บทนำ
ฉันเคยมีความสุขมากตั้งเเต่ที่เธอเข้ามาในชีวิตของฉันเเต่มันทำให้เธอดูเเย่ในสายตาของคนอื่น
“เราเลิกกันเถอะ”ฉันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาเเต่จริงๆเเล้วในใจมันโคตรจะเสียใจเลย
“พี่ทำอะไรผิดทำไมปอยต้องเลิกกับพี่ด้วยล่ะ”
อยากจะบอกพี่มากเลยนะว่าฉันไม่อยากเลิกถึงเเม้เลิกก็จะตอบพี่ไปว่าพี่มันดีมากพี่ดูดีหล่อเเละรวยมากด้วยต่างกับฉันเพราะฉันอ้วนหุ่นไม่ดีจนก็จนเลยทำให้คนอื่นมองพี่ไม่ดีหนูเลยเลิกกับพี่
“พี่ไม่คู่ควรกับหนูหรอกเราเลิกกันอะดีเเล้ว”
อยากจะรู้ใช่ไหมว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไงย้อนไปเมื่อสามวันที่เเล้วระหว่างที่ฉันกำลังเดินกลับบ้านจู่ๆพี่เบสก็หยุดเดินขึ้นมาเเล้วมองมาทางฉัน
“ปอยไปกินข้าวบ้านพี่ไหมพี่จะพาไปรู้จักกับครอบครัวของพี่ด้วย”
ฉันนิ่งไปสักพักเพราะคิดอะไรบางอย่างอยู่ในหัวการที่เเฟนของเราพาเราไปรู้จักกับครอบครัวเขาคือมันเป็นเรื่องที่ยากสำหรับใครหลายคนเลยล่ะเพราะกลัวว่าครอบครัวของเเฟนจะไม่ชอบเราเเถมตอนนี้เราก็ยังเรียนกันอยู่ด้วยไม่รู้ว่าพ่อกับเเม่ของพี่เบสจะรับเราได้ไหม
“ทำไมทำหน้าเเบบนั้นไม่อยากไปบ้านพี่หรออ้วน”
พี่เบสทำหน้าเศร้าๆใส่ฉันซึ่งมันทำให้ฉันค่อนข้างจะใจอ่อนเวลาที่พี่เขาทำหน้าเเบบนั้น
“โอเคค่ะพี่เบสเราไปกันก็ได้พี่ยีราฟของอ้วน”
ฉันเดินไปขึ้นรถเก๋งที่พี่เบสจอดเอาไว้จากนั้นเราสองคนก็พากันไปที่บ้านของพี่เบสเมื่อไปถึงก็เห็นบ้านหลังใหญ่มากด้วยกิจการโรงเเรมที่โด่งดังเเละมีชื่อเสียงของครอบครัวพี่เขาเลยทำให้ฐานะของครอบครัวนี้เรียกได้ว่ามหาเศรษฐีเลยนะฉันรู้มานานเเล้วล่ะเเต่เเค่ไม่คิดว่าบ้านจะใหญ่ขนาดนี้ฉันกับพี่เขาพากันเดินไปที่หน้าทางเข้าบ้านพ่อบ้านเเละเเม่บ้านหลายคนได้เดินมาต้องรับกันเยอะมากซึ่งถ้าเปรียบกับบ้านของฉันเเล้วก็คงจะมีเเต่สุนัขกับพวกเเมววิ่งมาต้อนรับเเหละนะพวกเราพากันเดินเข้าไปในบ้านก่อนที่จะเดินไปถึงห้องรับเเขกมีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ที่โซฟาตรงห้องรับเเขกจากนั้นพี่เบสได้เดินเข้าไปสวัสดีเเล้วก็กอดผู้หญิงคนนั้นถ้าให้ฉันเดาก็น่าจะเป็นคุณเเม่ของพี่เขาเเน่ๆเลยพี่เขาเดินมาทางฉันก่อนจะจับมือของฉันเเล้วก็พาฉันเดินไปที่โซฟา
