ตอนที่แล้วตอนที่ 151 เคียงข้างมังกร 4
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 153 บอกความปราถนาของเธอมา 1

ตอนที่152 เคียงข้างมังกร 5


ตูม!

ตอนนี้อัตตารับรู้ได้ว่านี่เป็นคู่ต่อสู้ที่มันไม่สามารถเผชิญหน้าได้ มันจึงเลือกที่จะหนีไปโดยไม่ลังเล

ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของ7บาป อัตตามุ่งมั่นที่จะเป็นจุดสุดยอดของสิ่งมีชีวิตทั้งมวล สำหรับคนที่ไล่ตามความเป็นจุดสูงสุดของชีวิต ‘การเอาตัวรอด’เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเหตุนี้มันจึงโยนความหยิ่งยโสของมันทิ้งไป

ดังเช่นที่บางคนกล่าว ผู้ที่อยู่รอดได้มักจะเป็นผู้แข็งแกร่ง

ขณะที่อัตตาเคลื่อนที่ผ่านใต้น้ำ มันก็พึมพำออกมาเพื่อบรรเทาความภาคภูมิใจที่ถูกบดขยี้ของมัน -อย่าคิดว่าสิ่งนี้จะเพียงพอที่จะเอาชนะข้าได้ ลิงของความตะกละ!ด้วยความสาสมารถของเจ้า เจ้าไม่สามารถที่จะอัญเชิญมันได้นานนัก ทันทีที่มังกรนั่นหายไป ข้าจะฆ่าเจ้า!

น่าแปลก การคาดการณ์ของอัตตานั้นมีเหตุผล สัญชาตญาณของอัตตาไม่สามารถที่จะมองข้ามได้หลังจากที่มันอาศัยอยู่มาเป็นเวลาหลายหมื่นปีและมีประสบการณ์ในการต่อสู้มานับไม่ถ้วนไม่ว่าจะเป็น เวทย์โบราณตนอื่น อัศวิน และจอมเวทย์

มันเหมือนกับที่อัตตากล่าว หากปราศจากสร้อยคอขอชาล็อต ธีโอดอร์จะไม่สามารถเรียกฟาฟเนอร์มาได้แม้แต่วินาทีเดียว สร้อยคอที่มีดวงวิญญาณแห่งอาณาจักร มันจะทำให้เขาสามารถอัญเชิญฟาฟเนอร์ได้อย่างมากก็7 วินาที

และตอนนี้เวลาที่เหลืออยู่สำหรับฟาฟเนอร์ก็คือ 4 วินาที

-คุฮ่าๆๆ มาดูกันว่าเจ้าจะสามารถจับข้าได้ด้วยร่างกายใหญ่โตนั่นได้ไหม!

ความเร็วของอัตตาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่มันใช้คุณลักษณะทางทะเลมากมาย ทำให้มันสามารถเคลื่อนที่ไปไกลได้หลายร้อยเมตรภายในไม่กี่วินาที ฟาฟเนอร์ต้องมองลงมาที่พื้นผิวของน้ำและหัวเราะด้วยเสียงเยาะเย้ย

ความเร็วและกลยุทธ์ ทุกสิ่งทุกอย่างไร้ความหมายต่อหน้ามัน

『ลบล้าง』

มังกรสูดหายใจเข้าลึก

มันใช้เวลาหนึ่งวินาทีเพื่อรวบรวมความร้อนไร้ที่สิ้นสุด จากนั้นมันก็ใช้เวลาอีกวินาทีในการแปรสภาพความร้อนให้เป็นรังสี สุดท้าย มันก็ใช้เวลาอีก1วินาที ในการตรวจสอบตำแหน่งของเป้าหมายและเล็ง

ในยุคโบราณกาล นี่เป็นลมหายใจที่แผดเผาต้นไม้โลกในยุคนั้น และแม้กระทั่งตัวตนที่เหนือธรรมชาติยังไม่เต็มใจที่จะเผชิญหน้ากับมัน แสงที่ราวกับ’เลเซอร์’ดูเหมือนจะสามารถลบล้างโลกได้ ฟาฟเนอร์ ร่างอวตารแห่งมัสเปลเฮล์ม ได้ใช้วิธีการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของมัน

--------!

