ตอนที่ 61: ความเงียบสงบ (2)
"ข้าเอาหนึ่งกล่อง" แองเจเล่พยักหน้าขณะที่วางหินเวทมนต์อีกก้อนลง เจ้าของร้านมองไปที่หินเวทมนต์ก่อนที่จะยื่นกล่องดำให้เขา
"ข้าเอาหนึ่งกล่องด้วยเช่นกัน" พ่อมดฝึกหัดผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างแองเจเล่พูด เขามีผมสีบลอนด์ มีหน้าตาธรรมดาๆและตาแคบ มันดูเหมือนว่าเขาอายุประมาณ 20 ปี
"ล้มเหลวอีกแล้ว? หากไม่มีใครสอนเจ้าเจ้าก็จะเสียเงินจนหมด" เจ้าของร้านมองไปที่เขาและให้กล่องไม้ พ่อมดฝึกหัดผู้ชายยิ้มแต่ไม่รู้สึกรำคาญอะไร เขาหยิบกล่องและวางหินเวทมนต์ หลังจากที่เขาไปพ่อมดฝึกหัดผู้หญิงข้างหลังเขาก็เริ่มดูของที่ร้าน
แองเจเล่มองพ่อมดฝึกหัดผู้ชายที่จากไปพร้อมกับสีหน้าที่กำลังครุ่นคิดครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็ถือทุกอย่างกลับไปที่ห้องของเขา มีสาขาอยู่มากมายในโรงเรียนนี้และทุกๆสาขามีพ่อมดฝึกหัดประมาณ 20 คน พื้นที่ใต้ดินมีขนาดใหญ่พอๆกับเมืองขนาดกลาง แองเจเล่แทบจะไม่รู้จักคนจากสาขาอื่นๆ เขาเพียงคุ้นเคยกับคนที่เรียนหลักสูตรเดียวกันกับเขาเท่านั้น เขาได้ยินมาว่าพ่อมดฝึกหัดขั้นที่สามจะเรียนในพื้นที่อื่น หลังจากที่อลูพาเขาดูรอบโรงเรียนแองเจเล่ก็ไม่เห็นอีกเลย
แองเจเล่กลับไปที่ห้องของเขาพร้อมกับอุปกรณ์ที่เขาซื้อ หลังจากที่เขาเพิ่งนั่งลงก็มีใครบางคนมาเคาะประตู
"แองเจเล่ เจ้าอยู่หรือไม่" เสียงของแอนเซ็ตดังมาจากนอกประตู
"อยู่" แองเจเล่ลุกขึ้นยืนและเปิดประตู
"จดหมายของเจ้าจากปราสาทเขี้ยวขาว" แอนเซ็ตพูดแล้วยื่นจดหมายให้เขา เธอน่าดึงดูดมากในชุดล่าสัตว์สีดำของเธอ แองเจเล่มองไปที่จดหมายและเห็นว่ามันมาจากยูริ
"ยูริ......ขอบคุณแอนเซ็ต" แองเจเล่จำเด็กผู้ชายผมบลอนด์ที่ชอบยิ้มบ่อยๆได้
"ไม่ต้องห่วง เจ้าไม่ได้อยู่ที่นี่เมื่อคนส่งจดหมายมาดังนั้นข้าจึงรับมันให้เจ้า" แอนเซ็ตพูด สายตาของเธอมองไปที่อุปกรณ์ปรุงยาขณะที่เธอปิดประตู
"แองเจเล่ข้าได้ยินว่าเจ้าเข้าร่วมภารกิจของเคดิร่าใช่ไหม" เธอนั่งลงบนเก้าอี้อย่างนุ่มนวล
"ใช่ ข้าเพิ่งกลับมา เจ้าได้ยินแล้วหรือว่าเกิดอะไรขึ้น" แองเจเล่พยักหน้า เขานั่งลงบนเตียงของเขาแอนเซ็ตได้ยึดเก้าอี้เพียงตัวเดียวของห้องนี้ไปแล้ว
"ข้าได้ยินมาว่ากลุ่มของเจ้าได้ปะทะกับพ่อมดของพันธมิตรแดนเหนือ มันเป็นความจริงหรือ" แอนเซ็ตถาม เธอเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น เธออยากรู้ในทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับพ่อมด
"ใช่ ข้าคิดว่ารายงานภารกิจจะมีการเปิดเผยสู่สาธารณะในอีกหลายวัน" แองเจเล่มองไปที่แอนเซ็ตและสังเกตว่าเธอมีแรงจูงใจในการมาที่นี่
"แองเจเล่เจ้าได้มาถึงขั้นที่สองไม่นานที่ผ่านมาใช่ไหม เร็วๆนี้เจ้าก้าวหน้าแค่ไหนแล้ว" แอนเซ็ตถามแต่ก็ปั่นป่วนหลังจากที่เห็นการเปลี่ยนแปลงสีหน้าของแองเจเล่
"ขอโทษ" เธอขอโทษ เธอรู้ว่ามันไม่สุภาพที่จะถามคำถามที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ พ่อมดฝึกหัดและพ่อมดไม่ชอบให้คนอื่นๆสำรวจพวกเขาเมื่อมันอาจจะละเมิดความเป็นส่วนตัวของพวกเขา
"ไม่เป็นไร" แองเจเล่พูด เขารู้จักแอนเซ็ตดีแต่เขาก็สับสนเมื่อแอนเซ็ตถามคำถามแบบนั้นแบบทันทีทันใด
"ถ้าเจ้าต้องการความช่วยเหลือของข้าก็แค่พูดออกมา" แองเจเล่จะช่วยเธอถ้าเขาทำได้เนื่องจากพวกเขาเป็นเพื่อน
"ข้าอาจจะต้องออกจากโรงเรียนนี้...." ขณะที่พูดแบบนี้สีหน้าของแอนเซ็ตก็เปลี่ยนไป
"ทำไม" แองเจเล่ถามด้วยเสียงประหลาดใจ
"ข้ายังอยู่ขั้นที่หนึ่ง ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมื่อไหร่ข้าจะไปถึงขั้นที่สอง ตระกูลของข้าต้องการให้ข้ากลับไปแต่งงาน" แอนเซ็ตตอบด้วยท่าทางเศร้าหมอง
"ข้ามีพรสวรรค์เพียงระดับหนึ่งไม่เหมือนเจ้าและมาเนส ข้าอายุ 18 ปีแล้วเป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะไปถึงขั้นที่สามก่อนวันเกิดปีที่ 19 ของข้า ข้าจะไม่มีวันกลายเป็นพ่อมดถ้าข้าไม่สามารถเข้าสู่ขั้นที่สามก่อนอายุ 18 ปี ข้าคิดว่าเจ้ารู้ว่าต้องใช้เงินและทรัพยากรมากแค่ไหนเพื่ออยู่ในโรงเรียนนี้ ไม่มีทางที่ข้าสามารถจ่ายค่าธรรมเนียมได้ด้วยตัวเอง" แอนเซ็ตพูดเสียงอ่อน
"ดังนั้นตระกูลของเจ้าจะไม่สนับสนุนเจ้าอีกต่อไปถ้าเจ้าปฏิเสธที่จะกลับใช่ไหม" แองเจเล่ถามขณะที่เขาขมวดคิ้ว เขาต้องการที่จะช่วยแต่ก็ไม่มีอะไรที่เขาสามารถช่วยได้ในเรื่องนี้ แอนเซ็ตต้องการไปถึงขั้นที่สามภายในระยะเวลาหนึ่งปีและมันต้องทำด้วยตัวเอง แม้ว่าแองเจเล่จะสามารถบอกเธอถึงความรู้ที่เขามีแต่เธอก็ยังต้องเรียนรู้และเข้าใจด้วยตัวเอง นอกจากนี้ตัวเธอเองก็จะต้องหาวิธีนำอนุภาคพลังงานเข้าไปในร่างกายของเธอเพื่อให้เธอไปถึงขั้นที่สอง
"ที่จริงแล้วถ้าข้าสามารถหาใครสักคนที่สามารถช่วยข้าในการสนับสนุนชื่อตระกูลของข้า....ข้าก็จะสามารถอยู่ได้" แอนเซ็ตพูดด้วยสีหน้าซึมเศร้า แองเจเล่ยังคงนิ่งเงียบแต่เขาก็ขมวดคิ้ว
"มาเนสมีคู่หมั้นที่มีพรสวรรค์ระดับสูงกว่าเมื่อเทียบกับข้า" แอนเซ็ตเงยหน้าและมองไปที่แองเจเล่
"ข้าจะไม่หมั้นกับเจ้า ข้าจะกลับไปบ้านเกิดของข้าในอนาคตดังนั้นข้าไม่สามารถสัญญากับเจ้าได้ การเป็นคู่หมั้นของข้าจะไม่ช่วยให้ตระกูลของเจ้าดีขึ้น" แองเจเล่พูด
"พวกเราไม่ต้องแต่งงานกัน เพียงแค่บอกทุกคนว่าข้าเป็นคนรักของเจ้าและตระกูลของข้าจะให้ทุกอย่างที่เจ้าต้องการเพื่อกลายเป็นพ่อมด เจ้าก็รู้ว่าข้ามาจากตระกูลคาร์เตอร์ซึ่งเป็นหนึ่งในห้าตระกูลระดับสูงในโรงเรียนนี้ ข้าคิดว่าควรพิจารณาข้อเสนอของข้า" แอนเซ็ตส่ายศีรษะและพูด
