ตอนที่ 164 บททดสอบ สวรรค์ โลก และมนุษย์ 2
ฟุ้บ-!
ธีโอดอรืไม่อาจจะนิ่งเฉยได้อีกต่อไป และกระสุนเวทย์ก็ได้พุ่งออกจากปลายนิ้วของเขาทันที พลังของแสงสีฟ้านี้มากพอที่จะเจาะทะลุเวทย์ป้องกันขั้น6ได้เลยทีเดียว ในความเป็นจริง มันเป็นการโจมตีอย่างฉับพลันที่แม้กระทั่งปรมาจารย์ดาบยังต้องรู้สึกตัวช้าไปหนึ่งอึดใจ
อย่างไรก็ตาม มันกลับทำอะไรไม่ได้เลยกับเป้าหมายนี้
“โอ๊ะ โอ๊ะ อย่าโกรธข้าเลย ใจเย็นๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่สามารถพูดได้ในหมูชายหนุ่มงั้นหรือ?”เซย์เมย์กล่าว
เขาได้กำจัดกระสุนเวทย์ของธีโอดอร์ไปโดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ
มันไม่ได้เป็นการป้องกันหรือการเบี่ยงมัน เขาทำลายมันทิ้งโดยสมบูรณ์ หากเขาใช้เวทย์ขั้น7 ปัดเป่า(Dispel) มันไม่สามารถที่จะร่ายได้เร็วไปกว่ากระสุนเวทย์ แต่ทว่าเซย์เมย์กลับเพียงแค่สะบัดพัดในมือ ธีโอดอร์สงบสติทันทีหลังจากเห็นปรากฏการณ์ที่ไม่อาจจะเข้าใจได้
เซย์เมย์ดูเหมือนจะรับรู้ถึงความจริงจังของธีโอดอร์ขณะที่เขาพูดกับธีโอดอร์ด้วยน้ำเสียงกวนประสาท “ร่างกายของเจ้านั้นไม่มีปัญหาใดๆในเชิงกายภาพ ดังนั้น ข้าว่ามันน่าจะเป็นเรื่องของจิตใจซะมากกว่า”
“เรื่องนี้มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับบททดสอบโลกหรือไม่?”
“อุ้บ!หนุ่มน้อย นั่นเป็นคำถามที่โง่เง่าเสียจริง!”
ธีโอดอร์รู้สึกประสาทเสียกับน้ำเสียงของเซย์เมย์ แต่เซย์เมย์ก็ได้เริ่มเพ้อเกี่ยวกับความหมายของบททดสอบ สวรรค์ โลก และมนุษย์
“เพศชายนั้นคือหยาง เพศหญิงนั้นคือหยิน วิถีแห่งองเมียวเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการประสานระหว่างชายและหญิง ดังนั้น ทำไมเจ้าจึงรู้สึกอับอาย?เจ้าไม่ควรที่จะมีทัศนคติเช่นนี้!”เสียงดังของเซย์เมย์แสดงให้เห็นถึงความภาคภูมิใจในการเป็นองเมียวจิ
อย่างไรก็ตาม ธีโอดอร์ไม่ได้เลิกคิ้วขึ้นขณะที่เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย “เช่นนั้น อะไรคือสิ่งที่คุณต้องการจะพูด?”
“ผู้หญิงแบบไหนกันที่ตรงกับรสนิยมเจ้ามากที่สุด?”องเมียวจิผู้ทรงเกียรติได้ถามคำถามนี้“หญิงสาวผู้มีเรือนผมสีเงินที่งีบหลับในรถม้า?แม่สาวเลือดมังกรที่ชอบนำผิวมาเสียดสีกับเจ้า?สาวหูยาวที่ปล่อยบรรยากาศอันน่ารื่นรมย์?หรือจะเป็นมังกรสมุทรที่กัดคอเจ้า?”
“คุณกำลังพูดเรื่องบ้าอะไรอยู่ในตอนนี้—”
“ข้าแค่อยากจะรู้ว่าทำไมเจ้าถึงเมินเฉยต่อความรักของพวกเธอ”
เมื่อเซย์เมย์พูดจบ ใบหน้าของธีโอดอร์ก็แข็งราวกับโดนปูนฉาบ คำพูดของเซย์เมย์ได้ผลักดันหัวข้อที่ธีโอได้หลีกเลี่ยงโดยไม่ตั้งใจขึ้นมา จิตใจของธีโอไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับเรื่องนี้
อย่างไรก็ตามก่อนที่ธีโอดอร์จะได้กล่าวอะไร เซย์เมย์ก็หรี่ตาลงพร้อมกับพูดว่า “ไม่ต้องคิดคำแก้ตัวใดๆ เทคนิค‘เส้นทางแห่งความปราถนาทั้ง5ประการ’เป็นคาถาที่จะทำให้ข้าเข้าใจถึงความปราถนาที่อยู่ภายในตัวมนุษย์ ดังนั้นข้าจึงรู้แล้ว”
“บะ-บ้าเอ้ย เวรเอ้ย.....!” ธีโอดอร์รู้สึกหมดหวังที่เซย์เมย์สามารถอ่านความคิดภายในใจเขาได้ แต่เขานั้นไม่สามารถที่จะทำอะไรเซย์เมย์ได้เลย ฝ่ายตรงข้ามของเขาเป็นสัตว์ประหลาดที่ลึกลับอย่างมาก เซย์เมย์สามารถที่จะทำลายกระสุนเวทย์ของเขาได้ด้วยคลื่นจากพัดเขาและสร้างภาพลวงตาซึ่งทำให้รู้สึกราวกับอยู่ในนั้นมา50ปี
ดังนั้นธีโอดอร์จึงเลือกที่จะปล่อยวาง เซย์เมย์ไม่ได้นำเรื่องนี้ขึ้นมาโดยปราศจากเหตุผล ดวงตาสองข้างที่เต็มไปด้วยความโกรธของธีโอดอร์ได้ลดต่ำลง
‘ทำไมฉันถึงละเลยพวกเขาเมื่อฉันรู้ถึงหัวใจของพวกเขา?’
ธีโอดอร์นั้นรู้คำตอบดีอยู่แล้ว เขาไม่ต้องการที่จะเผชิญหน้ากับมัน บางทีมันอาจจะเป็นเพราะเขาได้เห็นถึงความเป็นไปได้อื่นๆใน ‘บททดสอบโลก’ดังนั้น ในตอนนี้ เขาจึงสามารถมองเห็นความอ่อนแอของเขาได้อย่างชัดเจน
“....ผมยังไม่พร้อม”
“เจ้าพร้อมแล้ว นั่นเป็นคำตอบที่โง่เขลา”เซย์เมย์ตอบปฏิเสธ “เจ้าไม่สามารถที่จะเตรียมพร้อมได้ทุกครั้งในชีวิต ไม่มีการรับประกันใดๆว่าความสงบสุขนับพันปีจะถูกทำลายในวันพรุ่งนี้ ผู้ชายนั้นจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมที่จะยอมรับความรู้สึกของผู้หญิงนานแค่ไหน?คุณสมบัติที่จำเป็นคืออะไร?”
“นั่น....”ธีโอดอร์ไม่สามารถที่จะพูดอะไรได้
หลังจากที่ได้ยินคำว่า คุณสมบัติ งูเจ้าเล่ห์ก็ปรากฏขึ้นในหัวใจเขาและกระซิบด้วยความคิดเชิงลบ
ธีโอดอร์นั้นมาจากตระกูลขุนนางที่แสนต่ำต้อย เขามาจนถึงทุกวันนี้ได้ก็เพราะเวทย์โบราณและเขาไม่เหมาะกับหญิงสาวที่เจิดจ้า
ดังนั้น เขาจึงวิ่งหนีไปเรื่อยๆ เขาพยายามที่จะเติมเต็มความภาคภูมิใจในตัวเองโดยการเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นทุกวันและบอกกับตัวเองว่าเขาไม่มีเวลาที่จะไปสนใจความรักและความรู้สึก เขาเชื่อว่าสักวันหนึ่งเขาจะสามารถเผชิญหน้ากับอารมณ์เหล่านี้ได้เมื่อเขาแข็งแกร่งขึ้น
“อืม ข้าเดาว่าเจ้าสามารถมองเห็นได้แล้วนิดหน่อย”เซย์เมย์ยิ้มขึ้นเมื่อเขาเห็นดวงตาของชายหนุ่ม
“เซย์เมย์”
“อะไร?”
“ผมจะต้องทำยังไงต่อจากนี้”
“แน่นอน ข้าไม่รู้”เซย์เมย์เคาะริมฝีปากเขาด้วยสันพัดและยิ้ม “เอาละ ในตอนนี้ เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องนี้อีกแล้ว เจ้าได้เผชิญหน้ากับมันแล้วในจิตสำนึกของเจ้า ดังนั้นเจ้าจะสามารถจัดการกับพวกเธอได้อย่างตรงไปตรงมาในอนาคต ชายผู้ที่ตายไปเมื่อพันปีก่อนไม่สามารถที่จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับความรักให้เจ้าได้!คำแนะนำที่เป็นมิตรของข้าจะสิ้นสุดลงตรงนี้”
ทำไมธีโอดอร์ถึงไม่โกรธอีกต่อไปหลังจากที่ได้เห็นการแสดงออกทางสีหน้าของเซย์เมย์?
อาจเป็นเพราะปัญหาที่เกิดขึ้นภายในใจธีโอดอร์ซึ่งได้รับการแก้ไขแล้วในตอนนี้โดยเซย์เมย์ หรือบางทีอาจเป็นเพราะเขาคุ้นเคยกับท่าทางการพูดของเซย์เมย์?ไม่ว่าจะทางไหน นี่ก็เป็นการสนทนาที่คุ้มค่า
ท่าทางของธีโอดอร์ได้กลับมาเป็นปกติและเซย์เมย์ก็ได้พูดต่อว่า “ตอนนี้เจ้าได้ผ่านบททดสอบ โลก เรียบร้อบแล้ว”
เช่นเดียวกับที่ข้อความของทางระบบได้เด้งขึ้น
[คุณได้ผ่าน บททดสอบ‘สวรรค์ โลก และมนุษย์’:บทที่2โลกแล้ว]
[ความคืบหน้าในปัจจุบันอยู่ที่ 66.6%]
[หลังจากนี้อีก30วินาที คุณจะเข้าสู่บทที่3ของ’สวรรค์ โลก และมนุษย์’:บทที่3 สวรรค์]
‘บททดสอบสวรรค์....’ธีโอดอร์มองไปที่ประโยคนั้นและกังวลเกี่ยวกับมันว่าจะเป็นยังไง
ตั้งแต่สมัยโบราณ ท้องฟ้าเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่และความหมายที่ลึกซึ้ง ตามความทรงจำของลี ยองซุก องค์จักรพรรดิแห่งอาณาจักรตอนกลางในทวีปตะวันออกได้เรียกตัวเองว่า ‘บุตรแห่งสวรรค์’
ไม่เหมือนกับบททดสอบทั้งสองก่อนหน้านี้ เซย์เมย์นั้นดูสง่างามและเคร่งขรึม เสียงต่ำของเขาดังขึ้นในความมืดมิด “ในท้ายที่สุด เจ้าจะได้รับบททดสอบ สวรรค์”
เซย์เมย์สะบัดพัดของเขา แต่เขาไม่ได้อธิบายเกี่ยวกับบททดสอบมากนัก เขากล่าวว่า “เจ้าจะต้องตระหนักถึงความหมายของบททดสอบสวรรค์ด้วยตัวเจ้าเอง หากเจ้าไม่สามารถมองเห็นแก่แท้ของการทดสอบและสะท้อนให้เห็นถึงมัน เจ้าจะไม่มีทางผ่าน”
“ความหมายของการทดสอบ...และแก่นแท้ของมัน?”
“นั่นคือทั้งหมดที่ข้าสามารถพูดได้ ได้โปรด ข้าหวังว่าเจ้าจะผ่านมัน”
จากนั้น ระยะเวลา30วินาทีก็สิ้นสุดลง
[เข้าสู่บทที่3 ‘สวรรค์ โลก และมนุษย์:บทที่3 สวรรค์]
อีกครั้ง ธีโอดอร์ไม่สามารถรู้สึกได้ถึงอะไรก่อนที่เอาจะถูกโยนไปในพื้นที่ที่ไม่รู้จัก มันเป็นพื้นที่ที่ล้อมรอบไปด้วยผนังสีขาวที่มีหน้าต่าง แต่ไม่มีทางเข้า
ธีโอดอร์จึงทดลองยิงกระสุนเวทย์ไปหลายนัด แต่ทว่ามันไม่สามารถเจาะทะลุผ่านพื้นไปได้ ผนังเองก็เช่นกัน มันไม่ใช่สถานที่ที่เขาสามารถทำลายได้ด้วยพลังของเขา
‘มันเป็นไปไม่ได้ที่จะออกไปได้ด้วยพลังของฉัน การทดสอบแบบไหนกันที่จะเกิดขึ้นในสถานที่นี้?’
จากนั้น ทันทีที่ธีโอดอร์กำลังจะมองไปรอบๆอีกครั้ง....
ตุบ
เสียงฝีเท้าของใครบางคนดังขึ้น
“เอ๊ะ?”ดวงตาของธีโอดอร์เบิกกว้างขึ้นด้วยความประหลาดใจและความอยากรู้อยากเห็นที่อยู่เต็มใบหน้าเขา ในพื้นที่สีขาวนี้ ผมสีแดงของเธอสามารถที่จะมองเห็นได้แม้จะอยู่ห่างออกไปหลายกิโลเมตร บางทีมันอาจจะเป็นภาพลวงตาของเวโรนิก้าจากความทรงจำของเขา แต่เขาก็อดที่จะรู้สึกยินดีไม่ได้
“ผู้....นำ?”
แต่ทว่า ขณะที่เขาเห็นใบหน้าที่ซ่อนอยู่ใต้หลังผมของเธอ
ซู่
ทันทีที่เขาได้สบตาเธอ ธีโอดอร์ก็รู้สึกหนาวเย็นตามกระดูกสันหลังของเขาทันที
ดวงตาของเธอราวกับลูกแก้วใสและไม่มีอารมณ์ใดๆบนใบหน้าเธอ นี่คือสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนในเวโรนิก้าตัวจริง ขณะที่ธีโอดอร์แข็งค้างด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ เวโรนิก้าตัวปลอมก็ได้ขยับ
หวืด!
เพียง1ลมหายใจ กำปั้นของเวโรนิก้าก็พุ่งออกมา และร่างกายของธีโอดอร์ก็ลอยถอยหลัง มันเป็นการผสมระหว่างความสามารถทางกายภาพของมังกรและเวทมนต์ ด้วยปฏิกิริยาของธีโอดอร์เข้าสามารถที่จะปรับเปลี่ยนตำแหน่งของเขาได้ทัน แต่เขาก็ไม่มีเวลาให้ทำอะไรทั้งนั้น เขาได้หลบหลีกการโจมตีครั้งแรกอย่างปาฏิหาริย์ แต่เวโรนิก้าปลอมก็ได้ปล่อยหมัดมาอีกครั้ง
เสียงระเบิดได้ดังขึ้นราวกับท้องฟ้ากำลังคำราม
บูมมม!
หมัดของเวโรนิก้าปลอมได้ทะลุทะลวงผ่านเวทย์ป้องกัน4ชั้นและชุดเกราะมีชีวิตทั้งสองของธีโอดอร์และบดขยี้หัวของเขา มันเป็นพละกำลังอันมหาศาล การตายของธีโอดอร์ถูกตัดสินทันทีที่กำปั้นของเธอโดนหัวของเขา
นี่เป็นความตายครั้งแรกของธีโอดอร์ มิลเลอร์
***
“…อ้าก?!”เสียงได้ดังขึ้น
ธีโอดอร์สัมผัสหัวกระโหลกที่แตกของเขาและตระหนักว่าเขายังมีชีวิตอยู่ แทนที่จะตาย แขนและขาที่ติดอยู่กับตัวเขายังสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างราบรื่นและมีอาการปวดเมื่อยที่ผิวหนัง ความรู้สึกที่ชัดแจ้งทำให้เขารับรู้ถึงความอยู่รอดของเขา
ธีโอดอร์จ้องมองไปรอบๆอีกครั้งด้วยสายตาสับสน
‘นี่ยังคงเป็นพื้นที่ที่ล้อมรอบด้วยกำแพงสีขาว ดังนั้นนั่นคืออะไร?มันเป็นเพียงภาพลวงตา?หรือบททดสอบสวรรค์?’
หัวของเขาถูกหักโดยเวโรนิก้าปลอม นั้นยังสมบูรณ์เหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกของการตายนั้นยังคงชัดเจน เขาตื่นตัวอยู่ตลอด แต่มันมีความแตกต่างอย่างมากในทักษะ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถคิดได้ว่ามันเป็นเพียงภาพลวงตา
เซย์เมย์ไม่ได้ให้คำแนะนำใดๆกับธีโอดอร์ ธีโอดอร์ไม่รู้ถึงเจตนาของบททดสอบนี้ และเขาจะไม่สามารถผ่านได้หากเขาไม่เข้าใจมัน อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ธีโอดอร์จะได้รับรู้อะไรก็ตาม เขา ก็ได้ปรากฏตัวขึ้น
“….บลันเดลล์ ถึงตาคุณแล้ว?”
ผู้นำBlue Tower บลันเดลล์ แอทลันคัส ได้จ้องมาที่ธีโอดอร์ด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก มีข่าวลือว่าเขาสามารถหักข้อมือของโอเกอร์(ยักษ์)ได้ด้วยมือข้างเดียว แต่ครั้งนี้ เขากำลังเผชิญหน้ากับธีโอดอร์
เช่นเดียวกับเวโรนิก้า บลันเดลล์ปลอมไม่ได้พูดอะไรขณะที่เขาชี้คฑาของเขามายังธีโอดอร์ และนั่นคือจุดจบ
“อัก.....?!อ้ากกก!”
ความตายได้มาถึงธีโอดอร์ก่อนที่ความรู้สึกของเขาจะทำปฏิกิริยา ก่อนที่ธีโอดอร์จะได้กรีดร้อง เสียงของเขานั้นแห้งหายไปในลำคอ เลือดของเขา เนื้อ และกระดูกต่างแห้งและแตกเป็นเสี่ยงๆ การดูดน้ำจากร่างกายออกคือการโจมตีที่ดีที่สุดของบลันเดลล์ มันเป็นคาถาที่โหดร้ายซึ่งจะนำเอาน้ำทั้งหมด ที่เป็นพื้นฐานแห่งชีวิตไป
สิ่งที่น่ากลัวนั้นไม่ใช่พลังอำนาจ
‘นะ-นี่มันบ้าไปแล้ว....!มาน่า มันไม่ได้ขะ...ยับ...’
สัมผัสเวทย์ของเขาได้ยืดออกไปจนถึงขีดจำกัด เขาสามารถที่จะได้แม้กระทั่งเสียงเข็มที่ตกลงบนทะเลทรายและเห็นได้กระทั่งฝุ่นในถ้ำมืด อย่างไรก็ตามเขากลับไม่สามารถมองเห็นวิธีการทำงานของเวทย์ที่บลันเดลล์ใช้
นี่เป็นการตายครั้งที่สองของ ธีโอดอร์ มิลเลอร์
***
“เฮือก!”
ธีโอดอร์พ่นลมหายใจออกทันทีที่เขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ผิวที่แห้งของเขากลับสู่สภาพเดิม เขาได้นึกถึงความน่าสะพรึงกลัวก่อนหน้านี้ที่ความชุ่มชื้นภายในร่างกายเขาระเหยออกไป
ตอนแรก มันเป็นเวโรนิก้าและจากนั้นก็บลันเดลล์ แอทลันคัส พวกเขาทั้งคู่เป็นจอมเวทย์ผู้ที่ได้รับการขนานว่าเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในราชอาณาจักรเมลเทอร์ ธีโอดอร์นั้นเกือบจะเป็นจ้าวมนตรา แต่เขาไม่สามารถที่จะท้าทายพวกเขาได้ หากเขาต่อสู้พันครั้ง เขาก็จะตายพันครั้ง
ธีโอดอร์ก้มลงมองมาที่มือของเขา และตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างตัวเขาและผู้ที่ก้าวเดินออกไปจากขอบเขตมนุษย์
‘ไม่ ไม่ใช่แค่นั้น สภาพร่างกายของฉันมันแปลกไปนิดหน่อย’
เมื่อกำปั้นของเวโรนิก้าได้พุ่งเข้าใส่เขา ธีโอดอร์อยากที่จะหลบหนีด้วยFluidization การโจมตีทางกายภาพจะไม่สามารถทำอะไรร่างกายที่เป็นวิญญาณได้ อย่างไรก็ตาม อัมบรากลับไม่สามารถใช้งานได้ด้วยเหตุผลบางอย่าง ส่งผลให้เวทย์ป้องกันของธีโอดอร์ช้าไปชั่วอึดใจ
มันเป็นจริงสำหรับตอนที่เขาถูกฆ่าโดยบลันเดลล์ปลอม
มันแปลกอย่างมากเมื่อการคายน้ำ(ดูดน้ำออก)ได้ถูกใช้ ประสาทสัมผัสของเขากลับไม่ได้ทำนายวิกฤตล่วงหน้า จากนั้นเขาก็มองย้อนกลับไปและตระหนักว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญที่เขาหลบหลีกการโจมตีครั้งแรกของเวโรนิก้าได้ มันไม่ได้เกิดจากสัญชาตญาณที่ร้องเตือนของเขา
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการหายไปของอัมบราและการรับรู้ทางประสาทสัมผัสจะร้ายแรง เขาก็ยังไม่รู้ว่า ‘บททดสอบสวรรค์’นั้นคืออะไร แต่เขาได้ขาดความสามารถบางอย่างของเขาไป เหงื่อได้ไหลชโลมทั่วใบหน้าของธีโอดอร์
“บ้าเอ้ย นี่มันชักจะอันตรายเกินไปแล้ว”
เสียงของเขาไปไม่ถึงมิตรา วงแหวนแห่งMuspelheim เองก็ถูกปิดผนึกและไม่มีปฏิกิริยาใดจากตราเลือดของอควาโล่เลย มันไม่ได้เป็นการพูดเกินจริงเลยที่จะบอกว่าความสามารถในการต่อสู้ของธีโอลดลงไปมากกว่าครึ่ง นอกจากนั้น คุณสมบัติทั้งหมดของความตะกละ รวมถึงจดจำ เองก็ถูกปิดผนึก
ศัตรูแต่ละคนที่ปรากฏตัวในพื้นที่นี้ต่างเป็นสัตว์ประหลาดที่เหนือกว่าธีโอดอร์ตอนสภาพสมบูรณ์หลายเท่า และบุคคลที่สามก็ไม่มีข้อยกเว้น
“....แม้แต่ที่นี่คุณก็สวมหน้ากากงั้นหรือ ผู้นำWhite Tower”
มันเป็นจอมเวทย์มิติที่เก่งกาจที่สุด ผู้นำWhite Tower ออร์ต้า แม้กระทั่งในโลกวิญญาณนี้ เขาก็ยังสวมเสื้อคลุมสีขาวและหน้ากาก ไม่สิ มันอาจจะเป็นเพราะธีโอดอร์ไม่เคยเห็นใบหน้าของเขา
จอมเวทย์ขั้น7ผู้ซึ่งสามารถเอาชนะปรมาจารย์ดาบ ซึ่งเป็นถึง1ใน7เทพดาบแห่งจักรวรรดิ และตัดแขนข้างหนึ่งมา.....ธีโอดอร์จะยืนหยัดต่อสู้กับเขาได้นานแค่ไหนกัน?
และคำตอบที่แสนโหดร้ายก็คือ 5 วินาที
ฉั้ว!
เขาสามารถที่จะหลีกเลี่ยงการโจมตีครั้งแรกได้ด้วยประสบการณ์จากการต่อสู้หลายครั้งของเขา แต่มันก็จบลงแค่นั้น ไม่มีลางบอกใดๆขณะที่มิติถูกแยกออก ผู้นำWhite Tower ออร์ต้าได้ใช้การโจมตีที่ไม่สนใจการป้องกันทางกายภาพ
อากาศได้แตกออก17ครั้งอย่างต่อเนื่อง และหั่นร่างกายของธีโอดอร์เป็นชิ้นๆราวกับแครอท
‘บ้าไปแล้ว....ฉันจะไปต่อกรกับสัตว์ประหลาดเหล่านี้ได้ยังไงกัน....?’
ธีโอดอร์รู้สึกท้อแท้หลังจากเผชิญกับการตายครั้งที่สามของเขา หากเงื่อนไขสำหรับการผ่าน บททดสอบ สวรรค์ คือการต่อสู้และเอาชนะ งั้นคงไม่มีโอกาสสำหรับธีโอดอร์ มิลเลอร์ ที่จะผ่านบททดสอบนี้