มันไม่ใช่เปลวไฟแต่มันเป็นซูเปอร์โนวาขนาดเล็ก ซูเปอร์โนวาขนาดเล็กได้พุ่งทะลุผ่านแรงเสียดทานในอากาศและเจาทะลุพื้นผิวของน้ำทะเลได้รวดเร็วเสียยิ่งกว่าสายฟ้า น้ำทะเลได้ระเหยก่อนที่รังสีจะมาถึงเสียอีก และได้ระเบิดขึ้นเนื่องจากความร้อน ก่อให้เกิดคลื่นสึนามิขนาดเล็ก นี่เป็นเพียงผลพวงของภัยพิบัติเท่านั้น.....

และเป้าหมายของมันมีเพียงหนึ่งเดียว

-มะ-ไม่....!การโจมตีนี้….!

ขณะที่ร่างกายของมันแตกออกเป็นหลายร้อยชิ้น-----ไม่สิ หลายพันชิ้นในหนึ่งวินาที ความรู้สึกของอัตตาร้องเตือนว่ามันต้องตายอย่างแน่นอน

มันได้สะสมสิ่งมีชีวิตและพลังงานมามากมาย แต่รังสีนี้อยู่นอกเหนือบรรทัดฐาน พลังการทำลายล้างนั้นอยู่เหนือกว่าความเร็วในการฟื้นฟูและพลังทำลายล้างได้เหนือกว่าพลังงานสะสมของมัน

หยิ่งยโส ได้ตระหนักว่ามันไม่สามารถที่จะอยู่รอดได้และกรีดร้องอย่างโหยหวย

-ข้า ไอลิงสารเลว แกทำเช่นนี้กับข้าได้ยังไงกัน-!

มัน ร้องออกมาก่อนที่จะถูกลบล้างโดยรังสี

-คุ....อ....อะ....อ้ากกกก....!

หลังจากผ่านไปหนึ่งหรือสองวินาที พลังในการฟื้นฟูของอัตตาก็มาถึงขีดจำกัด พลังงานทั้งหมดที่มันสะสมไว้ในเซลล์แห้งเหือดจนหมด เมื่อคุณสมบัตินี้หยุดทำงาน มันก็ไม่มีอะไรเหลืออยู่อีก

ฟู่ๆ ตูมมม...!

อย่างไรก็ตาม รังสีความร้อนที่แผดเผาอัตตาไม่ได้หยุดลงแค่นั้น มันได้เจาะผ่านทะลุแรงดันน้ำไปยังใต้ทะเลลึก ทันใดนั้นภูเขาไฟที่หลับใหลภายใต้ทะเลลึกก็ปะทุขึ้น และคลื่นสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวก็ได้กระจายออกไปทั่ว ทำให้ระบบนิเวศของมหาสมุทรแปรปรวน เมื่อเทียบกับหมากรุก มันก็เหมือนกับการบดขยี้กระดานหมากรุกด้วยค้อน

มังกรขนาดมหุมาได้สิ้นสุดสถานการณ์อันเลวร้ายด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวและประกาศด้วยน้ำเสียงอ่อนเพลีย [การกำจัดลุล่วง]

หลังจากที่ครบกำหนดเวลา7วินาทีในการอัญเชิญฟาฟเนอร์ มันก็ได้หายไปอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับตอนที่มันปรากฏ ความมืดที่ถอยหนีไปจากขอบฟ้าได้กลับคืนสู่สภาพเดิม อากาศภายนอกถูกดันกลับเข้ามาสู่สูญญากาศ และบรรยากาศที่ร้อนอบอ้าวก็ได้ลดลง

“คุณทำมันได้ อาวุโส”

ขณะที่เสื้อคลุมที่ขาดรุดรุ่ยของเขากระพือตามแรงลม ธีโอดอร์ได้เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าด้วยท่าทางเหนื่อยล้า ไม่มีเสียงตอบกลับเขาว่าดวงวิญญาณของซาโตเมอร์ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเขาและจะเดินทางไปข้างหน้าพร้อมกับเขา

ทันทีที่เขาตระหนักว่าทุกสิ่งทุกอย่างสิ้นสุดแล้ว ความรู้สึกของธีโอดอร์ก็ถูกตัดออกราวกับเชือกที่ขาด

ฟุ้บ-

ไม่มีพลังเวทย์ที่หลงเหลือพอจะคงสภาพเวทมนตืเอาไว้ได้ ดังนั้นชายหนุ่มจึงล่วงหล่นจากท้องฟ้า ผู้ชนะในการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ได้รับการโอบอุ้มอย่างอ่อนโยนโดยมังกรสมุทร อควาโล่

“....หึ บ้าบิ่นเหลือเกิน”เธอบ่นด้วยน้ำเสียงประหลาดใจและอ่อนแรง

อควาโล่ ทำให้อากาศโดยรอบเย็นลงโดยใช้พลังของมังกรสมุทร แต่มันจะต้องใช้เวลาอีกหลายวันเพื่อให้อุณหภูมิกลับสู่สภาวะปกติ นอกจากนี้น้ำที่เค็มเกินไปเนื่องจากการระเหยอย่างรวดเร็วจะต้องได้รับการฟื้นฟู เช่นเดียวกับกระแสน้ำในมหาสมุทรซึ่งกลายเป็นยุ่งเหยิงเนื่องจากคลื่นสั่นสะเทือน

อควาโล่ เหงื่อตกขณะที่เธอมองลงไปที่ธีโอดอร์และคิดในใจ ‘หนุ่มน้อย เธอเตรียมเวทย์นี้ไว้เพื่อสู้กับฉันงั้นหรือ?’

ไม่มีทางที่เขาจะสามารถร่ายเวทย์นี้ได้อย่างรวดเร็ว อควาโล่เผลอคิดชั่วขณะเกี่ยวกับการหักคอของธีโอดอร์ ก่อนที่จะสะบัดไล่ความคิดนั้นไป

ไม่ว่าจะในกรณีใดๆ สองคนนี้ได้ช่วยเธอเอาไว้และเธอเป็นหนี้ชีวิตของพวกเขา ความทระนงตนของมังกรนั้นสูงส่งมาก ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถทนต่อการกระทำที่ขี้ขลาดได้ ในท้ายที่สุด อควาโล่ก็หัวเราะออกมาขณะที่เธอจ้องมองไปยังขอบฟ้าที่สดใส

“ไม่ได้หมายความว่าฉันเกือบตายถึงสองครั้งในหนึ่งวันงั้นหรือ?เป็นวันที่น่าสนใจยิ่งนัก มากยิ่งกว่าหลายพันปีที่น่าเบื่อหน่ายของฉัน”

เงาสามสายก่อตัวขึ้นภายใต้แสงอันอบอุ่นของดวงอาทิตย์ที่กำลังขึ้น

***

ธีโอดอร์รู้สึกโล่งใจขณะที่เขาตื่นขึ้นจากการนอนหลับลึก

ในฐานะที่เขาเป็นจอมเวทย์สามารถที่จะคุกคามมังกรได้ ดังนั้นเขาจึงได้พิจารณาความเป็นไปได้ที่จะถูกสังหารโดยอควาโล่ผู้ระมัดระวังตัว โชคดี เธอตัดสินใจที่จะปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไป

‘….สถานที่นี้?’

เตียงที่แสนสบายและหรูหรา ที่ทำให้เขารู้สึกง่วงนอนทันทีที่เขาสัมผัสมัน เขายังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ดังนั้นเขาจึงรู้สึกอยากจะหลับต่อ อย่างไรก็ตาม ธีโอดอร์ต้องตรวจสอบบางอย่างก่อน

“ความตะกละ”

-เจ้าตื่นแล้ว ผู้ใช้ เช่นเคยเสียงหยาบๆได้กล่าวแสดงความยินดีให้เขา

“แกไม่จำเป็นต้องทักทายฉัน อย่างไรก็ตาม เกิดอะไรขึ้นกับอัตตา?”

ธีโอได้เห็นการทำลายล้างของมันเนื่องจากการแบ่งปันความรู้สึกของฟาฟเนอร์ แต่เขาไม่ทราบว่าชะตากรรมของอัตตาว่าเป็นยังไง เวทย์โบราณ7บาป นั้นมีความสามารถที่พิเศษและมหัศจรรย์ยิ่ง ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่มันจะยังมีชีวิตอยู่หลังจากโดนเลเซอร์ของฟาฟเนอร์

อย่างไรก็ตาม ความตะกละได้ขจัดความวิตกกังวลของธีโอดอร์

-ถูกทำลายโดยสิ้นเชิง

“แกแน่ใจ?”

-แม้กระทั่งเซลล์เดียวยังไม่หลงเหลือ มันถูกหลอมละลายจนหมด อย่างน้อยที่สุด มันต้องใช้เวลาอีกหลายพันปี อัตตาจึงจะกำเนิดขึ้นอีกครั้งในโลกนี้

ธีโอดอร์รู้สึกสับสนกับคำพูด

“โลกนี้?ไม่สิ หากอัตตาถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ แล้วมันจะปรากฏตัวอีกครั้งได้ยังไง?”

-อืม ผนึกได้รับการปลดปล่อยแล้ว ข้าจะอธิบายภายในขอบเขตที่อนุญาติ ความตะกละทำเสียงพิศวงก่อนที่จะอธิบาย -อย่างแรก เวทย์โบราณนั้นไม่ได้อยู่ในโลกนี้ ทั้งข้าและอัตตา ร่างกายของพวกข้าไม่มีอยู่ในมิติที่ต่ำต้อยเช่นนี้ เพื่อที่จะเข้าสู่มิติที่ต่ำกว่า พวกข้าจำเป็นต้องควบคุมหน่วยของคุณสมบัติและขนาดของพวกข้าลง

“เช่นนั้น.....พวกแกมีร่างกายที่แยกต่างหาก?”

-ถูกต้อง

บางครั้ง มันก็มีคำที่คลุมเครือ แต่ธีโอดอร์ได้จอจ่ออยู่กับข้อเท็จจริงหลักที่เขาเข้าใจได้จากคำอธิบาย

ตามที่ความตะกละกล่าว ร่างกายของเหล่า7บาปนั้นอาศัยอยู่ด้านนอกมิตินี้ ในสถานที่ที่ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิต พวกมันได้ส่งร่างกายที่แบ่งแยกไปยังระบบมิติต่างๆ ความตะกละที่อยู่ในโลกนี้เป็นเพียงหนึ่งในร่างกายหลายๆส่วนที่แยกออกจากกัน

จากนั้นคำถามก็ได้โผล่ขึ้นในหัวของธีโอดอร์

“ทำไมจึงต้องใช้เวลาถึง1000ปี? มันก็แค่ส่งร่างกายส่วนอื่นมา”

-ง่ายมาก ร่างกายที่แบ่งแยกได้นั้นมีจำนวนจำกัด จำนวนมิติที่ถูกพิจารณาโดย7บาปนั้นจะไม่ตายตัว และจำนวนของร่างกายที่ถูกส่งไปก็ใกล้เคียงกับคำว่าไร้ขีดจำกัด ในกรณีหายากเช่นร่างกายที่แบ่งแยกไปถูกทำลายเช่นตอนนี้ มันจะต้องใช้เวลาประมาณ1000ปีในการฟื้นฟูมัน

ธีโอดอร์ถามอีกครั้งด้วยใบหน้าเย็นชา “งั้น มันเป็นไปไม่ได้งั้นหรือที่จะปิดกั้นมันจากมิตินี้?”

-เป็นไปไม่ได้ ความตะกละตอบกลับทันควัน -ร่างกายที่อาศัยอยู่ในมิติด้านนอกเป็นตัวตนศักดิ์สิทธิ์ที่ราวกับพระเจ้า มันอยู่ในขั้น7 ซึ่งสามารถดึงข้อมูลและพลังจากระบบมิติได้ไม่มีสิ้นสุด เจ้าจะทำได้เพียงกลายเป็นส่วนหนึ่งของซากศพที่กองเป็นภูเขา

“เช่นนั้น มันไม่ใช่ขอบเขตฉันสามารถแตะต้องได้”

-ถูกต้อง เจ้าเป็นผู้ใช้ที่ทำได้ดีในฐานะผู้อาศัยในโลกใบนี้ ณ ตอนนี้จงให้ความสนกับหน้าที่ของเจ้า

ธีโอดอร์ส่ายหัวด้วยวิธีการชมเชยเขาแปลกๆ แต่เขารู้สึกได้ว่ามีคนใกล้เข้ามา เธอยืนอยู่หน้าประตูด้วยการปรากฏตัวที่งดงามของคลื่นสึนามิ

อควาโล่ไม่ได้เคาะประตูขณะที่เธอพูดด้วยเสียงอันดัง “หนุ่มน้อย เธอตื่นแล้ว?”

“ท่านหญิง อควาโล่”ปฏิกิริยาที่ขวัญอ่อนของธีโอถือเป็นเรื่องตลก

อควาโล่อดที่จะแย้มรอยยิ้มออกมาไม่ได้และชี้ให้เห็นว่า “อะไรกัน ครั้งสุดท้ายเจ้าเรียกข้าด้วยชื่อ แต่ตอนนี้.....ทำไมเจ้าถึงพูดว่า’ท่านหญิง’?”

“….อควาโล่”

“ใช่แล้ว”

ธีโอดอร์รู้สึกตึงเครียดเมื่อเขาลบคำพูดอันแสนสุภาพไป แต่อควาโล่กลับพึงพอใจ เธอดูดไปป์ตามปกติ หลังจากที่เธอพ่นมันออกมา เธอก็พูดต่อ

“อ่า หนุ่มน้อย กระเพาะอาหารของเธอเป็นยังไงบ้าง?”

“กระเพาะอาหาร?ทำไมถึงต้องเป็น –”

“เธอรู้ไหม เธอนอนหลับไป3วัน”

โครกก เสียงท้องร้องของธีโอดอร์ขานรับ เสียงมันดังมากพอที่จะได้ยินแม้จะยืนอยู่หน้าประตู ธีโอดอร์รู้สึกเขินอายและหลุบตาลง “…..”

“ฮ่าๆๆ!ไม่ต้องอายไป นี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดาสำหรับมนุษย์รึไง?”อควาโล่หัวเราะและหันหลังกลับไป ก่อนที่จะเดินผ่านประตูออกไป เธอก็กล่าวอีกเล็กน้อย “เพื่อนของเธอเองก็ตื่นแล้ว พาเขาลงไปที่ห้องอาหาร บอกเขาให้แต่งตัวอย่างเหมาะสมด้วยละ”

“….ผมเข้าใจ”

“คิกคิก”

ขณะที่เสียงหัวเราะของอควาโล่จางหายไป ธีโอดอร์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แรนดอล์ฟเองก็ปลอดภัย และอควาโล่ไม่มีท่าทีเป็นปรปักษ์ต่อเขา เข่าของธีโอดอร์อ่อนลงและทรุดตัวลงบนเตียงขณะที่เขาตระหนักได้ว่าเขาพึ่งหนีรอดจากวิกฤติครั้งใหญ่มาได้

เขาได้รับชัยชนะจากอัตตา

“ผมทำให้ศัตรูของคุณต้องชดใช้แล้ว อาวุโส”

ทำให้เขานึกถึงสมาชิกของขบวนคุ้มกันจากหอคอยเวทมนต์ผู้ที่เสียสละตัวเองเพื่อให้เขาและเอลโลน่าสามารถหลบหนีไปได้ ธีโอดอร์ปิดตาของเขาลงเพื่อไว้อาลัยให้แก่พวกเขา แผลเป็นที่ทิ้งไว้บนร่างกายของเขาและวงกลมที่สั่นสะเทือนของเขาถือเป็นส่วนหนึ่งของการไว้ทุกข์

จากนั้นหลังจากไว้ทุกข์เรียบร้อยแล้ว เขาก็ได้ลุกขึ้น

‘ไปกันเถอะ’

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด