ตอนที่ 14 ต้นซากุระที่เเสนสวยงาม
“นี่เจ้าปล่อยเราได้แล้วนะจะพาเราไปที่ใดกันแน่ไม่หนักหรืออย่างไรกันที่อุ้มเราแบบนี้”
ว่านเจี๋ยพูดขึ้นก่อนจะสะบัดตัวไปมาเพื่อที่จะให้โลโยดะปล่อยตัวนางเสียงที แต่เขาก็ไม่ยอมปล่อยนางและพานางออกไปที่ใดสักแห่งหนึ่ง
“ปล่อยก็ได้ถึงแล้วๆ เจ้าเห็นประตูนั่นหรือไม่ ประตูนั้นถ้าเจ้าเปิดออกไปเจ้าจะเห็นอะไรบางอย่างแต่ข้าไม่บอกเจ้านะว่าเจ้าจะเห็นอะไร มันคือสิ่งที่ให้เจ้าในวันที่เจ้าได้เข้ามาที่นี่”
ว่านเจี๋ยทำหน้ามึนงงกับสิ่งที่โลโยดะพูด แต่นางก็มองไปที่ประตูสีแดงบานนั้น (ในนั้นมันมีอะไรกันแน่) นางคิดในใจก่อนที่จะเดินไปหาประตู ก่อนเปิดนางได้มองโลโยดะอีกครั้งก่อนที่จะหันไปเปิดประตูสีแดง เมื่อเปิดแสงที่สะท้อนออกมาทำให้นางต้องหลี่ตาลง แสงอะไรกันทำไมถึงส่องสว่างขนาดนั้น เมื่อแสงได้กลับมาเป็นปกติแล้วนางจึงสามารถที่จะมองเห็นข้างในได้ แต่เมื่อนางได้เห็นมันทำให้นางตาค้างกับสิ่งที่นางเห็นในทันที
“ที่นี่มันทำไมช่างสวยงามขนาดนี้..ต้นไม่ชนิดนี้มันมีชื่อว่าอย่างไรงั้นเลอะ ทำไมเราไม่เคยเห็นมันเลย”
สิ่งที่นางเห็นก็คือต้นไม่ที่ใหญ่โตหลายต้น แต่ที่แปลกนั้นก็คือใบของมันเป็นสีชมพู ซึ่งมันสวยมากเลย
“ต้นนี้ข้าตั้งชื่อว่าซากุระ มันสวยงามใช่ไหมล่ะดอกมันจะออกดอกแค่เดือนสุดท้ายของปีเท่านั้น ไม่มีใครเห็นเลยนะยกเว้นข้ากับเจ้าในตอนนี้”
สิ่งที่เขาพูดทำให้นางตงิดใจเพราะคำพูดของโลโยดะที่พูดออกมาว่า ( ในตอนนี้. )
“อะไรที่ว่าในตอนนี้แสดงว่ามันเคยมีคนที่ได้เห็นต้นซากุระนี่มาก่อนใช่หรือไม่?”
โลโยดะมองหน้าของว่านเจี๋ยก็รู้ได้เลยว่าว่านเจี๋ยกำลังส่งสัยเขาอยู่
“...ใช่แล้วล่ะเคยมีผู้หญิงคนหนึ่งมาเห็นเจ้าต้นซากุระต้นนี้แล้วล่ะ ในตอนนั้นข้ารู้สึกดีกับนางมากเลยนะ แต่ว่า..มันก็ต้องพังทลายไปมีบางอย่างที่ทำให้เราสองคนต้องอยู่ห่างจากกัน และไม่เจอกันอีกน่ะ”
โลโยดะได้บอกความจริงทุกอย่างกับนาง และนางก็เข้าใจเขาและเชื่อในตัวของเขา นางยืนดูต้นซากุระที่สวยงามนั้น และลองมองมาที่ชุดที่ตัวเองสวมอยู่ นางเห็นว่าชุดและต้นซากุระสีเหมือนกันมากเลย
“ชุดนี้เหมือนกับเจ้าต้นซากุระเลยนี่นา หรือว่า?”
