ตอนที่ 65: การเดินทางไกล (2)
แองเจเล่หันหัวไปมองรอบๆและมองผ่านช่องว่างระหว่างต้นไม้ ผู้ชายสองคนสวมชุดเกราะหนังสีน้ำตาลกำลังย่างเนื้อข้างๆกองไฟ พวกเขายังมีหม้อซุปสีขาวอยู่ใกล้ๆ แองเจเล่ได้กลิ่นหอมของเห็ดจากร้อยเมตรที่ห่างออกไป เมื่อผู้ชายทั้งสองคนได้ยินเสียงม้าพวกเขาก็หันไปตรวจสอบ
'พวกเขาออกมาจากโรงเรียน' แองเจเล่สันนิษฐาน เขาได้พบกับพ่อมดฝึกหัดหลายคนระหว่างทางแต่เขาไม่เคยทักทายใคร พวกเขาทั้งหมดมีจุดหมายที่แตกต่างกันและพวกเขาก็ไม่รู้จักกัน การไว้วางใจคนอื่นมันไม่ใช่เรื่องดี
แองเจเล่ไม่ได้หยุดขณะที่เขาเดินทางต่อไปเรื่อยๆ เขาต้องการให้ม้าพักสักครู่ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เพิ่มความเร็วของม้า ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงใครบางคนกำลังเข้ามาหาเขา
แองเจเล่ก้มลงบนหลังม้าและมองไปที่ทางข้างหน้าเขา มีชายหนุ่มสวมชุดเกราะหนังสีขาวขี่ม้าสีน้ำตาลปรากฏตัว หลังจากที่เห็นแองเจเล่เขาก็ประหลาดใจแต่ก็พยายามซ่อนความประหลาดใจด้วยการเปลี่ยนสีหน้าก่อนที่จะช้าลง แองเจเล่ก็ชะลอลงเช่นกัน
"เจ้าสามารถบอกข้าได้หรือไม่ว่าท่าเรือแหว่งห่างจากที่นี่แค่ไหน" ผู้ชายคนนั้นถาม
"ด้วยความเร็วของเจ้าเจ้าจะไปถึงใน 5 หรือ 6 วัน" แองเจเล่ตอบด้วยรอยยิ้ม ผู้ชายคนนั้นยิ้มและพยักหน้า ทั้งสองคนเริ่มเร่งม้าอีกครั้ง
ทันใดนั้นแองเจเล่ก็ดึงดาบออกมา เสียงของดาบที่ชักออกมาทำให้ม้ากลัว แองเจเล่ฟันดาบไปที่ชายคนนั้นโดยไม่ลังเลซึ่งทำให้ชายคนนั้นตกลงที่พื้นและตายภายในไม่กี่วินาที แองเจเล่ฟันที่ท้องของเขาทำให้โคลนบนเต็มไปด้วยเลือด
แองเจเล่มองไปที่ร่างกายนั้นชั่วครู่และก็ฟันตัวให้ขาดครึ่งจากนั้นเขาก็หันกลับไปและออกไปจากสถานที่นี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาหายตัวไปในสายฝนอย่างรวดเร็ว
**************************************
แองเจเล่เอาดาบกลับเข้าฝักด้วยใบหน้าที่ซีดและเอามือไปสัมผัสที่เอวของเขา เขารู้สึกได้ถึงเลือดที่ไหลออกมา แองเจเล่เอายาห้ามเลือดออกมาและดึงจุกออกจากขวด เขาเทลงบนฝ่ามือและไปลูบบนบาดแผล
ไอสีเขียวลอยออกมาเมื่อบาดแผลดูดซับของเหลว
"ผู้ชายคนนั้นเป็นพ่อมดขั้นที่สาม ถ้าข้าไม่ได้ยินเขาร่ายข้าคงจะตายไปแล้ว" แองเจเล่บ่น เขายังรู้สึกตกใจขณะที่เขาพยายามนึกถึงภาพของพ่อมดฝึกหัดที่เพิ่งถูกเขาฆ่า พ่อมดฝึกหัดคนนั้นสวมชุดเกราะหนังสีขาวที่มีสัญลักษณ์แหวนสีเงิน
'มันเป็นพ่อมดฝึกหัดของพันธมิตรแดนเหนือ ข้าไม่รู้ว่าพวกเขาได้มาใกล้มาก เป็นไปได้ว่าพวกเขากำลังพยายามล้อมรอบวิทยาลัย ข้าต้องออกไป' แองเจเล่คิด เขากัดริมฝีปากและสะบัดบังเหียน
"เร็วอีก!" แองเจเล่ตะโกน ม้าร้องและวิ่งเร็วขึ้น
**********************************
ศพของผู้ชายในชุดหนังสีขาวถูกแบ่งเป็นสองส่วนและร่างอยู่บนพื้นโคลน ม้าสีน้ำตาลวนรอบศพไปเรื่อยๆก่อนที่จะจากไปที่ไหนสักแห่ง ฝนเริ่มตกหนักขึ้น ประมาณ 20 นาทีต่อมาก็มีผู้ชายในชุดคลุมสีขาวปรากฏขึ้นมาจากป่า
ผู้ชายคนนี้ดูแก่และไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร เขาเดินมาที่ศพและก้มไปด้านข้าง เขาเอานิ้วจุ่มไปที่เลือดและแตะไว้ที่ลิ้นของเขา จากนั้นเขาก็หันไปจ้องมองเส้นทางที่มุ่งหน้าไปยังจักรวรรดิแรมโซด้า
ผู้ชายคนนั้นดูผิดหวังเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรนอกจากยืนขึ้นและเช็ดมือของเขา
**********************************
แองเจเล่กำลังหายใจอย่างหนัก เขาก้มตัวลงบนหลังม้าของเขา เขาชะลอลงก่อนที่จะหยุดหลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง เขานำม้าสองตัวเข้าไปในป่าและผูกไว้กับต้นไม้ เขานั่งลงและใช้มือกดบาดแผล
เขาเพิ่งฆ่าศัตรูเพียงชั่ววูบแต่มันไม่ได้ง่ายอย่างที่เห็น ถ้าเขาลังเลเพียงเสี้ยววินาทีเขาก็จะเป็นคนที่ตาย
'ซีโร่ เจ้าระบุคาถาที่ผู้ชายคนนั้นใช้ได้หรือไม่' แองเจเล่เอนพิงต้นไม้ก่อนที่จะถาม
[เป็นไปได้ว่าเป็นคาถาศรสายฟ้า 92.7% อาวุธที่เขาใช้เป็นเข็มโลหะ] ซีโร่รายงาน
'ศรสายฟ้า' แองเจเล่ยิ้มขมขื่นขณะที่เขาตรวจดูบาดแผล เลือดได้หยุดไหลแล้ว ยาห้ามเลือดมันช่วยได้อย่างมากแต่เขาต้องการเอาเข็มออกมาจากบาดแผล แองเจเล่ถอดเสื้อและเริ่มตรวจสอบบาดแผล เขาพยายามหาเข็มด้วยมีดในมือ
'ซีโร่ช่วยข้าทำบาดแผลให้ดีขึ้นได้หรือไม่' แองเจเล่ถาม ซีโร่แสดงบาดแผลของเขาในรูปโฮโลแกรมข้างหน้าสายตาของเขาซึ่งช่วยให้แองเจเล่หาตำแหน่งของเข็มได้ภายในช่วงเวลาสั้นๆ เข็มสีดำแทบจะทะลุกระเพราะอาหารของเขา
แองเจเล่เจาะเข้าไปที่บาดแผลแล้วเปิดบาดแผลและใช้นิ้วของเขาดึงเข็มออกมา เขาใช้ยาที่บาดแผลอีกครั้งและเลือดมันก็หยุดหลังจากที่ของเหลวที่ดูดซับ
มือของแองเจเล่เต็มไปด้วยเลือดของตัวเขาขณะที่เขาจับที่เข็มที่เขาดึงออกมา
'ซีโร่สามารถระบุส่วนประกอบมันได้หรือไม่' แองเจเล่ถาม
[กำลังวิเคราะห์.....วัสดุที่ไม่รู้จัก มันแข็งและเป็นสื่อกระแสไฟฟ้า ไม่มีข้อมูลที่สามารถพบได้ในฐานข้อมูล] ซีโร่รายงาน
'ข้าควรจะค้นหาร่างกายของเขา....แต่ข้าต้องทำให้ตัวเองปลอดภัย' แองเจเล่คิดขณะที่เขาส่ายหัวด้วยความผิดหวัง
แองเจเล่พักอยู่ครู่หนึ่ง เขาเอาเนื้อแห้งและผักแห้งออกมาจากกระเป๋าและกินพวกมันแล้วตามด้วยน้ำที่เขามี เขายังให้ม้าด้วยถั่วม้า เขาไม่ต้องการชักช้าเกินไปดังนั้นเขาจึงออกไปหลังจากที่ให้อาหารม้า
เป็นเวลาหลายศตวรรษที่วิทยาลัยแรมโซด้าและพันธมิตรแดนเหนือได้เป็นศัตรูกัน แต่ไม่มีใครจำได้ถึงสาเหตุของความเป็นปฏิปักษ์ของพวกเขา พันธมิตรแดนเหนือเริ่มทำสงครามแต่แองเจเล่ยังคงไม่เข้าใจภาพรวมทั้งหมด เขาไม่เคยคิดเลยว่าทำไมมาเนสจึงทรยศโรงเรียน ผู้ชายที่แองเจเล่ได้ฆ่าเริ่มร่ายคาถาหลังจากที่ตระหนักได้ว่าแองเจเล่เป็นพ่อมดฝึกหัดจากวิทยาลัยแรมโซด้า เขาไม่ได้ลังเลเลยแม้แต่น้อย
'มันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ข้าไม่ได้รับอนุญาตให้มองดูข้อมูลที่แยกออกไปในห้องสมุดในขณะที่เป็นพ่อมดฝึกหัด' แองเจเล่คิด
แองเจเล่รู้ว่ามีระดับห้าระดับที่แตกต่างกันและพ่อมดฝึกหัดมี 3 ขั้น แต่เขาไม่แน่ใจว่าพ่อมดที่กี่ขั้น เขารู้ว่าพ่อมดแข็งแกร่งกว่าพ่อมดฝึกหัด เขาเคยเห็นการต่อสู้ของพ่อมดแล้วแต่ไม่ทราบถึงลำดับของความแข็งแกร่ง
ขั้นของพ่อมดฝึกหัดได้รับการพิจารณาจากความสามารถของพวกเขาในขณะที่ขั้นเหล่านี้เป็นตัวกำหนดความแข็งแกร่งและพลังของพ่อมดฝึกหัด
พ่อมดฝึกหัดขั้นที่หนึ่งจะอ่อนแอที่สุด มีความสามารถทางจิตสูงกว่าและต้านคาถาได้ดีกว่าคนปกติ นักรบระดับอัศวินอาจจะแข็งแกร่งกว่าพวกเขา
พ่อมดฝึกหัดขั้นที่สองจะแข็งแกร่งกว่าขั้นที่หนึ่ง พวกเขามีอนุภาคพลังงานภายในร่างกายซึ่งสามารถช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของตัวเอง พวกเขายังได้เรียนรู้คาถาพื้นฐานและสามารถต่อสู้กับอัศวินขั้นสูงได้อย่างง่ายดาย
พ่อมดฝึกหัดขั้นที่สามเป็นพ่อมดฝึกหัดที่ดีที่สุด พวกเขารู้คาถา 5 คาถาและมีความสามารถในการใช้อนุภาคพลังงานในการป้องกันคาถาที่ใกล้เข้ามาหรือการโจมตีกายภาพ พ่อมดฝึกหัดขั้นที่สามยังมีความสามารถในการปรับปรุงคาถาทำให้พวกมันร่ายเร็วขึ้น พ่อมดฝึกหัดขั้นที่สามดีกว่าขั้นอื่นๆในการที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีในการสังหารฝ่ายตรงข้ามด้วยเวทมนต์ต่างๆ หากพวกเขารู้ทักษะทางกายภาพพวกเขาก็สามารถใช้คาถาสนับสนุนและทำให้ตัวเองอยู่ยงคงกระพันในระหว่างการต่อสู้
ผู้ชายที่แองเจเล่พบได้ปรับปรุงคาถาให้ดีขึ้น เมื่อแองเจเล่ได้ยินเขาร่ายแองเจเล่ก็ดึงดาบออกมาทันที แองเจเล่เป็นอัศวินขั้นสูงก่อนที่จะกลายเป็นพ่อมดฝึกหัดดังนั้นเขายังเร็วกว่าคู่ต่อสู้ของเขา ถ้าเขาลังเลแล้วให้เวลาผู้ชายคนนั้นใช้คาถาเขาก็จะตายภายในเสี้ยววินาที
พ่อมดฝึกหัดทุกคนมีคาถาที่ผสานกันด้วยตัวเอง มีคาถามากมายในโลกนี้ วิทยาลัยแรมโซด้ามีอย่างน้อยก็เป็นร้อย คาถาที่แข็งแกร่งมักจะเรียนรู้ยากดังนั้นพ่อมดฝึกหัดจะรวมคาถาพื้นฐานแทนเพื่อทำให้มันโจมตีแรงขึ้น องค์กรพ่อมดยังคงสร้างคาถาใหม่ดังนั้นมันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะจำได้ทุกคาถา
แองเจเล่คิดชั่วขณะหนึ่งก่อนที่จะหยุดอีกครั้ง เขาตั้งเต็นท์ไว้ข้างต้นไม้อย่างรวดเร็วและปกคลุมมันด้วยผ้าลินินที่ใช้ห่อกระเป๋า เขาได้ทั้งหมดนี้มาจากตระกูลของแอนเซ็ตแต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะใช้พวกมันเร็วอย่างนี้
เขาวางใบไม้และกิ่งไม้ด้านบนเพื่อป้องกันฝนและเขาก็ผูกม้ากับท่อนไม้ใต้ต้นไม้ แองเจเล่เอากระเป๋าออกมาจากม้าและวางพวกมันไว้ภายในเต็นท์สีเทา ฝนที่ตกมันตกหนักขึ้นและหนักขึ้น
แองเจเล่นั่งอยู่ข้างในเต็นท์ด้วยการขัดสมาธิขณะที่มองออกไปข้างนอกผ่านหน้าต่างเล็กๆ สายลมได้พัดผ่านต้นไม้ทำให้กิ่งไม้เขย่า ไม่มีใครอยู่รอบๆ มันมืดมิดและเงียบสงบ
ทันใดนั้นแองเจเล่ก็คิดถึงพ่อของเขา เขารู้ว่าบารอนจบภารกิจบนที่ราบแอนเซอร์ก่อนที่เขาจะขึ้นเรือ แองเจเล่ไม่เคยได้ยินอะไรจากเขาเลย เขาเริ่มคิดเกี่ยวกับทุกคนที่เขารู้ขณะที่มันเริ่มดึกขึ้นและข้างนอกก็มืดขึ้น
เขาสงสัยสิ่งที่ทำให้มาเนสตัดสินใจทรยศโรงเรียนและคิดถึงแอนเซ็ตที่กลับไปหาตระกูลของเธอหลังจากที่เขาออกจากโรงเรียน
'อาจารย์ลิเลียน่า ยูริ แนนซี่....' แองเจเล่ไม่รู้ว่าทำไมแต่เขายังคงคิดถึงทุกคนที่เขารู้จัก เขาไม่รู้ว่าอะไรอยู่ข้างหน้าและเขาอยากจะไปตั้งถิ่นฐาน นี่เป็นครั้งแรกที่แองเจเล่รู้สึกเหงาและเปล่าเปลี่ยวหัวใจ
'ฝนบัดซบ....' เขาคิด