....
แผนที่หนึ่ง: อุปกรณ์เวทมนต์ระดับต่ำ
แผนที่สอง: อุปกรณ์เวทมนต์ครั้งเดียว]
'อุปกรณ์เวทมนต์ครั้งเดียว......ข้าไม่เคยคิดเลย พวกมันทรงพลังมากไหม' แองเจเล่ถาม
[มันจะมีพลังมากขึ้นถึง 12.7 เท่าจากอุปกรณ์เวทมนต์ระดับต่ำ]
แองเจเล่หรี่ตา 'ข้าจะทำให้มันเป็นอุปกรณ์เวทมนต์ระดับต่ำก่อน ถ้าข้าประสบความสำเร็จในครั้งแรกข้าก็สามารถลอง......'
[ภารกิจถูกสร้างขึ้น เวลาที่ต้องการ: 7.12 วัน พลังงานที่ใช้: 11.4 ความสามารถทางจิตที่ใช้: 9]
*****************
สิบวันต่อมา.....
เวลากลางคืน
มีรถม้าเต็มไปหมดจอดอยู่หน้าตลาดประมูลมินโคล่าของเมืองเลนน่อนและมีขุนนางหลายคนเข้าไปในตลาดประมูล
มีนักดาบเกราะหนักสองคนกำลังเฝ้าทางเข้าออกของตลาด ทหารยามคนอื่นๆที่อยู่ข้างๆได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีและกำลังโค้งให้ลูกค้าที่เข้าทางประตู
รถม้าสีขาวค่อยๆหยุดลงข้างถนนแต่ไม่ได้เข้าลานจอด ผู้ชายที่มีใบหน้าสวยเปิดประตูและออกมาจากรถม้า เขาสวมชุดสีดำพร้อมกับห่วงโซ่สีเงินที่ตกแต่งตรงด้านขวาของหน้าอก เขาดูอ่อนโยนและสงบ
มีผู้ชายอีกคนที่มีผมสีน้ำตาลสั้นออกมาจากรถม้าด้วย เขาสวมชุดสีขาวแน่นๆและมันดูเหมือนเขากำลังแสดงกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งของเขา ผู้ชายคนนี้จ้องมองไปรอบๆฝูงชนและคนอื่นๆก็กำลังพยายามหลีกเลี่ยงสายตาของเขา พวกเขารู้สึกอึดอัดเพียงแค่มองไปที่ชายคนนี้ สัญชาตญาณของพวกเขากำลังบอกว่าเขาเป็นคนอันตราย
"ไทนอส ข้าอยู่ตรงกลางของการทดลองที่สำคัญและเรื่องเร่งด่วนที่เจ้ากล่าวถึงคือการประมูลงั้นหรือ"
แองเจเล่รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขาหยุดมองไปรอบๆและจ้องไปที่ไทนอส
"เจ้ารู้ไหมว่าเราพลาดการประมูลครั้งที่ผ่านมาไปเนื่องจากอาการบาดเจ็บของข้าแต่เราต้องไม่พลาดครั้งนี้" ไทนอสยิ้ม "แองเจเล่พี่ของข้าได้จัดการพวกสายลับจากงูทรายป่าในเมืองแล้วและตระกูลของพวกมันกำลังจะถูกประมูลที่นี่ คนเหล่านี้รวยและมีของสะสมมากมาย ข้าคิดว่าบางอย่างอาจมีค่าสำหรับเจ้าดังนั้นข้าจึงขอให้เจ้ามา วันนี้เป็นวันเดียวที่เจ้าสามารถเสนอราคาได้ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องเร่งด่วนจริงๆ"
เขามองไปที่แองเจเล่และขยิบตา
แองเจเล่สั่นและถอยไปเล็กน้อย
"เอาล่ะข้าหวังว่ามันจะเป็นเช่นนั้น เจ้าได้ค้นหาบ้านดีๆให้ข้าหรือยัง"
แองเจเล่เดินไปทางประตูของตลาดประมูล
"ข้าคิดว่าเจ้าลืมมันไปแล้ว ข้าได้พบคฤหาสน์ที่ดีหลายวันก่อน มันไกลและข้าได้ยินว่ามีผีอยู่ที่นั่น ผู้ซื้อได้ถอยไปหลังจากที่ได้ยินข่าวลือดังนั้นมันจึงราคาดี ข้าคิดว่ามันเหมาะสำหรับความต้องการของเจ้า" ไทนอสตอบ