โลโยดะยิ้มขึ้นมาก่อนที่จะจับนางหันมาหาเขา เขาจับไหล่ของนางไว้ทั้งสองข้างก่อนที่จะมองไปที่ตาของนาง
“ข้าเตรียมไว้ให้เจ้าเพื่อให้มันเข้ากับต้นซากุระพวกนี้แหละ มันเข้ากันมากเลยนะข้ารู้สึก..ชอบมากเลยล่ะ”
สายตาของทั้งสองคนจ้องมองไปที่ดวงตาของกันและกัน และทั้งสองคนก็เริ่มยื่นหน้าเข้าไปหากัน ไม่รู้เป็นเพราะสาเหตุใดจึงทำให้ทั้งสองคนเหมือนโดนมนตร์สะกดของกันและกัน หน้าของทั้งสองคนยื่นเข้ามาหากัน จนใกล้ชิดกันมากๆเลย และแล้วปากของทั้งสองคนได้กระทบกัน เสียงลมหายใจและลมหายใจที่ปะทะหน้าของกันและกัน พร้อมกับต้นซากุระที่สวยงาม ทำให้รู้ว่าทั้งสองคนกำลังตกหลุมรักกันอยู่
//ปัง// “ท่านพี่ทำไรกันอะ” เสียงของชิโร่กามะที่เดินเข้ามาที่นี่ได้ดังขึ้นมา ทั้งสองคนรีบถอยออกจากกันอย่างรวดเร็ว
“ป่าวๆไม่มีอะไรข้าขอตัวไปลดน้ำต้นซากุระก่อนนะ” โลโยดะพูดก่อนจะรีบเดินไปลดน้ำซากระในทันที ส่วนว่านเจี๋ยก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นแล้วก็เดินไปจับนู่นจับนี่เพื่อไม่ให้มีพิรุธ
“แน่ใจนะ เหมือนข้าเห็นอะไรบางอย่าง../ไม่เห็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น (พูดพร้อมกัน)”
ชิโร่กามะยิ้มออกมาก่อนที่จะเหล่มองทั้งสองคน และทั้งสองคนก็พยายามหลบหน้าของชิโร่กามะในทันทีเมื่อเห็นเช่นนั้น
“ก็ได้ๆข้าจะเชื่อพวกท่านทั้งสองคน งั้นข้าขอตัวไปหาองค์หญิงแห่งภูเขาหิมะก่อนนะ สวยซะไม่มี”
แล้วโชโร่กามะก็ร้องเพลงแล้วเดินออกไปจากที่นี่ก่อนปิดประตูลง ว่านเจี๋นและโลโยดะถอนหายใจกันอย่างไวก่อนจะพากันมานั่งข้างๆต้นไม้แล้วมองดูดาวพร้อมกับต้นซากุระ
“นี่พวกเรากำลังทำอะไรอยู่กัน เราทำแบบนี้ที่ราชอาณาจักรของเรา เราคงโดนตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงใจง่ายเป็นแน่เลย”
นางทำหน้าหง๋อยๆแต่ว่าโลโยดะก็จับหน้าของนางขึ้นมาอย่างเบามือแล้วให้หันหน้ามาหาโลโยดะ
“มันไม่ใช่แบบนั้นหรอกนะ นี่เจ้าไม่ได้อยู่ที่ราชอาณาจักรของเจ้าเสียหน่อย..พูดถึงราชอาณาจักรของเจ้า ข้าขอโทษนะที่ทำแบบนั้นกับเจ้าและทุกอย่างที่ราชอาณาจักรของเจ้า จริงๆแล้วข้าไม่ได้ต้องการที่จะทำแบบนั้นหรอก ข้าไม่รู้ว่าเจ้ายังโกรธข้าหรือป่าวถ้าโกรธข้าต้องขอโทษเจ้าจริงๆ ข้าต้องตามหาสาวที่บริสุทธิ์และสวยงามดั่งเทพธิดาเพื่อที่จะมาเป็นเครื่องสังเวยแก่ตัวของข้า ข้าต้องดื่มเลือดน่ะถ้าข้าไม่ดื่มเลือดข้าจะตาย จริงๆ..ก็ห้าสิบปีครั้งหนึ่งน่ะ สำหรับการสังเวย แต่ว่าถ้าทำพันธสัญญาแล้วจะต้องทุกหนึ่งอาทิตย์ กินได้เฉพาะแต่คนที่ทำพันธสัญญาด้วยเท่านั้น ตอนนี้กยังไม่ได้กินเลย ฮ่า ฮ่า”
