ตอนที่ 145 มังกรสมุทร อควาโล่ 1
มังกรสมุทร อควาโล่...
ในยุคนี้ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ชื่อของมัน อย่างไรก็ตาม เหล่ากะลาสีเรือผู้ที่อาศัยบนท้องทะเลต่างเคยหวาดกลัวชื่อนี้ พวกเขาไม่กล้าที่จะแม้กระทั่งเอ่ยขาน
งูทะเลยักษ์ คือสัตว์ประหลาดที่สามารถสร้างคลื่นขนาดใหญ่ยักษ์ด้วยหางของมันและอีกหนึ่งตนผู้ก่อให้เกิดพายุ.....บางคนเรียกขานว่ามันเป็น1ใน2ภัยพิบัติของทะเลควบคู่ไปกับคราเคน แต่สายพันธ์ชองพวกมันกลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
“มังกรฟ้า?!”
“ใช่”
แรนดอล์ฟร้องเสียงหลงหลังจากได้ยินเรื่องนี้และธีโอดอร์ได้ตอบกลับอย่างสงบ
ตั้งแต่แรกเริ่ม ‘งูทะเลยักษ์’เป็นเพียงการเรียกขานเท่านั้น ในความคิดของคนธรรมดา มังกรเป็นสัตว์ประหลาดที่จะโบยบินอยู่บนฟ้าด้วยปีกทั้งสองข้าง ไม่ใช่ว่ายอยู่ในทะเลและมีร่างกายเฉกเช่นงู
อย่างไรก็ตาม มังกรไม่ใช่สายพันธุ์ที่จะระบุได้ด้วยปีก ดังนั้นผู้ที่เรียกมันว่างูจึงไม่มีอะไรมากไปกว่าพวกโง่เขลา เหล่ามังกรถือเป็นสายพันธ์ที่ทรงอำนาจมากที่สุดในโลกวัตถุและเป็นผู้ปกครองที่อยู่เหนือกฏแห่งธรรมชาติ!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมังกรสมุทร อควาโล่ มันเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเชื้อสายมังกรฟ้า ผู้ปกครองท้องทะเลตั้งแต่สมัยโบราณกาล
ตามบันทึกทางโบราณ มันเป็นมังกรที่มีชีวิตอยู่มาอย่างน้อยพันปี ครั้งสุดท้ายที่มันปรากฏตัวขึ้น คือเมื่อ150ปีก่อน มันได้ตื่นขึ้นมาจากการหลับใหลและกวาดกองทัพเรือแห่งราชอาณาจักรโซลดุนให้จมอยู่ใต้ทะเล
‘ฉันเคยอ่านชื่อนี้ในห้องสมุดอยู่หลายครั้ง แต่มันไม่เคยเป็นเรื่องที่ดีเลย’
ย้อนกลับไปเมื่อธีโอดอร์เอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องสมุดแห่งสถาบันเบอร์เก้น เขาได้อ่านหนังสือหลายพันเล่ม ไม่ว่าจะประเภทใดก็ตาม
ในบรรดาหนังสือเหล่านั้น มีหนังสือที่เล่าเกี่ยวกับตำนานและนิทานพื้นฐานของทวีปแห่งนี้ ชื่อของอควาโล่ปรากฏเพียงไม่กี่ครั้ง แต่เขาไม่เคยลืมมัน นิ้วมือของเขาจะขาดหากเขาต้องการนับการกระทำของมันทั้งหมดในความทรงจำของเขา
กวาดล้างเมืองท่าเพราะส่งเครื่องบรรณาการให้มันช้าไปเพียง2วัน.....
ฆ่านักกวีเพราะเนื้อหาของเขาไม่เป็นที่พอใจ....
จมเรือประมงเนื่องจากจำนวนของปลาลดลง....
นอกจากนี้ จำนวนเรือที่จมลงและผู้คนที่ถูกมันฆ่านั้นมหาศาลเทียบเท่าดวงดาว
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการปกครองแบบเผด็จการ แต่อควาโล่ไม่มีใครสามารถฆ่าอวาโล่ได้ ล้อมรอบด้วยทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาลซึ่งกว้างขวางกว่าบนแผ่นดิน พลังอำนาจของอควาโล่นั้นทรงพลังจนไม่สามารถตีค่าออกมาได้ในท้องทะเล
“…กล่าวอีกนัยหนึ่ง เราต้องไม่ไปข้องเกี่ยวกับมันเด็ดขาด”
“ใช่ ฉันก็คิดเช่นนั้น”
ความคิดเห็นของคนสองคน ผู้ที่จะได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในคนที่แข็งแกร่งที่สุดบนพื้นทวีปหากเปิดเผยออกไปกลับกล่าวว่าไม่ควรไปตอแยมัน เมื่อพิจารณาถึงอำนาจของมังกรโตเต็มวัยเช่นนี้แล้ว อาจกล่าวได้ว่ามีเพียงบุคคลระดับสูงสุด2คนเท่านั้นจึงเทียบเท่ามัน และหากจะฆ่ามันต้องใช้3คน
แม้กระทั่งเวโรนิก้ายังบ่นออกมาว่าเธอไม่มั่นใจเลยหากต่อสู้ตัวต่อตัวกับมังกรแล้วจะชนะ ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้สำหรับจอมเวทย์ขั้น6และครึ่งก้าวสู่ปรมาจารย์ดาบ
หลังจากที่ตัดสินเกี่ยวกับการรุกรานเรียบร้อย แรนดอล์ฟก็ได้เปิดปากขึ้น“อืม ดังนั้นพวกเราควรจะอยู่อย่างสงบในในที่แห่งนี้?”
“ใช่ เราไม่สามารถมีส่วนร่วมในสถานการณ์ใดๆได้”
ธีโอดอร์ตรวจสอบความรู้ที่เขาพึ่งจะดูดซับมาจากซาโตเมอร์เพื่อยืนยันแนวคิด อาณาเขต ซึ่งยังไม่คุ้นเคยสำหรับเขา ตามความรู้ของซาโตเมอร์ อาณาเขตของมังกรยังสามารถเรียกได้ว่าถ้ำของพวกมัน สถานที่ที่พวกมันชอบเก็บรวบรวมสมบัติเอาไว้
บางทีหมอกที่อยู่รอบเกาะอาจจะเป็นระบบเตือนภัยชนิดหนึ่ง
หมอกคืออาณาเขตของอควาโล่ และมันจะคอยควบคุมคนที่จะเข้ามาในถิ่นของมัน ไม่มีใครามารถเข้าออกได้โดยที่อควาโล่ไม่รู้
มีแนวโน้มสูงที่จะเกิดความวุ่นวายหากพวกเขาขโมยเรือและพยายามหลบหนี ดังนั้นทางเลือกที่ปลอดภัยและฉลาดที่สุดคือรอวันที่เรือโดยสารกลับมาและพวกเขาจะออกเดินทางไปยังราชอาณาจักรโซลดุน
ใช่ ข้อสรุปของธีโอดอร์นั้นสมเหตุสมผล
อย่างไรก็ตาม เขามองข้ามสิ่งหนึ่งไป มันเป็นข้อผิดพลาดที่เขาได้สร้างขึ้นเพราะเขาไม่เข้าใจความรู้ของซาโตเมอร์อย่างเต็มที่
ซาโตเมอร์ ได้บอกธีโอดอร์ในโลกแห่งจิตว่า หมู่เกาะโจรสลัดเป็นอาณาเขตของอควาโล่ ดังนั้นตั้งแต่แรกเริ่ม การดำรงอยู่ของทั้งสองคนจึงถูกจับตาโดยมังกรผู้ฉาวโฉ่แล้ว
[….อืม]
ธีโอจะนึกได้หรือไม่? ไม่นานนัก ความหนาวเย็นก็แล่นลงกระดูกสันหลังเขา
***
ห้าวันต่อจากนั้น
แม้จะเต็มไปด้วยความตึงเครียดในค่ำคืนแรก แต่พวกเขาทั้งสองคนก็หมกตัวอยู่ในโรงแรมโดยไม่มีปัญหาใดๆ เรือโดยสารจะกลับมาในสิบวัน ดังนั้นเวลาจึงผ่านไปครึ่งหนึ่งแล้ว บางทีความคิดซ่อนตัวของพวกเขาอาจจะเป็นไปได้ก็ได้
แรนดอล์ฟและธีโอดอร์เริ่มที่จะฝึกซ้อมในแบบฉบับของพวกเขาในขณะที่เพลิดเพลินไปกับวันอันสงบสุขของพวกเขา แรนดอล์ฟกำลังเหวี่ยงดาบไปมา ธีโอดอร์กำลังอ่านหนังสือบนเก้าอี้
ปึก
ธีโอดอร์ผู้ที่อ่านหนังสือจนจบได้ปิดหนังสือลง
“กินซะ ความตะกละ”
จากนั้นเขาก็โยนหนังสือที่เขาอ่านไปในอากาศ พร้อมๆกับที่ลิ้นยื่นออกมาและกลืนหนังสือไป
[‘สายฟ้าจากท้องฟ้าที่แห้งแล้ง’ได้ถูกกินแล้ว ความเข้าใจของคุณสูงมาก]
[คุณได้รับเวทย์ขั้น6 ‘Thunderbolt’]
[ด้วยการได้รับเวทย์สายฟ้าขั้นสูง ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเวทย์สายฟ้าของคุณได้เพิ่มขึ้น]
ขณะที่คลื่นแห่งความรู้ได้ไหลเข้ามาอย่างปกติ ธีโอดอร์ก็ได้หลับตาลงและเพ่งสมาธิ
การมีความสามารถในการแสวงหาความรู้และความชำนาญของความตะกละเป็นเรื่องที่โกงอย่างมาก แต่ประสิทธิภาพจะต่ำหากธีโอดอร์ไม่มีแรงบันดาลใจที่จะเรียนรู้ อย่างไรก็ตาม ธีโอดอร์นั้นเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสืออยู่แล้ว เขาจึงดึงพลังของมันได้อย่างเต็มที่
จากนั้นธีโอดอร์เปิดตาขึ้นด้วยรอยยิ้มจางๆ
‘เอาละ หนังสือครึ่งหนึ่งที่ฉันนำมาได้ถูกย่อยเรียบร้อยแล้ว’
เขาได้นำหนังสือเวทย์ขั้น6มาเป็นจำนวนมากตอนที่ออกจากเมลเทอร์ ในขณะเดียวกัน การพัฒนาของเขากลับช้าอย่างยิ่งเพราะเขาไม่ได้อ่านหนังสือเลย แต่ทว่า การอ่านหนังสือของเขาในช่วงห้าวันนี้สามารถเทียบได้กับการอ่านหนังสือเป็นเดือน
หนังสือเวทมนต์บางเล่มอาจจะต้องใช้เวลามากขึ้นเพราะพวกมันเข้าใจได้ยาก แต่เขามั่นใจว่าเขาสามารที่จะเรียนรู้พวกมันทั้งหมดได้หากใช้เวลาสามเดือน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการแก้ไขแก่นพลังของเขา ซึ่งมีกำหนดเวลาเอาไว้
“….ฉันควรจะใช้มันในขณะที่ฉันอยู่บนเกาะนี้?”
สร้อยคอของชาล็อต เป็นสิ่งประดิษฐ์ระดับ สมบัติ ซึ่งจะทำให้วิญญาณทั้งหมดกลายเป็นวิญญาณชั่วร้ายที่ทรงพลัง ธีโอได้รับมันหลังจากที่เขาชนะการต่อสู้ตัวต่อตัวกับไอแซค แต่เขาไม่เคยใช้มันเลยแม้แต่ครั้งเดียว ผนึกของนักบุญซึ่งได้เปลี่ยนสร้อยคอให้เห็นเป็นเพียงเครื่องประดับธรรมดา
ธีโอดอร์จ้องมองไปที่สร้อยคอก่อนที่จะเก็บมันลงไปในช่องเก็บของของเขาพร้อมกับถอนหายใจออกมา
‘หยุด ไม่จำเป็นต้องเพิ่มความเสี่ยงเข้าไปอีก’
เหตุการณ์ที่เกิดจากเวทย์อัญเชิญวิญญาณชั่วร้าย อาจจะไปกระตุ้นมังกรได้
เขาจำเป็นต้องเก็บมันไว้ในใจ ฝ่ายตรงข้ามของเขาคือมังกรสมุทร อควาโล่ มันมีอำนาจเหนือท้องทะเลและมีความเป็นเผด็จการ มันได้ฆ่าผู้คนไปด้วยเหตุผลเล็กน้อยและจมเรือนับพัน เช่นเดียวกับตอนที่เด็กๆยิ้มเมื่อเหยียบมด ชีวิตของมนุษย์ก็เปรียบเสมือนหนอนสำหรับมังกร
ธีโอต้องจำไว้ว่า หมู่เกาะโจรสลัด คืออาณาเขตของอควาโล่ ดังนั้นภัยพิบัติจึงสามารถพบได้ทุกเวลา
-----เหมือนตอนนี้
[ดีโอ้!]ในขณะนั้นเองมิตรา ผู้ซึ่งนอนหลับท่ามกลางแสงแดดอันอบอุ่นตรงหน้าต่าง ก็ได้ลุกขึ้นและกรีดร้อง
ก่อนที่ธีโอดอร์จะได้ถามเธอ สัญชาตญาณของเขาก็ร้องเตือนขึ้นอย่างรุนแรง แผ่นหลังของเขาหนาวเย็นและเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ขนแขนของเขาลุกขึ้นด้วยความตื่นกลัว เขาเคยมีประสบการณ์กับความตื่นกลัวเช่นนี้มาก่อน
มันคือตอนที่เขาพุ่งเข้าไปในเปลวเพลิงของลิเวียธาน และเมื่อเขาปะทะกับอัตตาในอดีต กล่าวอีกนัยนึง เจ้าของการปรากฏตัวที่น่าขนลุกนี้เป็นสัตว์ประหลาดที่อยู่ในระดับเดียวกับอัตตาและลิเวียธาน!
‘อะไรกัน ขวดน้ำ!?’
ขณะที่ธีโอดอร์เตรียมต่อสู้อย่างเร่งรีบ ขวดน้ำหลากสีที่อยู่ในห้องก็เคลื่อนไหว กล่าวอย่างถูกต้อง มันคือขวดน้ำที่มีน้ำอยู่ภายใน
ฟู่
น้ำได้พุ่งออกมาจากขวดและรวมตัวกัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำในอากาศหรือหยดน้ำขนาดเล็กต่างรวมตัวกันจนกลายเป็นรูปร่างของคน จนกระทั่งกลายเป็นภาพของนางเงือกที่สวยงาม
“จิตวิญญาณธาตุขั้นสูง ไนแอด....!”
ไนแอด จิตวิญญาณธาตุระดับสูงซึ่งไม่สามารถอัญเชิญได้เว้นเสียแต่ว่าผู้อัญเชิญจะเป็นเอลฟ์ เธอพูดอย่างใจเย็น [ถูกต้อง มนุษย์ผู้ได้รับคำอวยพรจากสายเลือดโบราณ]
โดยปกติเธอจะไม่พูด แต่ในสถานการณ์เช่นนี้เธอกลับเปิดปากเป็นคัร้งแรกโดยไม่มีร่องรอยการเขินอ่น
[ต่อจากนี้ เราจะส่งผ่านคำพูดของเธอ]
ก่อนที่ธีโอดอร์จะได้ถาม เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
[-สวัสดี?]
มันเป็นเสียงหวานพอที่จะละลายหูของเขา แต่ก็เย็นพอที่จะทำให้หลังของเขาเย็นเฉียบ นี่ไม่ใช่เสียงของมนุษย์ มันเป็นเสียงอันบริสุทธิ์ที่ไม่ต้องกลั่นกรองใดๆ เสียงกระซิบที่ดังในหูนั้นมากพอที่ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงต่างหลงใหล
ธีโอดอร์แทบจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัวและตอบกลับว่า “ยินดีที่ได้พบท่าน ผู้ปกครองแห่งท้องทะเล”
ไม่มีคำถามเกี่ยวกับตัวตนของเธอ ธีโอดอร์กล่าวทักทายแขกผู้ไม่ได้รับเชิญอย่างสุภาพ ไม่สิ เธอเป็นจ้าวแห่งเกาะนี้ ดังนั้นอาจจะเป็นเขาเองที่เป็นแขกไม่ได้รับเชิญ มังกรสมุทร อควาโล่ ผู้ที่ปกครองผืนทะเลมานับพันๆปีได้มองสำรวจธีโอดอร์ขึ้นและลง
จากนั้นเธอก็พูดด้วยน้ำเสียงทรงเสน่ห์ [ประการแรก ยินดีต้อนรับสู่เกาะของฉัน หนุ่มน้อย]
“เป็นการต้อนรับที่กระทันหันมากครับ”
[ฮ่าๆๆ เธอกำลังพูดเช่นนั้น แต่เธอดูเหมือนจะไม่ประหลาดใจเลยนะ?เธอดูอ่อนเยาว์ในแง่ของใบหน้า แต่ดูเหมือนว่าเธอจะได้รับประสบการณ์มามากมาย]
จนถึงตอนนี้ มันยังไม่เป็นไร ธีโอดอร์สัมผัสไม่ได้ถึงความเกลียดชังในน้ำเสียงของเธอ มันเป็นเพียงความอยากรู้อยากเห็น?หรือว่าเธอแค่ฆ่าเวลาเล่น?ไม่ว่าจะทางไหน เขาต้องการข้อมูล ธีโอดอร์อดที่จะเปิดปากขึ้นไม่ได้ขณะที่เขาจับจ้องไปยังไนแอด
“...ผมขอโทษ ผมขอถามได้ไหมว่าทำไมคุณถึงมาหาผม?”
[หืม มันยากที่จะพูดคุยกับฉันหรอ?]
“พูดตรงๆ มันค่อนข้างลำบากใจ”
เสียงของอควาโล่ถูกตัดออกไปชั่วขณะ
[ฮ่าๆๆๆ!เจ้า เจ้าก็พูดตรงเกินไป!ฉันเองก็ไม่ได้เกลียดนิสัยเช่นี้ แต่เธอไม่ควรจะระมัดระวังตัวหน่อยหรอ?]
-เพราะฉันอาจจะฆ่าเธอโดยบังเอิญ
ธีโอดอร์หลั่งเหงื่อออกมา มันไม่ได้เป็นการขู่หรือคำเตือน แต่อควาโล่ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการฆ่าธีโอดอร์....มันเหมือนกับการบดขยี้มดโดยไม่ตั้งใจภายใต้เท้าของเธอ โชคดีที่ อควาโล่ไม่ได้ทำเช่นนั้น
เธอหัวเราะก่อนที่จะตอบคำถามของธีโอดอร์ [เอาละ ฉันจะบอกเธอง่ายๆ ในอีกสามวัน งานเฉลิมฉลองเพื่อที่จะสักการะฉันจะจัดขึ้นในใจกลางเกาะ ในเวลานั้นฉันต้องการให้เธอกับเพื่อนของเธอมาด้วย]
ไม่มีช่องทางให้เขาปฏิเสธ ธีโอดอร์พยักหน้าและตอบกลับ“…ผมเข้าใจ”
[เธอเองก็ฉลาดเหมือนกันนี่ ถ้าหากเธอถามคำถามอีกหนึ่งคำถาม ฉันจะตัดหัวเธอซะ]อควาโล่กล่าวก่อนที่จะยกเลิกการอัญเชิญไนแอด
รูปร่างของนางเงือกบิดเบี้ยวและน้ำค่อยๆตกลงไปบนพื้นอย่างช้าๆเมื่ออำนาจเวทมนต์ถูกตัดออก ในขณะที่น้ำเปียกชุ่มพื้นไม้และพรม เสียงของอควาโล่ก็ยังคงดังมา
[แล้วฉันจะรอ ในอีกสามวัน]
หลังจากนั้น เธอก็เพิ่มคำเตือนที่น่ากลัวมา
[หนุ่มน้อย หากเธอไม่มา ฉันจะฆ่าเธอ]