ตอนที่ 1: การเกิดใหม่
ไม่มีเมฆสีขาวที่มองเห็นได้ตามปกติบนท้องฟ้าที่ไม่มีที่สิ้นสุดมันทำให้ดูเหมือนอัญมณีสีฟ้าที่ไร้ขอบเขต
นกสีดำหลายตัวบินข้ามผ่านท้องฟ้า ป่าขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างใต้ดูเขียวชอุ่มมีเส้นทางเล็กๆหลายเส้นระหว่างต้นไม้ มีรถม้าที่มีฟางข้าวสีทองกำลังวิ่งมาอย่างช้าๆและคุณสามารถได้ยินเสียงที่ดังก้องกังวาลของกีบเท้าสัตว์กระทืบกับพื้น
มีเด็กหนุ่มนอนบนฟางข้าวสีทองข้างบนรถม้า ตัดสินจากรูปลักษณ์ของเขา เขาอายุประมาณสิบสามถึงสิบสี่ปี เด็กหนุ่มมีผมสั้นสีน้ำตาลและมีรูปลักษณ์ที่อยู่ในเกณฑ์ทั่วไป
ดวงตาของเด็กหนุ่มปิดลงราวกับว่าเขากำลังนอนหลับอยู่ ผู้ขับขี่กำลังขับรถม้าอย่างระมัดระวังด้วยม้าแก่ของเขา ดูเหมือนว่าคนขับรถม้าพยายามที่จะไม่ขัดจังหวะความฝันของเด็กหนุ่มขณะที่เขาพยายามควบคุมรถม้าอย่างชำนาญ
ปัง!!!
มีเสียงดังของล้อรถม้ากระแทกกับหินบนถนน รถม้าหยุดนิ่งหลังจากที่ปะทะกัน
เย่ซ่งตื่นขึ้นมาด้วยความสับสน เขาลืมตาอย่างช้าๆและใบหน้าของเขาก็โผล่ขึ้นมาจากฟางข้าว
"ข้าอยู่ที่ไหน" เด็กหนุ่มถาม เสียงของเขาเบามากและฟังดูอ่อนแอ
เขาหายใจเข้าครั้งหนึ่ง เขาได้กลิ่นหอมของหญ้าสีเขียวชอุ่ม เด็กหนุ่มมองสภาพแวดล้อมรอบๆด้วยความสับสน
"ข้าขอประทานโทษด้วยสำหรับการทำลายความฝันอันหวานชื่นของท่านนายน้อยสองแองเจเล่ รถม้าได้ไปชนกับก้อนหิน" คนขับรถม้าหันกลับมาขอโทษหลังจากที่เขาเห็นเย่ซ่งตื่นจากอุบัติเหตุ เขาหยิบเครื่องมือของเขาออกมาและเริ่มตรวจสอบดูว่าล้อรถเกิดความเสียหายจากการชนกับก้อนหินหรือไม่
คนขับรถม้าเคยเป็นคนที่สำคัญในอดีต แต่เขาก็ยังดูแข็งแรงและเต็มไปด้วยพลังภายใต้ชุดผ้าลินินสีเทา
"นายน้อยสองแองเจเล่?" เย่ซ่งสับสน เขามองไปรอบๆและคิดว่าคนขับรถม้าพูดกับคนอื่น แต่มันมีเพียงแค่เขาคนเดียวที่อยู่ที่นี่
"นั่นฉันงั้นเหรอ" เขาชี้นิ้วมาที่จมูกตัวเอง
"ครับนายน้อยสอง" คนขับรถม้าพยักหน้าขณะที่ตรวจสอบล้อรถ
"ท่านได้ตกจากหลังม้าและได้รับบาดเจ็บท่านต้องพักผ่อนให้มากขึ้น ข้าเป็นเพียงคนเดียวที่ถูกทิ้งไว้ที่เมืองและข้าไม่สามารถหารถม้าที่ดีให้ท่านได้ ข้าขอโทษด้วยที่ต้องทำแบบนั้น" ชายวันกลางคนยิ้มให้เย่ซ่ง ผิวของเขาเป็นสีแทนจากแสงอาทิตย์
มันดูเหมือนว่าเย่ซ่งได้ตระหนักถึงบางอย่างแล้วใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
"ไม่มีทาง..." เย่ซ่งพูดกับตัวเองและมองไปที่ร่างกายของเขา
ชุดล่าสัตว์ที่เขาสวมอยู่เข้ากับร่างกายของเขาได้ดีและเขายังมีเข็ดขัดสีแดงรอบเอว มีแส้หนังสีดำผูกติดอยู่กับเข็มขัดของเขา
ร่างกายของเขาอ่อนแอและฝ่ามือของเขามีสีขาว เขายังรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดจากหัวเข่าและหลังศีรษะ
ทันใดนั้นความทรงจำจำนวนมากก็เข้ามาในหัวของเย่ซ่งหลังจากที่เจ็บปวดที่หัว เย่ซ่งได้ล้มลงไปที่ฟางข้าวขณะที่เขาหมดสติ เขาได้ยินเสียงของคนขับรถม้าตะโกนด้วยความตกใจ
ในที่สุดเย่ซ่งก็ตื่นขึ้นมาหลังจากที่เวลาผ่านไปสักพัก สมองของเขาเต็มไปด้วยความทรงจำจากคนอีกคนหนึ่ง ลูกชายคนที่สองของตระกูลขุนนางชนบทชื่อว่าแองเจเล่ ริโอและเห็นได้ชัดว่าเด็กหนุ่มคนนี้เป็นคนที่พอมีชื่อเสียงในตระกูล
แองเจเล่กำลังขี่ม้ากับกลุ่มของเขาในเวลาว่างของเขาก่อนที่จะตกลงมา เย่ซ่งได้รับความทรงจำของแองเจเล่และเขาก็เข้าใจสถานการณ์ในปัจจุบัน
โลกที่เหมือนกับยุโรปกลางที่เขารู้จัก ตอนนี้เขาอยู่ในดินแดนที่เรียกว่าจักรวรรดิรูดินเป็นอาณาจักรขนาดใหญ่และตระกูลริโอเป็นตระกูลขุนนางที่ค่อนข้างร่ำรวยในชนบท แต่ก็ยังไม่สามารถเทียบกับผู้คนที่อยู่ในพื้นที่ส่วนในของอาณาจักรได้
ดินแดนของตระกูลริโออยู่ที่ขอบของป่าใหญ่ในเขตยาลา ตามความทรงจำของแองเจเล่สิ่งเดียวที่เย่ซ่งรู้คือดินแดนเป็นของบารอนริโอพ่อของเขามีดินแดนของอัศวินสามแห่งและมีเมืองอยู่ห้าเมือง มีผู้คนอยู่ประมาณห้าพันคนที่อาศัยอยู่ที่นั่นและมันจะใช้เวลาจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งด้วยม้าจะใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง มันเป็นดินแดนขนาดใหญ่
แองเจเล่ ริโอเป็นลูกชายคนที่สองของบารอนริโอและเขาอยู่จุดสูงสุดของคนรุ่นใหม่ในตระกูลริโอ ลูกชายคนโตออกจากตระกูลและไปเข้าร่วมกับกองทัพ ถ้าเขาไม่กลับมาก็มีโอกาสที่แองเจเล่จะเป็นผู้นำของตระกูล
"เด็กจากตระกูลขุนนาง...ฉันไม่อยากจะเชื่อ ฉันกลับมาเกิดใหม่...." เย่ซ่งเกาหัวและตระหนักได้ว่าเขากำลังนอนบนเตียงเล็กๆ เสื้อผ้าของเขาถูกเปลี่ยนเป็นเสื้อคลุมสีขาวและห่มด้วยผ้าห่มสีขาวบางๆ
ห้องนอนปลอดโปร่งและกว้างขวาง มีเก้าอี้สูงสองตัว เตียงหนึ่งเตียงและโต๊ะเขียนหนังสือสีขาวอยู่ในห้อง หน้าต่างที่อยู่ข้างหน้าเตียงได้เปิดอยู่และเย่ซ่งก็ได้ยินเสียงจากถนน