"ข้าจะเอามัน" แองเจเล่พูด "ผีอาจจะน่ากลัวสำหรับคนธรรมดาแต่พวกมันไม่มีปัญหาสำหรับข้า"
"จริง" ไทนอสพยักหน้า
เขาเดินผ่านประตูไปพร้อมกับแองเจเล่ มีขุนนางหลายคนหันหน้ามาหาพวกเขาและทักทายพวกเขา ขุนนางส่วนใหญ่ในเมืองรู้จักไทนอสและพวกเขาเห็นแองเจเล่พูดคุยกกับฮาร์แลนด์หลายครั้งดังนั้นเขาจึงมีชื่อเสียงด้วยเช่นกัน
ไทนอสสบประสาท "เมื่อช้างเรืองแสงกำลังคุกคามชีวิตของพลเมืองมีเพียงอัศวินในกองทัพที่ตัดสินใจช่วยขณะที่เหล่าขุนนางเหล่านี้ไม่ได้จัดทรัพยากรใดๆให้กับภารกิจ มีเพียงสิ่งเดียวที่พวกเขารู้คือการซื้อเครื่องประดับราคาแพงเพื่อทำให้บ้านของพวกเขาดูดีขึ้น ถ้าไม่มีข้าและพี่ของข้าข้านึกไม่ออกเลยว่าเมืองนี้จะเป็นอย่างไร"
"มีขุมพลังอยู่สามหลักใหญ่ๆในเมืองเลนน่อนนั่นคือ ข้า พี่ชายของข้าและพ่อของเรา นอกเหนือจากเราแล้วยังมีคนแคระที่เป็นอัศวินที่เป็นผู้นำทหารราบ เมื่อพลเมืองถูกโจมตีโดยช้างเรืองแสงเขาไม่ได้ส่งทหารไปแม้แต่คนเดียวเพราะเขาต้องการให้แน่ใจว่าไม่มีคนของเขาเสียชีวิต ข้าสงสัยว่าพวกเขาจะจัดการกับช้างเรืองแสงได้ถ้าเราไม่ได้อยู่ที่นั่น"
หลังจากภารกิจไทนอสก็ใกล้ชิดกับแองเจเล่มากขึ้นและเริ่มพูดถึงเหตุการณ์ทุกอย่างของเขา
"จริงหรือ"
แองเจเล่สงสัยว่าทำไมพวกเขาถึงได้ส่งกลุ่มขนาดเล็กเพื่อรับมือกับสัตว์ร้ายเหล่านี้และดูเหมือนทหารกับพวกเขาคิดว่ามันเป็นภารกิจที่ง่าย พวกเขาอาจจะไว้วางใจกับแกรนด์อัศวินฮาร์แลนด์มากเกินไปหรือฮาร์แลนด์พาอาสาสมัครไปกับเขา มันดูเหมือนว่าเขาไม่ได้เป็นผู้ควบคุมกองทัพทั้งหมด
พวกเขาเดินไปในโถงทางเดิน พื้นถูกปูด้วยพรมแดงและมีตะเกียงน้ำมันอยู่ทั้งสองด้านของผนัง ไขของมันกำลังเผาไหม้อยู่ข้างในและมันมากพอที่จะทำให้สถานที่นี้สว่างขึ้น
แองเจเล่ได้กลิ่นเครื่องหอมในอากาศ
พวกเขามาถึงห้องโถงขนาดใหญ่หลังจากที่เดินมาตามโถงทางเดิน
มีโคมระย้าอยู่มากมายที่แขวนอยู่บนหลังคาและมีเก้าอี้สีแดงอยู่ในโถง มีลูกค้าหลายคนนั่งอยู่แล้วดังนั้นสถานที่นี้จึงดังเล็กน้อย
มีป้ายขนาดใหญ่ที่เขียนว่า'การประมูลมินโคล่า'ในภาษาแอนแมค คำนี้เขียนได้ดีมาก มันเกือบจะเหมือนว่าพวกเขาได้ขอให้ใครบางคนเขียนคำเหล่านี้ในวิธีพิเศษ
"มาเถอะ ไปห้องส่วนตัวของข้ากัน"
ไทนอสพาแองเจเล่ไปทางซ้ายมือตรงที่พวกเขาเข้าประตูมาและเห็นบันได พวกเขาเดินขึ้นไปชั้นที่สองและไปถึงประตูที่อยู่สุดทางเดิน มีสาวใช้ในชุดสีแดงยืนอยู่ที่นั่น เธอโค้งให้หลังจากที่เห็นแองเจเล่และไทนอสกำลังมา
"มีเพียงข้าเท่านั้นที่เข้าห้องนี้ได้" ไทนอสอธิบายด้วยรอยยิ้ม