“เเม่ครับคนนี้ชื่อปอยนะครับเป็นเเฟนของผมเองครับคนที่ผมเล่าให้เเม่ฟังยังไงล่ะครับ”
ฉันยกมือสวัสดีคุณเเม่ของพี่เบสเเต่ดูเหมือนคุณเเม่จะไม่รับไหว้ฉันเธอคงไม่ชอบฉันสินะเพราะดูจากสีหน้าของเธอเเล้วคงจะตกใจน่าดูที่เห็นเเฟนของลูกชายตัวเองมีรูปร่างเเบบนี้คุณเเม่ของพี่เบสยืนขึ้นก่อนที่จับมือของเขา
“ฉันขอคุยกับลูกชายของฉันสักครู่นะ” เธอพูดขึ้นก่อนจะพาพี่เบสเดินออกไปพี่เบสหันมาหาฉันเเล้วพูดว่า
“ออกไปเดินเล่นรอพี่ก่อนนะเดี๋ยวพี่ไปคุยธุระกับเเม่เเป๊บหนึ่งเลี้ยวขวาจะเป็นสวนดอกไม้ลองไปรอพี่อยู่ที่นั่นก่อนก็เเล้วกันนะอ้วน”
เเล้วพวกเขาสองคนก็เดินออกไปจากตรงนี้ฉันทำตามที่พี่เบสบอกฉันเดินออกมาข้างหน้าบ้านเเล้วเลี้ยวขวามันเป็นถนนยาวมีป้ายเขียนไว้ว่าสวนดอกไม้ตระกูลราชาณุวงค์ฉันเลยเดินตามป้ายนั้นไปเรื่อยๆเมื่อเดินไปจนสุดทางฉันก็พบกับรั้วประตูเหล็กขนาดใหญ่ที่กลั้นทางเข้าเอาไว้ฉันเดินเข้าไปหามันเเล้วลองดันประตูรั้วดูเเละเเน่นอนมันเปิดได้เมื่อฉันเดินเข้าไปในนั้นมันทำให้ฉันไม่กล้าที่จะละสายตาออกจากที่นี่เลยสวนดอกไม้ทุกชนิดขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยดอกไม้หลากหลายสีทำให้ฉันรู้สึกสบายตาฉันมองไปเเล้วเห็นว่ามีผู้ชายถ้าทางจะอายุเยอะคนหนึ่งกำลังทำสวนอยู่ตรงข้างหน้าของฉันฉันเลยเดินเข้าไปหาคุณลุงคนนั้น
“สวัสดีค่ะคุณลุงคุณลุงเป็นคนสวนใช่ไหมคะให้หนูช่วยนะคะหนูอยากจะช่วยค่ะ”
ฉันนั่งลงตรงข้ามกับคุณลุงคนนั้นก่อนจะหยิบถุงมือที่วางข้างๆคุณลุงมาใส่เเล้วทำสวนช่วยคุณลุงเเต่คุณลุงก็ห้ามฉันเอาไว้
“โอ๊ยหนูเอ้ยไม่ต้องลำบากมาช่วยลุงหรอกเดี๋ยวเปื้อนมาจะทำยังไงล่ะ”
ฉันยิ้มให้เเล้วก็ตอบกลับคุณลุงไปว่า
“ไม่เป็นไรค่ะเเค่นี้สบายหนูชอบทำเเบบนี้อยู่เเล้วค่ะที่บ้านหนูชอบปลูกต้นไม้ดอกไม้หนูเลยอยากทำช่วยเองค่ะให้หนูช่วยเถอะนะคะ”
คุณลุงพยักหน้าให้กับฉันเวลาผ่านไปสักพักพวกเราก็ทำสวนกันเสร็จจากนั้นคุณลุงก็พาฉันไปนั่งพักที่ศาลาในสวน
