ตอนที่ 78: การล่า (1)
หลังจากอ้วกจนหมดท้องแองเจเล่ก็เกือบหมดสติ เขายืนขึ้นอย่างช้าๆและนั่งที่เก้าอี้ อ้วกบนพื้นทำให้ร้านทั้งร้านมีกลิ่นแย่
แองเจเล่พักอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นเขาก็เอาอุปกรณ์มาทำความสะอาดพื้น เขาทิ้งอ้วกลงไปในถังขยะทั้งหมดและถูพื้นหลายครั้ง จากนั้นเขาก็ทิ้งขยะไปที่สถานที่รวบรวมขยะที่ถนน
"ตอนนี้ข้าเป็นพ่อมดฝึกหัดขั้นที่สามแล้ว" แองเจเล่นั่งลงอีกครั้งรู้สึกดีขึ้นหลังจากที่ทำความสะอาดร้านเสร็จแล้ว
'ซีโร่บันทึกความสามารถทางจิตที่ใช้ของคาถาที่ข้าร่าย' แองเจเล่สั่ง
[กำลังบันทึก....]
ภายในสายตาของแองเจเล่ทุกสิ่งทุกอย่างได้เปลี่ยนเป็นสีฟ้าชั่วครู่จากนั้นก็กลับมาเป็นปกติ
'เริ่มโหมดการทดสอบแบบปกติ'
โหมดการทดสอบแบบปกติถูกออกแบบโดยแองเจเล่ เขาสามารถตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบของเขาภายใต้โหมดนี้ในขณะที่แสงสีฟ้าได้ถูกซ่อนไว้เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดกั้นสายตาของเขา
"อย่างแรกมือดูดกำลัง"
แองเจเล่หยิบขวดขนาดเท่านิ้วจากกระเป๋าที่เต็มไปด้วยผงสีขาว
แองเจเล่ดึงจุกออกและเทผงบางส่วนลงบนฝ่ามือและเอาขวดกลับเข้าไปในกระเป๋าของเขา เขาเอามือประกบกันและเอามือถูกันเสียงมันเหมือนกับเขากำลังถูเศษกระจก
แองเจเล่เริ่มร่ายคาถา เสียงที่ออกมาจากปากของเขามันมีโทนเสียงแปลกๆ สีของมือก็เริ่มเปลี่ยนไปอย่างช้าๆจากสีขาวก็เป็นสีดำและหลังจากนั้นพวกมันก็เป็นสีแดงเหมือนเลือด
แองเจเล่หยุดร่ายคาถาและเริ่มสังเกตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับมือของเขาอย่างระมัดระวัง ผิวของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงและเล็บของเขาก็ส่องแสงแต่เมื่อเขามองใกล้ๆก็เห็นจุดแสงสีแดงบนขอบเล็บของเขา
แองเจเล่เริ่มอ่านข้อมูลที่อยู่ข้างหน้าเขา เขากำลังอ่านอุณหภูมิ ความรุนแรง การแผ่รังสี ระยะเวลาและคุณสมบัติอื่นๆของคาถา ตัวเลขส่วนใหญ่มีความเสถียรภาพแต่บางตัวมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
แองเจเล่เปรียบเทียบข้อมูลจากการทดสอบก่อนหน้านี้พบว่าพลังของคาถาเพิ่มขึ้นตามปกติและเขาก็ใช้เวลาร่ายคาถาน้อยลง
'ซีโร่ข้ามีความสามารถทางจิตมากพอที่จะปรับปรุงคาถาระดับศูนย์หรือไม่' แองเจเล่ถาม
[เงื่อนไขตรงความต้องการ ความสามารถทางจิต 15.0 สามารถปรับปรุงคาถาระดับศูนย์ได้หนึ่งคาถา]
'ปรับปรุงมือดูดกำลังได้ไหม มันจะดีกว่าถ้าข้าข้ามผงของคาถาไป'
[แผนการปรับปรุงสำหรับมือดูดกำลังถูกสร้าง....ผลลัพธ์ที่คาดไว้หลังจากที่ปรับปรุง:
มือดูดกำลัง(ปรับปรุง) คาถาระดับ 0
ใช้: ความสามารถทางจิต 1.5 จุด มานา 1.5 จุด
ผล: โจมตีศัตรูด้วยพลังงานเชิงลบและทำให้อ่อนเพลีย
ระยะทางที่มีผล: การสัมผัสโดยตรง
ระยะเวลาร่าย: 3 วินาที คาถาจะล้มเหลวถ้าถูกขัดจังหวะ
จุดอ่อน: ศัตรูที่มีความอึดสูงจะสามารถต้านทานความอ่อนล้าได้
การปรับปรุง: คาถาสามารถร่ายโดยไม่ต้องใช้ผงคาถา เวลาในการร่ายลดลงหนึ่งวินาที
ข้อมูลได้รับมาจาก: ความรู้พื้นฐานของคาถา ความรู้พื้นฐานของพลังงานเชิงลบ การร่ายและการสื่อสารทางจิต สัมผัสของโซโลมอนและคำอธิบายเกี่ยวกับการสัมผัสคาถาระดับศูนย์โดยตรง]
แองเจเล่มีสีหน้าพอใจ 'ต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการปรับปรุงคาถา เจ้าสามารถปรับปรุงคาถาได้อีกครั้งหลังจากการปรับปรุงครั้งแรกได้หรือไม่ นอกจากนี้เจ้าสามารถเปลี่ยนมันเป็นคาถาระยะไกลได้ไหม'
[ขึ้นอยู่กับข้อมูลในฐานข้อมูล ในปัจจุบันมันเป็นไปไม่ได้ที่จะปรับปรุงอีกครั้ง การปรับปรุงจะใช้เวลา 152 ชั่วโมงและใช้ความสามารถทางจิต 14.2 จุด]
แองเจเล่ไม่ได้ผิดหวัง เขาพอใจกับผลการปรับปรุงครั้งแรก เขาได้เรียนรู้มือดูดกำลังเพราะเขาต้องการที่จะโจมตีก่อนที่ศัตรูจะตอบโต้ได้ แม้ว่าระยะเวลาร่ายจะนานและเขาไม่สามารถใช้กับฝ่ายตรงข้ามที่เตรียมตัวมาก่อนได้แต่มันก็ยังเป็นคาถาที่ดีในเรื่องระยะเวลาของผลและพลัง มันจะมีผลทันทีที่แองเจเล่สัมผัสศัตรูด้วยมือของเขา
เขาพยายามใช้กับวัวเขาเดียวและมันทำให้วัวเสียความสามารถในการต่อสู้หลังจากที่แองเจเล่สัมผัสร่างกาย ความอึดของวัวประมาณ 3 หรือ 4 แต่มันก็ไม่สามารถต่อต้านการอ่อนเพลีย มือดูดกำลังเป็นหนึ่งในคาถาระดับต่ำที่มีประโยชน์มากที่สุดในระดับต่ำที่เขาสามารถหาได้
'ข้าต้องหาความรู้เพิ่มก่อนที่ข้าจะบอกให้ชิปปรังปรุงคาถาอีกครั้ง ข้าอาจจะต้องการหนังสือเกี่ยวกับพื้นฐานของคาถามากขึ้น' แองเจเล่คิด
เมื่อฝ่ายตรงข้ามอ่อนเพลียโดยคาถาอาการอ่อนเพลียก็จะอยู่ประมาณหนึ่งชั่วโมง แต่มันอาจจะเป็นไปได้สำหรับศัตรูที่สามารถลบพลังงานเชิงลบขณะที่ยังอ่อนเพลียอยู่
แองเจเล่ปรบมือของเขาและมีหมอกสีแดงปรากฏขึ้นในอากาศจากนั้นมันก็หายไปจากมือของแองเจเล่แล้วมันก็กลับมาเป็นสีปกติ
'ตอนนี้ข้าสามารถเรียนรู้คาถาระดับศูนย์ได้มากเท่าที่ข้าต้องการ อย่างไรก็ตามข้าต้องคิดให้ออกว่าข้าจะใช้พวกมันอย่างไรมิฉะนั้นคาถาอาจจะชะลอความเร็วของข้า การสิ้นเปลืองค่าความสามารถทางจิตระหว่างการต่อสู้ไม่ใช่ความคิดที่ดี'
แองเจเล่รู้ว่าเขาต้องการอะไร
"ข้าต้องมุ่งมั่นกับคาถาประเภทใดประเภทหนึ่ง!"
แองเจเล่คิด
'คาถาที่ข้าเรียนรู้ทั้งหมดเป็นประเภทพลังงานเชิงลบ แต่อนุภาคพลังงานที่ข้าสามารถเก็บไว้ในร่างกายได้คือลมและไฟ ข้าแทบจะไม่เก็บอนุภาคพลังงานเชิงลบใดๆได้และนั่นจะเป็นปัญหา ข้าควรจะหาซื้อคาถาลมและไฟเมื่อข้ายังอยู่ในโรงเรียน ข้าแน่ใจว่าข้าสามารถเพิ่มเวทมนต์คาถาเหล่านั้นในขณะที่กำลังร่ายพวกมันได้' เขาคิด
'โรงเรียนกำลังอยู่ในความวุ่นวายดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้สำหรับข้าที่จะซื้อคาถาพื้นฐานที่นั่น ข้าควรทำอย่างไร'
แองเจเล่ขมวดคิ้วพยายามคิดหาวิธีในการซื้อคาถา ในที่สุดเขาก็ถึงขั้นที่สามแต่เขาต้องการทรัพยากร เมื่อเขาอยู่ที่โรงเรียนเขาไม่มีหินเวทมนต์มากพอที่จะซื้อของที่เขาต้องการ
'อาจารย์อดอล์ฟเป็นพ่อมดฝึกหัดที่อาศัยอยู่ในฐานะศาสตราจารย์ในท่าเรือมารัว มันเป็นไปได้ว่าจะมีคนมากมายแบบเขาที่อาศัยอยู่ในจักรวรรดิแรมโซด้าดังนั้นข้าต้องหาพวกเขาและแลกเปลี่ยนทรัพยากรกับพวกเขา เรื่องนี้อาจจะแก้ปัญหารูปแบบคาถาของข้าได้' แองเจเล่ยังคงคิด 'นอกจากนี้มันต้องมีหนังสือของพ่อมดที่ข้ามี ข้าควรจะลองหามัน สำหรับตอนนี้ข้าจะต้องทำให้ความสามารถทางจิตของข้าเสถียรภาพมากขึ้นและปรับปรุงมือดูดกำลัง'
สิ่งต่อไปที่แองเจเล่ต้องการรู้ก็คือการเพิ่มของความสามารถทางจิตของเขาจะเปลี่ยนไปอย่างไร
เพื่อคำนวณระยะเวลาร่ายของคาถาแองเจเล่จำเป็นต้องสร้างรูปแบบและหยุดมันก่อนที่จะร่ายคาถา หลังจากที่เขาถึงขั้นที่สามเขาสามารถร่ายคาถาได้เร็วขึ้น ก่อนหน้านี้เขาต้องใช้เวลาสามวินาทีเพื่อร่ายคาถาสับสนแต่ตอนนี้เขาต้องการเพียงแค่สองเท่านั้น แองเจเล่สามารถเก็บคาถาไว้ที่ชิปดังนั้นการปรับปรุงความเร็วในการร่ายจึงไม่สำคัญ
อย่างไรก็ตามจุดต่อไปเป็นสิ่งสำคัญ
แองเจเล่สามารถร่ายคาถาได้มากขึ้นระหว่างการต่อสู้ ด้วยความสามารถทางจิตที่สูงขึ้นและคาถาก็จะทรงพลังขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ เหตุผลง่ายๆถ้าพิจารณาความสามารถทางจิตคือความแข็งแกร่ง ผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งกว่าจะสามารถโจมตีได้แรงกว่าด้วยอาวุธชนิดเดียวกันกับผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งธรรมดาๆ เช่นเดียวกับพ่อมดที่มีความสามารถทางจิตที่สูงขึ้นจะร่ายคาถาที่ทรงพลังมากขึ้น
นอกจากนี้แองเจเล่ยังเพิ่มความสามารถทางจิตของเขาไป 15 และมันตรงกับเงื่อนไขในการเป็นพ่อมด มันเป็นสิ่งที่แองเจเล่ไม่ได้คาดหวังไว้ว่ายาจะทำแบบนี้ได้
การเลื่อนเป็นพ่อมดไม่ได้เกี่ยวกับความสามารถทางจิตของพ่อมดฝึกหัด เขาต้องการความช่วยเหลือจากภายนอก ความสามารถทางจิตของแองเจเล่เป็น 15 และมันอาจจะเป็นขีดจำกัดสำหรับมนุษย์ ถ้าเขาต้องการเพิ่มอีกครั้งเขาจะต้องทำลายขีดจำกัด พ่อมดทำวิจัยและพวกเขาค้นพบวิธีโดยรวบรวมวัสดุบางอย่างเพื่อสร้างสารใหม่ที่สามารถช่วยทำลายขีดจำกัดความสามารถทางจิตของพ่อมดฝึกหัดได้
พ่อมดฝึกหัดจะประสบความสำเร็จในการทำลายขีดจำกัดและสารที่ช่วยพวกเขาทำลายมันชื่อว่าน้ำแห่งอสุ คำว่า'อสุ'หมายถึงทำลายขีดจำกัด
น้ำแห่งอสุเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพ่อมดฝึกหัดที่จะกลายเป็นพ่อมดในขณะที่อีกอย่างคือหาความรู้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ พ่อมดฝึกหัดต้องรู้วิธีจัดการกับสถานการณ์ต่างๆที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการทำลายขีดจำกัด
การที่มีความรู้มากขึ้นจะช่วยแองเจเล่เรียนรู้รูปแบบการควบแน่นความสามารถทางจิต
แองเจเล่ยกมือขึ้นและสัมผัสฝ่ามือของเขา เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาอยู่ในการควบคุมของเขาและเขาสามารถตอบสนองต่อสิ่งต่างๆได้เร็วขึ้นมาก
'น้ำแห่งอสุ การควบแน่นรูปแบบความสามารถทางจิต ทั้งสองสิ่งนี้มันเป็นความเจ็บปวด....ข้าสามารถซื้อน้ำแห่งอสุจากองค์กรพ่อมดขนาดใหญ่แต่ข้าต้องเลือกโครงสร้างคาถาและใช้ความสามารถทางจิตของข้าเพื่อควบแน่นรูปแบบ หลังจากที่ข้าควบแน่นรูปแบบความสามารถทางจิตข้าก็จะสามารถสร้างคาถาพิเศษของข้าได้ มันจะดีกว่าถ้าข้าควบแน่นรูปแบบความสามารถทางจิตป้องกันมิฉะนั้นมันจะไม่เป็นประโยชน์มากนักระหว่างการต่อสู้'
แองเจเล่มีปัญหามากมายที่ต้องกังวล เขาต้องการคาถาพื้นฐานมากขึ้นและเขาต้องการคาถาป้องกันที่ดีที่เหมาะกับรูปแบบการต่อสู้ของเขา เขาจะอ่อนแอกว่าพ่อมดคนอื่นๆถ้าเขาเลือกคาถาป้องกันผิด
เหตุผลที่พ่อมดแข็งแกร่งเช่นนั้นเป็นเพราะคาถาป้องกันพิเศษที่พวกเขามี พ่อมดมีสนามพลังป้องกันการโจมตีของเขาและเนื่องจากเป็นคาถาพิเศษพวกเขาจึงไม่ต้องร่ายมัน มันเป็นเหมือนทักษะป้องกันติดตัว พ่อมดบางคนพยายามทำให้ผิวของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นเพื่อป้องกันการโจมตีทางกายภาพ พ่อมดฝึกหัดไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ นอกจากนี้คาถาพิเศษแทบจะไม่ใช้ความสามารถทางจิตของพ่อมดและพ่อมดบางคนสามารถใช้สนามพลังรอบตัวพวกเขาได้ตลอดเวลา
'ข้าสงสัยว่าสถานการณ์ในโรงเรียนเป็นอย่างไร' แองเจเล่เริ่มคิดถึงชีวิตในโรงเรียน 'หลังจากสงครามโรงเรียนอาจจะเรียกพ่อมดฝึกหัดกลับเพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาถูกบุกรุกโดยพ่อมดแดนเหนือ มันเกิดขึ้นหลายครั้งในประวัติศาสตร์ของโรงเรียน'
เขาได้หยิบเสื้อคลุมสีเทาออกมาจากตู้เสื้อผ้าและหันมัน มันมีเครื่องหมายกางเขนสีดำอยู่ที่หลัง เครื่องหมายกางเขนสีดำนี้จะส่องแสงเมื่อโรงเรียนต้องการเรียกพ่อมดฝึกหัดทั้งหมดกลับ นี่เป็นเหตุผลหนึ่งว่าทำไมโรงเรียนจึงปล่อยให้พ่อมดฝึกหัดทุกคนออกมา อาจารย์ใหญ่สามารถสั่งพวกเขาให้กลับไปเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่เขาต้องการ
'ข้าหวังว่าพวกเขาสามารถแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว' แองเจเล่รู้ว่าไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้ 'แต่ข้าได้ยินมาว่ามันยากมากที่จะทำลายขีดจำกัด ข้าเพิ่งมาถึงขั้นที่สามและข้าควรใช้เวลาเตรียมตัว'