ตอนที่แล้วตอนที่ 66: การพบปะกันโดยบังเอิญ (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 68: ดอกเกล็ดมังกร (1)

ตอนที่ 67: การพบปะกันโดยบังเอิญ (2)


แองเจเล่นอนลงตรงเส้นทางที่ค่อนข้างวุ่นวายและเห็นรถม้าคันอื่นๆอีกหลายคันได้ผ่านไปแต่ไม่มีหยุดช่วยเขา เขาไม่เคยคาดหวังว่าจะให้คนหยุดช่วยคนแปลกหน้าอย่างเขาจนกระทั่งกลุ่มของแอวริลมาถึง หญิงสาวมีความสุขหลังจากที่ได้เห็นแองเจเล่ตื่นขึ้นมา

 

"ที่จริงแล้วคนอื่นๆเห็นข้านอนอยู่ที่นั่นแต่ไม่มีใครหยุดเพื่อข้า มีเพียงเจ้าหญิงที่น่ารักเหมือนเจ้าที่ช่วยคนแปลกหน้า" แองเจเล่ยิ้มขณะที่เขาพูด หญิงสาวดูดีใจหลังจากที่ได้ยินเขาพูดอย่างนั้น

"ข้าเพียงแค่ทำในสิ่งที่ข้าควรทำ....." มีใบหน้าที่เขินอายขณะที่เธอพูด แองเจเล่พูดคุยกับหญิงสาวอักสักระยะหนึ่ง เธออายุประมาณ 11-12 ปี ระหว่างที่คุยกับแองเจเล่เธอก็สังเกตเห็นว่าเขาอ่อนแอเกินไป

"เจ้าบาดเจ็บและบาดแผลของเจ้าติดเชื้อ นอกจากนี้เจ้ายังมีไข้อยู่ควรพักผ่อนดีกว่า เราพูดคุยกันทีหลังก็ได้" แอวริลพูดอย่างสุภาพและจากนั้นเธอก็ขอให้นักดาบสองคนออกจากรถม้า เธอต้องการทำให้แน่ใจว่าแองเจเล่จะพักผ่อนได้สบาย

รถม้าเงียบหลังจากที่แอวริลปิดประตู แองเจเล่นอนลงบนเตียงด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า

'ตรวจสอบสภาพของข้า' แองเจเล่หายใจเข้าและเขาก็สั่ง

[คุณติดเชื้อด้วยแบคทีเรียที่ไม่รู้จัก เชื้อถูกควบคุมด้วยยาที่มีประสิทธิภาพ คุณเป็นไข้หวัดที่ไม่รู้จักและร่างกายของคุณอ่อนแอ คุณต้องใช้เวลาประมาณ 5 วัน 14 ชั่วโมงเพื่อฟื้นฟู] ซีโร่รายงาน

'เมื่อไหร่ที่ข้าจะสามารถขยับได้' แองเจเล่ถามบางสิ่งที่เป็นปัญหาสำคัญสำหรับเขา เขาจำเป็นต้องมีความสามารถในการตอบโต้เมื่อถูกคุกคาม เมื่อมาถึงจุดนี้เขาอ่อนแอเกินกว่าที่จะทำอะไรได้ มันเป็นเรื่องยากมากสำหรับเขาที่จะหยิบอาวุธ แองเจเล่รู้สึกไม่สบายใจเพราะการติดเชื้อและไข้ทำให้เขาอ่อนแอกว่าคนปกติ

[ถ้าคุณได้รับอาหารและพักผ่อนอย่างเพียงพอมันจะใช้เวลา 41 ชั่วโมง 23 นาที] ซีโร่รายงาน

'มันนานมาก....' แองเจเล่ถอนหายใจด้วยความผิดหวัง

'การโจมตีเพียงครั้งเดียวจากพ่อมดฝึกหัดขั้นที่สามทำให้ข้าเกือบตาย ข้าจะต้องแข็งแกร่งขึ้น...' แองเจเล่คิด

****************************************************

หลังจากที่รถม้าของแอวริลออกไป

มีกวางตัวเมียเล็กๆค่อยๆเดินไปทางที่แองเจเล่นอนพักและลดหัวลงสูดกลิ่นของแองเจเล่ นกฮูกสีขาวบินตรงไปยังกวางและยืนอยู่บนกิ่งไม้ข้างๆ ร่างกายของมันเป็นสีขาวแต่ดวงตาของมันดูมืดมิด

"แม่มดเรเน่นี่คือจุดสิ้นสุด การติดตามจะไม่ทำงานอีกต่อไป" นกฮูกเริ่มพูดด้วยเสียงของชายชรา กวางเดินไปรอบๆสถานที่ชั่วขณะหนึ่งก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นไปมองนกฮูก

"จากกลิ่นนั้นเขาเป็นพ่อมดฝึกหัดของวิทยาลัยแรมโซด้า ข้าคิดว่าเขาเพียงแค่โชคดี มิฉะนั้นจะไม่มีทางที่เขาสามารถฆ่าบาฮามุทได้ ถ้าเราไม่สามารถติดตามเขาได้อีกต่อไปมันก็ไม่มีอะไรที่เราสามารถทำได้ การตายของบาฮามุทไม่ได้ส่งผลอะไร" กวางเริ่มพูดเช่นกัน

"เราต้องหยุดจดจ่อกับเรื่องไม่สำคัญ" นกฮูกพูด

"มันยังไม่ใช่เวลาที่จะทำลายสนธิสัญญากริมการ์ แคทเธอรีนและคนของเธอได้ไปถึงจุดหมายปลายทางแล้ว เราต้องไม่ปล่อยกำลังหลักของแรมโซด้าไป" มันพูดต่อ

"วากิส่งข้อความถึงเราจากอะคริลิกบอกว่าลิเลียโด้กำลังสร้างรอยแตกใหม่" กวางพูด

"ใช่ เราจำเป็นต้องช่วยพันธมิตรแดนเหนือเพื่อทำงานให้เสร็จเร็วๆ ข้าคิดว่าลิเลียโด้ได้สังเกตเห็นสถานการณ์แล้ว ซานเตียโก้ยังส่งพ่อมดบางส่วนมาที่นี่" นกฮูกพูด

"ครั้งนี้เราจะได้ไข่มุกเงา! ไม่สำคัญว่าฝ่ายตรงข้ามของเราจะมีมากแค่ไหน!" ตาของกวางส่องประกาย

***********************

ดวงจันทร์สองดวงลอยอยู่กลางท้องฟ้ายามค่ำคืน เมฆเคลื่อนตัวอย่างช้าๆตามท้องฟ้าและมีดาวที่มองเห็นได้อยู่หลายดวงข้างๆ แองเจเล่ยังคงนอนอยู่ที่เตียงกำลังกินเนื้อตากแห้งของเขาอย่างช้าๆแล้วดื่มน้ำตาม

เขาได้ยินเสียงของกองไฟด้านนอกและมองเห็นแสงไฟผ่านหน้าต่าง แองเจเล่ได้กลิ่นหอมของสตูว์เนื้อที่กำลังทำ เขาจ้องไปที่เนื้อตากแห้งในมือแต่เขาก็ตัดสินใจที่จะไม่ขออาหาร คนเดียวที่รักษาเขาในกลุ่มนี้ก็คือแอวริล

คนอื่นๆยังไม่ยอมให้แองเจเล่อยู่ในกลุ่มของพวกเขา พวกเขาเย็นชาใส่เขาและแองเจเล่รู้เหตุผลว่าทำไมขณะที่เขาพวกเขาซุบซิบกัน ถ้าแอวริลไม่ได้ยืนยันที่จะใช้ยาต้านการติดเชื้อที่มีราคาแพงกับเขาเขาก็จะไม่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เขาควรจะถูกทิ้งข้างถนนหลังจากที่เขาตื่นขึ้นมา