ลมพัดกริ่นของแพนเค้กเข้ามาในห้อง เย่ซ่งรู้สึกหิวมากหลังจากที่ได้กลิ่นอ่อนๆที่เข้ามาในห้อง
"มีใครอยู่ไหม" เย่ซ่งรู้ว่าที่นี่เป็นบ้านของตระกูลที่อยู่ในเมืองตามความทรงจำของแองเจเล่
ประตูถูกเปิดออกเสียงดังเอี้ยด ชายวัยกลางคนสวมชุดขุนนางสีแดงมีใบหน้าที่จริงจังเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว เขาถือชามเงินขนาดเล็กและมีกลิ่นที่น่ารับประทานของเนื้อสัตว์จากมัน
"แองเจเล่ ลูกรู้สึกดีขึ้นแล้วหรือ" ชายคนนั้นเดินไปที่เตียงระหว่างที่กำลังขมวดคิ้ว เขาได้วางชามเล็กๆไว้บนตู้ข้างเตียงและแตะหน้าผากของเย่ซ่งด้วยฝ่ามือขนาดใหญ่ของเขา
"ไม่ร้อนแล้ว กินซุปเนื้อสิตอนนี้ลูกอ่อนแอเกินไป" ชายคนนั้นพูด
เย่ซ่งค้นพบผู้ชายคนนี้ผ่านความทรงจำของแองเจเล่อย่างรวดเร็ว
คาร์ล ริโอ ปัจจุบันเป็นผู้นำตระกูลริโอและเป็นบารอนของดินแดน เขาจะพ่อที่ดีในความทรงจำของแองเจเล่
"พ่อคิดว่าพ่อเคยบอกเจ้าไปแล้ว" บารอนคาร์ลลดเสียงลง "พ่อบอกว่าอยู่ให้ห่างจากกลุ่มเด็กเกเรจากเมืองกลุ่มนั้นแม้ว่าเจ้าจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นในวิชาอัศวินก็ อย่าไปเล่นกับพวกเขา" บารอนพูด
"มันเป็นความผิดของข้าท่านพ่อ" เย่ซ่งพูดด้วยเสียงเบาและเขาก็ก้มหัวลง มันไม่ใช่ความตั้งใจของเซ่ซ่งที่จะทำอย่างนี้ มันเป็นเหมือนปฏิกิริยาตอบโต้จากเจ้าของเดิมของร่างกาย
"เจ้าโชคดีแล้วที่กระดูกไม่หักหลังจากตกหลงมาจากหลังม้าที่กำลังบ้าคลั่ง" บารอนพูดและดูเหมือนว่าเขาจะรู้สึกผ่อนคลายขึ้นอยู่บ้าง เขาเห็นลูกชายก้มศีรษะลงและรู้สึกถึงความเศร้าเสียใจของลูกชาย
"พี่ชายของเจ้าได้ออกจากตระกูลและไปเข้าร่วมกับกองทัพ ข้าไม่แน่ใจว่าเขาจะกลับมาไหม เจ้าเป็นความหวังของตระกูลริโอ ข้าไม่อยากจะนึกภาพว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเจ้าได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง..." บารอนถอนหายใจและหยุดพูด
เย่ซ่งรู้ท่าทางของบารอนจากความทรงจำของแองเจเล่ เขาเป็นบารอนที่เกรียงไกรเมื่อเผชิญหน้ากับคนอื่น เขายังเป็นคนเลือดเย็นและเข้มงวด ผู้คนหลายคนในตระกูลได้รับคำสั่งให้ถูกประหารเนื่องจากมีข้อผิดพลาดเล็กๆน้อยๆจากการกระทำของพวกเขา บารอนยังพาผู้หญิงสวยหลายคนเข้ามาในตระกูลจากดินแดนของเขาและเขาก็มีลูกหลายคน
ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ได้วางแผนเมื่อปีที่แล้วและเขาได้ใช้กองทัพของเขาไปยึดที่ดินขนาดใหญ่ ดินแดนของเขาตอนนี้ได้กว้างเป็นสองเท่าจากเดิม
คนนอกมักนินทาว่าบารอนเป็นคนที่โหดร้ายและรุนแรง พวกเขานินทาเกี่ยวกับความร้ายกาจและความเลือดเย็นของเขา แต่บารอนก็ดูแลแองเจเล่อย่างดีเพราะเขารักแม่ของแองเจเล่มากก่อนที่เธอจะจากไป เขามีความรู้สึกพิเศษสำหรับเธอ ดังนั้นจุดยืนของแองเจเล่จึงสูงที่สุดในบรรดาพี่น้องของเขา บารอนพยายามที่จะทำให้แองเจเล่ทำให้สิ่งที่เขาต้องการ
"จำไว้ให้ดีแองเจเล่ ไม่ว่าจะทำอะไรในฐานะผู้นำตระกูลริโอในอนาคตเจ้าควรคิดให้ดีก่อนที่จะทำอะไร" บารอนคาร์ลแนะนำเย่ซ่งด้วยเสียงเข้ม
"ข้าเข้าใจแล้วครับท่านพ่อ" เย่ซ่งพยักหน้าอย่างจริงจัง
"ดี ขอเพียงแค่ไม่ใช่แคทเธอรีนผู้หญิงคนอื่นที่เจ้าต้องการ ข้าจะส่งเธอไปที่ห้องของเจ้า เจ้าสามารถเล่นกับเธอได้แต่เจ้าก็ยังเด็กมาก ถ้าข้าพบว่าเจ้าติดเป็นนิสัย...." บารอนหยุดพูดไปชั่วครู่และเย่ซ่งสามารถเห็นความหนาวเย็นได้จากดวงตาของเขา "เจ้าคงจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น"
"ข้าเข้าใจแล้ว" เย่ซ่งพยักหน้าอย่างรวดเร็วเขารู้สึกกลัว แม้ว่าบารอนจะรักลูกของเขามากแต่ครั้งนี้เขาได้ทำสิ่งที่ไม่น่าให้อภัย
"เอาล่ะ เจ้าต้องพักหลังจากที่เจ้ากินซุปเสร็จแล้ว ข้ายังมีบางอย่างที่ข้าต้องจัดการ ผู้เฒ่าเหว็ดจะส่งคนนำเจ้ากลับไปที่ปราสาท ข้าจะต้องไปแล้ว" บารอนพูดจบก็ได้จากไปทันที
ก่อนที่ประตูห้องนอนจะปิดเย่ซ่งก็ได้มองไปที่อัศวินที่ใส่ชุดเกราะเต็มตัวด้านนอก เขารู้จักอัศวินคนนั้น อัศวินที่ดีที่สุดที่บารอนมีอัศวินอูดิส อัศวินอูดิสชอบเหยียบหัวศัตรูและทุบให้ละเอียดเหมือนแตงโม ผู้คนในดินแดนเรียกเขาว่า 'อัศวินปีศาจ'
ประตูของห้องนอนก็ปิดลงอย่างแรง เย่ซ่งได้ยินเสียงบารอนและอัศวินคุยกันขณะที่เดินอยู่ลานบ้าน เสียงคุยก็ค่อยๆหายไปหลังจากพวกเขาเดินไกลออกไป เย่ซ่งมองซุปเนื้อบนตู้ข้างเตียงนอนของเขา เขารู้ว่าน้ำซุปพิเศษเมื่อเขาเห็นบารอนเป็นคนเอาเข้ามา ถ้ามันเป็นซุปปกติมันคงจะเป็นคนอื่นเอาเข้ามา
เนื้อภายในซุปทำมาจากปลาที่เรียกว่าปลากระพงสองหน้า ตำนานเล่าว่า"พ่อมดเปลี่ยนเด็กเป็นปลาชนิดนี้" แองเจเล่เคยได้มาก่อนเมื่อเขาบาดเจ็บ เย่ซ่งหยิบชามเงินและมองไปข้างใน ปลาสีเงินยาวหนึ่งนิ้วที่ลอยอยู่ในซุปนมและหัวของปลาก็เหมือนใบหน้าของมนุษย์
