ตอนที่ 25: ระหว่างทาง (2)
"นั่นคือโล่ไม้หนาที่เสริมด้วยเหล็กดำ ข้าไม่สามารถพังมันได้แม้ว่าข้าจะไม่ได้รับบาดเจ็บ...." บารอนพูดเสียงเคร่งเครียด
"เราควรทำอะไร" แองเจเล่กังวลใจ แม้ว่าเขาจะอยู่ระดับอัศวินขั้นสูงเขาก็ไม่สามารถทำลายโล่แบบนั้นได้ ในขณะนั้นเขาก็เห็นภาพในจินตนาการที่กำลังจะเกิด
"นกฮูกและขวานมันเป็นตราของไวเคานต์แคนเดีย" บารอนพูด
"ไม่มีใครที่นี่ที่สามารถทำลายโล่แบบนั้นได้ ดังนั้นมันอาจจะเป็นคนที่มาจากจักรวรรดิซาลาดิน แองเจเล่ตามข้ามา" บารอนพูดเสียงเข้ม
แองเจเล่พยักหน้า มีเพียงเขาและบารอนเท่านั้นที่อยู่ระดับอัศวินในกองคาราวาน แม้ว่าแองเจเล่จะมีอายุ 14 ปีแต่ในสถานการณ์แบบนี้อายุมันเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญ พวกเขาสั่งยามให้เฝ้าระวังอย่างรอบคอบและเดินไปทางโล่ไม้อย่างระมัดระวัง
พวกเขาเห็นซากศพสวมชุดเกราะสีดำ ตราบนเกราะสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
"มันเป็นรูห์ร....." บารอนพูด รูห์รเป็นอัศวินที่แข็งแกร่งที่สุดของไวเคานต์แคนเดีย ศพของชายคนนั้นหันมาทางบารอน แมลงวันบินอยู่รอบตัวเขาเต็มไปหมดและมีกลิ่นเหม็นเน่าเปื่อยออกมาจากศพ ศพได้ซีดแล้วเมื่อดูจากสภาพ ศีรษะของเขาเป็นรูรอยแผลประมาณหนึ่งนิ้ว
แองเจเล่รู้สึกคลื่นไส้เล็กน้อยขณะที่มองไปซากศพ ชายคนนั้นมีรูปร่างใหญ่โต เขาเป็นคนอ้วนเล็กน้อยแต่เตี้ยกว่าอัศวินอูดิส ศีรษะของเขาได้บาดเจ็บลึกมากดังนั้นแองเจเล่จึงมองเห็นเศษสมองได้เล็กน้อยที่มันออกมา หญ้ารอบศพย้อมด้วยสีแดงและมีแมลงหลายตัวบินอยู่รอบๆ
"เขาไม่ได้ถูกลอบสังหาร" บารอนพูดขณะที่เขาตรวจซากศพ เขาดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบกับกลิ่นเหม็น
"ดูเหมือนฝ่ายตรงข้ามจะโจมตีรูห์รเพียงแค่สองที มีเพียงแกรนด์อัศวินเท่านั้นที่สามารถทำเรื่องแบบนี้ได้" บารอนพูดหลังจากที่ตรวจสอบไปสักพัก
"แกรนด์อัศวิน?" แองเจเล่ไม่เคยได้ยินมาก่อน
"ท่านพ่ออัศวินแบบไหนที่เป็นแกรนด์อัศวิน" เขาถาม
"แกรนด์อัศวินสามารถฆ่าข้าได้โดยไม่ต้องบาดเจ็บ" บารอนพูด
"ครั้งสุดท้ายที่ข้าเห็นก็คือระหว่างสงครามออชิด ครั้งนี้จักรวรรดิซาลาดินได้จริงจังอย่างมาก พวกเขาได้ส่งแกรนด์อัศวินนำการโจมตี...." บารอนพูดด้วยความกังวลใจ
"เราควรทำอย่างไร-" คำพูดของแองเจเล่ถูกหยุดโดยบารอน บารอนได้เดินตามเลือดไปและตรวจสอบมัน หลังจากนั้นประมาณ 5 นาทีเขาก็บอกให้แองเจเล่ช้าลงขณะที่เขาซ่อนตัวอยู่ที่พุ่มไม้แองเจเล่ก็ซ่อนอยู่เช่นกัน พวกเขาตระหนักได้ว่ามีบางสิ่งที่ผิดปกติอยู่ด้านหน้าพวกเขา
มันฟังดูราวกับคนกำลังต่อสู้กันในบริเวณใกล้ๆทั้งสองคน แองเจเล่เดินออกจากพุ่มไม้พร้อมกับบารอนขณะที่กำลังเดินขึ้นเนิน ร่างกายของพวกเขาเริ่มลดต่ำลงและเพ่งดูพื้นที่โล่งใต้เนินเขา
มีการต่อสู้เกิดขึ้นที่นั่น มีชายผมยาวสวมชุดเกราะหนังสีน้ำตาลถูกล้อมรอบไปด้วยกองกำลังขนาดเล็กอยู่ตรงกลางพื้นที่ มีนักดาบประมาณสิบคนอยู่กับเขาแต่พวกเขาทั้งหมดได้รับบาดเจ็บ พวกเขาทั้งหมดมีผ้าลายสีเขียวผูกรอบแขน ในทางตรงกันข้ามมีทหารล้อมรอบพวกเขาทุกคนสวมชุดเกราะเหล็กสีดำและจำนวนพวกเขามีประมาณหลายร้อยคน อัศวินสองคนสวมชุดเกราะสีขาวยืนอยู่หน้าแถวกำลังมองไปที่ชายผมยาว มีหลายคนถูกฆ่ามันจึงทำให้มีร่างที่ไร้ชีวิตอยู่รอบๆพื้น มันดูเหมือนว่าการต่อสู้ครั้งนี้ได้นานขึ้นเรื่อยๆ
"มันเป็นกองทัพดำของรูดินในขณะที่คนที่อยู่ตรงกลางมาจากซาลาดิน" บารอนอธิบายเสียงต่ำ
"ยอมจำนนซะมาร์ติน ฟรานซิส เจ้าไม่จำเป็นต้องทิ้งชีวิตในฐานะแกรนด์อัศวินที่นี่ มันน่าเสียดาย" หนึ่งในอัศวินชุดเกราะสีขาวพูดอย่างใจเย็นราวกับว่าเขามั่นใจมาก
"เจ้าคิดว่ามันเป็นไปได้หรือ" ชายผมยาวหัวเราะ เขามีสำเนียงแปลกๆและเสียงมันฟังเหมือนเขากำลังร้องเพลง
"ข้าเป็นเพียงหัวหน้าทัพหน้าที่สามจากจักรวรรดิซาลาดินแล้วจะมีเข้ามามากขึ้น พวกเจ้าจบแล้วโจนส์ ลองคิดเข้าร่วมกับพวกเราเป็นอย่างไร ท่านอังเดรจะปฏิบัติต่อพวกเจ้าอย่างดี" ชายผมยาวหัวเราะและพูด
ด้วยเหตุผลบางอย่างอัศวินชื่อโจนส์ไม่ได้สั่งคนของเขาโจมตีและแลกเปลี่ยนคำพูดกับชายที่ชื่อมาร์ตินเท่านั้น แองเจเล่และบารอนฟังการสนทนาของพวกเขาสักพักและจากนั้นก็ตัดสินใจที่จะกลับไปก่อน
"พวกเขามีพลธนูหลายคนอยู่ที่นั่นและแกรนด์อัศวินไม่สามารถจัดการกับพวกเขาได้" บารอนพูด
"พลธนู? พ่อหมายถึงคนที่อยู่นอกวงกลมใช่ไหม" แองเจเล่ถาม
"ใช่ ข้าเป็นผู้นำในหมู่กลุ่มทหารรักษาความปลอดภัยในช่วงสงคราม ข้าเคยเห็นแกรนด์อัศวินที่ถูกสังหารโดยกลุ่มพลธนู มันใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีก่อนที่พวกเขาจะล้มลง กลุ่มพลธนูทั้งกลุ่มมันมีแรงกดดันสูง กลับไปเลือกเส้นทางอีกทางเนื่องจากพวกเราไม่มีเวลามากนัก แม้ว่ากองทัพดำมาจากประเทศของพวกเราแต่พวกเขาก็อาจจะโจมตีพวกเรา" บารอนพูด
