ตอนที่ 59: วิกฤต (2)
[แองเจเล่ ริโอ: ความแข็งแกร่ง 2.9 ความว่องไว 4.1 ความอึด 3.7 ความสามารถทางจิต 3.3 มานา 3.0(มานาขึ้นอยู่กับความสามารถทางจิต) สุขภาพดี] ซีโร่รายงาน
มานาเป็นค่าคุณสมบัติใหม่ที่แองเจเล่พบก่อนที่จะสร้างมันขึ้นหลังจากที่มาถึงช่วงปลายของขั้นที่สอง นี่เป็นค่าที่แองเจเล่ตั้งไว้สำหรับวัดอนุภาคพลังงานซึ่งรวมทั้งอนุภาคที่เก็บไว้ในชิปและภายในร่างกายของเขาหลังจากที่มาถึงขั้นใหม่ เขาสามารถเก็บพลังงานไว้ในร่างกายได้ 3 และมากกว่า 17 ในชิป แองเจเล่ได้ดูดพลังงานประมาณ 17 จากอุปกรณ์เวทมนต์ของแนนซี่แต่เขายังไม่ค้นพบปริมาณพลังงานสูงสุดที่เขาสามารถเก็บไว้ในชิป
'ความสามารถทางจิต 3 และมานา 3 นั่นหมายความว่าข้าสามารถร่ายคาถาพื้นฐานได้สามรอบ' แองเจเล่คิดขณะที่ชิปรายงานต่อ
[แสดงข้อมูลของคาถาสับสน:
คาถาสับสน(พื้นฐาน) - คาถาระดับ: 0
ใช้: ความสามารถทางจิต 1 มานา 1
ผล: ทำให้เป้าหมายสับสนเป็นระยะเวลา 1-3 วินาที
ระยะทางที่ใช้ได้ผล: ภายใน 1.5 เมตร
คุณต้องใช้ภายใน 5 วินาที มิฉะนั้นจะล้มเหลว
จุดอ่อน: ถ้าเป้าหมายมีความอึดสูงผลของคาถาจะลดลงอย่างมาก] ซีโร่รายงาน
คาถาระดับ 0 เป็นรูปแบบคาถาระดับพื้นฐานและสามารถเรียนรู้ได้โดยพ่อมดฝึกหัด พ่อมดจะมีคาถาที่แตกต่างกันในแต่ละระดับขึ้นอยู่กับการใช้มานาและความสามารถทางจิต ความเสียหายและพื้นที่ของผลกระทบ มีระดับที่แตกต่างกันโดยที่ระดับ 9 เป็นระดับสูงสุด
'ข้าไม่ได้คาดหวังว่ามันจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ข้าเพียงต้องฝึกฝนมากขึ้นหลังจากที่ชิปส่งข้อมูลให้ข้าเสร็จสิ้น ข้าสามารถเรียนรู้ทั้งหมดนี้ได้เพราะชิป ถ้าข้าไม่มีมันข้าอาจจะต้องไปห้องทดลองคาถาเพื่อทดสอบแล้วการล้มเหลวเพียงไม่กี่ครั้งก็จะเสียทั้งมานาและความสามารถทางจิตจำนวนมาก การนอนหลับเป็นวิธีเดียวที่จะฟื้นฟูสิ่งเหล่านี้ ส่วนใหญ่แล้วข้าสามารถทดลองได้ 2-3 ครั้ง ไม่ว่าจะเป็นพ่อมดฝึกหัดที่ฉลาดแค่ไหนเขาก็ต้องใช้เวลาเรียนอย่างน้อย 25 วันเพื่อเรียนรู้คาถาระดับ 0 ข้าได้ยินมาว่าบันทึกนี้ถูกบันทึกโดยการ์แมน จูเนียร์ของสาขาเวทมนต์' แองเจเล่คิด ผลที่ได้เป็นสิ่งที่เขาพอใจ
แองเจเล่ไม่ได้คาดหวังว่าชิปจะแสดงประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ เขาได้วางแผนไว้อย่างระมัดระวังแม้กระทั่งต้องการให้แน่ใจว่าเขาสามารถใช้คาถาได้ก่อนกลับไปที่โรงเรียน เขาไม่รู้ว่าจะประสบความสำเร็จในครั้งแรก
[ปรับปรุงโครงสร้างของคาถาหรือไม่] ซีโร่ถาม แองเจเล่ได้ตกตะลึงเมื่อได้ยินเช่นนี้ราวกับไม่เชื่อว่ามันทำเช่นนั้นได้
[ปรับปรุงโครงสร้างของคาถาหรือไม่] ซีโร่ถามอีกครั้ง ในที่สุดแองเจเล่ก็ตระหนักได้ถึงความสามารถของชิปจึงทำให้เขาอดตื่นเต้นไม่ได้กับสิ่งนี้
'เงื่อนไขที่ต้องการคืออะไร'
[จะใช้ความสามารถทางจิต 14 มานา 14 ใช้เวลา 18 วัน 13 ชั่วโมง 42 นาที ปัจจุบันเงื่อนไขยังไม่ตรงตามกำหนด] ซีโร่ตอบ
'ทำไมเจ้าถึงต้องถามคำถามนี้' แองเจเล่พูดไม่ออกเล็กน้อย
'มันจะใช้ความสามารถทางจิต 14 ภายในเพียงครั้งเดียวงั้นหรือ' เขาถาม
[ใช่] ซีโร่ตอบ แองเจเล่ละทิ้งความคิดนี้ไปทันทีเพราะเขาต้องเพิ่มความสามารถทางจิตของเขาให้มากกว่า 14 ซึ่งเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาในตอนนี้ เขาต้องการกลายเป็นพ่อมดก่อนเป็นอันดับแรกก่อนที่เขาจะสามารถปรับปรุงคาถาได้
หลังจากที่จำลองคาถาสับสนแองเจเล่ก็รู้สึกเหนื่อยมาก ไม่มีใครเอาเต็นท์มาดังนั้นเขาจึงต้องนอนข้างกองไฟ แองเจเล่สงบใจลงเล็กน้อยก่อนที่เขาจะเริ่มนั่งฝึกข้างก่องไฟ
เช้าวันรุ่งขึ้น
ทั้งห้าคนจับกระต่ายและกระรอกในป่า ในที่สุดพวกเขาก็จับหาเนื้อได้แต่พวกเขาไม่มีเกลือซึ่งมันเป็นเรื่องยากมากที่จะกิน โดยปกติพวกเขาจะมีอาหารดีๆในโรงเรียน ในเวลานี้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากอดอาหาร หลังจากที่ทานอาหารเช้าพวกเขาก็เริ่มเดินทางกลับอีกครั้ง วิทยาลัยแรมโซด้าตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวผู้คนไม่คิดที่จะอยู่ใกล้โรงเรียนที่เชี่ยวชาญเรื่องศาสตร์แห่งความตาย ระหว่างทางกลับกลุ่มของแองเจเล่ทั้งห้าคนไม่ได้ประสบปัญหาใดๆ เมื่อพวกเขาหิวก็จะล่าสัตว์ป่าสำหรับการดับกระหายน้ำพวกเขาก็หาน้ำจากแม่น้ำที่พวกเขาผ่าน
แองเจเล่ยังคงศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับความรู้พื้นฐานทุกอย่างที่เก็บไว้ในชิปของเขา นอกจากนี้เขายังได้เรียนรู้ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการสร้างรูปแบบคาถาอีกคาถานั่นก็คือมือดูดกำลัง เขาซื้อหลักสูตรที่จำเป็นก่อนแล้วเก็บไว้ในชิป แองเจเล่ไม่มีเวลาอ่านก่อนหน้านี้แต่ตอนนี้เขามีเวลาว่างที่จะทำเช่นนั้นขณะที่อยู่ระหว่างทางกลับ เขาวางแผนที่จะจำลองรูปแบบคาถาที่สองเมื่อกลับไปที่โรงเรียน
****************
มากกว่าสิบวันให้หลัง.....
บนพื้นดินของพื้นที่วิทยาลัยแรมโซด้า
ความร้อนจากแสงแดดทำให้พื้นดินถูกเผาไหม้ เมืองที่ถูกทิ้งทั้งหมดดูเหมือนสีทองภายใต้แสงแดด ลมได้พัดฝุ่นขึ้นไปในอากาศ บนสะพานกลุ่มของพ่อมดฝึกหัดกำลังเดินอยู่ คนที่นำกลุ่มเงยหน้าขึ้นมองไปที่เมือง
"ในที่สุดก็มาถึง พวกเราต้องรายงานสถานการณ์ทันที" เขาพูดด้วยความตื่นเต้น อีกาดำบินลงมาที่ราวสะพานและมองไปที่พ่อมดฝึกหัด อีกาไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่บินห่างไป พ่อมดฝึกที่ด้านหน้าพยายามพูดอะไรบางอย่างแต่มีคนที่อยู่ข้างหลังขัดขวางเขา
"อย่า อาจารย์โมโรโค่ไม่สนใจ เขาสัญญากับอาจารย์ใหญ่ว่าเขาจะปกป้องประตูทางเข้าแต่เขาไม่เคยเป็นหนึ่งในพวกเรา" พ่อมดฝึกหัดคนที่ขัดขวางพูดขึ้นมา
"เข้าใจแล้ว" พ่อมดฝึกหัดที่เป็นผู้นำพยักหน้า
แองเจเล่อยู่ที่ด้านหลังของกลุ่มใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยฝุ่นและใบหญ้า เขาเดินตามพ่อมดฝึกหัดคนอื่นๆและมาถึงอุโมงค์ของโรงเรียน แองเจเล่และพ่อมดฝึกหัดผู้ชายอีกสองคนเดินไปที่ประตูพร้อมกับกริฟเฟียและมีผู้หญิงอีกคนตามหลัง
"ข้าจะแจ้งอาจารย์ลูอัส เขารู้จักผู้ช่วยของหัวหน้าฝ่ายทรัพยากร บอกเขาแล้วเขาจะสามารถส่งข้อมูลไปที่อาจารย์คนอื่นๆอย่างรวดเร็ว ข้าหวังว่าเคดิร่าจะทำให้พวกเขาเคลื่อนไหว" กริฟเฟียพูดด้วยเสียงต่ำ
"แจ้งอาจารย์ของพวกเจ้าเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในหุบเขา พวกเขาจะแบ่งปันข้อมูลกับพ่อมดคนอื่นๆ" เธอพูดต่อ
แองเจเล่และคนอื่นๆพยักหน้าตอบ เมื่อเขากำลังมุ่งหน้าไปชั้นเรียนของอาจารย์ลิเลียน่าเขาก็พบพ่อมดฝึกหัดที่ชื่อเยลซึ่งเป็นเรื่องบังเอิญที่แปลกเพราะเป็นนักเรียนของอาจารย์ลิเลียน่าเหมือนกัน มีทางแยกหลายทางระหว่างอุโมงค์ บางครั้งอาจจะมีห้องที่มีเก้าอี้อยู่ข้างในอุโมงค์ ผู้คนมักจะใช้เวลาพักห้องนี้และห้องนี้มันเชื่อมต่อกับอุโมงค์มากกว่าสองแห่ง แองเจเล่และเยลได้เข้าไปในห้องเหล่านี้และพวกเขาก็เห็นคนอื่นจากอีกฟากหนึ่ง
เป็นผู้ชายใส่ชุดคลุมสีขาวที่มีสีหน้าว่างเปล่า มีเกราะไหล่สีเงินอยู่ที่ไหล่ซ้ายและมันยังมีขนาดใหญ่ มีผ้าคลุมไหล่สีขาวปกคลุมหลังของเขา
"เป็นอาจารย์เออ!" เยลพูดอย่างมีความสุข
"เยลมันเป็นเจ้า ข้าคิดว่าเจ้ายังอยู่ในภารกิจของเคดิร่าไม่ใช่หรือ" เออถาม
"มีเรื่องเกิดขึ้น...." เยลเดินไปหาเอออย่างรวดเร็วและเขาก็บอกทุกสิ่งทุกอย่าง แองเจเล่ยืนฟังอยู่ข้างๆ อาจารย์เออ ซีซาร์เป็นหนึ่งในพ่อมดระดับสูงในโรงเรียนและมีชื่อว่า 'ผู้อ่านใจน้ำแข็ง' ขณะที่เยลรายงานสถานการณ์ความรู้สึกของเออก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดแล้วเข้าใจถึงความรุนแรงของสถานการณ์
"ผู้หญิงที่เจ้าพบมีแถบคาดศีรษะสีเงินและมีจิตวิญญาณสีเขียวอยู่บนไหล่ของเธอใช่ไหม" เออถามด้วยเสียงที่น่ากลัว
"ครับ จิตวิญญาณสีเขียวฆ่าพวกเราไปห้าคนภายในเสี้ยววินาที! ข้าไม่มีวันลืมเรื่องนี้!" เยลตอบ
"มันเป็นพันธมิตรแดนเหนือ" เออพูดอย่างกังวลใจ
"ตอนนี้พวกเจ้าทั้งสองคนไปรายงานสถานการณ์ให้อาจารย์ใหญ่ไคเลอร์ เขาควรจะอยู่แถวๆห้องซื้อขาย ข้าจะตรวจสอบว่าสัญญาณของเคดิร่ายังอยู่หรือไม่ ถ้าสัญญาณหายไปข้าเกรงว่า...." เออพูดด้วยความกังวลใจ
"ครับอาจารย์เออ" เยลและแองเจเล่โค้งก่อนที่พวกเขาจะเดินไปที่ประตู เออมองทั้งสองคนด้วยสีหน้าครุ่นคิด ตาของเขาเริ่มส่องแสงและทันใดนั้นเขาก็ยกมือขวาขึ้นมีลูกบอลที่แทบจะล่องหนอยู่ในฝ่ามือของเขา
"บัดซบ! เจ้ากล้าดูถูกข้า!" เออตะโกนเสียงดังสนั่น
"เจ้า..." เออตะโกนก่อนที่จะยื่นมือออกไปที่แองเจเล่ มือของเขาได้เปลี่ยนเป็นขนาดใหญ่และปิดกั้นแสงภายในห้องอย่างสมบูรณ์ ทั้งแองเจเล่และเยลได้หวาดกลัวกับฉากนี้ สิ่งที่แย่ที่สุดคือพวกเขาไม่รู้ว่าทำไมเออถึงพยายามทำร้ายพวกเขา คำพูดของเออที่พูดออกมามันไม่สมเหตุสมผลเกินไปแต่พวกเขาก็ไม่ได้ทำอะไรที่ไม่สุภาพกับเขา
"เออ พวกเขาเป็นนักเรียนของข้า!" มีเสียงสูงของผู้หญิงดังมาจากข้างหลังและหญิงชราคนหนึ่งก็โผล่พ้นจากเงามืด มันได้เกิดการปะทะกันระหว่างความมืดและน้ำแข็ง กรงเล็บหลายกรงเล็บที่เป็นเงากำลังบินไปทางเออในอากาศ แต่อากาศเย็นรอบๆเออได้ป้องกันกรงเล็บก่อนที่จะทำมันแตกเป็นชิ้นๆ
"ลิเลียน่า..." ปกติเออที่มีหน้าตาที่ไม่แยแสกำลังมองไปที่หญิงชราที่น่ากลัวด้วยความกลัวราวกับว่าเขาไม่ต้องการที่จะต่อสู้กับเธอ เขาลดมือลงและเปิดประตูไม้แล้วเขาก็จากไป