ตอนที่แล้วตอนที่ 72: คำเชื้อเชิญ (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 74: ความสำเร็จ (1)

ตอนที่ 73: คำเชื้อเชิญ (2)


หลังจากผ่านชั่วโมงเร่งด่วนถนนก็เงียบลงมากเห็นแต่รถม้าขุนนางหลายคันบนเส้นทาง แองเจเล่เริ่มได้ยินเสียงฟ้าร้องจากท้องฟ้าแล้วเมฆก็ได้มืดครึ้ม ถนนก็ดูมืดขึ้นในขณะที่เงาปรากฏขึ้นบริเวณรอบๆราวกับว่าตอนกลางคืนแต่มันยังเป็นเวลาเที่ยงวัน

สายลมที่มีอุณหภูมิลดลงที่พัดผ่านรถม้าของแองเจเล่มันเหมือนกรีดร้องเมื่อมันผ่านหน้าต่าง แองเจเล่ดึงปกคอเสื้อขึ้นเล็กน้อยเพื่อป้องกันความเย็น อย่างไรก็ตามมันเป็นเพราะแองเจเล่สวมชุดหรูหราปกคอสูงซึ่งมีดอกไม้สีเงินปักที่ขอบของขอบปกคอ ถ้ามันไม่ใช่งานเลี้ยงตอนกลางคืนที่เขาจะไปเข้าร่วมแองเจเล่ก็คงจะไม่สวมเสื้อผ้าแบบนี้

ชุดคอเสื้อยาวสีขาวของแองเจเล่คล้ายกับชุดของผู้บัญชาการแต่มีการตกแต่งน้อยกว่า ชุดที่เขาสวมใส่นั้นคล้ายๆกับที่นักดาบใช้กันทั่วไป

รถม้ายังคงวิ่งไปอีกครึ่งชั่วโมงมีเพียงความสงบเท่านั้นที่ได้ยินก็มีแต่เสียงดังของอะไรสักอย่าง แองเจเล่ได้ยินเสียงนี้เหมือนมันเคลื่อนตัวอยู่ใกล้ๆ เขามองออกไปหน้าต่างและพบว่าตัวเองกำลังขึ้นไปตามเส้นทางภูเขา

แองเจเล่เหลือบไปรอบๆ ด้านหน้ามีภูเขาอยู่และเมื่อเขามองลงไปเขาก็พบน้ำตกขนาดใหญ่ที่ปลายสุด น้ำตกนี้เป็นแหล่งที่มาของเสียงที่แองเจเล่ได้ยินก่อนหน้านี้ หินเปียกๆกำลังส่องประกายอยู่ด้านล่าง

รถม้าที่เขานั่งกำลังวิ่งอยู่บนถนนเนินเขาซึ่งอยู่ข้างน้ำตก

"เราเกือบจะถึงแล้ว!" เจอแรคตะโกนจากด้านนอก เสียงที่ดังจากน้ำตกแทบจะทำให้ไม่ได้ยินเสียงของเขาดังนั้นเขาจึงต้องเพิ่มเสียงของเขาเพื่อให้ทุกคนได้ยินสิ่งที่เขาพูด แองเจเล่พยักหน้าและดึงผ่าม่านเพื่อไม่ให้ชุดของเขาเปียก ตอนนี้แองเจเล่คิดถึงชุดสีเทาของเขาที่วิทยาลัย ชุดคลุมมีคาถาเวทมนต์ที่จะทำให้ดูเหมือนใหม่และสะอาด ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องล้างมัน นับตั้งแต่เขามาถึงเมืองเลนน่อนเขาไม่เคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ของโรงเรียนเลย

"ข้าอายุ 16 ปีแล้ว...." แองเจเล่หลับตาและถอนหายใจ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นกับเขาตั้งแต่ที่เขามาเกิดใหม่ในโลกนี้ เขารู้ว่าเขาจำเป็นต้องคิดให้ดีก่อนตัดสินใจแต่บางครั้งก็มีการตัดสินใจที่ทำให้เขาเสียใจ แองเจเล่สูดอากาศที่เย็นและชื้นมันทำให้เขารู้สึกสดชื่น เขาหยุดคิดถึงอดีต

รถม้าได้มาถึงยอดเขาอย่างรวดเร็ว มีปราสาทสีเทาขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนเนินเขาล้อมรอบไปด้วยกำแพงหนาที่สูง มีประตูขนาดใหญ่ติดอยู่กับกำแพงปราสาทซึ่งเป็นทางเข้าสู่ปราสาททางเดียวเท่านั้น รถม้าและคนคุ้มกันหยุดเมื่อมาถึงประตู แองเจเล่เปิดประตูและออกจากรถม้า

แองเจเล่ไม่ได้ตัดผมมาสักระยะแล้วดังนั้นผมที่ยาวของเขาจึงสยายไปในอากาศขณะที่สายลมพัดผ่าน เมื่อรวมกับชุดสีขาวที่เขาสวมมันแสดงให้เห็นถึงร่างกายที่แข็งแรงและผมที่ยาวของเขามันทำให้ดูป่าเถื่อนแต่ก็อ่อนโยน

"ข้าจะแจ้งให้ทราบถึงการมาของเรา" เจอแรคโค้งให้แองเจเล่ก่อนที่จะเดินเข้าไปในประตู แองเจเล่รออยู่ข้างนอกพร้อมกับทหารยามคนอื่นๆ

แองเจเล่มองไปรอบๆขณะที่เขายังยืนอยู่ข้างรถม้า เขามองเห็นเนินเขาอีกฟากของน้ำตกและมันถูกสร้างเป็นปราสาทสีเทาขนาดใหญ่ มันมีขนาดเล็กลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับด้านหน้าของเขาและมีหอคอยที่สร้างตามแนวเขาเพื่อเฝ้าระวังปราสาท

ทิวทัศน์ที่มีน้ำตกขนาดใหญ่อยู่ระหว่างปราสาททั้งสองแห่งมันทำให้ดูงดงาม

"สถานที่ที่ยอดเยี่ยม" แองเจเล่พูดชมเชย

"ท่านคิดเช่นนั้นด้วยหรือ" แองเจเล่หันไปทางประตูเมื่อเขาได้ยินเสียงออกมาจากมัน ดวงตามองไปที่ชายชราที่มีกล้ามเนื้อกำลังสวมเสื้อคลุมหนังสีขาวขนาดใหญ่ เขานั่งรถเข็นด้วยใบหน้าซีดแต่ดูเหมือนเขาจะมีสภาพจิตใจที่ดี

"ยินดีต้อนรับสู่เมืองเลนน่อน ข้าไม่เคยเห็นคนที่มีพลังลึกลับมาหลายปีแล้ว เราไม่รู้ว่าท่านมาถึงเมืองนี้ถ้าไม่ใช่เพราะเมอร์โฟล์คเพื่อนของเรารู้สึกได้ถึงพลังของท่าน" ชายชรายิ้มให้และพูดก่อนที่จะบอกให้สาวใช้ดันรถเข็นมาทางแองเจเล่

"ยินดีที่ได้พบ ข้าชื่ออัลฟอร์ด รี้ดเจ้าเมืองของเมืองเลนน่อน" ชายชราพูด

"ข้าแองเจเล่ ยินดีที่ได้พบเช่นกัน" แองเจเล่วางมือซ้ายไว้ที่อกและโค้งด้วยความสุภาพ

"งานเลี้ยงตอนกลางคืนกำลังจะเริ่มขึ้น ได้โปรดมาร่วมกับพวกเรา" อัลฟอร์ดพูด

แองเจเล่พยักหน้าตอบและเขาก็ตามชายชราไปในปราสาท เจอแรคและนักดาบที่สวมชุดเกราะสีขาวคนอื่นๆก็เดินเคียงข้างเจ้าเมืองขณะที่ส่วนที่เหลือของทหารยามก็กลับไปที่ด้านหลัง แองเจเล่เพิ่งเข้าประตูเขาก็ได้ยินเสียงการมาถึงของรถม้าจากทางด้านหลัง

"ท่านพ่อ! ทำไมท่านไม่บอกข้าว่าวันนี้เราจะมีแขก" เสียงชายหนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้น แองเจเล่หันกลับไปและเห็นผู้ชายผมบลอนด์กำลังมาทางเขาด้วยสีหน้าที่มีรอยยิ้ม ผู้ชายผมบลอนด์มีหน้าตาสวยและผิวที่ดูนวลเนียน แองเจเล่คิดว่าเป็นผู้หญิงจนกระทั่งเขาเข้ามาใกล้ มีกลุ่มทหารยามยืนอยู่ข้างหลังเขา

ก่อนที่รถม้าจะหยุดลงชายหนุ่มก็กระโดดลงมาจากรถม้า สีหน้าของอัลฟอร์ดตกใจเมื่อเห็นชายหนุ่มคนนี้แต่มันก็เป็นเวลาชั่วขณะเท่านั้น

"ลูกชายข้า ข้าไม่ได้มีโอกาสบอกเจ้าเกี่ยวกับท่านแองเจเล่ ข้าเพียงเห็นรายงานวันนี้ ข้าตัดสินใจที่จะเชิญมาที่ปราสาทของข้า"

"เจ้าเรียกข้าว่าไทนอส ไทนอส รี้ด ยินดีต้อนรับสู่เมืองเลนน่อน" ชายหนุ่มผมบลอนด์พยักหน้าขณะที่เขาพูดกับแองเจเล่ เขาจับได้ถึงความรู้สึกแปลกๆของเจ้าเมือง มันดูเหมือนอัลฟอร์ดกลัวลูกชายของเขา

ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้แองเจเล่มองไปที่ไทนอสสองครั้ง ชายหนุ่มมีใบหน้าของผู้หญิง ผิวขาวกระจ่างใสและผมสั้น เขาสวมชุดหนังสีดำ เมื่อเขายิ้มริมฝีปากสีม่วงของเขาก็ดึงดูดความสนใจของผู้คน ไทนอสเป็นคนที่สวยแบบแปลกๆ ถ้าแองเจเล่จะเชื่อมโยงเขาเข้ากับบางสิ่งบางอย่างมันก็คงจะเป็นกุหลาบสีม่วงที่มีหนามที่เคลือบด้วยพิษร้ายแรง

แองเจเล่เหลือบมองไปที่ทหารยามทั้งสองคนข้างหลังไทนอส หนึ่งในนั้นสูงกว่าอีกคน ทั้งสองคนสวมชุดหนัง ทหารยามที่สูงก็ยิ้มเหมือนกัน ผมสีขาวของเขาไม่ได้มัดไว้มันทำให้ปกคลุมทั่วทั้งไหล่และเขาก็หล่อมาก เขากำลังถือมีดสีดำ

คนที่เตี้ยกว่าเป็นผู้หญิงที่ใบหน้าปกคลุมไปด้วยหน้ากากสีดำกำลังถือหินขนาดเล็กสองก้อนไว้ในมือของเธอ ดวงตาและสีผมของเธอเป็นสีดำ เธอสวมชุดหนังมันทำให้เธอน่าดึงดูด ทหารยามอีกหลายสิบคนยืนอยู่ข้างหลังพวกเขาซึ่งทั้งหมดเป็นผู้หญิงที่สวยหรือผู้ชายที่หล่อเหลา

"ยินดีที่ได้พบไทนอส" แองเจเล่พูดขณะที่ยิ้มอย่างอ่อนโยน

"ข้าออกจากปราสาททันทีหลังจากที่ได้ยินว่าท่านแองเจเล่อยู่ในเมืองเลนน่อน มันแย่มากที่พ่อของเขาไปถึงก่อน" ไทนอสพูด แองเจเล่พบว่ารอยยิ้มของไทนอสนั้นมีเสน่ห์ซึ่งมันทำให้เขาอิจฉาเล็กน้อยกับรูปลักษณ์ของไทนอส แองเจเล่ที่มีหน้าตาดูธรรมดาไม่เคยสนใจเกี่ยวกับหน้าตามาก่อนจนมายืนอยู่ข้างไทนอสมันทำให้เขารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย

"ฝนกำลังจะตก ทำไมพวกเราไม่เข้าไปในปราสาทก่อน ข้าได้ยินว่าเจ้าเมืองเตรียมงานเลี้ยงไว้แล้ว" ไทนอสพูดต่อ

"แน่นอน" อัลฟอร์ดตอบและไทนอสก็พยักหน้าตอบ อัลฟอร์ดเป็นคนนำทาง แองเจเล่และไทนอสเดินตามไป ทหารยามบางคนถูกไล่ออกไปขณะที่ส่วนที่เหลือถูกสั่งให้คุ้มกันปราสาท

แองเจเล่ยังคงอยากจะยืนยันข้อสงสัยของเขากับความรู้สึกแปลกๆกับไทนอส ชายหนุ่มไม่ได้มีหนวดเคราและผิวของเขาดูนุ่มนวลกว่าเมื่อเทียบกับผู้หญิง แองเจเล่ได้กลิ่นหอมเหมือนผู้หญิงจากไทนอสซึ่งทำให้เขามีความคิดสองแบบ แองเจเล่ยังคงเชื่อมั่นในตัวเองว่าเขากำลังมองไปที่ผู้ชาย

พวกเขาเดินไปสักพักหนึ่ง ทุกครั้งที่แองเจเล่เดินเข้าไปใกล้ไทนอส เขาก็พบว่าไทนอสพยายามออกห่างจากเขา มันเหมือนกับว่าไทนอสกำลังทำให้ดีที่สุดเพื่อเขาจะได้สื่อสารกับแองเจเล่ให้น้อยที่สุด

'ซีโร่ตรวจสอบสภาพร่างกายของไทนอสและระบุเพศของเขา' แองเจเล่คิด

[กำลังวิเคราะห์....ไทนอส รี้ด: ความแข็งแกร่ง 2.0 ความว่องไว 2.7 ความอึด 2.4 ความสามารถทางจิต 1.2 มานา 0 ยังไม่ได้ถึงขีดจำกัดของยีน สุขภาพดี เพศ:ชาย] ซีโร่รายงาน

'ดังนั้นเขาเป็นผู้ชาย....และค่าสถานะของเขาอยู่ระดับอัศวิน' แองเจเล่คิด ความสามารถของไทนอสอยู่ระดับอัศวินขั้นกลางแต่แองเจเล่ไม่แน่ใจว่าไทนอสเป็นนักรบระดับอัศวิน ชิปได้เข้าใจเกี่ยวกับความสามารถของไทนอสแต่มันไม่สามารถเข้าใจเกี่ยวกับประสบการณ์การต่อสู้ของไทนอสและทักษะทางกายภาพที่เป็นเอกลักษณ์

หลังจากที่แองเจเล่แข็งแกร่งขึ้นผลของชิปก็แสดงความแม่นยำมากขึ้น ปัจจุบันเขาอยู่ห่างจากไทนอส 1 หรือ 2 เมตรและเขาตัดสินใจที่จะตรวจสอบทุกคนในรัศมี 5 เมตร ผู้คุ้มกันทั้งสองในชุดเกราะหนังสีดำอยู่ระดับอัศวินและความว่องไวของพวกเขาค่อนข้างสูง คนอื่นๆเหมือนคนธรรมดาทั่วไปและมันเป็นไปได้ว่าพวกเขาแย่กว่าทหารยามของเมือง

แองเจเล่ไม่ได้คาดหวังว่าจะเห็นนักรบระดับอัศวินหลายคนที่นี่ อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่สุดคือบุคคลสำคัญที่สุดในเมืองเลนน่อนอาศัยอยู่ที่นี่ดังนั้นระดับความปลอดภัยของสถานที่แห่งนี้ต้องสูงที่สุดในเมืองนี้

'เป็นไปได้ว่าไทนอสเพียงเหมือนผู้ชายหล่อและผู้หญิงที่สวย บางทีเขาอาจจะเกลียดคนที่ดูธรรมดา' แองเจเล่คาดเดา เจ้าเมืองอัลฟอร์ดมีค่าสถานะความแข็งแกร่งสูงมากประมาณ 5 จุดแต่ความว่องไวมีเพียง 0.5 และความอึดของเขาก็มีประมาณ 1 มันดูเหมือนอัลฟอร์ดไม่สามารถเดินได้อีกต่อไปในขณะที่เขานั่งรถเข็นตลอดเวลา แองเจเล่คิดว่าอย่างน้อยอัลฟอร์ดคงเป็นอัศวินขั้นสูงก่อนที่จะอยู่ในสภาพปัจจุบันของเขา

แองเจเล่ยังสังเกตเห็นว่าเจอแรคและทหารยามที่สวมชุดเกราะสีขาวคนอื่นๆยังคงมองไปที่ทหารยามข้างหลังไทนอสมันดูราวกับว่าพวกเขายังคงเฝ้าระวังยามเหล่านี้อยู่เรื่อยๆ เมื่อแองเจเล่เห็นอย่างนี้เขาก็ตระหนักได้ว่ายังมีสิ่งที่เขาต้องคิดให้ออก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด