ตอนที่ 133 การต่อสู้ตัวต่อตัว 3
บูมมม...!
เกิดคลื่นอัดกระแทกที่รุนแรง หากพลังทำลายจากดาบทั้งสองถูกผลักไปข้างใดข้างหนึ่ง ผู้ชมที่นั่งอยู่ในทิศทางนั้นจะถูกบดขยี้ราวกับกบที่ถูกทับด้วยหิน ร่างของนักดาบที่รวดเร็วราวสายฟ้า แรนดอล์ฟถูกกระแทกไปข้างหลัง
นี่เป็นหลักฐานว่าอัศวินดำนั้นมีความได้เปรียบกว่าในด้านพลัง
‘ไม่ มันช่วยไม่ได้’
ธีโอดอร์จ้องดูการต่อสู้ด้วยดวงตาที่สุขุม มันจะแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดหากมันเป็นอันเดทระดับต่ำ แต่อัศวินดำที่แรนดอล์ฟได้เผชิญอยู่ด้วยนั้นเป็นอันเดทระดับสูง อัศวินแห่งความตาย
มันมีความสามารถทางกายภาพที่มากกว่าคนเป็นหลายเท่า และไม่มีความรู้สึกเจ็บปวด ในการต่อสู้ที่ตัดสินด้วยความแข็งแกร่ง มันจะสามารถต่อกรกับไซคลอปส์ได้ นอกจากยังเป็นไปได้ที่อัศวินดำจะสามารถทำลายกำแพงด้วยมือเปล่า
แรนดอล์ฟได้ตระหนักถึงเรื่องนี้เช่นกันหลังจากได้ประสบปัญหานี้โดยตรงกับร่างกายของเขา
“ฟู่...”
การเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้ามและแข่งขันด้วยความแข็งแกร่งคือการฆ่าตัวตายอย่างแท้จริง แรนดอล์ฟต้องยอมรับว่าฝ่ายตรงข้ามของเขานั้นได้เปรียบในด้านพละกำลัง
ทักษะดาบคู่นั้นไม่ใช่เทคนิคการต่อสู้ที่ออกแบบมาเพื่อแข่งขันในด้านพละกำลัง ข้อดีของดาบคู่ก็คือความสามารถในการใช้เทคนิคดาบที่หลายหลากอย่างอิสระ
แรนดอล์ฟสูดหายใจลึกๆและจากนั้นตัวตนของเขาก็กลายเป็นบิดเบี้ยว
“อะไรกัน!?”
“หะ-หายไปแล้ว...!”
ไม่ แรนดอล์ฟไม่ได้หายตัวไป มันหมายความว่าความเร็วของแรนดอล์ฟนั้นเกินกว่าสายตาของผู้ชม ความเร็วที่ถูกเร่งนั้นเร็วมากจนทำร้ายดวงตาของธีโอดอร์!
พลังออร่าได้เอ่อล้นออกจากดาบของแรนดอล์ฟก่อให้เกิดเส้นสีน้ำเงินถูกวาดขึ้นในอากาศ จากนั้นดาบของแรนดอล์ฟก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นสายฟ้าและพุ่งโจมตีเข้าใส่อัศวินดำจากทุกทิศทาง
แกร๊ก!
ดาบฟัลคอนของแรนดอล์ฟได้เฉือนใส่แขนของอัศวินดำและปอกพื้นผิวชุดเกราะตรงหัวไหล่ของอัศวินดำหลุดออกมาราวกับปอกมันฝรั่ง
แก๊ง!แก๊ง!
แรนดอล์ฟโจมตีอีกครั้ง เขาจ้วงแทงไปที่หัวเข่าของอัศวินดำ แม้กระทั่งเกราะที่แข็งแกร่งก็ไม่สามารถทนทานต่พลังออร่าที่เฉียบคมได้ ทำให้ชิ้นส่วนโลหะได้ระเบิดออกมา อย่างไรก็ตามมันไม่ได้จบลงเพียงแค่1หรือ2 10ครั้ง 20ครั้ง 100ครั้ง 1000ครั้ง.....
หวืด!
อัศวินดำนั้นอึดทนเกินไป เขาเหวี่ยงดาบไปรอบๆตัวเขาและทนต่อการล้อมกรอบของแรนดอล์ฟ เพียงการโจมตีครั้งเดียวของเขามันมากพอที่จะฆ่าแรนดอล์ฟ แรนดอล์ฟเป็นนักดาบที่เน้นเพียงแค่ความเร็วเท่านั้น ร่างกายของเขาร่ายรำอย่างสง่างาม มันราวกับว่าเขากำลังร่ายรำอยู่ใกล้ๆเคียวของยมฑูต เพียงความผิดพลาดครั้งเดียวมันจะส่งให้แรนดอล์ฟลงนรก
“อะ-โอ้!”
