ตอนที่ 31: โรคที่ตามมา (2)
สองเดือนต่อมา ที่ไหนสักแห่งในที่ราบแอนเซอร์ที่ไร้ที่สิ้นสุด
รถม้าสีดำที่มีสัญลักษณ์ 'นกอินทรีมีหนามรอบๆ' สลักทั้งสองด้านกำลังเคลื่อนที่อย่างช้าๆ ดวงอาทิตย์ที่อยู่สูงบนท้องฟ้ามันเป็นเวลาเที่ยงวัน เมฆได้บดบังท้องฟ้าและแม้กระทั่งบดบังแสงแดดที่ส่องลงพื้น ลมแรงๆพัดหญ้าที่อยู่แถวๆนี้ทั้งหมด
แองเจเล่นั่งอยู่รถม้าคันแรกกำลังมองไปนอกหน้าต่างราวกับว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เขาใช้พืชและแมลงที่เขาได้รวบรวมไว้เพื่อเพิ่มคุณสมบัติของเขาอย่างช้าๆ แต่โรคที่ตามมาจากอาการบาดเจ็บครั้งที่ผ่านมาทำให้เขาไม่สะดวก แม้ว่าร่างกายของเขาแข็งแรงขึ้นตามชิปแต่แขนขาของเขาก็ถูกแทงมาหลายครั้งระหว่างการต่อสู้ครั้งที่ผ่านมา หลังจาที่แพทย์ตรวจก็บอกว่าเขาเป็นโรคกระดูกพรุนและจะใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือนเพื่อให้เขาฟื้นตัว
แองเจเล่กำลังสวมชุดล่าสัตว์สีดำนั่งข้างหน้าต่างของรถม้า เขากำลังเรียนรู้ที่จะแยกแยะเสียงจากภายนอกและจับข้อมูลสำคัญจากเสียงผ่านความช่วยเหลือของชิป เขาได้เห็นการโจมตีของโจรหลายครั้งซึ่งช่วยให้กองคาราวานของพวกเขาได้เดินทางปลอดภัยขึ้น
พวกเขาพบกลุ่มโจรหลายกลุ่มทั้งเล็กและใหญ่แต่ส่วนใหญ่ถูกล้างบางโดยบารอน ได้หลีกเลี่ยงโจรกลุ่มที่ใหญ่โตเพราะคำเตือนจากแองเจเล่
การเผชิญหน้ากับโจรห้าหรือหกคนนั้นเลวร้ายมาก ในการเผชิญหน้าครั้งหนึ่งหนึ่งในพี่ชายของแองเจเล่ได้ถูกลูกธนูปักคอและตายทันที นี่เป็นประสบการณ์ที่แย่ที่สุดที่พวกเขาพบ ระหว่างการต่อสู้โจรได้ปล้นขบวนขุนนาง พวกเขามีนักธนูที่ขี่ม้าและพวกเขามีความว่องไวและเชี่ยวชาญในการปฏิบัติตามคำสั่งของผู้นำของพวกเขา แองเจเล่ยังได้ยิงลูกธนูไปด้วยตัวเองในขณะที่เขาได้เห็นอัศวินของขบวนขุนนางที่ได้ถูกสังหารในการโจมตีของลูกธนูนับไม่ถ้วน
อัศวินได้พยายามที่จะพุ่งไปข้างหน้าแต่พวกเขาหลายคนก็ตามจากฝนของลูกธนู ทหารยามหลายคนในขบวนขุนนางได้ระเบิดศักยภาพของพวกเขาในการแลกการโจมตีครั้งสุดท้าย พวกเขาประสบความสำเร็จในการไล่กลุ่มโจร กองคาราวานของแองเจเล่อาจถูกกวาดล้างออกไปจากโลกถ้าพวกเขาได้เป็นเป้าหมายของโจรเหล่านั้น
