ตอนที่ 161 อาหารอันโอชะจากตะวันออก 2
“มันต้องใช้เวลามากกว่าที่ฉันคิด....”ธีโอดอร์พึมพำออกมา
นี่เป็นเพราะว่าตัวอักษรเหล่านี้เป็นภาษาที่ไม่คุ้นเคยสำหรับเขา แม้ว่าจะได้รับความรู้มาจากลี ยองซุกก็ตาม มันทำให้เขาต้องใช้เวลาในการอ่านหนังสือนานกว่าเดิมสามหรือสี่เท่า
นอกจากนี้หนังสือเวทมนต์นั้นยังไม่ได้มีเพียงแค่ตัวอักษรจีนเท่านั้น แต่ยังมีภาษาที่พิเศษเช่น ภาษาสันสกฤตและอูรดู พวกมันเป็นภาษาที่ซึ่งลี ยองซุก ไม่รู้จัก
ดังนั้น ธีโอจึงไม่มีทางเลือกนอกจากการเรียนรู้ตั้งแต่ต้น
‘เอาละ มันเป็นเวลานานแล้วที่ฉันได้ศึกษาด้วยวิธีนี้’
มันเป็นช่วงที่เขาเข้าสถาบันเบอร์เก้นใหม่ๆ เขาจำได้ว่าเขาได้ใช้เวลาตลอดทั้งคืนในการอ่านหนังสือเรียน
ธีโอดอร์ได้สะบัดไล่ความทรงจำนั้นไปขณะที่เขาวางขวดหมึกอันใหม่ ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาได้ใช้ขวดหมึกไปมากกว่าหนึ่งโหล หากไม่มีเวทย์ฟื้นฟูละก็ กระดูกข้อมือของเขาคงแตกไปแล้ว
ถ้าธีโอดอร์ต้องศึกษาเช่นนี้ แล้วลูกชายนักรบละ?
“ทะ-ท่านพี่….”น้ำเสียงที่อ่อนล้าดังมาจากโต๊ะข้างๆธีโอ เช่นเดียวกับธีโอดอร์ หนังสือหลายสิบเล่มวางกองอยู่ตรงหน้า แพค ต็องซอน ผู้ที่ใบหน้าดำคล้ำ
แพค ต็อกซอน อยู่ในสถานการณ์เช่นเดียวกับธีโอดอร์ รอบๆเขาเต็มไปด้วยอักษรรูน ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่าเป็นพื้นฐานของจอมเวทย์ มันเป็นสิ่งจำเป็นในการยกระดับภาษาของเวทมนต์ขึ้น นอกจากนี้ ยังมีทักษะคณิตศาสตร์และเรขาคณิตที่จำเป็นในการคำนวณสูตรเวทมนต์
อย่างไรก็ตาม ธีโอดอร์นั้นจะกลายเป็นคนโหดเหี้ยมเมื่อเกี่ยวกับการเล่าเรียน
ฟู่!
ไม่มีการร่ายเวทย์ เวทย์รักษาและฟื้นฟูความเมื่อยล้า คาถาสองบทได้ถูกใช้ด้วยการดีดนิ้วเพียงครั้งเดียว รอบๆร่างของแพค ต็อกซอน เป็นการผสมของเวทย์รักษาร่างกายและฟื้นฟูความเมื่อยล้าทางจิตใจ
“ตอนนี้ เธอ ดีขึ้นรึยัง?”
