ตอนที่ 140 เรือโดยสารที่ผิดปกติ 3
ทันทีที่เขาตอบกลับ ธีโอดอร์ก็ได้แยกขาออก เพื่อถ่ายเทสมดุลแรงโน้มถ่วงของร่างกายเขา ทำให้เขาสามารถที่จะขยับตัวจากอีกด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งได้ตามที่เขาต้องการ ท่าทางของแรนดอล์ฟกลายเป็นจริงจังหลังจากที่เขามองไปที่ปฏิกิริยาของธีโอดอร์ ซึ่งมีเพียงผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นที่สามารถทำแบบเขาได้
เขาสังเกตเห็นมันในระหว่างที่พวกเขาถูกไล่ล่า แต่แรนดอล์ฟได้ตระหนักดีว่าธีโอดอร์นั้นแตกต่างไปจากเมื่อปีก่อนโดยสิ้นเชิง ในบรรยากาศที่ตึงเครียด แรนดอล์ฟเป็นผู้ขยับเป็นคนแรก
"รับมือ”
หมัดของเขาได้ยืดออกขณะที่เสียงของเขาได้จางหายไป แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้พลังออร่า ความสามารถทางกายภาพของผู้ใช้ก็เปรียบเสมือนอาวุธอยู่แล้ว เพียงแค่หมัดเปล่าๆของเขาก็เพียงพอที่จะบดขยี้กระดูกของใครบางคนแล้ว คนธรรมดาจะไม่สามารถมองเห็นความเร็วของหมัดนี้ได้ แต่โชคดี ธีโอดอร์ไม่ใช่คนธรรมดา
ปึก!
แขนของธีโอได้ตั้งท่าเป็นรูปครึ่งวงกลมและเบี่ยงหมัดที่เข้าใกล้ตัวเขาออกไป มันเป็นเทคนิคระดับสูงการบ่ายเบี่ยงที่พบได้ในทวีปตะวันออก ซึ่งเน้นความมั่นคงและการควบคุม(มวยอ่อน)
‘…ฉันไม่สามารถที่จะขจัดมันได้หมด เขาเร็วกว่าที่ฉันคิดเอาไว้’
ธีโอดอร์สะบัดข้อมือและเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีครั้งต่อไป มันเร็วกว่าที่เขาคาดไว้ถึงสองเท่า เขาต้องการที่จะยกฝ่ามือเพื่อป้องกัน แต่หมัดต่อไปของแรนดอล์ฟนั้นมาถึงตัวเขาก่อนที่เขาจะได้ทำเช่นนั้น
แม้ว่าเขาจะไม่ได้ถือดาบ แต่หมัดของเขาก็เปรียบเสมือนคมดาบที่แทงเข้าทุกช่องว่างที่เขาเห็น
ปึก!ปัก!ตึง!บูม!
หมัดและฝ่ามือได้กระทบกันส่งผลให้อากาศระหว่างพวกเขาระเบิดออก ขณะที่ฝ่ามือของธีโอสะบัดไปมาเพื่อป้องกันหมัดของแรนดอล์ฟ นิ้วของเขาก็เริ่มปูดบวม และในที่สุดเลือดก็ได้หยดลงสู่พื้นห้อง ส่งผลให้พื้นห้องแต้มไปด้วยเลือดที่เป็นจุดๆ
มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แรนดอลฺฟนั้นเป็นผู้เหนือกว่าในการเผชิญหน้าครั้งนี้ ธีโอนั้นทำได้เพียงแค่ป้องกันตัวเองเท่านั้น เขาไม่มีสิทธิที่จะตอบโต้เลย การจะเป็นนักดาบไม่ได้หมายความว่าพวกเขาใช้เพียงแค่ดาบเท่านั้น แต่ร่างกายของพวกเขาเองก็เปรียบเสมือนอาวุธ พวกเขาต้องหมั่นฝึกฝนร่างกายของพวกเขาเสมอเพื่อให้รองรับพลังออร่าได้
แรนดอล์ฟนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่เขาจะสามารถเอาชนะได้ในตอนนี้
‘บ้าน่า อะไรกัน สถานการณ์ที่น่าอับอายเช่นนี้มันอะไรกัน?’
อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่ธีโอแต่กลับเป็นแรนดอล์ฟผู้ที่กำลังสับสนในสถานการณ์
ในความเป็นจริง เขากำลังที่จะสอนธีโอถึงความอันตรายของการต่อสู้ระยะประชิดด้วยการโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัวในหมัดแรกของเขา จอมเวทย์ผู้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้มาเพียงเล็กน้อยไม่สามารถที่จะเทียบได้กับคนที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างชำนาญ
อย่างไรก็ตาม เขาไม่คาดคิดเลยว่าการโจมตีครั้งแรกของเขาจะถูกป้องกันได้และครั้งต่อๆไปก็เช่นกัน แรนดอล์ฟจ้องมองไปที่นายจ้างของเขาด้วยท่าทางตกใจ ‘เกิดอะไรขึ้นกับเขากัน?’
ไม่มีคำอธิบายใดๆสำหรับมัน ร่างกายของมนุษย์นั้นจะไม่พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะได้รับการฝึกอบรมอย่างเป็นระบบและเข้มงวดก็ตาม คนบางคนอาจจะได้รับพันธุกรรมมาจากบรรพบุรุษของเขา แต่นั้นไม่ใช่ในกรณีของธีโอดอร์
มันต้องมีโอกาสที่พิเศษสำหรับร่างกายที่แสนอ่อนแอของธีโอดอร์ เขาจึงเติบโตได้เช่นนี้ภายในหนึ่งปี แต่ทว่า นั่นไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้ธีโอดอร์ยากที่จะจัดการ
ปึก!
ฝ่ามือของธีโอได้ขยับไปปัดป้องหมัดของแรนดอล์ฟได้ทุกหมัด การเคลื่อนไหวของธีโอดอร์ไม่เคยผิดพลาด แม้ว่าเขาจะทำเช่นนี้มากกว่าร้อยครั้งก็ตาม นอกจากนี้เขายังไม่ตกหลุมพลางของแรนดอล์ฟอีกด้วย
แรนดอล์ฟพยายามที่จะหลอกล่อทุกวิถีทาง แต่ธีโอดอร์นั้นรู้ทันว่าอันไหนจริงอันไหนปลอม
ทำให้เขาสามารถป้องกันหมัดจริงๆได้ แรนดอล์ฟนั้นอาจจะไม่รู้ แต่มันเป็นเพราะสัญชาตญาณของธีโอดอร์ที่ทำให้เขารับรู้ถึงทิศทางของหมัดของแรนดอล์ฟ
‘น่าทึ่งมาก ไม่มีโอกาสที่จะชนะแรนดอล์ฟเลยในการต่อสู้ระยะประชิด’
อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับแรนดอล์ฟ ธีโอดอร์เองก็ตกใจเช่นกัน แม้ว่าเขาจะมี ความสามารถทางกายภาพและศิลปะการต่อสู้ของลี ยองซุก รวมถึงสัญชาตญาณของอัลเฟรด แต่เขากลับทำได้เพียงป้องกันตัวเองเท่านั้น เขาไม่มีโอกาสที่จะโต้ตอบเลย
แน่นอน มันจะแตกต่างออกไปหากธีโอใช้อัมบราและวิธีการอื่นๆ แต่แรนดอล์ฟเองก็ยังไม่ใช้พลังออร่าเช่นกัน ในขณะนี้ ธีโอได้ตระหนักแล้วว่าการต่อสู้ระยะประชิดกับปรมาจารย์ดาบถือเป็นเรื่องที่โง่เขลาสิ้นดี
แรนดอล์ฟนั้นได้บรรลุเป้าหมายของเขาแล้ว แต่เขายังคงเหวี่ยงหมัดต่อไปโดยไม่รู้ตัว เขาคิดว่าการเผชิญหน้าครั้งนี้คงจะไม่จบลงโดยง่ายนัก
ตุบ
ในขณะนั้นเอง จู่ๆแรนดอล์ฟก็ถอยหลังไปสามก้าวและคลายหมัดของเขา ไม่ใช่ว่าธีโอดอร์นั้นไม่ล่วงรู้ถึงการถอยหนีของแรนดอล์ฟ แต่การเคลื่อนไหวของเขานั้นเร็วเกินไป นื่คือจุดแข็งของผู้ใช้ออร่าที่เน้นความเร็ว แรนดอล์ฟสามารถที่จะเข้าประชิดและถอนตัวออกไปได้ทุกเมื่อที่เขาต้องการ
“มันน่าชื่นชมจริงๆ คุณเป็นจอมเวทย์นายน้อย และคุณสามารถพัฒนามาได้ขนาดนี้ภายในปีเดียว.....คุณเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง ผู้คนต่างกรอกใส่หูฉันทุกวันว่าฉันเป็นอัจฉริยะตั้งแต่ฉันเกิด แต่เมื่อเทียบกับนายน้อยแล้ว....”
