ตอนที่ 141 หมู่เกาะโจรสลัด 1
ตึกตึก---
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังวิ่งขึ้นไปบนดาดฟ้า ยังคงมีผู้โดยสารบางคนที่ยังไม่ทราบถึงสถานการณ์ หากการต่อสู้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะซ่อนตัวอยู่ข้างในหรือข้างนอก มันก็จะไม่มีความแตกต่างใดๆ อย่างไรก็ตาม แรนดอล์ฟและธีโอดอร์นั้นไม่สามารถเข้าใจได้ถึงใบหน้าอันเฉยเมยเหล่านั้น
ใบเรือสีดำของเรือโจรสลัดกำลังเข้ามาใกล้พวกเขาจากขอบฟ้า
“อะไรกัน พวกเขามากันเป็นกลุ่ม?”แรนดอล์ฟมองไปรอบๆด้วยความรู้สึกสับสน
‘…ยิ่งไปกว่านั้น บรรยากาศมันค่อนข้างแปลก’ในทางตรงกันข้าม ธีโอดอร์รู้สึกสงสัยอย่างยิ่งเกี่ยวกับสถานการณ์ทั้งหมด
เป็นเพราะการรับรู้ทางสัมผัสของเขายังคงนิ่งเงียบและปฏิกิริยาของผู้โดยสารคนอื่นๆที่ยังคงทำตัวปกติ
เรือโจรสลัดนั้นอยู่ใกล้มากพอที่จะมองเห็นได้โดยผู้โดยสารคนอื่นๆ อย่างไรก็ตามเหล่าผู้โดยสารบนดาดฟ้ายังคงพูดคุยกันเองในขณะที่รับประทานอาหารและดื่มเครื่องดื่ม ทั้งสองคนต่างมองไปยังผู้คนโดยรอบที่ยังคงทำตัวปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เรือโจรสลัดยังคงมุ่งหน้ามาและด้วยกระแสลมแรงที่พัดมา เรือก็ได้เข้าใกล้มากพอที่จะยิงลูกธนู หากโจรสลัดยิงลูกธนูจากตำแหน่งนี้ บนดาดฟ้าของเรือโดยสารจะกลายเป็นแอ่งเลือดในทันที
อย่างไรก็ตาม ลูกธนูไม่ได้ลอยมา และธีโอดอร์ได้ยินเสียงเรียกจากด้านหลังของเขา “เห้ หนุ่มๆ!”
ธีโอดอร์หันหลังกลับไปและเห็นชายวัยกลางคนที่กำลังยิ้มด้วยรอยยิ้มแปลกๆมาที่เขา ธีโอดอร์ยังคงเหล่ตามองไปที่เรือโจรสลัดขณะที่ถามชายวัยกลางคนด้วยความระมัดระวังว่า “…คุณเรียกผมงั้นหรอ?”
“ใช่แล้ว เธอดูเกร็งๆนะ ฉันเดาว่านี่คงเป็นครั้งแรกที่เธอและเพื่อนของเธอได้ขึ้นมาบนเรือลำนี้”
“ครับ”
“ฮ่าๆๆๆ!ฉันรู้ๆ ผู้คนที่ขึ้นเรือลำนี้เป็นครั้งแรกมักจะเป็นเช่นเธอ เรือโจรสลัดจะปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน แต่ผู้โดยสารคนอื่นๆกลับไม่สนใจเลย นั่นเป็นธรรมชาติที่ผู้คนจะรู้สึกสับสน!”
ราวกับคนโง่ที่กำลังเล่นมีด ชายวันกลางคนหัวเราะเบาๆ อย่างไรก็ตาม ธีโอดอร์และแรนดอล์ฟไม่ได้หัวเราะไปกับเขาและจ้องมองเขาด้วยท่าทางเย็นชา เมื่อชายวัยกลางคนสัมผัสได้ถึงความโกรธจากทั้งสองคนเขาก็รีบกล่าวว่า “โอ้ ฉันไม่ได้หมายความว่าพวกเธอโง่นะ!”
ธีโอดอร์ไม่สนใจคำแก้ตัวของเขาและถามว่า “นั่นหมายความว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความลับของเรือลำนี้งั้นหรอ?”