"ปลาที่มีใบหน้าเด็ก...." เย่ซ่งพูดกับตัวเองและเขารู้สึกคลื่นไส้หลังจากที่มองไปเห็นการแสดงออกที่เจ็บปวดบนใบหน้า
"มันไม่ใช่โลกที่ข้าเคยรู้จักอีกแล้ว...." เย่ซ่งคิด
เย่ซ่งนั่งอยู่บนเตียงและใช้เวลานานกว่าจะตัดสินใจกินซุป เขาถอนลมหายใจและกินน้ำซุปทั้งหมดในครั้งเดียวยกเว้นหัวปลาเขาเอามันออกและทิ้งไว้ในชาม มันน่ากลัวเกินไปสำหรับเขาที่จะกิน
เขานอนลงบนเตียงหลังจากที่กินซุปเสร็จไปสักพัก เขาตัดสินใจที่จะเรียบเรียงความทรงจำในสมองของเขา เด็กหนุ่มชื่อแองเจเล่ได้รับความรักจากพ่อของเขาแม้ว่าเขาจะมีปัญหาในเรื่องการตัดสินใจและบุคลิกของเขาเป็นว่าง่าย เขาดูแลตัวเองได้ดี เขาเป็นคนที่ดีกว่าคนอื่นเมื่อพวกเขาได้เล่นกัน
บารอนมักจะให้สิ่งที่เขาต้องการเช่นอุปกรณ์ สัตว์ เงินหรือแม้แต่ผู้คน มันทำให้แองเจเล่เป็นคนกล้าหาญและทำให้เขามีความปรารถนาในสิ่งที่เขาได้หลงใหล กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือเขาเป็นหนุ่มเจ้าสำราญที่ร่ำรวย
ในฐานะที่เป็นดินแดนระดับบารอนขนาดของที่ดินเป็นเหมือนกับการปกครองระดับประเทศที่ที่เย่ซ่งจากมา แม้ว่าประชาชนจะน้อยกว่ามากแต่บารอนก็เป็นเหมือนเทพในดินแดนและเขาสามารถทำอะไรก็ได้ตามที่เขาต้องการ แองเจเล่ได้เป็นคนหนึ่งที่ได้สิทธิประโยชน์ของบารอน
ในยุคที่สับสนวุ่นวายนี้จักวรรดิรูดินไม่ได้มั่นคง ขุนนางมักเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและอำนาจ แต่ไม่ว่าบารอนคาร์ลจะเกรียงไกรแค่ไหนลูกชายของเขาแองเจเล่ก็ทำสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ แองเจเล่ได้พบเด็กสาวชั้นสูงในชั้นเรียนวิชาอัศวินของเขาและเด็กสาวคนนั้นชื่อแคทเธอรีน แคนเดีย เธอเป็นลูกสุดรักของไวเคานต์แคนเดียที่มีฐานะสูงกว่าบารอนคาร์ล
แองเจเล่พยายามที่จะแสดงทักษะการขี่ของเขาและตัดสินใจที่จะยอมรับความท้าทายกับเพื่อนร่วมชั้นเรียนผู้ชายคนหนึ่ง อานม้าของแองเจเล่ได้ถูกดัดแปลงแก้ไขโดยคู่แข่งของเขาก่อนการแข่งขันเป็นผลให้แองเจเล่ได้หายไปจากโลกนี้อย่างถาวรเมื่อเขาได้ตกลงจากหลังม้า
"มันเป็นเรื่องเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง..." เย่ซ่งพูดไม่ออกเมื่อเขากำลังอ่านความทรงจำในหัวของเขา "โลกนี้ทำให้ฉันพูดไม่ออก เด็กหนุ่มอายุสิบสี่ปีต่อสู้กับคนอื่นเพียงเพื่อผู้หญิงเพียงคนเดียว...."