ตอนที่ 11 หญิงสาวปริศนา
“มันเกิดอะไรขึ้นกันน่ะ” ชิโร่กามะพูดขึ้นก่อนที่ทุกคนจะหยุดนิ่งเพื่อรอให้ฝุ่นจากข้างหลังได้จางหายไปก่อน เมื่อฝุ่นจางหายไปทุกคนก็พบกับหญิงสาวคนหนึ่งที่แต่งตัวได้สะอาดตาและดูงดงามเป็นอย่างมาก นางลุกขึ้นจากหลุมที่เป็นวงกว้างออกมาแล้วเดินออกมาจากหลุมนั้น
“แหมๆๆ สวัสดีทุกคนด้วยนะ อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเลยนี่นา..สวัสดีเอริน โลโยดะ ชิโร่กามะ ไม่ได้เจอกันนานมากเลยนะ นึกว่าพวกเจ้าจะเป็นศัตรูกันเสียอีก แต่ทำไมวันนี้พวกเจ้าถึงมาอยู่ด้วยกันแบบนี้ได้กันล่ะ”
ผู้หญิงคนนี้รู้จักรทุกคนที่ยืนอยู่ นางมองไปที่ว่านเจี๋ยก่อนที่จะยิ้มออกมาเบาๆ
“เอ๋ แม่นางคนนั้นเป็นผู้ใดกันทำไมถึงมากับพวกเจ้าได้กันล่ะ ?”
นางมองไปที่ว่านเจี๋ยอย่างไม่ละสายตา และพยายามถามทั้งสามคนว่าว่านเจี๋ยเป็นใคร ทุกคนจากที่กำลังสบายๆอยู่ เริ่มที่จะทำสีหน้าที่จริงจังขึ้นมาเมื่อได้เห็นผู้หญิงคนนี้
“เจ้ามาได้อย่างไรกันหยวนจีเซิง เจ้าไม่น่าที่จะกลับมาที่นี่เลยนะ อยู่ที่นู่นก็ดีอยู่แล้วแท้ๆนี่นา”
โลโยดะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่น่าหวาดกลัว แต่ว่าผู้หญิงคนนั้นกลับไปสะทุกสะท้านอะไรเลย ได้แต่ยิ้มออกมาเท่านั้น
“เจ้าไม่คิดถึงข้าหรอโลโยดะ ไม่คิดถึงวันก่อนของเราสองคนเลยหรืออย่างไร”
ว่านเจี๋ยเริ่มทำหน้าแปลกๆเมื่อได้ยินเช่นนั้น วันก่อนของเราสองคนที่ว่ามันหมายความว่าอย่างไรสำหรับนางคนนั้น
“วันที่เจ้าได้ทิ้งข้าเพื่อไปอยู่กับพวกสวรรค์เนี่ยนะ ข้าจะคิดถึงมันไปเพื่อเช่นไร คิดให้หัวใจข้ากลับมาในตัวหรือ? ไม่มีทางหรอกนะหยวนอีเซิง”
นางเป็นคนแรกที่ทำให้เขาโกรธถึงเพียงนี้ ว่านเจี๋ยมองว่านางคงเป็นคนสำคัญมาก่อนถึงทำให้โลโยดะเป็นอาการแบบนี้เลยทีเดียว
“โถ่โถ่ๆๆ เจ้าจะโหดร้ายกับข้าไปถึงไหน นี่ข้าคิดถึงเจ้ามากเลยนะ อุส่ามาหาแล้วแท้ๆ เลย อยากจะมาดูเครื่องสังเวยของเจ้าหน่อย แต่ไม่คิดว่าจะมีเครื่องสังเวยคนไหนที่รอดออกมาได้แบบนี้เลยนะ”
เท้าของนางเริ่มลอยขึ้นมาจากผืนดิน แล้วเริ่มลอยมาหาโลโยดะ ชิโร่กามะและเอรินถอยออกมาอยู่ข้างๆกับว่านเจี๋ย แต่ว่าโลโยดะไม่ได้ถอยมา เมื่อนางลอยมาถึงโลโยดะแล้วนางก็เอามือไปสัมผัสใบหน้าของโลโยดะ แล้วก็ก้มลงไปจูบเขาในทันที
“แหมะปากของเจ้ายังเหมือนเดิมเลยนะโลโยดะ ร่างกายของเจ้าจะยังเหมือนเดิมไหม”
สิ่งที่นางทำๆให้ว่านเจี๋ยรู้สึกจี๊ดๆขึ้นมาในหัวใจ ซึ่งนางไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย แต่พอมาเห็นแบบนี้ทำให้นางเกิดอาการนี้ขึ้นมา ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเช่นกัน
“พอได้แล้วนะ เจ้าควรกลับไปซะแล้วอย่ามาให้ข้าเห็นอีก”
จากนั้นโลโยดะก็เดินมาหาว่านเจี๋ยแล้วก็ขึ้นม้าในทันที ส่วนที่เหลือก็พากันขึ้นมาอีกตัว แล้วพากันขี่ม้าไปไม่สนใจผู้หญิงคนนั้นอีก นางทำหน้าไม่พอใจแล้วก็ลอยตามโลโยดะไป
“นี่ข้าอุส่าจบเจ้าเลยนะเจ้าไม่เคอะเขินบ้างหรือไร.. เอ๋หรือว่าเจ้าชอบนาง?”
โลโยดะหยุดม้าแล้วก็หันไปหาหยวนอีเซิงในทันที ก่อนจะลงจากม้าแล้วก็อุ้มว่านเจี๋ยลงมาด้วยเช่นกัน
“เจ้าจะว่าแบบนั้นก็ได้นะ เราสองคนทำพันธสัญญากันแล้ว และนางจะต้องไปกับข้าตอนนี้”
หยวนอีเซิงถึงกับอึ้งเมื่อได้ยินสิ่งที่โลโยดะพูดขึ้น จากนั้นร่างกายของเธอได้เปลี่ยนไป สีผมที่เป็นสีขาวราวกับหิมะกลายเป็นสีดำ เสื้อผ้าที่เป็นสีขาวของนางก็กลายเป็นสีดำเช่นกัน
“นี่เจ้าไม่ได้โกหกข้าใช่ไหมโลโยดะ!” ทุกคนเริ่มวิ่งกูลเข้ามาเพื่อปกป้ององค์หญิงเอาไว้ นางลอยขึ้นมาจากฟ้าที่เป็นสีขาวโปร่งใส เริ่มมีเมฆดำมาปกคุ้มท้องฟ้า ฟ้าเริ่มผ่าขึ้นมา
“มันคือเรื่องจริงเจ้าอย่าลืมนะว่าเจ้าเลือกที่จะไปเอง เจ้าไม่ควรจะมาทำนิสัยแบบนี้ใส่พวกเรา”
เมื่อโลโยดะพูดเช่นนั้นทำให้หยวนอีเซิงต้องสงบสติของตัวเองลง แล้วทุกอย่างก็กลกับมาเป็นเหมือนเดิม ผมของนางเริ่มเป็นสีขาวอีกครั้ง
“ฝากไว้ก่อนก็แล้วกัน วันหลังข้าจะมาเอาตัวของเจ้าคืนไป ถ้าเจ้าไม่เลิกล้มพันธสัญญานั่นข้าจะเป็นคนข้านางเอง แต่มันคงยังไม่ใช่ตอนนี้หรอก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะนานนะ งั้นข้าไปก่อนละเอาไว้เจอกันใหม่ ฮ่า ฮ่า”
//ตู้ม// อยู่ๆดินก็ระเบิดออกไปวงกว้างทำให้ฝุ่นกระจายไปหมด แล้วเมื่อทุกอย่างเงียบลงฝุ่นจางหาย นางก็ได้หายไปเช่นกันทุกคนต่างถอนหายใจแล้วมองไปที่องค์หญิง
“เจ้าไม่ได้เป็นอะไรมากใช่ไหม” เอรินถามว่านเจี๋ยก่อนว่างเจี๋ยจะพยักหน้าให้ว่าสบายดี จากนั้นทั้งสามคนก็ขึ้นม้าแล้วพากันเดินทางอีกครั้ง ในระหว่างทางที่กำลังไปยังราชอาณาจักรพันปีอยู่นั้น นางก็ได้ถามโลโยดะระหว่างทางที่กำลังไปอยู่
“อะไรคือพันธสัญญาอย่างนั้นหรอ เจ้าทำอะไรกับเรากันโลโยดะ”
ม้าได้เดินไปตามทางของมัน พร้อมกับการรมองหน้าขององค์หญิงที่ทำหน้าใส่โลโยดะ จนโลโยดะจะต้องบอกนาง
“บอกก็ได้ๆ พันธสัญญามีไว้สำหรับการสานสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน และแน่นอนมันยากมากที่จะทำถ้าทำแล้วก็ต้องอยู่ด้วยกัน..คือมันก็เหมือนกับคู่ครองกันนั่นแหละ แต่ต่างกันตรงที่ไม่จำเป็นต้องเป็นอะไรกันก็ได้ ส่วนข้าก็ไม่ได้ทำอะไรเจ้าสักหน่อย ก็ถ้าตอนนั้นข้าไม่ทำเจ้าก็ตายสิ เจ้าคงจำพิธีออกมาได้ใช่หรือไม่ ถ้าวันนั้นข้าไม่ได้สังเวยเจ้าเจ้าจะตายเอง ข้าเลยต้องทำมันไง เพราะเจ้าไม่ใช่ปีศาจถ้าเป็นปีศาจคงไม่ต้องทำสัญญาหรอก”