“ถะ-ถูกต้อง ฉันจะอธิบายให้ฟัง”
ชายวัยกลางคนถูกกดดันด้วยแรงกดดันจากทั้งสองคนและเปิดปากของเขาขึ้นขณะที่เหงื่อตก มันไม่ได้เป็นแรงกดดันโดยตรง แต่บรรยากาศที่ตึงเครียดของจอมเวทย์ขั้น6และปรมาจารย์ออร่านั้นไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะสามารถทนได้
แต่ดูเหมือนว่า ชายวัยกลางคนจะค่อนข้างแข็งแรง เขาสามารถที่จะทนทานต่อแรงกดดันเล็กน้อยนี้ได้ในขณะที่เขาเริ่มต้นเล่าเรื่องราว
“ง่ายๆเลยนะ นี่ไม่ใช่เรื่องโดยสาร แต่เป็นเรือท่องเที่ยว(เรือสำราญอะครับ cruise ship)”
“เรือท่องเที่ยว?”
“ถูกต้อง แม้ว่าจุดหมายปลายทางจะเป็นราชอาณาจักรโซลดุน แต่ทว่าเส้นทางระหว่างทางไปนั้นจะเป็นเรื่องที่พิเศษเล็กน้อย”
ชายวัยกลางคนฟื้นคืนความแข็งแกร่งบางส่วนขณะที่เขากล่าวถึงชื่อ—หมู่เกาะโจรสลัด กลุ่มของเกาะที่ไม่ได้อยู่ในขอบเขตของอาณาจักรใดอาณาจักรหนึ่ง และได้ชื่อนี้หลังจากที่โจรสลัดเข้ามาตั้งรกราก มันอยู่นอกชายฝั่งตะวันออกของราชอาณาจักรคาร์กาส และอยู่ห่างจากราชอาณาจักรโซลดุนอยู่หลายวัน นั่นทำให้หมู่เกาะโจรสลัดเป็นที่ไร้ซึ่งกฏหมายไร้ผู้ครอบครอง
“หมู่เกาะโจรสลัด?ในท้ายที่สุด มันก็เป็นเพียงฐานของโจรสลัด”
ดั่งที่พวกเขากล่าว แต่ชายวัยกลางคนกลับไม่ยอมรับมัน “งั้น มันจึงไม่มีเหตุผลสำหรับเรือลำนี้ที่จะไปเยี่ยมชมมัน”
ชายวัยกลางคนผู้ซึ่งบอกว่าเขาคือพ่อค้าจากกลุ่มการค้ารอมเมล ได้อธิบายถึงเหตุผล บางทีมันอาจจะเป็นงานอดิเรกของเขาที่จะเพิ่มบรรยากาศในการเล่าเรื่องราวหรือเพราะเขากำลังสั่นจากแรงกดดันของชายสองคนด้านหน้าเขา แต่เสียงของนั้นดูเคร่งขรึมขณะที่เล่าเรื่อง
‘อืม ฉันเข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องที่ซับซ้อนกว่าที่ฉันคิด’ธีโอคิด
หากคำอธิบายของชายตรงหน้าเขาถูกต้อง หมู่เกาะโจรสลัดได้เริ่มต้น ธุรกิจท่องเที่ยว เมื่อ50ปีก่อน
หมู่เกาะซึ่งเดิมทีไม่มีผู้อยู่อาศัยได้กลายเป็นสถานที่ชุมนุมสำหรับผู้ลี้ภัยและเหล่าโจรจากอาณาจักรต่างๆ ในหมู่พวกเขามีบางคนที่เป็นนักดาบผู้ซึ่งปฏิญาณตนและอาชญากรผู้โด่งดัง เมื่อพวกเขามาอาศัยรวมกันอยู่ในที่แห่งเดียว พวกเขาก็ได้ก่อตั้งกองกำลังขนาดใหญ่ขึ้นและกลายเป็นโจรสลัดเพื่อชดเชยพื้นดินที่แห้งแล้งและสัตว์ที่ไม่ค่อยหลงเหลือ พวกเขาเป็นกลุ่มคนที่จะคอยบุกปล้นบ้านส่วนตัวบนชายฝั่ง เรือประมง หรือเรือค้าขาย เพื่อนำอาหารไปเลี้ยงครอบครัวพวกเขาบนเกาะ
อย่างไรก็ตาม หมู่เกาะโจรสลัดก็ต้องเผชิญหน้ากับความต้องการที่ไม่คาดฝันมาก่อน ในฐานะที่เป็นเขตไร้กฏหมายที่ตั้งอยู่นอกเขตของกฏหมาย เสน่ห์ของมันได้ดึงดูดคนบางคนเข้า บรรดาผู้คนที่เกี่ยวข้องกับสินค้าต้องห้ามและบรรดาผู้ที่มีเงินแต่ไร้ความสุข พวกเขาเหล่านั้นได้เริ่มเปลี่ยนแปลงหมู่เกาะโจรสลัด
“มันเป็นจุดเริ่มต้นของรูปแบบใหม่ของความบันเทิง”ชายวัยกลางคนตบมือและพยักหน้า “เธอสามารถที่จะเพลิดเพลินไปกับสินค้าฟุ่มเฟือยทุกประเภทและของต้องห้ามบางอย่าง เช่นสินค้าที่ห้ามนำเข้าหรือทาสจากอาณาจักรอื่น มันเป็นเกาะแห่งความสุขอย่างแท้จริง”
“อืม ดังนั้น....”
นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้คนโดยรอบรู้สึกตื่นเต้น?ธีโอดอร์มองไปที่ผู้โดยสารด้วยดวงตาห่อเหี่ยวและถอนหายใจ โจรสลัดไม่ใช่ศัตรู แต่เป็นผู้นำทางที่จะพานักท่องเที่ยวไปยังหมู่เกาะโจรสลัด ไม่มีความเป็นปรปักษ์ ดังนั้นสัมผัสของเขาจึงไม่แจ้งเตือนอะไรแก่เขา ดวงตาของธีโอดอร์หดตัวลงขณะที่เขาเข้าใจถึงสถานการณ์
‘เราควรที่จะกลับลงไป?’
ก่อนที่จะทำเช่นนั้น ชายคนหนึ่งก็ได้แสดงความคิดเห็นขึ้น
[นายน้อย เราควรที่จะทำอะไรบางอย่างไหม?] เสียงที่ซ่อนเร้นของแรนดอล์ฟดังขึ้นในหัวของธีโอดอร์ราวกับสัตว์ป่า
ธีโอจ้องมองไปที่ชายวัยกลางคนที่เดินไปสมทบกับคนอื่นๆและส่ายหัวของเขา
[นั่นมันเป็นไปไม่ได้ ตามที่เขากล่าว เรือลำนี้และเรือโจรสลัดร่วมมือกัน มีคนไม่มากนักที่ไม่ทราบถึงสถานการณ์และไม่มีการรับประกันใดๆว่าพวกเขาจะเข้าร่วมกับเรา ยิ่งไปกว่านั้น....]
[อะไรงั้นหรอ?]
[ไม่มีทางที่พวกเราจะเอาชีวิตรอดได้หากเรือจมจากการสู้รบ]
‘การพ่ายแพ้’ไม่ใช่เรื่องที่ทั้งสองคนกังวล มันอาจจะฟังดูอวดดี แต่พวกเขามีสิทธิ์ที่จะคิดเช่นนั้น หากพวกเขาไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความเสียหาย มันคงจะใช้เวลาไม่นานนักในการจมเรือทั้ง6ลำให้จมลงไปในมหาสมุทร
อย่างไรก็ตาม มีเพียงแค่พวกเขาที่คิดเช่นนี้ ไม่มีใครบนเรือที่จะร่วมมือกับพวกเขารวมถึงกัปตันเรือลำนี้ นี่คือเหตุผลที่ธีโอดอร์หลีกเลี่ยงการสู้รบ ณ ตำแหน่งนี้ แรนดอล์ฟเองก็รู้ แต่เขาไม่สามารถซ่อนอารมณ์ในดวงตาเขาได้
ธีโอดอร์กระซิบกับเขา [เพียงแค่อดทนสำหรับตอนนี้ มันมีสุภาษิตจากตะวันตกอยู่ที่เหมาะกับสถานการณ์เช่นนี้]
[มันคืออะไร?]
ก่อนที่จะตอบคำถาม ธีโอดอร์จ้องมองไปที่คนที่อยู่ห่างไกล เขาได้ยินการสนทนาระหว่างกัปตันเรือโดยสารและผู้นำเรือโจรสลัดอย่างชัดเจนแม้จะด้วยระยะห่างเช่นนี้....มันเป็นความสัมพันธ์ที่น่ารังเกียจอย่างมาก
ธีโอดอร์จ้องมองไปที่พวกเขาอย่างเย็นชาและตอบกลับว่า [หากไม่เข้าถ้ำเสือก็จะไม่ได้ตัวเสือ]
***
หลังจากที่กัปตันและโจรสลัดเสร็จสิ้นการทักทาย พวกเขาก็กลับไปที่เรือของตนเองและเชื่อมเรือของพวกเขาเข้ากับเรือโดยสารโดยโซ่ จากนั้นเรือโจรสลัดทั้งลำก็เปลี่ยนทิศทางและเริ่มดึงเรือโดยสารไปในทิศทางเดียวกัน!
‘นี่มันบ้าอะไรกัน?’
แม้กระทั่งธีโอดอร์ ผู้ที่ไม่รู้เกี่ยวกับเรือหรือการเดินเรือนัก ก็ยังคิดว่ามันไร้สาระ
มีเรือโจรสลัด5ลำ แต่น้ำหนักของเรือโดยสารนั้นใหญ่เกินกว่าน้ำหนักของเรือ5ลำรวมกันเสียอีก มีคนบอกว่าภาระจะลดลงโดยการพยุง แต่มันจะดีกว่าหากเรือเคลื่อนที่ด้วยตัวเอง
ในท้ายที่สุด เรือโจรสลัดก็ได้ดึงเรือโดยสาร
พรึบบ.....ซ่า.....
ลมแรงที่พัดเข้าใส่ใบเรือค่อยๆเพื่มความเร็วของเรือทั้ง6ลำอย่างช้าๆ เรือนั้นได้เพิ่มความเร็วขึ้นไปอีกแม้ว่าพวกเขาถูกคลื่นหนักๆซัดเข้าใส่ 5น้อต 10น็อต 15น็อต.....มันไม่ได้ใช้เวลานานนักจนกระทั่งถึงความเร็วเต็มพิกัด และนี่คือเรือโดยสารขนาดใหญ่ที่ผูกติดเข้ากับพวกเขา!
“นะ-นี่มันบ้าอะไรกัน!”ธีโอดอร์ตกใจกับปรากฏการณ์ที่ไม่อาจจะเข้าใจได้และเดินไปที่ด้านหน้าเรือที่ซึ่งมีโซ่เชื่อมต่ออยู่ แรนดอล์ฟเดินตามหลังเขามา แต่ธีโอดอร์กลับลืมไปเสียสนิทว่ามีแรนดอล์ฟอยู่ด้วย
‘บางที มันอาจจะมีเวทย์ลดน้ำหนักอยู่บนโซ่?’
คำถามนี้ทำให้ความตะกละนั้นยื่นลิ้นออกมา แม้ลิ้นจะเลียไปบนโซ่ก็ตาม แต่กลับไม่มีข้อมูลปรากฏขึ้น กล่าวอีกนัยนึง นี่เป็นโซ่ธรรมดาที่ไม่มีเวทมนต์ อย่างไรก็ตาม ธีโอดอร์ยังคงค้นหาต่อไปโดยไม่ยอมแพ้ ถ้าโซ๋เหล่านี้เป็นเพียงโซ่ธรรมดา งั้นก็ต้องเป็นสิ่งอื่น ความอยากรู้อยากเห็นของจอมเวทย์สุมอยู่เต็มดวงตาของเขา
‘บางที?’
เขาขบคิดมานานแค่ไหน? ดวงตาของธีโอดอร์สังเกตเห็นถึงบางสิ่งบางอย่าง เรือโจรสลัดที่คอยดึงเรือโดยสารขนาดใหญ่ด้วยโซ่และพวกเขากำลังแสดงให้เห็นถึงความเร็วที่น่าอัศจรรย์
‘ความตะกละ’
-….ข้าพึ่งจะตื่นเองเจ้าก็ใช้งานข้าแล้วรึ
‘หยุดบ่นได้แล้ว ถ้าแกยื่นลิ้นออกไป แกจะยืดไปถึงตรงนั้นไหม?’
-หืม? ความตะกละจ้องมองไปที่เรือโจรสลัดและตอบกลับด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น –มันอาจจะเสี่ยงเล็กน้อย แต่ข้าสามารถยืดไปถึงมันได้
ทันทีที่ได้ยิน ธีโอดอร์ก็ยื่นมือซ้ายออกไปทันที
‘ประเมิณ!’
ลิ้นสีแดงพุ่งออกมาจากรูในฝ่ามือซ้ายอย่างรวดเร็ว มันเป็นการทดลองที่กล้าหาญยิ่ง แต่ไม่มีใครที่สามารถมองเห็นมันได้ดีนัก คลื่นที่กระทบกับเรือได้ก่อให้เกิดไอน้ำและสะเก็ดน้ำที่กระจาย ส่งผลให้กำจัดการมองเห็น และทันทีที่ลิ้นแตะเข้ากับ1ในเรือโจรสลัด
หน้าต่างข้อมูลที่ธีโอกำลังรอก็ปรากฏขึ้น
[เรือโจรสลัดหมายเลข17(เรือ)]
[นี่เป็นเรือที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อ6ปีก่อน มันถูกสร้างจากวัสดุที่ทนทานต่อลมทะเลและเกลือโดยนายช่างผู้มีฝีมืออันยอดเยี่ยม ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานและมีความทนทานสูง เนื่องจากการลดน้ำหนักและการเพิ่มความแข็งแกร่งด้วยการลงอาคมที่สลักอยู่บนไม้เรือ ทำให้มันเร็วกว่าเรือทั่วไป30% อย่างไรก็ตามไม่สามารถที่จะรู้เกี่ยวกับเรือทั้งหมดนี้ได้เนื่องจาก ‘แสงศักสิทธิ์แห่งการปกป้อง’ที่ล้อมรอบมัน
*เรือลำนี้อยู่ในระดับ หายาก
*ใม่สามารถกินได้ โปรดลดขนาดของมัน คุณจะสามารถกินมันได้หากคุณแยกเวทย์ที่สลักลงบนมันออก
*เมื่อกินแล้วใช้เวลาย่อย 55นาทีและ17วินาที
*เมื่อกินแล้ว ความชำนาญเกี่ยวกับเวทย์ลดน้ำหนักจะเพิ่มขึ้น
*เมื่อกินแล้ว จะได้รับความรู้เกี่ยวกับ การเดินเรือ
*คำอวยพรที่ลึกลับได้อยู่รอบๆมัน เรือจะได้รับความเร่งเพิ่มและลมกับคลื่นจะเป็นส่วนช่วยให้มันมุ่งหน้าไปด้วยความเร็ว]
‘…การมีอยู่ที่ลึกลับ!’
ธีโอไม่สนใจเกี่ยวกับข้อมูลอื่นๆขณะที่เขาจับจ้องไปยังประโยคสุดท้าย
โดยแท้จริง เวทมนต์ลดน้ำหนักหรือเวทมนต์เพิ่มความแข็งแกร่งจะไม่ช่วยให้ความเร็วของเรือเพิ่มมากนัก ความลับของความเร็วคือสิ่งที่ไม่อาจจะเข้าใจได้ด้วยการประเมิณของความตะกละ เนื่องจากการป้องกันของใครบางคน
‘แท้จริงแล้ว พวกเรากำลังจะไปสถานที่แปลกๆ’
แม้ว่าจะมีความต้องการ แต่สถานที่ไร้กฏหมายขนาดใหญ่เฉกเช่นหมู่เกาะโจรสลัดก็ต้องเผชิญกับความเสียหายบางอย่างจากธุรกิจการท่องเที่ยวนี้ ไม่ว่าจะมีประโยชน์มากแค่ไหน นักวางแผนจำเป็นต้องตื่นตัวกับการเกิดขึ้นของตัวแปรที่ไม่สามารถควบคุมได้เสมอ และตอนนี้เหตุผลก็ได้แสดงออกมาแล้ว
มีอุปสรรคที่ขุมอำนาจในทวีปตอนกลางไม่สามารถแตะต้องได้โดยง่าย คือ’ใคร’ผู้ที่ลงอาคมบนเรือโจรสลัด?
‘ฉันได้หลีกเลี่ยงปัญหาและสิ่งนี้ก็ปรากฏขึ้น’
บางทีสถานที่ที่พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปอาจจะอันตรายเสียยิ่งกว่าเหล่าวอร์ล็อคของกลุ่มการค้าออร์คุสเสียอีก