มันเป็นเช่นธีโอกล่าว รอยคล้ำใต้ดวงตาของแพค ต็อกซอน กลายเป็นสดใสขึ้น และนิ้วมือที่สั่นจากความเมื่อยล้ารู้สึกผ่อนคลายขึ้น อย่างไรก็ตาม ความเมื่อยล้าสะสมนั้นยังคงอยู่ ส่งผลให้แพค ต็อกซอน หันไปมองหน้าธีโอดอร์ด้วยใบหน้าบูดบึ้ง
“อืม.....ข้ายังไม่ค่อยคุ้นชินกับความรู้สึกนี้นัก แม้ว่าจะมีประสบการณ์กับมันมาหลายครั้งแล้วก็ตาม”
“มันยังคงเป็นเพียงทางลัด นี่ก็ครั้งที่แปดแล้วและช่องว่างระหว่างเวทย์ฟื้นฟูจะเล็กลง....มันอาจจะเร็วไปนิด แต่เราจะพักกันในวันนี้”
เวทมนต์นั้นจะมีขีดจำกัดเมื่อเป็นการฟื้นฟูร่างกาย หากมีการใช้เวทมนต์ฟื้นฟูซ้ำๆ ผลที่ได้จะลดลง นอกจากนี้ ร่างกายที่ได้รับพลังเวทมนต์มากเกินไปในช่วงเวลาๆสั้นๆจะทำให้ร่างกายนั้นต่อต้านเวทมนต์นั้นชั่วคราว
แน่นอน ผู้คนจากหอคอยเวทมนต์จะสามารถทนทานได้อย่างน้อย20ครั้ง แต่ทว่า ความแข็งแรงทางร่างกายของพวกเขาก็ไม่สามารถเทียบได้กับแพค ต็อกซอนเช่นกัน แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงผู้เริ่มฝึกฝนก็ตาม
เมื่อได้รับอนุญาติจากธีโอดอร์ แพค ต็อกซอน ก็ลุกขึ้นจากที่นั่งที่ยึดติดเขามาหลายชั่วโมงทันทีและบ่นว่า “อ้าก!แต่ ท่านพี่ ข้าจำเป็นต้องเรียนรู้ภาษาของท่านจริงหรือ?ท่านพี่สามารถสอนข้าแทนการอ่านหนังสือได้หรือไม่?”
“ไม่ได้ นั่นไม่ได้ผลหรอก”ธีโอดอร์ปฏิเสธทันควัน
ธีโอดอร์ได้สะสมความรู้ของเขามาตลอด ดังนั้นเขาจึงรู้ว่ามุมมองแบบแคบๆนั้นจะไม่ให้ผลลัพธ์ที่ดี
คนที่ใช้ทางลัดเพื่อหาเส้นทางที่สะดวกสบายจะติดขัดเข้าสักวันหนึ่งด้วยความไม่จริงจัง วิธีนี้อาจจะดูเหมือนไม่ได้ผลในตอนนี้ แต่ในอนาคตเขาจะไม่มีทางลืมแน่ๆ
สำหรับจอมเวทย์ผู้ที่ใฝ่หาภูมิปัญญาที่ไม่มีที่สิ้นสุด การลืมนั้นเป็นศัตรูที่เลวร้ายที่สุด คนที่ไม่สามารถหาเส้นทางของตัวเองได้ ในที่สุดพวกเขาก็จะเตร็ดเตร่ไปในความเงียบ
“เธอไม่สามารถที่จะลืมรากฐานไปได้เพียงเพราะเธอรีบ ในฐานะลูกหลานของนักรบ เธอรู้ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคนที่ไม่สนใจพื้นฐาน?”
“นะ-นั่น....”แพค ต็อกซอน อ้ำอึ้งไปกับคำพูดที่แหลมคม
นี่ทำให้ธีโอดอร์ตบบ่าเขาและยิ้ม “ฉันเข้าใจว่าทำไมเธอจึงรีบร้อน เป็นเพราะฉันกำลังจะออกไปจากอาณาจักรนี้ใช่มั้ย?”
“….......” เด็กชายก้มหัวลงด้วยใบหน้าแดงอย่างอับอาย เพราะความคิดภายในหัวของเขาถูกเปิดเผย มันเป็นสถานการณ์ที่เขามีเวลาจำกัด เกี่ยวกับอาจารย์ของเขาและวัยหนุ่มสาวของเขา มันทำให้เขาไม่สามารถที่จะสงบจิตใจของเขาได้ในขณะที่คิดถึงเรื่องนี้
ธีโอดอร์รู้ความคิดของแพค ต็อกซอนดี แต่การสอนเขาด้วยวิธีนั้นจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่เลวร้าย ดังนั้นธีโอดอร์จึงกล่าวด้วยเสียงเงียบๆ “ต็อกซอน”
“ครับ ท่านพี่”
“ฉันได้สอนเธอตามที่เธอร้องขอ แต่ฉันไม่สามารถเป็นผู้สอนจริงๆได้”
ดวงตาของแพค ต็อกซอน สั่นไหวกับคำพูดนั้น เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ขะ-ข้ารู้ มันเป็นเวลาเพียงสองสัปดาห์ แต่....เริ่มจากวัยของข้าและความสำเร็จที่คาดหวัง.....”