“ลุงชื่อเเจมนะเเล้วหนูชื่ออะไรล่ะ”คุณลุงได้บอกชื่อของคุณลุงก่อนจะถามชื่อของฉัน
“หนูชื่อปอยค่ะยินดีที่ได้รู้จักนะคะคุณลุงเเจม”
ฉันยิ้มให้ก่อนจะยกมือสวัสดีคุณลุงไปคุณลุงรับไหว้ของฉัน
“เเล้วหนูปอยทำไมถึงมาที่นี่ได้ล่ะทำไมไม่เข้าไปในบ้านล่ะหืม”
คุณลุงเเจมถามฉันด้วยความสงสัยมันทำให้ฉันคิดถึงเรื่องที่เเม่ของพี่เบสไม่รับไหว้ฉัน
“คือว่าพี่เบสชวนหนูมากินข้าวที่บ้านกับครอบครัวพี่เขาค่ะหนูเลยตอบตกลงที่จะมากินข้าวกับพี่เขาเผื่อจะได้รู้จักกับครอบครัวพี่เขาด้วยเเต่..มันก็ไม่ได้เป็นไปตามที่หวังสักเท่าไหร่เเหละค่ะฮ่าฮ่า”
ฉันหัวเราะเพื่อปลอบใจตัวเองเเละปกปิดความเศร้าที่อยู่ในใจของฉัน คุณลุงยิ้มให้กับฉันแล้วพูดบางอย่างกับฉันขึ้นมา
“หนูคงเป็นแฟนของหนูเบสสินะ ลุงเข้าใจว่ามันยากมากที่ครอบครัวของลุ...ลูกคุณหนูจะมายอมรับในตัวหนู แต่ว่าหนูปอยไม่ควรที่จะยอมแพ้ง่ายแบบนี้นะ มันต้องมีสักครั้งหนึ่งที่เขาจะยอมรับในตัวหนูถึงแม้จะไม่ใช่วันนี้ แต่อย่าคิดที่จะท้อหรือถอยออกมาเด็ดขาดเพราะว่าหนูเบสเขารักใครแล้วรักจริงจะไม่ยอมทิ้งคนๆนั้นไปไหนเด็ดขาด หนูคงเป็นคนดีมากสินะหนูเบสถึงได้ยอมรับในตัวหนูได้ขนาดนี้”
ฉันยิ้มให้กับคุณลุงอีกครั้งคำพูดของคุณลุงทำให้ฉันมีกำลังใจที่จะพยายามทำให้ครอบครัวของพี่เบสยอมรับให้ได้ มีแม่บ้านคนหนึ่งได้เดินมาทางพวกเราสองคน เมื่อถึงศาลาก็ก้มตัวลงเพื่อคำนับคุณลุง ทำไมต้องคำนับคุณลุงด้วยล่ะ
“คุณท่านคะตอนนี้ถึงเวลาอาหารเย็นแล้วล่ะค่ะ” คุณท่านหมายความว่ายังไง ฉันไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณแม่บ้านคนนี้บอก
“มาๆตามลุงไปด้วยกันสิ ไม่ต้องทำหน้ามึนงงหรอกเดี๋ยวตามมาก็จะรู้เองล่ะ ฮ่า ฮ่า”
ยังไงก็ตามคุณลุงไปก่อนก็ได้ฉันไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้สักเท่าไหร่แต่ก็จะพยายามเข้าใจ
[ ห้องรับประทานอาหาร ]
ฉันนั่งอยู่ข้างๆพี่เบสตรงข้ามของฉันก็จะเป็นน้องสาวของพี่เขาชื่อเบล แล้วก็มีคุณแม่กับคุณพ่อของพี่เบสด้วย ส่วนคนนั่งตรงกลางทั้งสองคนก็จะเป็นคุณปู่กับคุณย่าของพี่เขา มากันทั้งครอบครัวเลยคนเยอะจังเลยเนอะ มันทำให้ฉันตื่นเต้นนิดหน่อยแต่ก็พอจะบังคับตัวเองได้อยู่
