ตอนที่ 5 พิธีกรรมก่อนออกเดินทาง
//ตึง ตึง// เสียงกลองได้ดังขึ้นมาตั้งแต่เช้าตู่ทำให้ว่านเจี๋ยต้องตื่นขึ้นมาเพราะเสียงของกลองที่ดังเป็นอย่างมาก นางลุกขึ้นมาจากเตียงก่อนที่จะเดินไปเปิดประตูรับแสงแดดในยามเช้า แสงแดดส่องกระทบที่หน้าของนางทำให้อุ่นในทันที ซึ่งวันนี้เป็นวันที่อากาศดีมากๆเลยสำหรับนาง เมื่อนางหันไปด้านขวาก็พบกับโลโยดะที่กำลังนั่งจิบชาอยู่ตรงที่นั่งแถวหน้าตำหนัก เขาหันมาทางนางก่อนจะโบกมือให้นางแล้วเรียกนางไปหาเขา แต่ว่าว่านเจี๋ยก็ทำท่าทีเฉยและเมินเขาไปในที่สุด โลโยดะลุกขึ้นแล้วเดินมาหานางเพราะนางเมินเขา
“นี่เจ้าจะเมินข้าไปถึงไหน ข้าไปทำอะไรให้เจ้าเคืองกันแน่ไม่เห็นยิ้มเลยนะ”
ตั้งแต่ที่บ้านเมืองของนางล่มสลายเธอไม่เคยที่จะยิ้มอีกเลยเมื่อมาถึงที่นี่ เพราะเหตุการณ์ที่นางเห็นทำให้นางไม่สามารถที่จะยิ้มออกเลยแม้แต่น้อย นางไม่ได้ตอบเขาและเขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
“วันนี้เจ้าจะต้องไปที่ราชอาณาจักรของข้านะ และแน่นอนว่ามันไม่ใช่ที่นี่หรอก เพราะที่นี่ข้าก็ไปยึดเขามาเหมือนกัน”
ว่านเจี๋ยหันไปมองที่โลโยดะสีหน้าของเขาพูดเหมือนไม่มีความรู้สึกอะไรเลย ทั้งๆที่ทำให้คนอื่นเหมือนตายทั้งเป็นแบบนี้ นางกำลังจะเดินออกไปจากตำหนักของเขาแต่ว่าตอนที่นางกำลังจะเดินออกไปโลโยดะกลับจับตัวของนางเอาไว้ไม่ให้ว่านเจี๋ยเดินออกไป
“อย่าพึ่งเดินออกไปตอนนี้เดินออกไปไม่ได้นะ เขากำลังทำพิธีกรรมลาจากเมืองอยู่”
ว่านเจี๋ยมองไปที่มือของนางที่โลโยดะได้จับเอาไว้ก่อนจะมองไปที่หน้าของเขา เขามองไปที่มือของเขาที่จับมือของนางก่อนจะปล่อยมือของนางออกแล้วถอยห่างนางไป
“แล้วเมื่อใดมันถึงจะเสร็จ เราอยากจะเดินเล่นหน่อย” นางพูดออกมาก่อนที่เขาจะมองไปที่พระอาทิตย์แล้วก็ชูสองนิ้วขึ้นมา
“น่าจะประมาณเที่ยงวันนี่แหละ รออีกนิดก่อนเถอะแม่นางเดี๋ยวเจ้าค่อยเดินเล่น”
เมื่อเสร็จสิ้นคำพูดของเขาทุกคนก็ต่างเงียบลง นางเดินไปนั่งที่ๆเขาเคยนั่งก่อนที่เขาจะตามนางไปนั่งเช่นกัน
“แล้วเจ้ามีชื่อว่าอย่างไรข้าอยากรู้” โลโยดะถามชื่อกับนางมันจึงทำให้นางมองหน้าของเขาแล้วหันกลับไปดูที่ทางต่อ
“เรามีชื่อว่าว่านเจี๋ย นี่เจ้าลืมชื่อเราไปแล้วอย่างงั้นหรือ?”