"เจ้าไม่ได้เป็นเพียงแค่พ่อมดฝึกหัดคนเดียวที่ส่งมาที่นี่โดยตระกูลของเจ้าหรือ" หลังจากที่คิดสักครู่แองเจเล่ก็ถาม
"ใช่ มีอีกสองคนแต่พวกเธอก็เหมือนกันกับข้า มีพ่อมดฝึกหัดไม่มากนักที่มาถึงขั้นที่สามก่อนที่จะอายุ 18 ปี" แอนเซ็ตตอบ
"ทำไมต้องเป็นข้า" แองเจเล่ถาม
"เจ้าอายุเพียง 15 ปีแต่เจ้าก็กำลังจะถึงขั้นที่สามขณะที่มาเนสยังอยู่ขั้นที่สอง นอกจากนี้เจ้ายังรอดชีวิตในภารกิจที่อันตรายเช่นนั้น ข้าคิดว่าเจ้าเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับข้า" แอนเซ็ตพูด
"เซ็นสัญญากับข้าและสาบานจากนั้นข้าและผู้หญิงคนอื่นๆจะเป็นของเจ้า ข้าสามารถรับประกันได้ว่าผู้หญิงคนอื่นๆก็ยัง....มีเสน่ห์" แอนเซ็ตพูดต่อ
แองเจเล่ยังคงมองไปที่เธอ ข้อเสนอที่เธอมอบให้เป็นสิ่งที่เขาควรพิจารณา เพราะเขาต้องการการสนับสนุนจากตระกูลท้องถิ่นและเขาต้องการหินเวทมนต์ เขายังสามารถเล่นกับผู้หญิงที่น่าสนใจได้อีกสองคน นี่เป็นข้อเสนอที่เขาไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ
"นี่เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจ แต่ข้าสงสัยว่าทำไมเจ้าถึงมาหาข้า" แองเจเล่ถาม
"เจ้าเป็นพ่อมดฝึกหัดที่มีพรสวรรค์มากที่สุดที่ข้ารู้จัก" แอนเซ็ตตอบ
"มีพ่อมดฝีกหัดหลายคนในโรงเรียนของเราที่ไปถึงขั้นที่สามก่อนที่จะอายุ 15 ปี เจ้าไม่ได้เป็นคนที่มีพรสวรรค์ที่สุดแต่เจ้าถูกพิจารณาว่าเป็นหนึ่งในพ่อมดฝึกหัดที่ดีที่สุดในแรมโซด้า" เธอพูดต่อ
"ข้าคิดว่าอลูถึงขั้นที่สามเมื่อเขาอายุ 14 ปี" แองเจเล่พูด
"เขานั้นต่างออกไป ผู้คนเหมือนเขามีพ่อมดชั้นสูงในตระกูลของพวกเขาเพิ่มระดับพรสวรรค์ของพวกเขาโดยใช้วิธีพิเศษ เราเรียกพวกเขาว่า’ผู้สืบทอดโลหิต’ แต่ลูกของพวกเขาจะไม่มีพรสวรรค์เหมือนที่พวกเขามี ตระกูลของข้าไม่ต้องการให้เด็กของพวกเขาแต่งงานกับผู้สืบทอดโลหิต" แอนเซ็ตส่ายศีรษะ
"ดี ข้าเห็นประโยชน์ในข้อเสนอของเจ้า ข้าจะเซ็นสัญญา" แองเจเล่พยักหน้า
"เยี่ยมเลย! ข้าสามารถอยู่ในโรงเรียนนี้ได้แล้ว" แอนเซ็ตเอาสัญญาออกมาจากกระเป๋าอย่างมีความสุข เห็นได้ชัดว่าเธอเตรียมมา
"นี่เป็นสัญญา เจ้าสามารถดูได้" แอนเซ็ตยื่นสัญญาไปให้แองเจเล่
"เจ้ากำลังทำการเซ็นสัญญาเช่นเดียวกับคนอื่นๆใช่ไหม ข้าหมายถึงคนอื่นๆจากตระกูลของเจ้า" แองเจเล่ตรวจสอบสัญญาและพบว่าไม่มีอะไรน่าสงสัย
"ใช่ มีสาวสวยมากมายในองค์กรพ่อมดที่มาจากตระกูลของข้า ถ้าพวกเธอไม่สามารถไปถึงขั้นที่สูงได้พวกเธอจะพยายามแต่งงานกับคนที่มีพรสวรรค์ เจ้าคงไม่รู้ว่าตระกูลของข้าใหญ่แค่ไหน" แอนเซ็ตพยักหน้า
"อย่างไรก็ตามเจ้าจะเป็นคนแรกในวิทยาลัยแรมโซด้าถ้าตอนนี้เจ้าเซ็นสัญญา ข้าและผู้หญิงคนอื่นๆจะย้ายเข้ามาในห้องของเจ้าในวันพรุ่งนี้" แอนเซ็ตพูดขณะที่กำลังเขินอาย
"เจ้าสามารถทิ้งสัญญาไว้ได้หรือไม่ ข้าจะอ่านอย่างระมัดระวังในคืนนี้ ข้าจะเซ็นสัญญาในวันพรุ่งนี้ถ้าข้าไม่เห็นกฎแปลกๆที่ข้าต้องทำตาม" แองเจเล่โบกมือที่มีสัญญาในอากาศ
"แน่นอน" แอนเซ็ตโค้งให้แองเจเล่ด้วยท่าทางโล่งใจ
"ข้าหวังไว้กับเจ้า" เธอเดินเข้ามาใกล้แองเจเล่และกอดเขา แองเจเล่สามารถรู้สึกได้ถึงขนาดหน้าอกของเธอ
"อย่าทำให้ข้ารอ" แอนเซ็ตกระซิบ แองเจเล่เริ่มตื่นเต้น เขาพยายามคลำหาก้นของเธอแต่เธอถอยออกไปก่อนที่มือของเขาจะไปถึง เธอโค้งอีกครั้งก่อนที่จะจากไป แองเจเล่ปิดประตูและวางสัญญาลงในขณะที่กำลังยิ้ม
ความคิดของเขายังคงล่องลอยอยู่กับความตื่นเต้นที่ถูกกระตุ้นด้วยหน้าอกที่อ่อนนุ่มของเธอ ความคิดของแองเจเล่ยุ่งวุ่นวายเกี่ยวกับภารกิจตั้งแต่ที่เขากลับมา แต่เนื่องจากสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้ความคิดที่ผูกมัดไว้ก็หมดไปจากใจของเขา เขาสงบลงและมองไปที่อุปกรณ์บนโต๊ะของเขาก่อนที่จะดึงเก้าอี้มาและนั่งลง
แองเจเล่เปิดกล่องไม้สีดำ มีสมุนไพรสองชนิดอยู่ภายใน ด้านซ้ายเป็นสมุนไพรสีแดงที่ชื่อว่า’รากหญ้าแห้ง’ อีกต้นที่อยู่ทางด้านขวาเป็นผลไม้ที่คล้ายกับส้ม ผลไม้เหล่านี้ได้ถูกตัดครึ่งมองเห็นสีที่ตัดกันของผิวสีเหลืองอ่อนและภายในสีแดงเลือด สมุนไพรทั้งสองนี้แห้งอยู่แล้ว
แองเจเล่เอาชุดอุปกรณ์ออกมา มีขวดแก้วคอยาวหนึ่งขวด อุปกรณ์ต้มกลั่นปากงอหนึ่งชิ้น รางท่อแก้วหนึ่งชุด หลอดทดลองและถ้วยแก้วหลายใบ พวกมันถูกวางไว้ในถุงผ้าลินินขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยฝ้ายเมื่อแองเจเล่ซื้อชุด
เขารวบรวมทุกอย่างไว้บนโต๊ะ
'ซีโร่แสดงข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดสำหรับการปรุงยาและจำลองกระบวนการสร้างของยาห้ามเลือด' แองเจเล่สั่ง
[สร้างภารกิจ เริ่มการจำลอง ระยะเวลา: 2 ชั่วโมง 15 นาที อัตราความสำเร็จ 15%] ซีโร่รายงาน
'15%' แองเจเล่พอใจกับอัตราความสำเร็จ
'ข้าไม่ได้คาดหวังว่ามันจะเป็นเรื่องง่ายเนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกของข้าที่จำลองการปรุงยา' แองเจเล่คิด
อัตราความสำเร็จคำนวณจากความสามารถทางจิตในปัจจุบันของแองเจเล่รวมถึงมานาและเงื่อนไขอื่นๆ ด้วยความช่วยเหลือของชิปและสูตรที่เหมาะสมแองเจเล่ก็มีอัตราความสำเร็จสูงมาก พ่อมดฝึกหัดที่เรียนรู้ยาทั่วไปมีอัตราความสำเร็จ 5% ขณะที่แองเจเล่มีอัตราความสำเร็จ 15% เนื่องจากชิป
มีเพียงสิ่งเดียวที่เขาต้องทำคือรอผลของการจำลอง ชิปจะช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จหลังจากที่จำลองเสร็จสิ้น หลังจากนั้นเขาก็จะมีอัตราความสำเร็จที่สูงขึ้น