“…ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกน่า”
“ไม่หรอก มันยังไม่เพียงพอด้วยซ้ำไป หากคุณถือกำเนิดในจักรวรรดิแอนดราส มันเป็นไปไม่ได้งั้นหรือที่คุณจะกลายเป็น7เทพดาบที่อายุน้อยที่สุด?”
แรนดอล์ฟนั้นไม่รู้เกี่ยวกับเวทย์โบราณ ความตะกละ ดังนั้นเขาจึงคิดว่าทั้งหมดนี้คือพรสวรรค์ของธีโอดอร์ล้วนๆ แน่นอน ธีโอดอร์นั้นยิ้มอย่างขมขื่นออกมาเพราะเขาไม่ได้เป็นอัจฉริยะ แต่แรนดอล์ฟกลับคิดว่าเขากำลังถ่อมตน
แรนดอล์ฟได้กล่าวโทษถึงโลกที่ไร้ซึ่งความเป็นธรรมด้วยคำพูดไม่กี่คำ ก่อนที่เขาจะกำหมัดแน่นทั้งสองข้าง หมัดขวาของเขายกขึ้นอยู่ในระดับหัวไหล่ ขณะที่หมัดซ้ายของเขาอยู่ในระดับเอวของเขา
จิ้ด. สัญชาตญาณของธีโอดอร์ร้องเตือนถึงความอันตราย มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าใจถึงความหมายของมัน แต่สัญชาตญาณของเขากลับร้องเตือนในระดับสูงสุด
“โชคยังดี ฉันยังคงหลงเหลืออะไรบางอย่างที่จะสอนคุณ”แรนดอล์ฟยิ้มเมื่อเขาเห็นถึงการตอบสนองของธีโอดอร์
จากนั้น แรนดอล์ฟก็ได้เคลื่อนไหว
....ฟุ้บ!
เสียงนั้นตามมาทีหลังหมัด หมัดของแรนดอล์ฟได้มาถึงด้านหน้าของธีโอโดยที่ไม่มีเวลาให้ธีโอดอร์เตรียมการใดๆสำหรับการตอบโต้การโจมตีนี้ หากแรนดอล์ฟตั้งใจที่จะฆ่า ธีโอดอร์คงจะตายไปแล้ว
ธีโอดอร์ไม่สามารถที่จะขยับขาของเขาได้เลย พลังกายที่บริสุทธิ์ปะทะกับศิลปะการต่อสู้ที่ได้รับการถ่ายทอด.....ผู้ชนะและผู้แพ้ได้ถูกตัดสินภายในชั่วพริบตา
“ทำได้ดี”
“เยี่ยมมาก นายน้อย”
มันเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่สามารถเข้าใจได้ แต่ธีโอดอร์เองก็ไม่ได้ลืมที่จะลดการป้องกันของเขาลงแม้ในตอนสุดท้าย และแรนดอล์ฟเองก็ยอมรับในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เขาต้องการรู้ยังไม่ได้รับการอธิบาย ดวงตาของธีโอดอร์เปล่งแสงออกมาราวกับสัตว์ร้ายที่ต้องการคำอธิบาย นั่นทำให้แรนดอล์ฟถึงกับพูดติดอ่าง
“อะ-เอ่อ เหมือนที่ฉันคิด มันถูกต้อง”แรนดอล์ฟกล่าวออกมาอย่างคลุมเครือ
“คุณคิดอะไร?และอะไรที่นายคิดถูก”
“ฉันรู้แล้วว่าอะไรคือสิ่งที่นายน้อยขาดไป”
ธีโอดอร์ฟังอย่างเงียบๆ เขาได้ซึมซับประสบการณ์ของลี ยองซุก แต่มันก็ยังไม่สมบูรณ์แบบ และแรนดอล์ฟเองก็เป็นปรมาจารย์ดาบแล้ว ดังนั้นคำแนะนำของเขาจะต้องเป็นประโยชน์อย่างแน่นอน เมื่อธีโอดอร์สงบสติลง ท่าทางของแรนดอล์ฟก็แปรเปลี่ยนเป็นจริงจัง
“พื้นฐานเป็นสิ่งที่ดี คุณรู้วิธีที่จะมองออกว่าการโจมตีที่แท้จริงนั้นมาจากการโจมตีหลอกๆ ซึ่งหมายความว่าสายตาของนายน้อยดียิ่งกว่าอัศวินทั่วๆไป มันจึงเป็นเรื่องไม่ยากสำหรับนายน้อยที่จะมองทันการโจมตีแบบฉับพลันในระยะประชิด
“…แล้ว?”
“ปัญหาคือสิ่งที่ตามมา เนื่องจากคุณรู้เฉพาะพื้นฐานเท่านั้น คุณจึงไม่สามารถตอบโต้ได้เมื่อฉันใช้เทคนิคอื่นๆ เช่น กระบวนท่าสุดท้ายที่ฉันได้ใช้ไป”
ธีโอดอร์ยอมรับมันอย่างเงียบๆ กระบวนท่าสุดท้ายของแรนดอล์ฟนั้นมันบ้าบอเกินไป มันเป็นเทคนิคที่ใช้ความสามารถทางกายภาพของผู้ใช้ออร่าและไม่สามารถที่จะเข้าใจมันได้โดยง่าย แรนดอล์ฟเรียกมันว่า ‘เจตนาซ่อนเร้น’
“มันถูกเรียกโดยชื่อที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น ‘เจตนาซ่อนเร้น’ ‘กระบวนท่าลับ’หรือ ‘วิชาลี้ลับ’ ....สิ่งที่สำคัญก็คือลักษณะของมันไม่ใช่ชื่อ มันเป็นศิลปะการต่อสู้ที่เด็ดขาดซึ่งจะสามารถทำได้หลังจากที่สะสมพื้นฐานมาเป็นเวลานาน”
แรนดอล์ฟได้ดึงดาบของเขาออกจากซองใส่ดาบและตั้งท่าขึ้น เป็นท่าที่ปราศจากช่องโหว่ใดๆ
ฟุ้บบ!
การโจมตีที่ไม่สามารถมองเห็นได้ เขาเห็นเพียงแค่อากาศเบื้องหน้าเขาที่ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน นี่คือเพลงดาบของตระกูลโคลวิส ซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีสมาชิกในตระกูลที่เป็นถึง1ใน7เทพดาบอันทรงเกียรติแห่งจักรวรรดิ
แรนดอล์ฟได้เก็บดาบไปโดยปราศจากคำโอ้อวดใดๆและกล่าวว่า “ฉันไม่รู้ว่าใครสอนศิลปะการต่อสู้ให้แก่คุณ แต่ถ้าหากคุณมีเวลา คุณควรที่จะเรียนรู้มันในส่วนที่เหลือ มิฉะนั้นคุณจะไม่สามารถชนะบุคคลที่เชี่ยวชาญในด้านนี้ได้ แน่นอน นายน้อยเป็นจอมเวทย์ ดังนั้นมันจึงไม่มีเหตุผลที่จะทำเช่นนั้น”
“…ขอบคุณ”ธีโอดอร์โค้งคำนับให้แรนดอล์ฟด้วยความเคารพ
เส้นทางของจอมเวทย์และอัศวินนั้นแตกต่างกัน แต่คำแนะนำในการเข้าถึงระดับขั้นต่อไปนั้นเป็นประโยชน์เสมอ หลังจากที่ขอบคุณแรนดอล์ฟ ธีโอดอร์ก็ถูกทิ้งให้ไตร่ตรองอะไรบางอย่างที่เขาลืมมันไป –การถ่ายทอด
หากพูดอย่างตรงไปตรงมา การกินหนังสือ ‘บทเพลงแห่งสงคราม’ได้ส่งผลให้ธีโอดอร์เข้าสู่เส้นทางนี้ อัตราซิงโครนั้นสูง แต่ความสามารถทางกายภาพของเขาต่ำ ซึ่งหมายความว่าเขาล้มเหลวในการได้รับทักษะของลี ยองซุก ไปครึ่งหนึ่ง อาจจะต้องใช้อีกหลายปีหากเขาต้องการที่จะค้นหาความทรงจำของเขาและไล่ล่าภาพเหล่านั้น
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวมันจะแตกต่างออกไปหากเขาสามารถดูดซับจิตวิญญาณได้อย่างสมบูรณ์ มันจะเป็นเหมือนกับอัลเฟรดที่ธีโอดอร์สามารถใช้ความสามารถทั้งหมดของเขาได้ และคำพูดของความตะกละที่เคยพูดเอาไว้ก็ได้พิสูจน์ความเป็นไปได้นี้
-โดยปกติแล้ว การถ่ายทอดไม่ได้ถูกใช้โดยวิธีเช่นนั้น’
ในอดีต เมื่อจิตวิญญาณของอัลเฟรดถูกดูดซับ ธีโอดอร์เองก็เกือบที่จะตาย อย่างไรก็ตาม ตามคำกล่าวของความตะกละ ดูเหมือนว่ามันจะมีวิธีที่ไม่รุนแรงมากนักในการใช้การถ่ายทอด แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม สิ่งจำเป็นที่ธีโอต้องคำนึงถึงเสมอก็คือการขยายแก่นพลังของเขา ในขณะที่เขากำลังคิดถึงความเป็นไปได้ใหม่ๆในการใช้การถ่ายทอด
จู่ๆ....
[ดีโอ้!]เสียงใสของมิตราก็ดังขึ้นในหัวของเขาและปัดเป่าความคิดทั้งหมดออกไป
‘มิตรา?มีอะไรงั้นหรอ?’
[ตรงนี้ บาบา!]
‘หืม?’ธีโอดอร์หันหัวเขาไปและพบกับภาพที่ทำให้เขากุมขมับ
“…มิตรา อย่าไปกวนฮิวกิ้นนักสิ”
เด็กหญิงผู้ที่มีเรือนผมราวกับสีของเมล็ดข้าวสาลีและผิวสีน้ำตาลอ่อนกำลังพยายามทรงตัวอยู่บนหัวของอีกา
แน่นอน สาวน้อยผู้นี้ก็คือมิตราและอีกาที่กำลังกระพือปีกอยู่ก็คือฮิวกิ้น เธอเป็นจิตวิญญาณธาตุที่มีความเป็นอิสระ แต่สิ่งสำคัญก็คือเธอนั้นเป็นจิตวิญญาณธาตุดิน ดังนั้นเธอจึงถูกจำกัดให้อยู่ได้แต่ในเรือเท่านั้น
[เพิ่น!]
ดังนั้น มิตรานั้นจึงสร้างสายสัมพันธ์กับเพื่อนใหม่ผู้มีปีกของเธอ
กา--!
……แน่นอน มันเป็นสิ่งที่เธอกำลังคิดอยู่ตัวคนเดียว
‘ฉันขอโทษ ฉันจะให้อาหารดีๆแก่นายในภายหลังนะ’
ธีโอดอร์จ้องมองไปที่ฮิวกิ้นด้วยสายที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ก่อนที่จะหันไปหามิตราผู้ที่เรียกเขา เธออาจจะเรียกเขาเพื่อให้มาเล่นกับเธอเป็นประจำ แต่เขารู้สึกได้ว่า ในวันนี้มันไม่ใช่
มิตรากระพริบตาปริบๆก่อนที่เธอจะพูดอีกครั้ง [ดีโอ้!ตรงนี้ บาบา!]
“หะ?ตอนนี้ฉันไม่ได้มองดูอยู่งั้นหรอ?”
[ไม่!ไม่ได้มองมัน!]
‘เธอพูดอะไร?’ธีโอดอร์รู้สึกสับสนกับคำพูดของเธอ มิตราจึงเอาหัวของเธอกระแทกกับหัวของฮิวกิ้น
[ใบเรือฉีดำ!ใบเรือฉีดำ!]
กา--!
ไม่นานหลังจากที่ฮิวกิ้นบินไปมาและร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เนตรทิพย์ก็ได้ถูกใช้งาน ขณะเดียวกันเส้นขอบฟ้าก็ได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าดวงตาของธีโอดอร์ ธีโอดอร์รู้สึกสับสนกับภาพที่ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน แต่เขาเคยมีประสบการณืเช่นนี้มาหลายครั้งแล้ว ดังนั้นเขาจึงสงบสติได้อย่างรวดเร็ว
มันต้องมีเหตุผลที่ทำให้มิตราแสดงภาพทิวทัศน์ให้เขาเห็น ไม่นานนัก ธีโอดอร์ก็ได้เห็นบางอย่างที่ทำให้ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไป
“…ใบเรือสีดำ”
บรรดาผู้ที่ไม่รู้เกี่ยวกับทะเลอาจจะพูดมาว่าสีของใบเรือนั้นไม่สำคัญ อย่างไรก็ตาม เหล่าลูกเรือจะเยาะเย้ยพวกเขาทันที
สีของใบเรือแสดงให้เห็นถึงจุดประสงค์ของเรือ สีขาวบ่งบอกว่าเป็นเรือโดยสารและเรือค้าขายภายในอาณาจักร สีฟ้าบ่งบอกถึงเรือค้าขายระหว่างอาณาจักรหรือเรือที่มีคณะฑูต ขณะที่สีอื่นๆเป็นสัญลักษณ์ของเรือทางการทหารในอาณาจักรต่างๆ
อย่างไรก็ตาม สีดำนั้นเป็นสัญลักษณ์ของ ‘บาป’ มีเพียงเรือชนิดเดียวเท่านั้นที่มีธงเป็นสีดำ --- เรือโจรสลัด
พวกมันไม่ได้มีเพียง1หรือ2ลำ แต่มีถึง5ลำ เรือโดยสารนั้นได้ละทิ้งความรวดเร็วและประสิทธิภาพในการรบเพื่อเพิ่มขนาดของเรือ ดังนั้นมันจึงไม่สามารถต่อกรกับเหล่าโจรสลัดได้
“แรนดอล์ฟ เตรียมตัวเดี๋ยวนี้”
“เรียบร้อยแล้ว”
ในฐานะทหารรับจ้างผู้ผ่านศึกมาอย่างโชกโชน การเคลื่อนไหวของเขานั้นรวดเร็วอย่างแท้จริง เขาติดอาวุธของตัวเองทันทีที่ได้ยินคำว่า ใบเรือสีดำ ชายติดอาวุธทั้งสองคนได้ออกจากห้องของพวกเขาอย่างรวดเร็ว ธีโอดอร์ยังคงใช้เนตรทิพย์ขณะที่เขาก้าวเดินตามแรนดอล์ฟไปบนดาดฟ้า ทันทีที่กลิ่นเค็มของน้ำทะเลได้ปะทะกับจมูกของเขา เขาก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก
‘....ทำไมฉันสัมผัสถึงพวกมันไม่ได้?’
สัมผัสของเขาสามารถสัมผัสได้ถึงศัตรูทั้งหมดที่เคยพบมา รวมถึงปีศาจและวิญญาณ แต่ทว่าทำไมเขากลับสัมผัสถึงเรือของโจรสลัดไม่ได้? นี่ถือเป็นครั้งแรกสำหรับธีโอดอร์ผู้ซึ่งเคยประสบกับปัญหามามากมาย
อบ่างไรก็ตาม คำถามของเขาจะหายไปในอนาคตอันใกล้นี้