ตอนที่ 86: ใจเย็น (1)
แองเจเล่กำลังยืนอยู่ห่างจากชายผมสีเงินไปหลายเมตรชายผมสีเงินกำลังนอนอยู่ที่พื้น ทั้งสองคนหยุดเคลื่อนไหวและจ้องไปที่กันและกัน
"เจ้าหนูจองหอง!" แองเจเล่หัวเราะเยาะ "เจ้าบอกว่าเจ้าจะฆ่าญาติทั้งหมดของข้างั้นหรือ เกิดอะไรขึ้นทำไมเจ้าถึงนอนที่พื้นเหมือนหมา เจ้ากำลังพยายามร้องขอชีวิตงั้นหรือ"
"ฆ่าข้าถ้าเจ้าทำได้" การแสดงออกของชายผมสีเงินไม่ได้เปลี่ยนไป เขายังดูสงบ "คนไม่เอาถ่านเช่นเจ้าจะสามารถทำร้ายข้าได้งั้นหรือ เข้ามา!"
แองเจเล่ปาดาบกางเขนไปที่ชายผมสีเงินโดยเล็งไปที่หน้าอกแต่ชายผมสีเงินก็เอียงตัวไปทางซ้ายและดาบก็ปักมือขวาของเขาตรึงไว้บนพื้น หญ้ารอบๆมือของเขาได้โชกไปด้วยเลือด
"เจ้ากำลังยั่วยุข้า" แองเจเล่หรี่ตา "ข้าจะถลกหนังของเจ้าทั้งเป็นและจะลากร่างกายของเจ้าไปที่หลุมที่เต็มไปด้วยหนอน"
"เจ้าลองสิ" ชายผมสีเงินพูดเสียงเบา
เขาเสียเลือดไปมากและสีหน้าของเขาก็ซีดลงแต่แองเจเล่ก็มองเห็นความมุ่งมั่นในดวงตาของเขา ชายผมสีเงินจ้องมาที่แองเจเล่เหมือนเหยี่ยวจากนั้นเขาก็ดึงดาบกางเขนออกมาจากพื้นและรีบเอายาเขียวออกมาจากกระเป๋าของเขาแล้วเทบนบาดแผลอย่างระมัดระวัง มันหยุดเลือดทันทีหลังจากที่ของเหลวสัมผัสบาดแผล
แองเจเล่ยังยืนอยู่ที่นั่นและจ้องไป เขาเป็นอัมพาตหลังจากที่พลังงานเชิงลบหายไป
ชายผมสีเงินก็อ่อนแอเช่นกัน เขากำลังนอนที่พื้นหลังจากที่รักษาบาดแผล
เวลาได้ผ่านไปแต่ทั้งสองคนก็ไม่ได้ขยับ คนหนึ่งยืนอยู่และอีกคนกำลังนอนอยู่ที่พื้น
"เจ้าลิงเจ้ารู้สึกอย่างไร เจ้าคนอ่อนแอ เจ้าเสียเลือดจำนวนมากและไม่มีมานาเหลืออยู่ ข้าเดาว่าหัวของเจ้าก็กำลังปวดด้วยเช่นกัน" แองเจเล่มองดูด้วยความพอใจ
"เจ้าเป็นอัมพาตและร่างกายของเจ้ากำลังถูกกัดกร่อนโดยพลังงานเชิงลบ มันทำให้ข้าแปลกใจที่เจ้ายังสามารถพูดได้"
ชายผมสีเงินไม่สนใจเรื่องที่แองเจเล่เพิ่งพูด
"ตอนนี้เราสองคนไม่สามารถขยับได้" แองเจเล่พูด
"ไอ้งี่เง่า!"
ชายผมสีเงินกรอกตา
"ไอ้ปัญญาอ่อน"
ทั้งสองคนกำลังโต้เถียงเหมือนเด็กๆ
เวลาได้ผ่านไปและมันเริ่มมืด มีเสียงแปลกๆดังมาจากป่าและมีเสียงนกกำลังร้อง มีกองเห็ดเงาขาวเติบโตภายใต้ต้นไม้ทำให้ป่าสว่าง
"ถ้าข้าไม่ได้เป็นอัมพาต...."
แองเจเล่จ้องไปที่ชายผมสีเงิน
"ถ้าข้าไม่ได้หลงกลไปกับการโกหกของเจ้าและร่ายคาถาของข้าเสร็จ...." ชายผมสีเงินที่นอนอยู่บนพื้นพูดเสียงเข้ม
"เจ้า...!"
แองเจเล่รู้สึกแย่มาก มันเป็นครั้งแรกที่เขาพบคนที่ดื้อรั้นแบบนี้
"เข้ามาจัดการข้า!" ชายผมสีเงินพูดเสียงสบายๆ "ทำไมเจ้าถึงใช้พลังงานเชิงลบเพื่อเพิ่มความต้านทานเวทมนต์ของเจ้า เจ้าโชคดีที่เจ้ารอดชีวิตจากควันดำได้"
"เจ้าโชคดีที่ไม่ได้เป็นบ้าหลังจากที่ฝืนความสามารถทางจิตของเจ้าร่ายคาถาสุดท้าย"
แองเจเล่ไม่ต้องการแพ้สงครามคำพูด
เวลายังคงผ่านไปแต่พวกเขาทั้งสองคนยังไม่ฟื้นตัว พวกเขายังคงอ่อนแอมากและไม่ได้มีกำลังที่จะต่อสู้
"ข้าได้ฆ่าพ่อมดฝึกหัดมาแล้วมากกว่า 8 คนและเจ้าเป็นคนแรกที่รอดชีวิตจากการโจมตีของข้า" ทันใดนั้นชายผมสีเงินก็พูดขึ้น
"ดี ทำไมเจ้าไม่ปล่อยให้ข้าจัดการเจ้าล่ะ ข้าไม่ต้องการเสียเวลาอีกต่อไป"
แองเจเล่มองไปที่ชายผมสีเงิน
พวกเขาทั้งสองคนหยุดพูดอีกครั้ง ทั้งสองคนพยายามฟื้นตัวให้ดีที่สุด
เวลาได้ผ่านไปสองชั่วโมงและในที่สุดทั้งสองคนก็สงบลงเล็กน้อย
ชายผมสีเงินลังเลครู่หนึ่งแล้วก็ถามว่า "เฮ้ ข้าเพิ่งตระหนักได้ว่าข้าไม่รู้จักชื่อของเจ้า ข้าไม่ต้องการที่จะยอมรับแต่เจ้าก็เป็นคู่ต่อสู้ที่คุ้มค่าและหลังจากที่ข้าได้ฆ่าเจ้า ข้าจะทำให้แน่ใจว่าจะเขียนชื่อเจ้าลงในหนังสือของข้า"
"ข้าจะมีชีวิตนานกว่าเจ้าดังนั้นเจ้าควรบอกชื่อเจ้าให้ข้าฟังก่อนที่จะมาถามชื่อของข้า"
"ไอ้คนไม่เอาถ่าน...." ชายผมสีเงินส่ายหัว "ชื่อของข้าคือเบเนดิก ข้าเดาว่าเจ้ารู้อยู่แล้วว่าคาถาหนักของข้าคือสายฟ้า เจ้ามาจากที่ไหน เจ้าค่อนข้างเก่ง"
"ข้าแองเจเล่และคาถาหลักของข้าคือศาสตร์แห่งความตาย" แองเจเล่พูดเสียงเบา
"ศาสตร์แห่งความตาย....และเจ้าใช้พลังงานลมงั้นหรือ" เบเนดิกพูดไม่ออก "ดี.....บางทีเจ้าอาจจะมีพรสวรรค์แต่อย่าบอกข้านะว่าเจ้ารู้เพียงแค่สองคาถาเท่านั้น ข้าไม่เห็นเจ้าใช้คาถาอื่นเลยนอกเหนือจากคาถาทั้งสองที่เป็นคาถาระยะประชิด"
"จริงๆแล้ว.....มันประหลาด!" เบเนดิกไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอีก
"...." แองเจเล่ไม่รู้ว่าจะตอบอะไร
หัวของเบเนดิกยิ่งแย่ลง เขามองไปที่แองเจเล่อย่างแปลกใจ
"เฮ้! แองเจเล่เจ้ามาจากวิทยาลัยแรมโซด้างั้นหรือ"