“น่าทึ่งมาก....!”
ผู้ชมต่างหลุดร้องออกมาอย่างชื่นชม พวกเขาคาดหวังว่ามันจะเป็นความบันเทิงที่เป็นการไล่ฆ่าอยู่ฝ่ายเดียว แต่การต่อสู้นั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าที่พวกเขาจินตนาการ การเผชิญหน้าระหว่างนักดาบมักจะน่าเบื่อ เหล็กและเหล็กที่ปะทะกันอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะพบช่องโหว่ของอีกฝ่าย เป็นการยากที่จะเห็นการต่อสู้ที่เหมาะสมระหว่างผู้ใช้ออร่า
ไม่สิ มันยิ่งกว่าหายาก การบอกว่าไม่สามารถเห็นได้ถึงจะเหมาะสมกว่า
‘พวกโง่ ถ้าฉันไม่ได้อยู่ที่นี่ ไม่รู้หรือไงว่าพวกแกจะตายไปมากกว่า5ครั้งแล้ว’ธีโอดอร์ถอนใจเมื่อมองไปรอบๆขณะที่ปัดป้องคลื่นกระแทก
เขาสามารถบอกได้เพราะว่าเขาได้พบกับบุคคลระดับสูงสุดมาหลายครั้งแล้ว ตอนนี้ ทั้งสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขาเกือบจะอยู่ในระดับปรมาจารย์ดาบ แม้จะไม่ใช่ปรมาจารย์ดาบอย่างสมบูรณ์ แต่พวกเขาก็ยังคงเป็นอันตรายต่อคนธรรมดา
คลื่นกระแทกยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจากความหนาแน่นของพลังออร่าระดับสูงที่ปะทะกัน คลื่นกระแทกนั้นมีพลังมากพอที่จะป่นหินให้กลายเป็นฝุ่น นี่ไม่ใช่การต่อสู้ที่คนอ่อนแอสามารถเฝ้าดูได้ ธีโอต้องการที่จะปลดปล่อยเวทย์ป้องกันและจดจ่ออยู่ที่การต่อสู้ แต่ภัยพิบัติจะเกิดขึ้นหากเขาทำเช่นนั้น
ในสถานการณ์เช่นนี้ ธีโอดอร์ถูกบังคับให้อดทน
“ฮ่า ความสามารถที่ยอดเยี่ยม....!นายจ้าง คุณไปหานักดาบคนนี้มาจากไหนกัน?”
ในทางกลับกัน กิบรานั้นถูกทำให้ตกตะลึงกับความสามารถของนักดาบซอมซ่อนั่น เขาคิดว่านายจ้างของเขาพึ่งจะจ้างคนรู้จักของเขา แต่ทหารรับจ้างนั้นกลับมีความสามารถที่จะต่อกรกับอัศวินดำได้
ธีโอดอร์ตอบกลับด้วยท่าทางที่หลีกเลี่ยงไมได้ “ฉันจะไม่บอกคุณ”
“อะ-อะไร?”
“เฝ้าดูต่อไป”
ธีโอดอร์หันหน้าหนีไปจากการแสดงออกที่ขมขื่นของกิบราและเฝ้าดูการต่อสู้ อัศวินแห่งความตายนั้นเป็นสิ่งที่มีเพียงเนโครแมนเซอร์ระดับสูงเท่านั้นที่จะสามารถสร้างได้ด้วยเวทมนต์ดำ การแสดงออกของแรนดอล์ฟกลายเป็นน่ากลัวขณะที่เขาเผชิญหน้ากับความเสียเปรียบ
ราวกับการโกหก ธีโอดอร์นั้นสามารถสังเกตเห็นถึงกระแสพลังของแรนดอล์ฟได้โดยไม่ยากนัก...’เขายังไม่ได้อยู่ในระดับปรมาจารย์ หากแรนดอล์ฟได้ปลุกความสามารถของพลังออร่าแล้วละก็ การต่อสู้คงจะสิ้นสุดไปแล้ว’
ความสามารถของพลังออร่า นั้นเป็นความพิเศษที่ไม่เหมือนใครสำหรับปรมาจารย์ดาบซึ่งอาจจะเหนือกว่าเวทมนต์ บางคนนั้นสามารถตัดผ่านมิติได้ บางคนสามารถควบคุมแรงโน้มถ่วงได้ บางคนสามารถลบวิญญาณได้ หากมีปรมาจารย์ดาบ1000คน ก็จะมีความสามารถ1000ประเภท ผู้คนจะถูกตัดสินได้ว่าเป็นปรมาจารย์ดาบหรือไม่โดยอาศัยความสามารถที่ถูกปลุกนี้
ถ้าหากแรนดอล์ฟเป็นปรมาจารย์ดาบที่สมบูรณ์แบบ การต่อสู้ครั้งนี้คงจะไม่ลากมายาวนานเช่นนี้ อัศวินดำจะสูญเสียหัวของมันและล้มลงไปบนพื้นตั้งแต่10นาทีก่อนแล้ว อย่างไรก็ตามอัศวินดำเองก็ไม่ได้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์เช่นกัน
‘ถ้าฉันไม่เห็นมัน ฉันคงจะแทรกแซงการต่อสู้แล้ว....แต่ฉันไม่คิดว่าไอระยำนี่จะช่วยไอแซคได้’ธีโอดอร์หัวเราะขณะที่เขามองไปยังอัศวินดำ
กลุ่มการค้าออร์คุสจะกลายเป็นเป้าหมายของทั้งทวีปหากรู้ว่าพวกเขาข้องเกี่ยวกับเวทมนต์ดำ มันเป็นเหตุผลสามข้อที่ข้อได้เปรียบของอัศวินแห่งความตายถูกผนึกเอาไว้ : ความเป็นอมตะของอันเดท:พลังออร่าสีขาวซึงเป็นสัญลักษณ์ของความตาย:และเวทมนต์สีดำซึ่งเป็นพลังโดยกำเนิดของอันเดทชั้นสูง
ตอนนี้ ด้วยความสามารถที่ถูกผนึกเอาไว้ พลังที่ไม่สมบูรณ์ของแรนดอล์ฟก็เพียงพอแล้วที่จะชนะการต่อสู้!
“…ได้โปรดละ หัวหน้าแรนดอล์ฟ”
แรนดอล์ฟนั้นมีข้อได้เปรียบ แต่มันจะเป็นการดีที่สุดหากเขาชนะการต่อสู้นี้อย่างใสสะอาด
ด้วยวิธีนี้ ธีโอดอร์จะสามารถได้รับสร้อยคอของชาล็อต และขัดขวางกลุ่มการค้าออร์คุสได้
หลังจากนั้น10นาที ผู้ชนะของการต่อสู้ตัวต่อตัวก็ได้ถูกตัดสิน
***
แก๊ง!
กลยุทธ์ของแรนดอล์ฟนั้นเป็นเรื่องง่ายมาก เขาเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องด้วยความเร็วที่รวดเร็วอย่างมากและสร้างความเสียหายเล็กน้อยหลายๆครั้ง มันเป็นการโจมตีที่ไม่ร้ายแรงพอที่จะก่อให้เกิดความตายได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าหากเขามุ่งเน้นไปที่การโจมตีละก็ดาบฟัลคอนของเขาคงจะไม่สามารถป้องกันดาบใหญ่ของอัศวินดำได้
ในขณะนั้น ชุดเกราะของอัศวินดำก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นเศษเหล็ก อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่าการรุกโจมตีของเขามีผลต่ออัศวินดำหรือไม่....
“โง่เง่าจริงๆ”ไอแซคพึมพำด้วยรอยยิ้มขณะที่เขาอ่านความตั้งใจของแรนดอล์ฟออก
ไม่เหมือนกับมนุษย์ อัศวินดำนั้นไม่มีความเมื่อยล้า ไม่สิ การสะสมความเสียหายไม่เป็นประโยชน์อะไรเลยเพราะอัศวินดำนั้นไม่มีเลือดออก จุดที่ไม่สามารถฟื้นฟูร่างกายได้คือส่วนที่ไม่สามารถซ่อนได้ เช่นแขนและขา อย่างไรก็ตามกล้ามเนื้อโครงร่างที่หุ้มเกราะนั้นสามารถสร้างใหม่ได้
ดังนั้น ไอแซคจึงแสดงสีหน้าเยาะเย้ยบนใบหน้าของเขา
อย่างไรก็ตามใบหน้าที่ผ่อนคลายของไอแซคก็ต้องบิดเบี้ยวเมื่อเขาสังเกตถึงสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด
ปึก!
อีกครั้งที่ดาบของแรนดอล์ฟได้ปะทะ และชุดเกราะตรงอกของอัศวินดำก็ได้แตกออกเป็นรูกว้าง มันมีประสิทธิภาพมาก ชุดเกราะนั้นถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องและได้ถึงขีดจำกัดของมัน แน่นอนผิวหนังของอัศวินดำนั้นยังไม่เป็นไร แต่นั้นไม่ใช่ปัญหา
“มะ-ไม่ นี่ไม่สามารถดำเนินการต่อ...!”ไอแซคเปลี่ยนเป็นหน้าซีดขณะที่เขาสังเกตเห็นถึงสถานการณ์ที่บานปลาย
อัศวินแห่งความตายนั้นคืออันเดท ด้วยร่างกายที่มีผิวขาวซีดราวกับศพที่อยู่ภายใต้ชุดเกราะ ทุกคนจะสามารถตระหนักได้ถึงสีนั่น จะเกิดอะไรขึ้นหากดาบของแรนดอล์ฟได้ทำลายชุดเกราะทั้งหมด?ไม่สิ หากหมวกถูกทำลาย?ข่าวลือที่ว่ากลุ่มการค้าออร์คุสข้องเกี่ยวกับเวทมนต์ดำจะแพร่กระจายไปทั่วทุกหนแห่ง
มันเป็นสถานการณ์ที่เขาต้องหยุดให้ไม่ได้ไม่ว่าจะยังไง
[เทพแห่งความตาย อัศวินผู้รับใช้ทานาทอส!]ไอแซครีบส่งข้อความไปยังอัศวินดำ เขาต้องการที่จะมอบความไว้วางใจมันโดยการกระทำที่เป็นอิสระเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ว่าอัศวินแห่งความตายต้องไม่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ
[ฆ่าเขาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้!]
แรนดอล์ฟนั้นเป็นนักดาบผู้ที่ไม่มีพรสวรรค์ใดๆยกเว้นการวิ่งหนี ดังนั้นไอแซคจึงเชื่อว่าอัศวินแห่งความตายจะสามารถตัดหัวเขาได้โดยไม่ยากหากใช้พลังอำนาจทั้งหมดของมัน
อย่างไรก็ตาม ไอแซคนั้นได้มองข้ามสิ่งหนึ่งไป กลยุทธ์ของอัศวินแห่งความตาย ผู้ที่เคยเป็นนักดาบชั้นสูงเมื่อเขามีชีวิตอยู่ ไม่ใช่สิ่งที่วอร์ล็อคควรเข้าไปยุ่ง หากความภูมิใจของอัศวินแห่งความตายนั้นยังอยู่ เขาคงจะขู่คำรามใส่คำสั่งที่โง่เขลานี่
แต่โชคร้าย อัศวินแห่งความตายนั้นคืออันเดทผู้ที่ทำตามคำสั่ง และไอแซคคือวอร์ล็อคผู้ที่มอบคำสั่ง ตามคำสั่งนั้น อัศวินแห่งความตายก็ได้ยกดาบใหญ่ขึ้นเหนือหัวของเขา แรงกดดันของดาบที่ตอนแรกมีเจตนาอยู่ที่การป้องกัน ได้กลับแปรเปลี่ยนเป็นตรงกันข้าม อากาศกลายเป็นหนักอึ่งจากแรงกดดันของอัศวินแห่งความตาย แรงกดดันมันน่ากลัวกว่าก่อนหน้านี้แบบเทียบไม่ติด
“...อันที่จริง มันเป็นแค่กระป๋อง”แรนดอล์ฟหัวเราะให้กับการตัดสินใจที่โง่เขลา
ฟุ้บ แขนของแรนดอล์ฟได้ขยับด้วยความเร็วไปที่น่าขนลุก
นี่เป็นทักษะที่ไม่สามารถใช้งานได้หากอัศวินดำนั้นยังคงตั้งท่าป้องกันเช่นก่อนหน้านี้ แรนดอล์ฟได้ใช้ประโยชน์จากความผิดพลาดของไอแซค ไม่ใช่อัศวินดำ การป้องกันที่สมบูรณ์แบบได้ถูกรบกวน และสร้างช่องโหว่ที่ร้ายแรง
นักดาบทุกคนต่างไม่พลาดโอกาสที่น่ายินดีเช่นนี้
“-ฝนดาบ”
มันเป็นชื่อของดาบคู่ที่แรนดอล์ฟได้รับมาจากดันเจี้ยนของเอลเดอร์ลิช ซึ่งเป็นดาบของบรรพบุรุษของเขา อดอล์ฟแห่งตระกูลโคลวิส ตอนนี้แรนดอล์ฟได้ใช้เทคนิคซึ่งสูญหายไปเป็นเวลา200ปี
เขาใช้ Thunder Stroke อีกนัยหนึ่ง เขาได้ใช้ lightning strike สามครั้งรวด ครั้งแรกเขาได้โจมตีแบบจ้วงแทงตรงๆ
ฟุ้บ!