“บางคนคงยังไม่รู้จักเด็กผู้หญิงคนนี้สินะ ฉันจะแนะนำตัวเด็กสาวคนนี้ให้ เธอมีชื่อว่าปอยเป็นรุ่นน้องของเบสและเป็นแฟนของเขาเช่นกัน วันนี้ฉันพาเธอมากินข้าวตอบแทนที่เธอไปช่วยฉันทำสวน”
คุณลุงแจมเป็นคุณปู่ของเบสอย่างนั้นหรอ โอ๊ตายแล้วมันทำให้ฉันทำตัวไม่ถูกเลย แต่เมื่อมองไปรอบๆดูเหมือนว่าน้องสาวของเบสแล้วก็คุณแม่จะไม่ค่อยชอบฉันเลย เพราะสีหน้าของเธอทั้งสองคนมันบ่งบอกว่าเธอไม่ชอบฉันเอามากๆ ฉันไปทำอะไรให้พวกเธอไม่สบายใจกันหรือป่าวเนี่ย
“แต่ว่าพ่อคะเขาไม่ใช่ครอบครัวของเรานะมาให้เขากินข้าวกับพวกเราได้ยังไงกันล่ะคะ”
//ปั้ง// คุณปู่ทุบโต๊ะทำให้ฉันสะดุ้ง ทุกคนต่างเงียบกันหมด
“จะอะไรก็ตามแต่ฉันเลือกแล้วฉันเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ และฉันใหญ่ที่สุดไม่มีสิทธิที่จะมาเถียงฉัน ตักข้าวฉันหิวฉันอยากกินข้าว”
แม่บ้านตักข้าวแล้วเริ่มนำอาหารมาเตรียมไว้เต็มโต๊ะไปหมด จากนั้นก็รอเวลาที่ตักข้าวเสร็จแล้วเริ่มกินข้าวกัน แต่ว่าฉันซึ่งเป็นคนที่ไม่ใช่ฐานะร่ำรวยก็ไม่รู้ว่าจะกินยังไงดี เป็นฉันจะไม่ใช้ช้อนกลางก็จะตักๆแล้วมานิ่งกินบนโซฟาเลย แต่ที่นี่ดูเหมือนจะเรียบร้อยมากใช้ช้อนกลาง ตักคำนิดเดียวเคี้ยวให้ระเอียดยอมรับว่ามันยากมากเลยอะ ฉันตักข้าวเข้าปากแล้วเริ่มกินเข้าไปเรื่อยๆ คิดอยู่ในใจเหมือนกันว่าเมื่อไหร่จะกินข้าวเสร็จ จานนี้หมดก็คงครึ่งชั่วโมงล่ะมั้ง
“กินข้าวดีๆหน่อยสิกินมุมมามแบบนี้ใครจะอยากมีแฟนแบบนั้นล่ะ”
อุ๊ยน้องสาวของพี่เบสพูดทำให้ฉันสะอึกเลยทันที ฉันเริ่มกินเบาๆลงแล้วก็เบาลงเรื่อยๆ พี่เบสมองมาทางฉันก่อนที่จะจับมือของฉันเอาไว้
“กินธรรมดาที่เคยกินนั่นแหละ เป็นตัวของตัวเองดีที่สุดแล้วพี่ชอบแบบนั้น”
ฉันมองไปที่น้องของพี่เบสดูเหมือนเธอจะกำช้อนของเธอเอาไว้แน่นเลยเมื่อพี่เบสพูดแบบนั้น จากนั้นเมื่อกินข้าวเสร็จคุณแม่และน้องเบลพาฉันเดินออกมาข้างนอก