แองเจเล่พยักหน้าแต่ไม่ได้พูดอะไร
"ครั้งนี้จักรวรรดิซาลาดินได้จริงจังอย่างมาก จักรวรรดิรูดินและจักรวรรดิซาลาดินมีช่องว่างระหว่างชายแดนหลายพันกิโลเมตร พวกเขาต้องมีแกรนด์อัศวินมากกว่าสามคนที่เป็นทัพหน้าและมีอัศวินจำนวนนับไม่ถ้วนที่ตามมา ถ้าอัศวินที่อยู่ในป่าอยู่ที่นี่จักรวรรดิรูดินก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก...." บารอนยังคงพูดต่อไป เขาดูเศร้าหมองและในเวลาเดียวกันก็ดูไม่สบายใจ
แองเจเล่สามารถเข้าใจได้ว่าทำไมบารอนถึงเป็นกังวล อัศวินหายากมากๆในดินแดนขุนนางเล็กๆ แต่มีอัศวินจำนวนนับไม่ถ้วนทั่วประเทศ อัศวินเป็นกลุ่มชนชั้นสูงของกองทัพและอาจจะมีพวกเขาหลายพันคน จักรวรรดิรูดินยังไม่ฟื้นตัวจากสงครามดังนั้นจึงไม่สามารถรับมือกับการรุกรานของซาลาดินในครั้งนี้ได้
ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงพลธนูยิงลูกธนูจากด้านหลังและมีเสียงร้องของแกรนด์อัศวิน แองเจเล่ถามชิปเพื่อวิเคราะห์ความสามารถของแกรนด์อัศวินในทันที
[การวิเคราะห์คร่าวๆของแกรนด์อัศวิน:8ความแข็งแกร่งประมาณ 7-9,ความว่องไว 6-7,ความอึด 5-8 ซึ่งอาจจะเพิ่มมากขึ้นในช่วงที่ปลดปล่อยศักยภาพออกมา] ซีโร่รายงาน ข้อมูลเป็นพื้นฐานของการต่อสู้
'เป็นไปได้อย่างไร...' แม้ว่าแองเจเล่จะรู้ว่าตัวเลขมันสูงแต่เขาไม่ได้คิดว่ามันจะสูงแบบนี้ เขากัดริมฝีปากด้วยความกังวล ผู้ชายคนนั้นอาจจะแข็งแกร่งกว่าหมีภูเขาบ้าเพราะเขาเป็นนักรบที่ได้รับการฝึกและเขามีทักษะการต่อสู้ที่หมีไม่มี
'ซีโร่แสดงตัวเลขของข้า' เขาพูด
[แองเจเล่ ริโอได้รับบาดเจ็บ:ความแข็งแกร่งประมาณ 2.1-2.6,ความว่องไว 2.7,ความอึด 1.8 ตามปกติมันควรจะเป็นสองเท่า] ซีโร่รายงาน
แองเจเล่ตกใจอีกครั้ง เขารู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ฆ่าอัศวินและความจริงที่ว่าเขาไม่เคยรู้สึกสิ้นหวังมาก่อน อย่างไรก็ตาม มันมีความแตกต่างระหว่างเขาและแกรนด์อัศวิน เขาจะถูกฆ่าได้อย่างง่ายดายเพียงพวกเขาใช้กำลังและความเร็วล้วนๆ เขาจะไม่มีวันจบดีกว่ารูห์รถ้าเขาเข้าร่วมในการต่อสู้
"ข้ายังคงอ่อนแอมาก....แกรนด์อัศวินเป็นผู้นำทหารทั้งหมดและเขาไม่ได้มีเพียงคนเดียว" แองเจเล่พูด เขารู้สึกว่าสถานการณ์มันเลวร้ายจริงๆ
"มันไม่เป็นไรแองเจเล่ ร่างกายของเจ้ายังมีขีดจำกัดบางอย่างเนื่องจากหลายๆสาเหตุ แต่ถ้าเจ้ามุ่งมั่นไปกับการพัฒนาทักษะดาบและทักษะการยิงธนูเจ้าก็ยังสามารถแข็งแกร่งได้ อย่างไรก็ตามแกรนด์อัศวินน่ากังวลอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาทุกคนมีเบื้องหลังที่แข็งแกร่งมากๆสนับสนุนพวกเขา" บารอนเห็นการแสดงออกของแองเจเล่และพูด เขาไม่รู้ว่าแองเจเล่เพิ่มความสามารถในช่วงเวลาสั้นๆได้อย่างไร แม้ว่าเขาพยายามให้แองเจเล่มีเมล็ดพันธุ์พลังชีวิตแต่ลูกชายของเขาก็ไม่มีศักยภาพพอที่จะรับมัน
หากปราศจากเมล็ดพันธุ์ผู้คนก็ไม่สามารถกลายเป็นแกรนด์อัศวิน มนุษย์มีขีดจำกัดในการพัฒนาร่างกายและความสามารถของพวกเขาก็จะถึงขีดจำกัด พวกเขาต้องการเมล็ดพันธุ์เพื่อทำลายขีดจำกัดและต่อสู้ แองเจเล่อ่านเรื่องนี้ในห้องสมุดพิเศษ
"แด่ซาลาดิน!" มีเสียงดังมาก
แองเจเล่และบารอนตกใจด้วยเสียงนั้นและหันกลับไปที่สนามรบ พวกเขารู้ว่านี่เป็นคำพูดสุดท้ายของแกรนด์อัศวิน จักรวรรดิซาลาดินเพิ่งเสียหนึ่งในนักรบที่ยิ่งใหญ่
"ถ้าข้าไม่ได้รับบาดเจ็บข้าก็อาจจะกลายเป็นแกรนด์อัศวินในสิบปี แต่..." บารอนพูด เสียงของเขาดูสิ้นหวัง อย่างไรก็ตามอาการบาดเจ็บของเขารุนแรงจนไม่สามารถฟื้นสภาพเดิมได้
"ตอนนี้ความหวังของข้าอยู่กับเจ้า ลูกชาย...." บารอนจ้องที่ลูกชายของเขา แองเจเล่รู้ว่าพ่อของเขากำลังมองอยู่แต่เขาไม่ได้หยุดฝีเท้าของเขา เขาเดินไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
'ซีโร่ ข้าได้รับความว่องไวจากพลังงานของมรกตเท่าไหร่' แองเจเล่ถาม
[ประมาณ 2.1 และความอึด 0.3 มันจะใช้เวลา 11 วัน พลังงานที่เหลือยู่ประมาณ 1/12] ซีโร่ตอบ
'พลังงานที่เหลืออยู่? หมายความว่าอะไร' แองเจเล่ประหลาดใจ
[การพัฒนาร่างกายได้มาถึงขีดจำกัด ขีดจำกัดถูกกำหนดโดยยีนของคุณ มีเพียงพลังงานพิเศษเท่านั้นที่ยังได้อยู่] ซีโร่รายงาน
'เจ้าหมายความว่าข้าไม่สามารถเป็นแกรนด์อัศวินได้หรือ' แองเจเล่ถาม
[ความเป็นไปได้ 94.53% ที่คุณไม่สามารถกลายเป็นแกรนด์อัศวิน] ซีโร่รายงาน
ทันใดนั้นแองเจเล่ก็จับดาบแน่นและหยุดเดิน เขาจ้องไปที่ท้องฟ้าแต่สายตาของเขาถูกบังด้วยใบไม้และแสงแดด แดดแรงมากและแองเจเล่สามารถรู้สึกได้ด้วยมือของเขา อย่างไรก็ตามเขาก็รู้สึกอ้างว่างจากความสิ้นหวัง
"แองเจเล่เกิดอะไรขึ้น" บารอนถามจากเบื้องหลัง
"ไม่มีอะไรครับ รีบกลับไปแล้วเริ่มเดินทางต่อเถอะท่านพ่อ" แองเจเล่ตอบ
"กลับกันเถอะ" บารอนพูด
ทันใดนั้นแองเจเล่ก็นึกถึงแหวน แหวนลึกลับที่มีการแกะสลักที่พิเศษ