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเมื่อเล่าให้นางฟัง นางพยักหน้าและเข้าใจกับสิ่งที่เขาพูด
“เราไม่ถือโกรธเจ้าหรอกนะเราเข้าใจ ก็มันอยู่ในยุคของการยึดเมืองนี่นา แต่ว่าเจ้าต้องกินเลือดหรอ? กินได้แต่เลือดของเราสินะ..งั้นกินเลยไหมเราจะให้เจ้ากินเราเต็มใจ”
นางยิ้มให้กับเขาก่อนจะยื่นมือไปให้เขาเพื่อที่จะให้เขาได้กัดไปที่มือของนางแล้วกินจากมือนางเอง แต่ว่าเขาก็มองนางไม่หยุดเพราะสำนึกกับสิ่งที่เขาได้ทำไว้กับนาง ถ้าเป็นคนอื่นคงจะโกรธและหนีจากเขาไปแล้ว แต่สำหรับนางมันต่างกันเพราะว่านางไม่หนีและยังเข้าใจเขาด้วยซ้ำ
“มันกินที่มือไม่ได้น่ะสิมันต้องกินที่อื่น” เขาพูดขึ้นมาทำให้นางแปลกใจกับสิ่งที่โลโยดะพูด
“แล้วจะกินตรงไหนล่ะมันต้องกินที่ไหน?” นางถามเขาไปก่อนที่เขาจะยิ้มให้กับ
“ตรงคออะ..” นางนิ่งไปเพราะว่าตรงคอเป็นจุดสำคัญของนางเป็นอย่างมาก เขาอาจจะไม่รู้ว่านางมีจุดอ่อนที่คอ นางกำลังจะบอกเขาว่าไม่เอาแต่ว่าเขาก็ยื่นหน้าไปที่คอของนางแล้วกัดเข้าไป มันไม่เจ็บมากแต่มันรู้สึกแปลกๆทำให้นางสะดุ้งขึ้นมา
“อ๊า..ข้าคือ อ๊า” น้ำเสียงของนางเปลี่ยนไปเพราะว่านั่นเป็นจุดที่นางไม่ให้ใครสัมผัสเลย เป็นเขาคนแรกที่ได้สัมผัสที่คอของนาง เมื่อโลโยดะได้ดื่มเลือดของนางเสร็จ ก็เลียแผลของนางให้มันหายเป็นปกติ ปีศาจอย่างเขาจะมีพลังเยียวยาอยู่แล้วจึงทำได้ง่าย
“เสร็จแล้ว..เจ้าเป็นอะไรหรอทำไมทำตัวแข็งแบบนั้นล่ะ”
เขายังไม่รู้ตัวสินะว่าทำอะไรกับนางเอาไว้ เมื่อนางได้สติกลับมาเป็นเหมือนเดิมก็รู้สึกเขินและหน้าแดงเป็นอย่างมาก
“เจ้า..ช่างมันเถอะๆเรากลับเข้าไปที่พระราชวังกันดีกว่า จะถึงเวลารับประทานอาหารหรือยัง ราหิวจะแย่อยู่แล้ว”
ว่านเจี๋ยเปลี่ยนเรื่องแล้วเดินออกไปในทันที แต่ว่าเขาก็จับแขนของนางเอาไว้ก่อนที่จะดึงนางมากกอด
“ขอบใจนะที่เข้าใจข้า ถ้าจะหิวขนาดนี้ไม่กินข้าข้ามเวลาไปก่อนล่ะ”
คำพูดของเขาทำให้นางยิ่งหน้าแดงเข้าไปใหญ่ แล้วนางก็เอามือชกไปที่ไหล่ของเขาเบาๆ แล้วรีบเดินออกจากที่นี่ทันทีเพื่อเข้าไปที่พระราชวัง ทั้งสองคนได้รู้ใจกันแล้วกับสิ่งที่ทั้งสองคนทำมันทำให้โลกทั้งใบกลายเป็นสีชมพู