เขาพึงคิดว่าเขาเคยได้ยินมาแล้วหรอ จากนั้นเขาก็ทำตาโตขึ้นมาแล้วยิ้มด้วยความเขินอายเพราะลืมไปว่าเคยได้ยินมาแล้ว
“ขออภัยด้วยที่ข้าลืมชื่อของเจ้าไป ข้ามีชื่อว่าโลโยดะนะเจ้าอาจจะได้ยินมาจากน้องชายของข้าบ้างชื่อนี้ตอนที่อยู่ในประสาท”
ว่านเจี๋ยพยักหน้าให้โลโยดะครั้งเดียวก่อนที่จะเงียบต่อไปอีก จากนั้นเมื่อเสียงกลองได้หยุดลง จู่ๆพระอาทิตย์ก็หายไปเนื่องจากเมฆได้บดบังพระอาทิตย์
“เรากำลังจะไปกันแล้ว เจ้าเตรียมตัวเอาไว้ซะนะ เพราะถ้าเจ้าได้เข้าไปบางสิ่งบางอย่างอาจจะทำให้เจ้ารู้สึกอาเจียนเป็นอย่างมาก”
เมื่อเขาพูดจบเขาก็ยืนขึ้นแล้วเดินออกไปจากที่ๆเขาอยู่ เดินไปได้ไม่ถึงสิบเก้าเขาก็หยุดแล้วหันมาที่นาง
“องค์หญิงเจ้าตามข้ามาสิ เราจะไปกันแล้ว” นางนิ่งไม่ไหวติงอะไรทั้งสิ้น นางไม่ยอมทำตามที่เขาบอกเลยแม้แต่น้อย ทำให้เขาเริ่มขมวดคิ้วไม่พอใจเพราะว่านางไม่ยอมทำตามเขา เขาเดินมาหานาง
“จะตามไปดีๆไหม?” โลโยดะถามนางอีกครั้งแต่ว่านางก็ไม่ตอบเขาเช่นเดิม เขาจึงยิ้มที่มุมปากแล้วก็เดินเข้าไปหานางก่อนจะอุ้มเธอขึ้นมา มันทำให้นางตกใจเล็กน้อยในสิ่งที่เขาทำกับนาง
“ข้าไม่อยากจะบังคับเจ้าเลยนะ แต่เจ้าไม่ยอมทำตามข้าเองข้าก็ต้องพาเจ้าไปเอง”
ว่านเจี๋ยพยายามสะบัดเขาออกแต่ว่าด้วยกำลังที่เขามีเยอะทำให้นางไม่สามารถหลุดออกจากอ้อมแขนของเขาได้เลย เขาพานางขึ้นขบวนรถม้าแล้วจากนั้นเขาก็ขึ้นตามนางมาเช่นกัน ส่วนน้องชายของโลโยดะชิโร่กามะก็ขึ้นขบวนที่สองไป แล้วรถม้าก็เริ่มเดินขบวนในทันที ในระหว่างทางที่เดินขบวนรถม้าอยู่นั้น นางก็มองออกไปนอกหน้าต่างตลอดเวลาไม่ได้มองไปที่หน้าของเขาเลย แต่ในระหว่างที่นางกำลังมองออกไปสู่นอกหน้าต่างกลายเป็นโลโยดะแทนที่มองแต่หน้านางไม่หันไปไหนเลย แต่เมื่อนางหันกลับมาเขากลับหันออกไปแทน //ฮี่ ฮี่// เสียงของม้าได้ดังขึ้นก่อนที่รถม้าจะหยุดลงกะทันหัน ทำให้นางเกือบจะล้มลงไปบนพื้นแล้ว แต่ว่าโลโยดะได้รับตัวนางเอาไว้ทันพอดี ทั้งสองคนมองหน้ากันซึ่งหน้าใกล้ชิดกันจนได้ยินเสียงลมหายใจ เมื่อนางได้สติเธอก็รีบลุกออกขึ้นมา เขามองไปที่นอกหน้าต่าง
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย” โลโยดะพูดขึ้นทหารเริ่มวิ่งกูลกันไปข้างหน้าเต็มไปหมด เหมือนกับว่าจะเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นกับขบวนรถม้า
“เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่ก่อน เดี๋ยวข้าจะกลับมา”
แล้วเขาก็ลงจากรถม้าก่อนที่จะทุกอย่างจะเริ่มดังขึ้นที่หน้าขบวน ว่านเจี๋ยนั่งนิ่งในรถม้าแต่ความรู้สึกของนางกลับแปลกๆเมื่อโลโยดะไม่อยู่ //ฮี่ ฮี่// เสียงม้าได้ดังขึ้นมาก่อนที่จะมีใครบางคนวิ่งขึ้นม้ามา มันทำให้นางตกใจเป็นอย่างมากเพราะเมื่อมีชายคนหนึ่งเข้ามาแล้วเขาก็เอามีดจี้มาที่คอของนาง หน้าตาไม่ได้แสดงให้เห็นเนื่องจากเขาใส่ผ้าโพกหัวสีขาวเอาไว้
“อยู่นิ่งๆถ้าเจ้าไม่อยากตาย ตามมาเดี๋ยวนี้ไม่อย่างนั้นข้าจะฆ่าเจ้า”
แล้วเขาก็ดึงนางอกมาจากรถม้า เมื่อว่านเจี๋ยได้ออกมาจากรถม้าก็พบว่ามีการโจมตีกันเกิดขึ้น ชุดเกราะสีดำกับชุดเกราะสีขาวกำลังตีกันอยู่
“ที่นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ได้”
นางพูดขึ้นมาด้วยความตกใจก่อนที่เขาจะพานางลากเข้าไปในป่าข้างทาง //วี่// เสียงผิวปากเพื่อเป็นการบอกได้ดังขึ้น จากที่กำลังรบกันอยู่ชุดเกราะขาวก็เริ่มถอยห่างออกมาจากที่นั่นแล้วพากันวิ่งเข้าไปในป่ากัน //ปั้ง//
“มันเป็นไปได้ยังไงทำไมมันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ เจ้าปล่อยให้นางโดนจับไปได้ยังไงทหารม้า!”
ทุกคนต่างพากันคุกเข่าขอชีวิตโลโยดะและชิโร่กามะ
“เอาม้ามาข้าจะไปตามนางเองส่วนพวกเจ้าจัดการเฝ้าขบวนม้าเอาไว้ ส่วนน้องรักของพี่เจ้าพากลุ่มทหารส่วนหนึ่งและเจ้าโอทาโร่กับชิทาโร่ไปจัดการกลุ่มทหารที่เข้าไปในป่าพร้อมกับพี่ เราจะไปจัดการพวกทหารของเอรินกันดีกว่า”