ระหว่างทางคาราวานของแองเจเล่ได้ผ่านสนามต่อสู้จำนวนมากที่เต็มไปด้วยศพ เขาสามารถจินตนาการได้ว่าการต่อสู้มันรุนแรงแค่ไหน บารอนยังเห็นซากศพของคนที่เขาเคยรู้จักที่เป็นแกรนด์อัศวินจากเมืองหลวง ผู้คนในกองคาราวานของพวกเขาหลายคนได้หวาดกลัวมากหลังจากที่ได้เห็นฉากที่น่ากลัวเหล่านี้ แต่หลังจากนั้นประมาณสิบวันพวกเขาก็ใจเย็นลง
ในที่สุดแองเจเล่ก็ได้พบสิ่งสำคัญว่าเขาได้แข็งแกร่งแค่ไหนในโลกนี้ ในการต่อสู้ที่ดีที่สุดที่เขามีเขาปะทะโจร 28 คนด้วยธนูและดาบด้วยตัวของเขาเอง มันเป็นผลงานที่น่าประทับใจแต่เขาก็ยังไม่สามารถจัดการกับนักธนูที่ขี่ม้าได้ เขาได้ฆ่าโจรไปประมาณ 15 คนในการต่อสู้ที่ยังมีนักธนูขี่ม้าในขบวนของพวกเขา เขาได้สร้างความเสียหายจนเขาโดนลูกธนูที่แขนขวา โจรขี่ม้านั้นเร็วและคล่องตัวมากในขณะที่พวกเขาได้หลบลูกธนูบนหลังม้ามันจึงทำให้แองเจเล่ใช้ลูกธนูทั้งหมดของเขา แองเจเล่ไม่สามารถฆ่าได้เป็นจำนวนมากได้โดยปราศจากความช่วยเหลือของชิป
พวกเขายังถูกโจมตีทหารที่ปลอมตัวเป็นโจร ผู้นำทหารเป็นอัศวินและเขาได้ยิงลูกธนูมาหลายชุดทำให้จัดการกับทหารยามแปดคนในคาราวานของบารอน อย่างไรก็ตามเขาได้ถูกสังหารด้วยการร่วมมือกันของบารอนและแองเจเล่
'อัศวินในโลกนี้เหมือนแม่ทัพในจีนสมัยโบราณ มีเพียงพวกเขาคนเดียวก็สามารถจัดการกับทหารธรรมดาได้เป็นร้อยคนถึงแม้ว่าพวกเขายังต้องการอุปกรณ์ที่ดีก็ตาม หากไม่เป็นเช่นนั้นพวกเขาจะอ่อนแอและไม่สามารถรับมือกับอาวุธระยะไกลเป็นจำนวนมากได้' แองเจเล่คิดว่าตอนนี้เขามีความคิดที่ดีกว่านักรบระดับอัศวิน
'โดยทั่วไปแล้วอัศวินเป็นคนที่แข็งแกร่งที่มีทักษะการต่อสู้ที่ดีกว่า ของข้ายังไม่ดีที่สุด' แองเจเล่สรุป เขาคิดว่าเขาไม่สามารถมีส่วนร่วมในสงครามที่แท้จริงได้
'ตรวจสอบสภาพร่างกายของข้า' แองเจเล่สั่ง
[กำลังตรวจสอบ......เสร็จสมบูรณ์ แองเจเล่ ริโอ:ความแข็งแกร่ง 2.7,ความว่องไว 3.0,ความอึด 1.2] ซีโร่รายงาน
'โรคบัดซบ.....ความสามารถของข้าได้มีเพียงครึ่งเดียว ข้ายังไม่ฟื้นฟูดี' แองเจเล่คิด
"มีบางคนได้ต่อสู้ข้างหน้า หยุดรถม้า!" หลังจากนั้นประครึ่งชั่วโมงแองเจเล่ก็ลุกขึ้นและตะโกน เขาตรวจพบสถานการณ์ข้างหน้าจากการได้ยินของเขา
"โจรขี่ม้า?" บารอนมองไปและถาม
"อาจจะเป็นเช่นนั้นแต่มันเป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ" แองเจเล่พยักหน้า
"ข้าจะไปดู" บารอนขมวดคิ้วและพูด เขาใส่ชุดเกราะโซ่สีเงินและคว้าดาบใหญ่สีดำ บารอนเปิดประตูและกระโดดออกจากรถม้าหลังจากที่มันช้าลง
"แองเจเล่ ขุนนางรูดินถูกล้อมรอบโดยพวกโจร ไปเส้นทางอื่น" หลังจากนั้นสักครู่บารอนก็ตะโกนออกมา แองเจเล่กำลังจะตอบแต่เขาก็ได้ยินอะไรบางอย่างอีกครั้งและสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
"ไม่ ช้าเกินไป บางส่วนได้มาหาเราแล้ว รถม้าของพวกเราช้ากว่าม้าของพวกเขา เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการต่อสู้!" แองเจเล่ตะโกนและใส่ชุดเกราะหนังอย่างรวดเร็ว เขายังหยิบธนูไว้ที่หลังและคว้าดาบกางเขนสีเงินก่อนที่จะกระโดดออกจากรถม้า
ข้างหน้าคาราวานของพวกเขาได้มีเสียงของการต่อสู้ของกลุ่มสองกลุ่มกำลังต่อสู้กันบนทุ่งหญ้าซึ่งเป็นเสียงที่แองเจเล่ได้ยิน
"ฮ่ะ!" กลุ่มโจรร้องออกมาและเดินทางมาหาพวกเขา พวกเขายกดาบสดใสขึ้นไปในอากาศ
"เตรียมพร้อมต่อสู้!" หัวหน้ามาร์คตะโกนขณะที่ดึงดาบออกมา หลังจากที่ได้เสียงดาบปะทะกันทหารยามทั้งหมดก็ได้ดึงดาบและเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ที่จะมาถึง แองเจเล่ได้ถือธนูยาวไว้ในมือแล้วมุ่งมั่นกับสถานการณ์ ปกติเขาจะใช้ลูกธนูขนนกสีขาวแต่ตอนนี้เขาใช้ลูกธนูไม้ที่หยิบออกมาจากสนามรบต่างๆ แม้ว่าลูกธนูไม้จะสร้างความเสียหายได้น้อยเขาก็ยังรวบรวมในปริมาณมาก ในสถานการณ์ปัจจุบันจำนวนสำคัญกว่าคุณภาพในเรื่องการปฏิบัติ แองเจเล่มีทักษะการยิงธนูที่ดีที่สุดในคาราวาน ดังนั้นทหารยามจึงส่งซองลูกธนูทั้งหมดมาให้เขา
แองเจเล่คว้าลูกธนูไม้และแนบไปกับธนูของเขา บารอนได้สวมชุดเกราะโซ่และยืนอยู่ข้างหน้าแองเจเล่ เขายืนป้องกันการโจมตีระยะไกลที่จะมาหาลูกชายของเขา
ฟึบ!
โจรขี่ม้าได้ถูกลูกธนูและตกลงจากม้าทันที ขณะที่แองเจเล่ยิงลูกธนูทีละลูกโจรประมาณสิบคนที่กำลังมาหาพวกเขาก็ตาย มีเพียงสองคนที่รอดชีวิตและพวกเขาก็เริ่มถอยกลับไป
บารอนมองไปที่ขบวนขุนนางที่เพิ่งถูกโจมตี เขาเห็นสัญลักษณ์กุหลาบสีเงินบนรถม้าของพวกเขา
"นั่นเป็นสัญลักษณ์สีเงินดังนั้นพวกเขาจะต้องเป็นขุนนางระดับสูงในจักรวรรดิรูดิน อย่างน้อยก็อยู่ในระดับดยุค สัญลักษณ์กุหลาบ....พวกเขาเป็นคนราชวงศ์ ดังนั้นพวกเราอาจจะได้รับความช่วยเหลือเมื่อพวกเราไปถึงมารัวถ้าพวกเราช่วยพวกเขาได้" บารอนพูด
"ช่วย? ช่วยอะไร มีขุนนางจำนวนมากเป็นคนราชวงศ์ในอาณาจักรนี้ ข้าเคยได้ยินว่าราชวงศ์แบ่งออกเป็นสี่กลุ่มหลักๆและมีกลุ่มย่อยอีกประมาณสิบกลุ่มที่ปกครองโดยฝ่ายหลักแต่ละฝ่าย ใครจะรู้ว่าพวกเขาเป็นใคร" แองเจเล่พูดแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้ประทับใจ
"แต่พวกเราควรจะรับโอกาสนี้ อย่างน้อยพวกเขาก็ยังมีสัญลักษณ์สีเงิน" บารอนพูด
"สมาชิกของราชวงศ์รูดินมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพันธมิตรแอนดีส คนเหล่านี้มีแนวโน้มว่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดีเนื่องจากขุนนางชั้นสูงรูดินหลายคนได้มีความสัมพันธ์กับขุนนางแอนดีสผ่านการแต่งงาน"
"นอกจากนี้ยังมีโจรขี่ม้ามากเกินไปและมันดูเหมือนพวกเขาจะเป็นแนวหน้าของกลุ่มใหญ่โต" บารอนพูดต่อ
"ถ้าพ่อพูดอย่างนั้นเราก็จะไปช่วยพวกเขา พวกเราสามารถใช้อุปกรณ์ของพวกเขา" แองเจเล่ขมวดคิ้วและพูด
รถม้าได้เข้าไปใกล้ทำให้แองเจเล่สามารถเห็นได้ชัดเจนเกี่ยวกับขุนนางที่ถูกโจมตี ข้างรถม้าสีดำขนาดเล็กมีอัศวินเกราะหนักสองคนกำลังเหวี่ยงดาบหนักเพื่อพยายามปกป้องชายหนุ่มที่มีหน้าตาหล่อเหลาที่อยู่ข้างหลังเขา ทั้งสองคนสวมชุดเกราะสีเงินทั้งชุดและอยู่ในระดับอัศวิน ทักษะดาบของพวกเขาดูดีแต่มันก็ไม่มีผลในการต่อสู้จริง ทั้งสองคนมีเหงื่อออกมามากและดูเหมือนจะไม่สามารถยืดเยื้อได้อีกต่อไป ชายหนุ่มที่ถูกปกป้องมีสีหน้าหวาดกลัว เขาสวมเสื้อผ้าหรูหราดูราวกับว่าเขาเป็นเด็กจากตระกูลขุนนางชั้นสูง
โจรขี่ม้าประมาณยี่สิบคนกำลังโจมตีในขบวน มีโจร 7-8 คนนอนตายอยู่บนพื้นที่อาจจะถูกฆ่าโดยอัศวินทั้งสองคน แองเจเล่ขมวดคิ้วอีกครั้งและคว้าไปที่ลูกธนูไม้ มีโจรสามคนข้างหน้าถูกปักทีละคนๆ หัวหน้ามาร์ครีบวิ่งไปพร้อมกับบารอนที่ร้องออกมา พวกเขาฆ่าไปห้าคนอย่างง่ายดาย
ความโกลาหลได้เกิดขึ้น โจรไม่ได้คาดหวังถึงสถานการณ์เช่นนี้ หนึ่งในผู้นำระดับอัศวินจากกลุ่มโจรโจมตีบารอนแต่ก็ถูกป้องกันโดยเขาแทน แองเจเล่ใช้โอกาสนี้ยิงลูกธนูไปที่ผู้นำโจรตรงอกขวา ส่งผลให้ผู้ชายคนนั้นหันกลับไปและพยายามจะวิ่งหนี
บารอนตะโกนและโจมตีด้วยดาบใหญ่ของเขา ศีรษะของหัวหน้าโจรได้ถูกฟันและตกลงบนพื้นหญ้า โจรส่วนที่เหลือได้เห็นฉากนี้และพวกเขาเริ่มถอยกลับไป