“ไม่ นั่นไม่ใช่ประเด็น”
“หืม?” แพค ต็อกซอน เงยหน้าขึ้นมองไปที่ธีโอ เขาจ้องมองไปในดวงตาสีฟ้าของธีโอและกลืนน้ำลาย
“ทักษะของเธอนั้นค่อนข้างเยี่ยม แต่ฉันไม่ใช้ครูที่ดี เธอมีอำนาจมากมาย แต่เธอยังเด็กนัก ฉันสามารถทำได้แค่บอกเธอว่าเส้นทางไหนที่เธอควรทำเท่านั้น”
“….”
“เวทมนต์ไม่ใช่สิ่งที่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยเวลาเพียงไม่กี่เดือน หากเธอทำด้วยวิธีนั้น เธอจะไม่สามารถมองเห็นมันได้ ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย เธออยากจะเดินไปบนเส้นทางนั้นงั้นหรือ?”
หลังจากรับฟังสิ่งที่เขาพูด ความมืดมนในดวงตาแพค ต็อกซอน ก็ได้หายใจ มันเป็นสิ่งที่เรียกว่าหัวใจปีศาจ มันอาจจะเป็นเพราะความเข้มงวดในตัวเองของเขาที่สะสมตั้งแต่ตอนเด็ก.....? ดวงตาของแพค ต็อกซอน ได้สดใสขึ้นขณะที่เขายังคงฟังธีโอดอร์พูด
“เห็นได้ชัดว่า ระยะเวลาที่ฉันสามารถสอนเธอได้นั้นสั้นนัก อย่างไรก็ตาม มีจอมเวทย์มากมายและบางคนก็เหมาะสมที่จะเป็นครูของเธอ หน้าที่ของฉันคือการเสริมสร้างพื้นฐานของเธอเพื่อให้พร้อมเมื่อเธอได้พบผู้สอนที่ดี”
“....ทะ-ท่านพี่”แพค ต็อกซอน ลดหัวลงด้วยความอับอายหลังจากที่ได้ฟังความจริงจากธีโอดอร์
มันฟังดูสมเหตุสมผลอย่างยิ่ง เขาจะสามารถถ่ายทอดความรู้อันยิ่งใหญ่ให้กับแพค ต็อกซอน ผู้ซึ่งยังไม่รู้พื้นฐานได้ยังไง? เห็นได้ชัดว่า แพค ต็อกซอน คงจะไม่เข้าใจถึงแม้ว่าเขาจะสอนหนักแค่ไหนก็ตาม เมื่อเขาได้สะสมความรู้พื้นฐานแล้ว เขาก็จะสามารถเล่าเรียนกับอาจารย์คนไหนก็ได้หรือเข้าสถาบันเวทมนต์เพื่อศึกษา
ตอนนี้ แพค ต็อกซอน เข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่าทำไม เขารู้สึกอับอายมาก แต่บรรยากาศนั้นหนักเกินไปที่จะเงียบ
ธีโอดอร์สังเกตเห็นถึงบรรยากาศที่อึดอัดและลุกขึ้นยืนทันที “เราจะเริ่มกันอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ตอนเที่ยง จนกว่าจะถึงตอนนั้น ทบทวนสิ่งที่เธอได้เรียนและพักผ่อนให้เพียงพอซะ”
“ครับ ท่านพี่!ข้าจะทบทวนอย่างละเอียด!”แพค ต็อกซอน ตอบอย่างหนักแน่นก่อนที่จะมองไปที่กองหนังสือบนโต๊ะของธีโอดอร์
แม้กระทั่งแพค ต็อกซอน เองก็ยังไม่เชี่ยวชาญภาษาของเขา แต่ธีโอดอร์กลับอ่านหนังสือเวทมนต์ด้วยตัวเขาเอง แพค ต็อกซอนค่อนข้างมั่นใจความสามารถในการเล่าเรียนของเขา แต่เมื่อเทียบกับธีโอแล้ว...