ดาบซ้ายของแรนดอล์ฟได้เปลี่ยนเป็นสายฟ้าฟาด มันเล็งไปที่จุดตายเช่นสมองและหัวใจ แม้ว่าจุดตายนั้นจะไม่มีประโยชน์สำหรับอัศวินแห่งความตาย
อัสวินแห่งความตายนั้นโต้ตอบด้วยการลดดาบลง แต่เขาช้าไปครึ่งก้าว ดาบฟัลคอนนั้นได้มาถึงก่อนที่ดาบใหญ่จะลดลงมาทันและถอยหลับไป
การฟาดฟันครั้งที่สอง ได้แยกออกสองสายเป็นแนวทแยง(แนวขวางแบบตัวxอะครับ)
ตั้งแต่สมัยโบราณ เทคนิคที่ทรงพลังที่สุดก็คือการฟันเป็นแนวทแยง ข้อเสียก็คือวิถีดาบนั้นเป็นเรื่องง่ายที่จะหลบและจะก่อให้เกิดช่องว่างขนาดใหญ่หลังจากใช้มันเสร็จ ดังนั้นมันจึงยากที่จะใช้เว้นแต่คุณจะมั่นใจว่าคุณจะโจมตีเป้าหมายได้
สายฟ้าสีน้ำเงินได้เล็งไปที่คอของอัศวินดำ
แก๊ง!ฉึบ...!
แม้กระนั้นก็ตาม อัศวินดำนั้นก็สามารถป้องกันการโจมตีได้ ดาบใหญ่ในมือขวาได้ป้องกันดาบซ้ายของแรนดอล์ฟ ขณะที่มือซ้ายของเขาได้ป้องกันดาบที่มุ่งเป้ามาทึ่คอของเขา
แน่นอนว่าราคาของการกระทำนั้นไม่ใช่ถูก ดาบของแรนดอล์ฟได้มุ่งยังข้อมือของอัศวินแห่งความตายและฉีกมันออกจากต้นแขนอย่างรุนแรง หลังจากที่ป่นแขนด้วยพลังออร่า ดาบฟัลคอนก็ได้ฟันไปที่ข้อศอกของอัศวินแห่งความตาย
แรนดอล์ฟยิ้มให้กับการป้องกันนั่นและกล่าว “ยังคงเหลืออีกข้างหนึ่ง”
มันเป็นเทคนิคที่เป็นไปได้สำหรับนักดาบคู่ การปิดกั้นอาวุธของศัตรูด้วยดาบข้างหนึ่งขณะที่โจมตีไปยังจุดอ่อนของผู้อื่น....และการโจมตีครั้งที่สามนั้นไม่มีอยู่ในนักดาบทั่วไป
และการฟาดฟันครั้งที่สาม เป็นการฟันแนวนอน
ด้วยการเร่งความเร็วจากสภาพหยุดนิ่ง ดาบซ้าย ที่ซึ่งหยุดนิ่งหลังจากทำหน้าที่ของมันในการขวางกั้นดาบใหญ่ ก็ได้เคลื่อนไหวอย่างฉับพลัน ดาบใหญ่ที่ถูกปัดออกไปนั้นยังไม่กลับมา นั่นหมายความว่า ไม่มีทางที่อัศวินดำ ผู้ซึ่งเสียแขนขวาไปจะหยุดยั้งการโจมตีครั้งนี้ได้
ปราศจากการต้านทานใดๆ ดาบที่ปกคลุมไปด้วยพลังออร่าของแรนดอล์ฟก็ได้มุ่งเข้าใส่ด้านที่ไร้การป้องกันของอัศวินดำ และตัดมันจากอีกด้านจนถึงอีกด้าน!
การโจมตีของแรนดอล์ฟ ที่ซึ่งไม่สามารถป้องกันหรือหลีกเลี่ยงได้ ได้แบ่งร่างของอัศวินดำออกเป็นสองส่วน