“เธอไม่มีอะไรที่คู่ควรกับลูกสาวของฉันเลยแม้แต่น้อย ฉันอยากให้เธอคิดดีๆถ้าเธอรักลูกชายของฉันจริงๆ เธอชอบหรอที่เห็นคนที่เธอรักต้องมาถูกมองไม่ดีเพราะมีแฟนแบบเธอ ยังไงก็ตามแต่เธอต้องเห็นใจตระกูลของเราด้วย พวกเรามีหน้ามีตานะพวกเราไม่อยากให้เบสลูกชายของฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ในสังคม เขายังไม่โตพอที่จะรักใครแบบจริงจังหรอก และที่สำคัญที่สุดที่ฉันจะบอกเธอก็คือ เขามีคู่หมั้นแล้วและเขาสองคนจะแต่งงานกันเมื่อพวกเขาเรียนจบ ฉะนั้นเลิกคิดที่จะมาเป็นอนาคตของลูกชายฉันได้แล้ว โอเคนะเข้าใจที่ฉันพูดนะ”
สิ่งที่คุณแม่ของพี่เบสได้พูดขึ้นมามันทำให้ฉันเงียบลง เพราะว่ามันถูกต้องที่สุดตามที่คุณแม่ได้พูดมา และที่สำคัญสิ่งที่ฉันพึ่งรู้จากปากของคุณแม่ก็คือพี่เบสกำลังจะแต่งงาน เพราะเขามีคู่หมั้นแล้วนั่นเอง ฉันสู้ไม่ไหวนะแบบนี้ไม่ไหวจริงๆ ฉันยิ้มให้กับทั้งสองคนนั้นก่อนที่ทั้งสองคนจะเดินออกไปจากตรงนี้ ฉันเดินกลับบ้านตัวเองเป็นระยะทางที่ไกลมาก แต่ฉันไม่รู้สึกเหนื่อยเลยแถมไม่รู้ตัวว่ากลับมาตอนไหนด้วย ใจฉันเหม่อลอยคิดถึงเรื่องนั้นเรื่องที่คุณแม่ได้บอกมา จากนั้นไม่ว่าเขาจะทักมาโทรมาฉันก็ไม่เคยรับเลย จนกระทั่งมาถึงตอนที่ฉันบอกเลิกเขา หน้าเขาดูเศร้ามาและฉันรรู้ว่าเขาเสียใจมากเช่นกัน
“พี่ขอโอกาสได้พิสูจน์ตัวเองสักครั้งให้ปอยได้เห็นได้ไหมว่าพี่คู่ควรกับหนู อะไรที่พี่ทำผิดไปขอโทษอ้วนด้วยนะ แต่พี่ไม่รู้จริงๆว่าพี่ทำอะไรผิดบอกพี่หน่อยได้ไหม”
ฉันเงียบไปแต่ฉันเป็นพวกที่เวลาเป็นมีอะไรหรือเป็นอะไรฉันจะบอกไปตรงๆ
“พี่มีคู่หมั้นแล้วทำไมพี่ไม่บอกหนูตั้งแต่แรกคะ”
เขาเงียบไปเพราะอึ้งกับสิ่งที่ฉันพูดออกไปให้พี่เบาได้ฟัง เขาถอนหายใจยาวๆก่อนจะจับมือของฉันเอาไว้
“พี่ขอโทษที่ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับอ้วนนะ จริงๆมันไม่ใช่แบบนั้นหรอกพี่ไม่ได้ยอม คุณแม่บังคับพี่แต่พี่จะไม่หมั้นกับใครเด็ดขาดไม่ว่าคนไหนก็ตาม พี่รักหนูและพี่จะอยู่กับหนูและพร้อมที่จะหมั้นกับหนูตอนนี้ด้วย พี่จะไปขอคุณปู่ด้วยตัวเองให้มาขอหนูกับแม่และพ่อของหนูหลังจากเรียนจบ”
เขาจะมาขอหมั้นฉันหลังเรียนจบอย่างนั้นหรอ เอาจริงดิ!