ด้านนอกรถม้า ทันใดนั้นนักดาบที่นั่งอยู่ใกล้กองไฟลุกขึ้น

"เฮ้ คานธีเจ้าจะไปไหน" ชายคนหนึ่งถาม

"เกือบจะถึงเวลาข้าที่ต้องไปลาดตระเวน" คานธีตบเบาๆไปที่ดาบยาวที่อยู่ข้างเอวและยิ้ม

"อย่าไปไกลนัก" ดันเลวี่พูด เขานั่งอยู่ข้างกองไฟและใช้น้ำมันกับดาบกางเขนของเขา

คานธีเดินไปทางด้านหลังของรถม้าและมองไปที่กองไฟและรถม้าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครสังเกตเขา เขาได้เดินช้าลงและเดินไปรอบๆก่อนที่จะเดินไปหาม้าสีดำที่แข็งแรงสองตัว สีหน้าของเขาดูดีใจหลังจากที่เห็นสัมภาระหลายชิ้นที่ม้าบรรทุกมาและคิดว่าอาจมีของที่มีค่าอยู่ภายใน

คานธีตรวจสอบกระเป๋าและเห็นกระเป๋าขนาดเล็กแต่มันประณีตมาก มันเป็นกระเป๋าที่มีอุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดของแองเจเล่ ภายในมีถุงไข่มุกสีแดง ยาห้ามเลือด หนังสือของพ่อมดเล่นแรกที่เขาได้รับมาและยาควบคุมดำ ในตอนนี้ยาควบคุมดำเป็นของที่สำคัญที่สุดสำหรับเขา

คานธีลูบคลำกระเป๋าขนาดเล็กแล้วหัวเราะ

"พบแล้ว!" เขาพึมพำเสียงต่ำ

*******************************

ภายในรถม้าคันแรก

"ท่านพ่อข้าจะไปเดินเล่นรอบๆ" แอวริลพูด เธอพยายามที่จะผูกหางม้าดังนั้นเธอจึงมองหาที่รัดผมบนโต๊ะ

"อยู่ในรถม้าอย่าไปไหน" ขุนนางผู้ชายมองไปที่เธอและพูดด้วยเสียงกังวาน

"ข้าจะกลับมาภายใน 10 นาที" อย่างไรก็ตามแอวริลไม่สนใจ เมื่อเธอพบที่รัดผมเธอก็ผูกผมเป็นหางม้าและออกจากรถม้า

"แอวริล...." ขุนนางผู้ชายพูดขณะที่มองไปที่ภรรยาของเขา ลูกสาวของพวกเขาทำให้พวกเขาปวดหัว

แอวริลเห็นคนรวมตัวคุยกันรอบกองไฟดังนั้นเธอจึงเข้าไปร่วมการสนทนา แต่ทันใดนั้นเธอก็หยุดเมื่อเธอคิดถึงแองเจเล่ที่มีอายุประมาณ 15 ปีและยังถูกเธอช่วยชีวิตไม่นานมานี้

"เขาไม่หล่อแต่เขาก็ดูฉลาด" เธอพูด

"มันเป็นครั้งแรกที่ข้าออกจากบ้าน ข้ารู้สึกเหมือนข้าเป็นเจ้าหญิงในนิยาย" เธอกำลังอารมณ์ดีดังนั้นเธอจึงเริ่มร้องเพลง แอวริลหันไปทางรถม้าคันที่สองและเดินไปอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเธอก็เห็นใครบางคนไปรอบๆม้าสีดำสองตัวแต่ไม่ทราบว่าผู้ชายคนนั้นกำลังทำอะไรอยู่

"คานธี" แอวริลรู้จักผู้ชายคนนั้น

"เจ้ากำลังทำอะไร!" เธอตะโกน

คานธีรู้สึกกลัวหลังจากที่มีใครบางคนเรียกชื่อเขา เขาหันไปและเห็นแอวริลกำลังเดินเข้ามา สีหน้าของเขาได้ซีดลงเนื่องจากเขารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเจ้านายพบว่าเขากำลังขโมย แอวริลตระหนักว่าคานธีกำลังพยายามจะทำอะไรดังนั้นสีหน้าของเธอจึงเย็นชา

"คานธี เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้ากำลังทำอะไร" เธอถาม

"ข้าเพียงแค่ลาดตระเวน" คานธีพยายามยิ้ม

"ทำไมเจ้าถึงเข้ามาใกล้ค่ายแทนที่จะเดินไปรอบๆ" แอวริลยิ้ม

"ข้าจะไม่รายงานพ่อถ้าเจ้าออกไปตอนนี้" เธอพูดต่อ

"ขอบคุณ.....ข้าจะไป" คานธียังไม่ได้เปิดกระเป๋า เขายิ้มและไปทันที

แอวริลจัดกระเป๋าไว้บนม้าและเดินไปทางรถม้าคันที่สอง

แองเจเล่รู้ว่าคานธีกำลังพยายามจะขโมยของของเขา เขาได้ยินทุกสิ่งทุกอย่างแต่เขาไม่อยู่ในสภาพที่จะขยับได้ เขาต้องรอเวลาสองวันเพื่อรักษาทรัพย์สมบัติอันมีค่าของเขา มันจะสายเกินไปถ้าแอวริลไม่ได้หยุดคานธี

"เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง" แอวริลเปิดประตูและเข้ามาภายในรถม้า

"เริ่มดีขึ้นแล้ว ขอบคุณเจ้ามาก" แองเจเล่ชอบผู้หญิงแบบนี้ดังนั้นเขาจึงขอบคุณเธอสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้เขา

"เจ้าบอกชื่อเต็มของเจ้าได้หรือไม่ ข้าแองเจเล่ แองเจเล่ ริโอ" แองเจเล่พูด

"ชื่อของข้าคือแอวริล โซโลต้า แฮสริม ชื่อกลางของเจ้าคืออะไร" หญิงสาวถาม

"เราไม่มีชื่อกลาง มันเป็นธรรมเนียมบ้านเกิดของข้า" แองเจเล่พูดขณะที่ยักไหล่ นั่นคือหนึ่งในการเคลื่อนไหวเล็กน้อยที่เขาสามารถทำได้

"ข้าคิดว่าเจ้ามาจากแรมโซด้าซะอีก" แอวริลพูด

"ไม่ ข้ามาจากอีกฟากหนึ่งของทะเล เจ้ากำลังมุ่งหน้าไปที่ไหน" แองเจเล่ยิ้ม

"เมืองเลนน่อน เราต้องไปนำปู่ของข้ากลับไปที่ดินแดนของเรา เขาป่วยและมันแย่ลงเรื่อยๆ" แอวริลตอบด้วยท่าทางเศร้าไม่ได้ซ่อนอะไรจากเขา พวกเขาพูดคุยกันสักพัก แองเจเล่บอกเธอว่าเขาได้รับบาดเจ็บจากโจร เขาบอกว่าเขากำลังมุ่งหน้าไปเมืองเลนน่อนและเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับบ้านเกิดของเขา พวกเขาเพลิดเพลินกับการสนทนา

แอวริลอยากจะอยู่กับแองเจเล่ให้นานกว่านี้แต่มีใครบางคนมาเรียกเธอจากด้านนอกรถม้าดังนั้นเธอจึงออกไป ในที่สุดแองเจเล่ก็มีโอกาสฝึกฝน มันจำเป็นที่เขาจะต้องฝึกฝนทุกวันและไม่สามารถบอกคนอื่นได้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่

สิ่งที่ดีคือเขาไม่จำเป็นต้องมีท่าทางที่จะฝึกฝน เขาสามารถนอนบนเตียงแล้วทำให้คนอื่นคิดว่าเขากำลังพักผ่อน เขาไม่แน่ใจว่าคนทั่วไปจะคิดอย่างไรเกี่ยวกับพ่อมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขามาจากวิทยาลัยแรมโซด้าที่มีชื่อเสียงในเรื่องศาสตร์แห่งความตาย ตอนนี้เขาตัดสินใจที่จะไม่บอกใครว่าเขาเป็นพ่อมดฝึกหัดเนื่องจากเขายังต้องฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด