ตอนที่ 42: หญ้าวิญญาณมรณะ (1)
แองเจเล่นอนหลับไปจนถึง 10 โมงเช้า เมื่อคืนเขาอยู่ดึกเกินไปดังนั้นมันจึงใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมงในการตื่น แองเจเล่กินอาหารเช้าเสร็จอย่างรวดเร็ว เขาทักทายทหารยามที่ทางเข้าเมื่อเขาเขียนใบลา จากนั้นเขาก็จ้างคนขับรถม้าและเดินทางไปที่สุสานเนินหินแดง
มันเป็นเวลาบ่ายโมงเมื่อแองเจเล่มาถึงจุดหมายปลายทาง แสงแดดทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างดูราวกับว่ามันถูกย้อมไปด้วยสีแดงถึงแม้ว่าเมฆที่ผ่านตัวเขาจะเป็นสีทองก็ตาม เนินเขาอยู่นอกดินแดนของเมืองมารัว มีหลุมฝังศพจำนวนมากอยู่บนพื้นดินล้อมรอบด้วยต้นไม้ ถ้ามองไปที่เนินเขาจากที่ห่างไกลความสมบูรณ์ของสุสานจะเป็นทางลาดเอียงลงมา
ตอนนี้มีผู้คนอยู่มากมายที่มาที่นี่และหนึ่งในนั้นก็มีเด็กหนุ่มจากตระกูลขุนนาง เขามองผ่านหญ้ารอบๆสุสานแทนที่จะเป็นหลุมฝันศพ บางครั้งก็เดินจากหินก้อนหนึ่งไปยังอีกก้อนหนึ่งราวกับว่าเขาไม่ได้มาด้วยความโศกเศร้า คนที่ตามเขาไปรอบๆเป็นชายวัยกลางคนที่ดูเหมือนจะเป็นคนขับรถม้าของเขา
"นายท่านแองเจเล่มันค่อนข้างสายแล้ว เราควรจะกลับไปหรือไม่" คนขับรถม้าพูดเสียงเบา ประมาณสองชั่วโมงที่เขาตามแองเจเล่ไปรอบๆ แองเจเล่จ่ายเงินให้เขาสองเหรียญทองเท่ากับจำนวนเงินที่ได้รับจากการขนส่งคน 20 คน คนขับรถม้ารู้ว่าแองเจเล่จ่ายเงินให้เขาค่อนข้างดีแต่มันใช้เวลานานเกินไป
"เริ่มมืดแล้วหรือ" ในที่สุดแองเจเล่ก็สังเกตเห็นสถานการณ์ เขาขมวดคิ้วและมองไปที่รอบๆด้วยความรู้สึกผิดหวัง
"เอาล่ะ กลับกันเถอะ" แองเจเล่พูด พวกเขาเริ่มเดินกลับไปที่ทางเข้าของสุสาน
"เจ้ารู้หรือไม่ว่าจักรวรรดิรูดินเป็นอย่างไรบ้าง จักรวรรดิซาลาดินยังบุกอยู่ไหม" แองเจเล่สุ่มถามออกมาหลายคำถาม
"ในร้านเหล้าข้าพบคนหลายคนที่หลบหนีจากจักรวรรดิรูดิน พวกเขาพูดว่ามีเมืองเดียวที่เหลืออยู่ก็คือเมืองหลวง สถานที่อื่นๆถูกปราบโดยอาณาจักรรอบๆ ที่นี่ไม่มีซาลาดินอยู่มากนักดังนั้นข้าจึงไม่ค่อยแน่ใจกับเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ข้าเป็นแค่คนขับรถม้าระดับต่ำ ผู้คนเหมือนข้าไม่ชอบถามคำถามพวกนี้" คนขับรถม้าพูดก่อนที่จะหัวเราะ
"ใช่แต่ข้าคิดว่าคนรูดินหลายคนได้มาที่ท่าเรือ มีคนใหญ่โตที่เจ้าเคยได้ยินหรือไม่" แองเจเล่ถาม เขารู้ว่าคนขับรถม้าเป็นแหล่งข้อมูลที่ยอดเยี่ยมในขณะที่พวกเขาคอยดูแลและพูดคุยกับลูกค้าของพวกเขาเป็นจำนวนมาก คนขับรถม้าไม่ได้ตอบแต่มีรอยยิ้มบนใบหน้า แองเจเล่เอาเหรียญทองออกมาและโยนให้เขา
"ข้าอาจจะมีข้อมูลที่ท่านต้องการจริงๆ ข้าเคยได้ยินผู้โดยสารสองคนบอกว่ามีผู้คนจำนวนมากมาจากจักรวรรดิรูดิน ส่วนใหญ่เป็นตระกูลขุนนางขนาดเล็ก กลุ่มใหญ่ถูกขัดขวางโดยซาลาดินและสมาชิกรางวงศ์จะถูกโจมตีโดยกองกำลังของหลายๆอาณาจักร ข้าไม่สามารถแม้แต่จะจินตนาการได้...." คนขับรถม้าคว้าเหรียญและพูด
"งั้นหรือ" แองเจเล่พยักหน้า ดูเหมือนว่ามาร์ควิสไซเรียสจะตายแล้ว อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้เชื่อถือคนขับรถม้าอย่างสมบูรณ์เพราะแหล่งที่มามันไม่แน่นอน ถ้าเป็นเรื่องจริงเขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องฟิลิปอีกต่อไป
"เดี๋ยวก่อน เคยได้ยินเรื่องหญ้าวิญญาณมรณะหรือไม่" ทันใดนั้นแองเจเล่ก็ถามขณะที่เอาเหรียญทองออกมาหลายเหรียญ
"หญ้าวิญญาณมรณะ? ท่านสามารถอธิบายลักษณะของมันได้หรือไม่ ข้าอาจจะเคยเห็นมันที่ไหนสักแห่งมาก่อนแต่มีชื่อที่แตกต่างออกไป" คนขับรถม้ามองไปที่เหรียญด้วยท่าทางโลภที่แองเจเล่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
"มันดูคล้ายโครเวอร์แต่มันมีสีดำ" แองเจเล่ถาม
"โครเวอร์ที่เป็นสีดำ? ท่านหมายถึงโครเวอร์ดำ? มันเติบโตขึ้นที่สุสานเท่านั้น ท่านกำลังพูดถึงสิ่งนี้ใช่ไหม" คนขับรถม้าพูด
"ข้าขอโทษด้วยที่ทำให้ท่านผิดหวังแต่ข้าได้ยินมาว่ามีการขายให้ร้านขายยาเท่านั้น มันแพงมาก ข้าเกรงว่าท่านจะไม่พบอะไรสถานที่นี้เพราะคนอื่นจะไม่ทิ้งสิ่งที่มีคุณค่าเช่นนี้ไว้บนพื้นดิน" เขาพูดต่อ
"ร้านขายยา?" แองเจเล่พยักหน้า "ขับรถไปที่นั่น" แองเจเล่โยนเหรียญทองอีกสองเหรียญให้คนขับรถม้าที่คว้าไปอย่างมีความสุข
"ไม่มีปัญหา" คนขับรถม้าพูด
"ไปให้เร็วที่สุดเท่าที่เจ้าทำได้" แองเจเล่พูด
"เราจะไปถึงที่นั่นภายในครึ่งชั่วโมง!" คนขับรถม้าหัวเราะ
ประมาณ 20 นาทีให้หลังแองเจเล่ก็มาถึงร้านขายยาที่ท่าเรือ รอบๆสถานที่นี้เต็มไปด้วยเสียงจากรถม้าและผู้คนที่กำลังทำธุระของตัวเอง มีป้ายที่มีคำในภาษารูดินวางอยู่นอกร้านขายยาที่มีคำว่า 'ร้านขายยาแมสขนาดเล็ก' (ไม่รู้จะใช้คำไหนดีเลยทับไป) ที่มีสมุนไพรบางอย่างเขียนอยู่ด้านข้าง
ร้านขายยาตั้งอยู่ระหว่างร้านค้าอื่นๆอีกสองแห่ง ในชั้นแรกของอาคารมีสีขาวที่ตกแต่งอย่างเรียบง่าย มีคนหลายคนที่แต่งกายด้วยชุดแปลกๆเดินเข้าออกร้านขายยา พวกเขาทั้งหมดเป็นคนที่มีสถานะแตกต่างกัน ร้านขายยาดูเป็นที่นิยมในขณะที่ถูกแนะนำโดยคนขับรถม้าที่บอกว่าที่นี่ให้ราคาที่เป็นธรรม
แองเจเล่สวมชุดล่าสัตว์ขุนนางสีดำแดงซึ่งเขาอยู่ท่ามกลางผู้คนที่เหมือนคนแปลกแยก ผู้คนเหลือบมองมาที่เขาครู่หนึ่งก่อนที่จะเข้าไปในร้าน แองเจเล่ยืนอยู่ข้างนอกสักระยะหนึ่งก่อนที่จะเข้าไป เจ้าของได้มอบสมุนไพรให้กับทหารรับจ้างสองคนที่ดูเหมือนเป็นคู่รักกัน เจ้าของเป็นชายชราหน้าตาดีที่มีหนวดเคราสีขาวบนคาง แองเจเล่รู้ว่าชายชราคนนี้เป็นเภสัชกรที่มีประสบการณ์เพียงแค่เห็นครั้งแรก พนักงานหลายคนกำลังดูแลลูกค้าอยู่ข้างๆและหนึ่งในพวกเขาก็เดินมาหาแองเจเล่หลังจากที่เขาเข้ามาในร้าน
"ยินดีต้อนรับนายน้อย ท่านสบายดีหรือไม่ ท่านต้องการอะไร" ชายหนุ่มยิ้ม
"ข้าต้องการโครเวอร์ดำที่นี่มีหรือไม่" แองเจเล่ถาม
"โครเวอร์ดำ? ท่านต้องล้อเล่นแน่ๆ พวกมันหายากมากที่้ร้านขายยาขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองก็ไม่มีในคลังสินค้า" ชายหนุ่มตอบ
"จริงหรือ" แองเจเล่ถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
"ครับ โครเวอร์ดำหนึ่งต้นจะเสียค่าใช้จ่ายหลายพันเหรียญทอง มันไม่ใช่สิ่งที่ท่านสามารถเห็นได้ทุกวัน มีเพียงแต่การประมูลพวกมันและบางส่วนก็อยู่ในมือของนักสะสม สมุนไพรนี้ถูกจำกัดโดยพันธมิตรมากกว่า 10 ปี พลเมืองชั้นต่ำจะถูกแขวนคอสำหรับการซื้อมัน" ชายหนุ่มพยักหน้าขณะที่เขาพูดด้วยเสียงจริงจัง
"งั้นหรือ" แองเจเล่รู้สึกอึดอัด เขาอยู่เพียงขั้นที่ 1 แต่เขาก็มีปัญหาแล้ว เขาไม่รู้ว่าจะคาดหวังอะไรหลังจากนั้น เขาเกรงว่าจะทำไม่ได้แม้แต่การซื้อโครเวอร์ดำต้นเดียวที่มีราคาหลายพันเหรียญทอง ตอนที่แองเจเล่ออกมาจากร้านมันก็มืดแล้ว เขาบอกให้คนขับรถม้าไปที่บ้านของอาจารย์อดอล์ฟ
สิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้คือการขอความช่วยเหลือจากอาจารย์เพราะอดอล์ฟเป็นคนที่มอบหนังสือให้เขาเพราะฉะนั้นเขาต้องรู้เรื่องนี้ หญ้าวิญญาณมรณะหรือโครเวอร์ดำไม่ใช่สิ่งที่แองเจเล่สามารถหาได้ในปัจจุบัน เมื่อพิจารณาจากกระดิ่งที่ท่าเรือมันก็เป็นเวลาหนึ่งทุ่มเมื่อแองเจเล่มาถึงที่บ้านของอาจารย์ ไฟถนนที่อยู่ข้างถนนก็สว่างแล้ว
แองเจเล่ออกจากรถม้าและเห็นโซเฟียรดน้ำอยู่ที่สวน มีตะเกียงน้ำมันสี่อันที่ทางเข้าบ้าน การมองเห็นของคนปกติอยู่ในระดับต่ำแต่แองเจเล่สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆได้อย่างชัดเจน
"แองเจเล่วันนี้เจ้ามาสาย" โซเฟียดูแปลกใจเมื่อเธอเห็นแองเจเล่มาถึงแต่มันดูเหมือนว่าเธอคาดไว้แล้วว่าจะเป็นอย่างนี้
"ไปกันเถอะพ่ออยู่ในห้องทำงานที่ชั้นสอง" โซเฟียเปิดประตูทางเข้าให้แองเจเล่ขณะที่เธอพูด แองเจเล่พยักหน้าแล้วเดินตรงเข้าไปในบ้าน เขาไม่จำเป็นต้องให้โซเฟียนำทางเพราะเขาคุ้นเคยกับสถานที่นี้แล้ว
แองเจเล่เคาะเบาๆที่ประตู
"เข้ามามันไม่ได้ล็อค" อดอล์ฟพูดเสียงเข้ม แองเจเล่เปิดประตูอย่างระมัดระวังและเห็นอดอล์ฟกำลังนอนเอนกายลงบนเก้าอี้ที่ทำจากไม้ไผ่ เขาสวมเสื้อคลุมสีขาวและวางหนังสือไว้ที่ท้อง
"นั่งก่อนสิ" อดอล์ฟพูด แองเจเล่โค้งให้ก่อนที่จะนั่งโซฟาที่อยู่ด้านข้าง
"อาจารย์ดูเหมือนว่าท่านจะรู้อยู่แล้วว่าข้าจะมาขอความช่วยเหลือ" แองเจเล่ถาม
"เจ้าไม่ได้ทำให้ข้าผิดหวัง หนังสือเล่มนี้ทำให้เจ้ากลัวไหม" อดอล์ฟเปิดตาและยิ้มให้
"มันทำให้ข้ารู้สึกแย่มากๆ..." แองเจเล่หยุดไปชั่วครู่ก่อนที่จะหัวเราะ
"หมายความว่าเจ้ามีศักยภาพพอที่จะกลายเป็นพ่อมดถ้าเจ้าสามารถดูรูปแบบที่แท้จริงได้ ข้าให้เด็กนักเรียนยืมหนังสือนี้เป็นจำนวนมากแต่เจ้าเป็นคนเดียวที่ผ่านการท้าทาย เจ้าควรจะมาหาข้าถ้าเจ้ารู้ว่าเจ้ากำลังมองหาอะไร ผู้คนจะไม่อ่านหนังสือจบง่ายๆถ้าพวกเขาอ่านหนังสือชีวประวัติตามปกติ" อดอล์ฟหัวเราะขณะที่เขาพูด
"อาจารย์รู้ว่าข้าผ่าน?" แองเจเล่ยังคงสงสัย
"เจ้าเพิ่งไปที่สุสานเนินหินแดง ข้าพูดถูกใช่ไหม" อดอล์ฟหัวเราะ
"ข้าไม่ใช่แค่นักวิชาการในมารัว" เขาพูดต่อ
แองเจเล่รู้สึกผ่อนคลาย ดูเหมือนว่าอาจารย์ของเขาจะรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเขา
"อาจารย์ ได้โปรดบอกข้าว่าข้าสามารถหาหญ้าวิญญาณมรณะหรือโครเวอร์ดำได้อย่างไร ข้าได้ยินมาว่ามันหายากมากๆ" แองเจเล่พูด
"ข้าได้มาหนึ่งต้นเมื่อหลายปีก่อน เจ้าสามารถใช้มันได้" อดอล์ฟพูดขณะยิ้ม
"แล้วข้าจะต้องจ่ายเงินเท่าไหร่" แองเจเล่ถามอย่างใจเย็น แม้ว่าอดอล์ฟจะชอบเขามากมันก็ยังเป็นสิ่งที่มีค่ามาก แองเจเล่ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับมันฟรีๆ
"ข้าไม่ได้คาดหวังว่าจะให้เจ้าจ่ายอะไรให้ข้าในตอนนี้ แม้ว่าเหรียญทองหลายพันเหรียญจะไม่ใช่จำนวนน้อยๆแต่ข้าก็ยังสามารถจ่ายได้ เจ้ามีศักยภาพที่จะกลายเป็นหนึ่งในคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดดังนั้นข้าจะรอคอย" อดอล์ฟหยุดยิ้มขณะที่พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"แมร์รี่นำโซเฟียเข้ามาในห้องของข้า" อดอล์ฟตะโกนไปทางประตู ภายในไม่กี่นาทีโซเฟียก็เดินเข้ามาโดยไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เธอมองไปที่แองเจเล่และอดอล์ฟก่อนที่จะปิดประตูอย่างระมัดระวัง
"แองเจเล่ เจ้าคิดว่าเธอสวยไหม" อดอล์ฟถาม
โซเฟียมีใบหน้าที่น่ารักอายุประมาณ 20 ปี เธอสวมชุดสีแดงและผมหยิกสีน้ำตาลอ่อนปกคลุมทั่วไหล่ของเธอ แขน ลำคอและร่างกายที่มีสัดส่วนที่ดีของเธอทำให้มันดูน่าสนใจ แองเจเล่มองโซเฟียโดยไม่ได้พูดอะไร เมื่อแองเจเล่เห็นเธอครั้งแรกเขาก็รู้แล้วว่าเธอใจดีและฉลาด