หลังจากที่เข้าห้องแองเจเล่ก็พบว่าตัวเองอยู่ที่มุมซ้ายบนของห้องประมูล มีกำแพงกระจกขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้าของเขาซึ่งเขาสามารถสำรวจทั้งห้องโถงได้อย่างง่ายดาย
มีโซฟาขนาดใหญ่และเก้าอี้หนังสีแดงหลายตัวอยู่ในห้อง พรมเป็นพรมสีขาวขนาดใหญ่บนพื้นและมีเครื่องหอมตั้งบนโต๊ะสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีแท่งเครื่องหอมสามตัวกำลังตั้งอยู่และควันที่ออกมาจากปลายของมันก็ทำให้ห้องมีกลิ่นหอม
"เจ้าชอบมันไหม เจ้าสามารถเห็นทุกอย่างในโถงได้จากที่นี่" ไทนอสนั่งที่โซฟาและหัวเราะ
สาวใช้นำน้ำและไวน์ผลไม้คุณภาพสูงมาให้พวกเขา เธอโค้งให้และออกไปจากห้องอย่างรวดเร็วหลังจากที่วางทุกอย่างไว้บนโต๊ะ แองเจเล่เทไวน์ให้ตัวเองและส่ายแก้วเบาๆ ไวน์ผลไม้เป็นสีเขียวและเขาได้กลิ่นหอมของผลไม้ มันเป็นฤดูใบไม้ร่วงดังนั้นมันดูเหมือนสาวใช้อุ่นไวน์เล็กน้อย แองเจเล่คิดว่ามันเป็นเรื่องดีที่มีบางอย่างเช่นนี้ในวันที่อากาศเย็น
"มีอีกเหตุผลหนึ่งที่ข้าขอให้เจ้ามาที่นี่" ไทนอสมีรอยยิ้มลึกลับบนหน้าของเขา เขาเหยียดขาและนอนลงบนโซฟา แองเจเล่ก็ไม่สามารถหยุดคิดว่าเขาเป็น'ผู้หญิง'ได้
เขารู้สึกอึดอัดอีกครั้งและตัดสินใจที่จะหยุดจ้องไปที่ไทนอส
"เจ้าหมายความว่าอะไร"
"มีสองตระกูลจะต่อสู้กันเพื่อชื่อของพวกเขาที่นี่ พวกเขาเกือบจบแล้วและมันเต็มไปด้วยเรื่องราวของความรักและความเกลียดชัง สองตระกูลเป็นศัตรกันและกันแต่ลูกชายและลูกสาวของพวกเขาตกหลุมรักกัน" ไทนอสหัวเราะเบาๆ
"ผู้นำหนุ่มของตระกูลตัดสินใจที่จะเสียสละชื่อเสียงของตระกูลเพื่อผู้หญิงที่เขารักแต่เขาล้มเหลวและชื่อของเขาก็ถูกถอดออกจากลำดับวงศ์ตระกูล อย่างไรก็ตามชายหนุ่มได้นำสิ่งของที่สำคัญที่สุดในตระกูลมาจัดประมูลครั้งนี้ ในขณะเดียวกันของสิ่งนี้เป็นสิ่งที่'ตระกูลของเด็กผู้หญิงต้องการ' ข้าคิดว่าเธอจะอยู่ที่นี่คืนนี้และพยายามที่ช่วยชีวิตคนรักของเธอจากอันตราย เธอยังพยายามบอกให้ชายหนุ่มยกเลิกการประมูล แต่ตระกูลของชายหนุ่มนั้นได้วางกับดักไว้รอบๆที่นี่แล้ว....." ไทนอสเช็ดน้ำตาที่ไม่มีอยู่จริงบนหน้าของเขาและแกล้งทำเป็นเศร้า
"ใช่ ใช่ เรื่องราวความรักช่างสวยงามอะไรเช่นนี้"
แองเจเล่พูดไม่ออก เขาลุกขึ้นยืนและเดินไปทางกระจกเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ด้านล่าง เขาจิบไวน์เล็กน้อย มันลื่นเหมือนผ้าไหมและเขาแทบจะไม่รู้สึกว่าของเหลวไหลลงไปในคอของเขาแต่มันก็ยังมีกลิ่นหอมหวานของผลไม้ในปากของเขา
แองเจเล่หลับตาแล้วเพลิดเพลินกับรสชาติที่เหมือนแอปเปิ้ล
"ข้าไม่สนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีเพียงสิ่งเดียวที่ข้าสนใจก็คือข้าสามารถหาสิ่งที่เป็นประโยชน์กับข้าได้"
"เจ้าไม่ต้องห่วง" ไทนอสหาว