"เจ้ารู้จักแรมโซด้าด้วยงั้นหรือ" แองเจเล่พยักหน้า "ข้าไม่ได้คาดหวังว่าพ่อมดฝึกหัดจากแมนเชสเตอร์จะปรากฏตัวในจักรวรรดิแรมโซด้า"
"ข้ามาจากท่าเรือและข้าวางแผนที่จะมุ่งหน้ากลับไปที่โรงเรียนหลังจากที่เอาหัวใจของช้างไปแล้ว แต่ข้าไม่รู้ว่าข้าจะได้พบกับตัวประหลาดเช่นเจ้า" เบเนดิกถอนหายใจและสูดลมหายใจเข้าไป "เจ้ารู้ไหมว่าตั้งแต่ที่เราทั้งสองไม่สามารถขยับได้ถ้ามีพวกโจรหรือสัตว์ร้ายมาที่นี่จะเป็นอย่างไร พวกมันสามารถจัดการพวกเราได้อย่างง่ายดายและสองพ่อมดในอนาคตก็จะตาย พ่อมดฝึกหัดขั้นที่สามสองคนถูกฆ่าโดยพวกโจรในป่า มันจะกลายเป็นข่าวที่ใหญ่ที่สุดในหมู่องค์กรในปีนี้"
แองเจเล่ไม่ได้พูดอะไร
หลังจากนั้นหลายวินาทีการแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
"ไอ้....ไอ้ตัวบัดซบ!" เขาเกือบจะตะโกน
"ไม่มีทาง...." เบเนดิกได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนกำลังใกล้เข้ามาและเขาก็มีรอยยิ้มขมขื่นบนใบหน้า
"เฮ้ เจ้ายังอัมพาตอยู่งั้นหรือ" เบเนดิกถามเสียงเบา
"ใช่ อัมพาตทั้งตัวแล้วตอนนี้จะเอายังไง"
แองเจเล่จ้องไปที่เขา
"หัวของข้ายังปวดอยู่และข้าไม่สามารถทำห่าอะไรได้เลยในตอนนี้แต่ข้าจะตายอย่างสมเกียรติ!" สีหน้าของเบเนดิกเปลี่ยนเป็นสีหน้าจริงจังและเขาก็เอาม้วนสีเหลืองออกมาจากกระเป๋าอย่างช้าๆ
"ม้วนคาถาที่แท้จริง...." แองเจเล่อ้าปากค้าง "เนื่องจากมันเป็นม้วนคาถาอย่างน้อยมันก็ต้องเป็นคาถาระดับหนึ่ง ทำไมเจ้าถึงไม่ใช้มันก่อนหน้านี้"
"ข้าตายแน่นอนถ้าข้าใช้มัน" เบเนดิกตอบ "มันเป็นหนึ่งในคาถาระดับหนึ่งที่กระหายความสามารถทางจิตมากที่สุดและตอนนี้ข้าไม่มีความสามารถทางจิตพอที่จะเปิดม้วนคาถาและร่ายมัน ข้าทำได้เพียงปลดปล่อยมันและเราทุกคนจะกลายเป็นเป้าหมายของมัน"
แองเจเล่พูดไม่ออก
"เดี๋ยวก่อน เจ้าอาจจะรอดด้วยความต้านทานเวทมนต์ของเจ้า ถ้าเจ้ารอดช่วยอะไรข้าหน่อยได้ไหม" เบเนดิกถาม
"พูด"
"บอกเจ้าหญิงลิเดียของซานเตียโก้ว่าไม่ต้องรอข้ากลับไป"
"ข้าจะทำถ้าข้ารอด" แองเจเล่ไม่ได้โกรธอีกต่อไป เขารู้สึกสงสารแทนว่าพ่อมดฝึกหัดที่แข็งแกร่งจะจบชีวิตแบบนี้ "แต่ถ้าข้าตายด้วยเราก็จะกลายเป็นเรื่องตลกสำหรับพ่อมดฝึกหัดคนอื่นๆ"
"ช่างน่าเศร้า ข้าอยากจะกลับไปที่บ้านเกิดและเฝ้าดูดวงดาว" เบเนดิกดูเศร้าและเหงาเล็กน้อยขณะที่วางมือลงบนม้วนคาถา
"เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน มันดูเหมือนว่าความฝันของเจ้าจะเป็นจริง" แองเจเล่รีบบอกเขาให้หยุดปลดปล่อยคาถา "พวกเราโชคดี พวกเขาไม่ใช่โจร พวกเขาเพิ่งผ่านไปโดยไม่ได้สังเกตเห็นพวกเรา"
หลังจากนั้นหลายนาทีพวกเขาก็ไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าอีกต่อไป
"เอาล่ะ....มันน่าอึดอัด" เบเนดิกพูด "เจ้ารู้ไหมว่าเราควรจะปล่อยเรื่องนี้ไปและหยุดต่อสู้"
"เจ้าลิงสายฟ้าปัญญาอ่อน เจ้าคิดว่าข้าจะมีสภาพแย่เช่นนี้หรือ" แองเจเล่หัวเราะเยาะ "ถ้าข้ารู้คาถามากขึ้นเจ้าจะตายภายในไม่กี่วินาที เจ้าคิดแม้แต่ว่าข้ามาจากแมนเชสเตอร์จริงๆ เจ้ามันไร้เดียงสาแค่ไหน"
เบเนดิกเริ่มอาย "เจ้าตูดหมึกบัดซบ เจ้าเป็นพ่อมดฝึกหัดขั้นที่สามและเจ้ารู้เพียงแค่สองคาถา เจ้ากำลังล้อข้าเล่นหรือ" เขารู้สึกกระวนกระวายและไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอีก
"กำลังสรรเสริญข้างั้นหรือ" แองเจเล่ยิ้ม "หรือว่าเจ้ายอมรับแล้วว่าเจ้าปัญญาอ่อน ข้ารู้เพียงสองคาถาและข้าเกือบฆ่าเจ้าได้"
"เจ้า...!" เบเนดิกโมโหแต่มันเป็นความจริงที่เขาเกือบจะตายโดยพ่อมดฝึกหัดที่รู้เพียงสองคาถาเท่านั้น เขายังได้ยกเลิกคาถาที่สำคัญเพราะเขาเชื่อคำพูดของแองเจเล่
พวกเขาโต้เถียงกันหลายชั่วโมงและมันก็ถึงเวลาเที่ยงคืนแล้ว
ทันใดนั้นทั้งสองคนก็หยุดพูดพร้อมกัน
เบเนดิกพูดขึ้นมาอีกครั้ง "จริงๆแล้ว.....ข้าชอบเจ้า"
"ดี เจ้าไม่ได้ปัญญาอ่อนเหมือนที่ข้าคิด"
แองเจเล่ยิ้ม
พวกเขาทั้งสองต่างตระหนักได้และเริ่มจ้องกันขณะที่หัวเราะ
"เจ้าไม่จำเป็นต้องทำมากเช่นนั้นสำหรับคนจากเมืองวาเดอร์ เราทั้งสองจะกลายเป็นพ่อมดในอนาคตแต่ตอนนี้เราต่อสู้กันเพื่อวัสดุที่ไร้ค่า มันคุ้มค่ากับความพยายามหรือไม่" แองเจเล่ถามขณะที่หัวเราะ
"ข้าสามารถพูดเช่นเดียวกันกับเจ้า เราเป็นคนแปลกหน้าและไม่มีเรื่องที่เราต้องฆ่ากัน ข้าไม่รู้ว่าทำไมข้าอยากฆ่าเจ้าตอนที่ข้าเห็นเจ้ากลับมาที่นั่น" เบเนดิกหัวเราะ "ดีใจที่ได้พบเจ้าแองเจเล่" เขายิ้ม "เจ้าแข็งแกร่งพอที่จะเป็นเพื่อนของข้า"
"ข้าจะไม่มีวันเสียเวลาของข้ากับคนอ่อนแอ"
แองเจเล่ยิ้ม
ทันใดนั้นเขาก็พุ่งไปหาเบเนดิกแล้วหยิบดาบกางเขนที่พื้นและฟันไปที่เบเนดิก