โลโยดะบอกทุกอย่างให้กับว่านเจี๋ยได้เข้าใจ นางเข้าใจสิ่งที่เขาพูดทั้งหมด แต่ไม่เข้าใจอย่างเดียวว่าจะมีนางไปเพื่ออะไร ทำไมไม่ฆ่านางเลยล่ะ
“เราสงสัยอีกอย่างคือว่าพันธสัญญาที่ว่านั่นมันต้องทำยังไง มันถึงเป็นพันธสัญญาได้ล่ะ”
โลโยดะเงียบไปแล้วก็หันหน้าหนีนางในทันที ซึ่งทำให้นางแปลกใจที่เขาทำเช่นนั้นกับนาง แต่ถึงนางไม่บอกก็มีคนบางคนได้เดินม้าเข้ามาบอกนาง
“เดี๋ยวข้าจะบอกให้เจ้าฟังเอง” ชิโร่กามะกำลังจะบอกคำตอบให้กับว่านเจี๋ย แต่ว่าโลโยดะก็ปัดไม่ให้ชิโร่กามะบอก ถึงจะปิดปากน้องได้แต่ก็ไม่สามารถปิดปากศัตรูของเขาได้
“ข้าจะบอกเจ้าเองมันต้องทำพันธสัญญาโดยการจูบนั่นแหละ”
ชิโร่กามะหัวเราะขึ้นมาก่อนที่เอรินกับชิโร่กามะจะถอยหลังไปคุมด้านหลังต่อ นางมองมาที่โลโยดะ เมื่อเห็นหน้าของเขาหน้าของโลโยดะเปลี่ยนสีเป็นสีแดงอมชมพูนี่ขนาดใช้มือบังหน้ายังเห็นชัดขนาดนี้เลย แล้วทำไมตอนที่จูบกับหยวนอีเซิงเขาถึงไม่เป็นเช่นนี้กัน
“นี่เจ้าจูบเราโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตอย่างนั้นรึ เจ้านี่มันโรคจิตๆๆๆ!!”
ว่านเจี๋ยโมโหเป็นอย่างมากจึงตีโลโยดะแรงมากๆ และตีไม่หยุดด้วยทำให้โลโยดะต้องขอโทษนาง
“ข้าขอโทษก็ข้าพยายามจะช่วยเจ้านี่ นี่ถ้าไม่ทำพันธสัญญาข้าจะไม่ให้เจ้าตีเลยนะ =.=”
นางหยุดตีก่อนจะเชิดหน้าใส่เขาในทันที ส่วนข้างหลังก็หัวเราะกันคิกคักที่เห็นโลโยดะเป็นเช่นนั้น
“มันน่าโมโหมากเลยนะ เราขอโทษก็แล้วกันที่ทำร้ายเจ้า แต่ว่าถ้าเจ้าทำแบบนี้อีก เราจะเปลี่ยนจากมือเป็นเท้าของเราแทน เข้าใจไว้ด้วย!”
แล้วนางก็ไม่พูดไม่กล่าวอะไรอีกเลยพวกเขาใช้เวลาพากันเดินสลับกับขึ้นม้าเพื่อไม่ให้ม้าเหนื่อย จนกระทั่งถึงวันที่เก้า ว่านเจี๋ยที่กำลังอยู่บนม้านั้นก็วูบไปทำให้นางหล่นลงจากม้า แต่โลโยดะก็รับเอาไว้ทันการพอดี
“เจ้าเป็นอะไรตื่นก่อน ข้าว่ามันจะไม่ทันเอานี่ก็ปาไปจะวันที่เก้าแล้ว อย่างนี้ข้าต้องพานางวิ่งไปแล้วล่ะ ยังไงข้าก็ฝากม้าเอาไว้ข้าต้องไปแล้ว!”
โลโยดะวิ่งไม่คิดถึงอะไรเลยนอกจากจะต้องช่วยเธอให้ได้
“อย่าพึ่งเป็นอะไรนะยังไงเจ้าจะต้องไม่เป็นอะไรเชื่อข้าเถอะ!”