“ท่านพี่นั้นน่ากลัวจริงๆ ท่านต้องได้รับการยกย่องจากผู้อาวุโสหลายคนตั้งแต่ตอนเด็กและถูกเรียกว่าอัจฉริยะแน่ๆ?”
“...ไม่เลย”ธีโอดอร์ยิ้มอย่างขมขื่นเมื่อพูดถึงชื่อเล่นเก่าของเขา “ในสถาบัน ฉันซ้ำชั้นอยู่สามปีและถูกเรียกว่าขยะ”
“....?!”
“บางที นี่อาจจะเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ว่าทำไมฉันถึงสอนเธอ เธอคล้ายกับตัวตนเก่าของฉัน”
แพค ต็อกซอน ไม่สามารถที่จะพูดสิ่งใดได้ในขณะที่ภาพในอดีตฉายผ่านอยู่ในดวงตาธีโอดอร์ ธีโอดอร์ตบไหล่แพค ต็อกซอนอีกครั้งก่อนที่จะหันหลังและเดินออกไป
ความทรงจำก็เหมือนกับภาพวาดสีจางๆ
***
หลังจากที่สอนแพค ต็อกซอน เสร็จ ธีโอดอร์ก็กินอาหารอย่างรวดเร็วและกลับไปที่ห้องของเขา ดวงอาทิตย์กำลังจะตกลงในขณะที่ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีแดงอมส้ม โดยปกติ มันเป็นเวลาที่จะให้อาหารความตะกละและประลองกับแรนดอล์ฟ...แต่ไม่ใช่วันนี้
ธีโอดอร์มองไปที่หนังสือตรงหน้าเขาและพึมพำ “...ในที่สุด”
สองสัปดาห์นั้นเป็นเวลาที่ไม่นาน ในขณะเดียวกัน ธีโอดอร์ก็ได้รับความรู้ความเข้าใจอย่างสูงในหนังสือไสยเวทย์สามหรือสี่เล่ม มี[กฏเกณฑ์ทั้ง9]ที่เขาหยิบขึ้นมาในวันแรก แต่ธีโอดอร์กลับถูกดึงดูดโดยเล่มอื่น
เขารู้สึกตื่นเต้นทันทีที่เขาเห็นหน้าต่างข้อมูลในครั้งแรก
[ตำราวิถีแห่งองเมียว]
[-หนังสือเล่มนี้อธิบายถึงระบบเวทมนต์ตามทฤษฏีหยินและหยาง ผู้เขียนได้แบ่งโลกออกเป็นหยินและหยาง เนื่องจากทุกสิ่งอย่างต่างรักษาความสมดุลและความกลมเกลียวเมื่อมีปฏิกิริยาต่อกัน เช่น น้ำและไฟ ความเข้าใจของผู้เขียนเกี่ยวกับกฏแห่งธรรมชาติได้อยู่ในระดับที่สูงยิ่ง แต่ทว่า ผู้เขียนกับถูกฆ่าโดย???(ไม่สามารถระบุได้)
*ความเข้าใจของคุณสูงมาก(96.9%)
*หนังสือเวทย์เล่มนี้อยู่ในระดับ ‘ล้ำค่า’
*เมื่อกินแล้วคุณจะสามารถเรียนรู้ ‘วิถีแห่งองเมียว’ได้
*เมื่อกินแล้วความเข้าใจเกี่ยวกับเวทย์ธาตุของคุณจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล(วิถีองเมียว จะยึดหลักตามธาตุทั้ง5)
*นี่เป็นหนังสือต้นฉบับที่เขียนโดยผู้เขียน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเขาได้เขียนหนังสือขึ้นมา6เล่ม พลังของเขาจึงถูกแบ่งออกเป็น6ส่วน ถึงจะเป็นเช่นนั้น เศษเสี้ยววิญยาณที่อยู่ภายในหนังสือเล่มนี้ก็ยังคงมีพลังอำนาจและคงไว้ซึ่งฐิติ]
‘มันเป็นการดีที่สุดที่จะกินหนังสือเล่มนี้’
ธีโอดอร์ได้ตัดสินว่า [ตำราวิถีแห่งองเมียว]เป็นหนังสือที่มีประโยชน์มากที่สุดสำหรับเขาในตอนนี้
ความคิดนี้ได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆแทนที่จะลดลงขณะที่เขาค่อยๆอ่าน ‘ตำราวิถีแห่งองเมียว’ วิถีแห่งองเมียวเป็นเทคนิคการรวมพลังอำนาจที่ไม่สามารถเข้ากันได้สองอย่างเข้าด้วยกัน การเรียนรู้นี้จะทำให้ธีโอดอร์สามารถแก้ไขปัญหาคาถาที่ยังไม่สมบูรณ์ของเขา เขาอาจจะคลำทางที่มืดมิดของกำแพงจ้าวมนตราได้ และมีความเป็นไปได้ที่จะทำลายมัน
ธีโอดอร์ตัดสินใจและยื่นมือของเขาออกมา หยิบม้วนคัมภีร์ขึ้นมาไว้ในมือของเขา คัมภีร์นี้มีมูลค่าอย่างน้อยสองเหรียญทอง แต่ธีโอดอร์กลับฉีกมันโดยไม่ลังเล
ผ่าง!
ทันใดนั้น แสงก็พุ่งออกมา แสงนั้นไม่ใช่เวทย์โจมตีหรือเวทมนต์สนับสนุนใดๆ มันเป็นเวทย์พิเศษซึ่งจะสร้างวัตถุขึ้นมาใหม่ให้มีรูปร่างและน้ำหนักที่เหมือนกัน ตราบเท่าที่เงื่อนไขตรงกัน ธีโอดอร์ได้สร้างตำราวิถีแห่งองเมียว ฉบับสำเนาขึ้น
ทันทีที่ตำราฉบับสำเนาปรากฏ ธีโอดอร์ก็หยิบมันขึ้นและวางไว้บนโต๊ะของเขา นี่เป็นการกระทำที่ได้รับคำยินยอมจาก แพค ต็อกซอนแล้ว
‘เอาละ สำหรับคนส่วนใหญ่ มันจะไม่มีความแตกต่างระหว่างต้นฉบับและสำเนา’
อาจจะมีความแตกต่างทางการเงินบ้าง แต่เมื่อเทียบกับเงินที่ตระกูลแพคมีอยู่ แพค ต็อกซอน จึงยอมรับคำขอโดยง่าย
‘เอาละ เรียบร้อยแล้ว’
การเตรียมการได้เสร็จสิ้นแล้ว ธีโอดอร์นั่งลงบนเตียงโดยไม่มีความลังเลและเล็งมือซ้ายไปยัง [ตำราวิถีแห่งองเมียว] ในสถานการณ์นี้ จะมีเพียงประโยคเดียวเท่านั้นที่ดังออกมา “กินซะ ความตะกละ”
ลิ้นพุ่งออกไปกลืนกินหนังสือทันที ราวกับมันกำลังรออยู่
[‘วิถีแห่งองเมียว’ถูกกินแล้ว ความเข้าใจของคุณสูงมาก]
[ความเข้าใจของคุณเกี่ยวกับเวทย์ธาตุเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล]
[การยอมรับความชำนาญของ ‘วิถีแห่งองเมียว’...ล้มเหลว]
[หนังสือต้นฉบับถูกกินแล้ว กำลังตรวจสอบอัตราซิงโครกับวัตถุนาม’อาเบะ โนะ เซย์เมย์’....ถูกปิดกั้น อาเบะ โนะ เซย์เมย์ ได้ปฏิเสธที่จะซิงโครกับผู้ใช้ คุณสามารถที่จะบังคับซิงโครได้ด้วยสิทธิ์ของผู้ใช้ แต่ไม่แนะนำ]
“อะ-อะไรกัน?!”
การซิงโครถูกปฏิเสธ!ธีโอดอร์ตกใจเพราะเขาไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน ไม่เพียงแต่ซิงโครจะถูกปฏิเสธ การดูดซับความเชี่ยวชาญของ’วิถีแห่งองเมียว’ก็ล้มเหลว มันเหมือนกับหนังสือต้นฉบับที่จู่ๆก็ระเบิด โชคดีที่ระบบนั้นยังไม่เสร็จสิ้น
อีกครั้งหนึ่ง มันเป็นครั้งแรกของธีโอดอร์ที่มีประสบการณ์กับข้อความประเภทนี้
[วัตถุนาม ‘อาเบะ โนะ เซย์เมย์’กำลังขอที่จะสนทนากับผู้ใช้ คุณจะยอมรับหรือไม่?]
“ก่อนหน้านั้น ฉันอยากจะถามอะไรบางอย่าง”
แทนที่จะตอบรับคำร้องขอของอาเบะ โนะ เซย์เมย์ ธีโอดอร์ต้องการคำตอบสำหรับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดนี้ ความตะกละจะกุมความลับอย่างเคร่งครัดเกี่ยวกับคุณสมบัติที่ซ่อนเร้นหรือข้อมูลบางอย่าง แต่เมื่อมันถูกเปิดเผยแล้วมันก็จะไม่สนใจอีก
ไม่น่าแปลกใจเลยมันตอบกลับด้วยเสียงหน่ายๆ –เจ้าอยากจะถามว่าทำไมการซิงโครจึงถูกปฏิเสธสินะ?
“แน่นอน จนถึงตอนนี้ แกยังไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย”
-มันไม่ใช่ว่าข้าเคยบอกเจ้าไปแล้วงั้นหรือ
คนทั่วไปอาจจะถามเซ้าซี้ แต่ธีโอดอร์กลับหยุดและคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้
ไม่ใช่ว่ามันทำไม่ได้ แต่มันไม่มีความสามารถที่จะทำเช่นนั้น กล่าวอีกนัยหนึ่ง ผู้เขียนหนังสือต้นฉบับไม่มีความสามารถที่จะทำเช่นนั้น แล้วผู้เขียนที่ชื่ออาเบะ โนะ เซย์เมย์มีความสามารถนี้?
เพื่อยืนยันการคาดเดาของเขา ธีโอดอร์เปิดปากของเขาอีกครั้งและถามว่า “อาเบะ โนะ เซย์เมย์ เขาเป็นคนที่พิเศษ?”
-พิเศษ....คำนั้นก็ไม่ผิดนัก ง่ายๆ พลังวิญญาณของเขานั้นสูง
“พลังวิญญาณสูง?”
-ถูกต้อง เขาไม่ได้มีอำนาจเหนือธรรมชาติ แต่เขาก็ใกล้ที่จะถึงจุดสูงสุดของมนุษย์ ความแข็งแกร่งของตัวตนเช่นนั้นจะไม่สามารถทำให้อ่อนลงได้อย่างสมบูรณ์ ที่เจ้าสามารถเชื่อมต่อกับไมน์ดัลได้ก็เพราะเขายอมรับการเชื่อมต่อเอง
ธีโอดอร์คร่ำครวญเล็กน้อย นั่นหมายความว่าในบรรดานักเขียนที่เขาได้พบมาจนถึงปัจจุบัน อาเบะ โนะ เซย์เมย์ อาจจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าจ้าวมนตรา นี่อาจจะเป็นการดำรงอยู่ที่เทียบได้กับจอมเวทย์ธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ไมน์ดัล
ในตอนนี้ เขากำลังเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดเช่นนี้ในหนังสือต้นฉบับเกี่ยวกับไสยเวทย์
จากนั้น ธีโอดอร์ก็กล่าวกับความตะกละด้วยท่าทางมุ่งมั่น “ฉันจะยอมรับคำขอของอาเบะ โนะ เซย์เมย์