ตอนที่ 29 ฟาสกับเด็กๆ
ฉันหันหลังไปดูเพราะว่าอะไรทำให้ฉันเสียวสันหลังก็ไม่รู้ มันเหมือนมีคนมองฉันอยู่ตลอดเวลาเลย แต่เมื่อหันไปมองฉันก็ไม่พบกับใครเลยนะ สงสัยว่าฉันจะคิดไปเองก็เท่านั้นล่ะมั้ง ฉันใช้เวลาทำเค้กดูหนังดูอะไรไปเรื่อยเปลื่อยที่นี่ แต่ทุกคนก็ยังไม่กลับมาสักทีมันทำให้ฉันง่วงมาก ฉันรอพวกเขาไม่ไหวเลยต้องไปที่ห้องของตัวเองเพื่อที่จะไปนอนก่อน เมื่อฉันหัวลงถึงหมอนฉันก็หลับไปเลย หลับยาวไปเลย //ตึก ตึก ตึก// เสียงอะไรบางอย่างทำให้ฉันตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงีย เมื่อมองไปรอบๆก็เหมือนกับว่ามีใครบางคนกำลังอุ้มฉันเอาไว้อยู่ ตัวใหญ่และแข็งแรงมาก แล้วใครที่กำลังอุ้มฉันไว้อยู่เนี่ย
“นายเป็นใครอะทำไมมาอุ้มฉันเอาไว้แบบนี้”
ฉันถามเขาไปด้วยความสงสัยแต่เขาก็ไม่ตอบฉัน เสียงเดินที่ดังตึกตึกตึกเพราะว่าเท้าของเขามันใหญ่มาก ใหญ่กว่าเท้าช้างอีกมั้ง ทำยังไงดีอะเขาจะพาฉันไปที่ไหนกัน ที่นี่มันก็เป็นป่าลึกด้วยมันไม่มีคนอยู่เลยนะ ใช่ฉันสามารถที่จะใช้แหวนได้นี่นาฉันใช้มันเลยตอนนี้ดีกว่าไหม
“ถ้านายไม่ตอบฉันจะใช้พลังแล้วนะ” ฉันพูดข่มขู่เผื่อว่าเขาจะยอมหยุดและปล่อยฉันลง แต่ว่าเขาไม่ทำแบบนั้นเขายังเดินหน้าต่อไป งั้นฉันใช้เลยก็แล้วกันแล้วมันใช้ยังไงเนี่ย ฉันใช้มันไม่เป็นอะหรือว่ามันต้องใช้พลังจิตอีกแล้วเนี่ย ฉันจะใช้แหวนฉันจะใช้แหวน ฉันพยายามพูดในใจเพื่อที่จะให้ใช้พลังจากแหวนได้ และมันสามารถทำได้จริงๆแหวนเริ่มเป็นสีฟ้าอมดำ จากนั้นทุกอย่างก็เริ่มมืดลงแล้วเกล็ดน้ำแข็งก็เริ่มโปรยลงมา ความรู้สึกแบบนี้อีกแล้วความรู้สึกที่เย็นชาและไม่รู้สึกอะไรเลยมันเกิดขึ้น
“ถ้าแกไม่ปล่อยฉัน ฉันจะฆ่าแกแล้วฉีกเนื้อเป็นชิ้นๆ ก่อนจะเอาให้กับสัตว์เลี้ยงของฉันกิน”
ฉันพูดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวมันพูดขึ้นมาเอง ฉันรู้สึกว่าร่างกายของฉันต้องการการปะทะเป็นอย่างมาก และมันได้ผลเขาหยุดลงก่อนจะปล่อยฉันลงมา ฉันมองไปที่ตัวของเขาและควบคุมเกล็ดน้ำแข็งให้เปลี่ยนเป็นดาบน้ำแข็งก่อนจะจี้ไปที่คอของเขา
“อย่าทำอะไรพี่ชายของพวกหนูนะ” เสียงของเด็กคนหนึ่งได้ดังขึ้นมาจากในป่า เด็กทุกคนต่างพากันเดินเข้ามาหาฉันพร้อมถือไม้แท่งเล็กมาตีฉัน แต่มันไม่เจ็บเลยเพราะเด็กพวกนี้ยังดูเด็กอยู่มาก แรงของเด็กเลยไม่ทำให้ฉันเจ็บ ฉันพยายามควบคุมสติตัวเองแล้วกลับมาเป็นเหมือนเดิม เพราะไม่อยากทำร้ายเด็กพวกนี้
“นายจับฉันมาทำไม นายเป็นใครทำไมอยู่ที่นี่ได้”
ฉันถามเขาไปด้วยความสงสัยเพราะว่าที่นี่พ่อของเลบอกว่าไม่มีใครรู้ แล้วคนนี้มันเป็นใครทำไมถึงรู้ได้ และเขาจะอุ้มฉันไปที่ไหนกัน
“พี่ฉันพูดไม่ได้เขาโดนตัดลิ้นไป เขาพยายามช่วยเธอจากใครบางคนที่กำลังจะฆ่าเธอในบ้านหลังนั้นนะ”
ใครกันที่พยายามจะฆ่าฉันในบ้านหลังนั้น
“ขอบใจนะที่ช่วยฉันไว้ ฉันขอโทษก็แล้วกันเพราะว่าฉันไม่รู้ แล้วเธอรู้หน้าตาของคนที่จะฆ่าฉันได้หรือป่าว”
เด็กคนนั้นมองไปที่ผู้ชายที่เป็นใบ้ก่อนที่เขาจะพยักหน้าและทำมือบอกอะไรบางอย่าง
“เขาบอกว่าเป็นคนที่ตัดลิ้นของเขา ผู้หญิงผมทองคนหนึ่ง ที่ยิ้มแล้วรู้สึกเสียวสันหลังวาบๆเลย”
หรือว่าเป็นพี่สาวของเมสกันนะ แล้วทำไมเขาถึงรู้ว่าพวกเราอยู่ที่นี่ล่ะ
“พี่ชายบอกว่าถ้าเกิดพี่ชายไม่ได้อยู่แถวนั้นเธอตายไปนานแล้ว ที่เขาช่วยชีวิตเธอได้เพราะว่านั่นไม่ใช่ร่างจริงของผู้หญิงคนนั้น เขายังตัวใสอยู่น่าจะแยกร่างออกมาน่ะ”
ใช้พลังจิตแยกร่างตัวเองออกมาสินะ ร้ายกาจมากเลยนะ แต่ว่าพลังนี้จะไม่รู้ตำแหน่งจะรู้เพียงว่าคนที่จ้องยังอยู่ๆ หรือว่าตอนที่เธอฆ่าคนพวกนั้น นางแอบใช้จิตวิญญาณป้ายที่ตัวของฉันเอาไว้ แต่ช่างมันเถอะนะดีแล้วที่ยังรอดออกมา ตอนนี้คงต้องหาพลังมาคลายมนตร์นี้ออกแล้วล่ะ
“นายมีพลังไหม” ฉันถามเขาก่อนที่เขาจะพยักหน้า
“งั้นตายพูดตามฉันนะ” จากนั้นพวกเราก็ทำพิธีกันจนเสร็จ ดีนะที่นายนี่มีพลังเพราะว่าต้องให้คนที่มีพลังคนอื่นช่วยถึงจะคลายมันออกได้
“ขอบใจมากนะที่ช่วยฉันเอาไว้ ฉันไม่มีอะไรจะตอบแทนแต่มีอะไรบอกฉันได้นะ ถ้าฉันทำได้ฉันก็จะทำเป็นค่าตอบแทน”
เขายิ้มให้กับฉันพวกเด็กๆก็เช่นกัน แต่อยากจะรู้เหมือนกันว่าพวกเขามอยู่ที่นี่ได้ยังไง
“ฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหม พวกเธอมาอยู่ที่นี่กันได้ยังไงหรอ ทำไมถึงไม่ไปอยู่ในเมืองกันล่ะ”
เขาหันมามองฉัน และเริ่มทำท่าทางแสดงให้เด็กๆได้เห็น
“เขาบอกว่าตอนแรกเขาก็อยู่ที่สวรรค์ แต่มันเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นเพราะไปรู้ความลับเกี่ยวกับสวรรค์เข้า เลยทำให้ต้องถูกตัดลิ้นไปและถูกส่งลงมาที่นรก ด้วยความที่เขาเป็นฑูตของสวรรค์มาก่อนเลยไม่สามารถที่จะไปอยู่ในเมืองปีศาจได้ แต่ว่าท่านโชลิมเห็นสงสารจึงให้มาอยู่ที่นี่น่ะค่ะ”
แบบนี้เองหรอจะว่าไปก็น่าสงสารเหมือนกันนะ โดนตัดลิ้นเพราะไปรู้เรื่องของทางนู้น แต่ไม่คิดเลยว่าสวรรค์จะน่ากลัวขนาดนี้ ยิ่งกว่านรกซะอีก
“แล้วพวกหนูเจอกันกับพี่ชายได้ยังไงจ๊ะ” ฉันถามไปเพราะความสงสัย
“พี่ชายบอกว่า เมื่อได้มาถึงที่นี่แล้ว พี่ชายก็พยายามสร้างบ้านอยู่แถวนี้และหาอะไรกินในป่า จนไปพบกับไม้ไฝ้ต้นใหญ่มาก เขาจึงตัดมันจนล้มแล้วก็มันก็มีเมล็ดงอกออกมาสิบสองเม็ด เขาเลยเก็บมันมาเพื่อที่จะเอามันมาปลูกใกล้ๆบ้านเขาจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเดินไปให้ไกล แต่แล้วพอปลูกเขารดน้ำอะไรเสร็จแล้ว พวกเราก็ผุดออกมาจากดินจนมีพวกเราตอนนี้นี่แหละค่ะ พี่ชายเลยรับเลี้ยงพวกเราเอาไว้น่ะค่ะ”
พ่อใจบุญช่างเป็นคนที่มีเมตตาจริงๆเลย ฉันฟังไปน้ำตาก็แทบจะไหลออกมา ทำไมคนดีๆถึงหน้าสงสารขนาดนี้ล่ะ เมสซีเรียเห็นสวยแบบนั้นแต่เป็นผู้หญิงที่จิตใจเลวต่ำตมเหลือเกิน
“เข้ามานอนที่บ้านของพวกฉันก็ได้นะ มีที่เยอะแยะเหลือเฟือให้ได้นอน แถมมีของกินอีกไม่ต้องเกรงใจนะ”
เด็กๆทำตาประกายใส่ฉันก่อนที่พวกเขาจะดีใจพากันกอดคอกัน และแน่นอนคนที่ดีใจที่สุดคงเป็นผู้ชายคนนั้น ระหว่างทางที่เดินกลับบ้านกันอยู่นั้น
“ชื่ออะไรหรอนายอะ” ฉันถามชื่อของเขาไปเพราะว่าฉันอยากจะรู้
“พี่ชายชื่อว่าฟาสเตอร์ เรียกฟาสก็ได้ครับ” เด็กผู้ชายหัวเห็ดได้พูดขึ้น
“แล้วพี่สาวชื่ออะไรหรอครับ” เด็กผู้ชายหน้าหวานถามฉัน
“พี่ชื่อเบอร์รินจ๊ะ” ฉันตอบเด็กๆไปพร้อมกับยิ้มให้ พวกเราใช้เวลาไม่นานนักในการเดินไปจนถึงบ้านที่ฉันอยู่ เมื่อเปิดประตูเข้าไปทั้งดาบทั้งมีดทั้งอะไรต่างมาจ่อที่หน้าของฟาส
“แกเอาเมียฉันไปไหน แล้วแกเป็นใครทำไมถึงลักพาตัวเมียของฉันไป/ใช่ครับ/ใช่แล้ว”
ฉันรีบจับมีดจับดาบของทุกคนลง เหงื่อของฟาสแตกออกมาเป็นน้ำตกเลย เด็กๆต่างพากันกลัวที่เห็นสิ่งนั้น ทุกคนเก็บมีดกันเพราะเห็นว่ามีเด็กอยู่ด้วย
“เขาไม่ได้ลักพาตัวฉันไปเขาช่วยฉันเอาไว้ต่างหาก ทุกคนใจเย็นๆกันก่อนได้ไหมเนี่ย”
เลย์ถอนหายใจยาวๆแล้วเดินมาหาฉันก่อนจะดึงฉันเข้าไปกอด
“ฉันนึกว่าเธอเป็นอะไรซะแล้ว ดีแล้วที่ไม่เป็นอะไร พวกเด็กๆก็เข้ามากันก่อนสิ”
จากนั้นทุกคนก็พากันเข้ามาในบ้าน ฉันจัดแจงอาหารให้กับเด็กๆและฟาส แต่ละคนต่างพากันกินเหมือนว่าไม่ได้กินอะไรกันมานานแล้ว เห็นแล้วฉันก็ยิ้มออกมาเพราะว่าเด็กๆดูเหมือนที่จะมีความสุขกันมากเลย
“เรื่องมันเป็นแบบนี้นี่เอง นายคงโดนท่านหญิงตัดลิ้นมาสินะ ไม่ใช่แค่นายหรอกหลายคนก็โดนเยอะแยะ แต่บางคนอาจจะตายเลยก็ได้ ดีแค่ไหนแล้วที่นายรอดมาน่ะฟาส”
ดาโล่พูดขึ้นก่อนที่จะโชบาดแผลตามร่างกายของเขาให้กับพวกเราได้ดู นี่มันอำมหิตสุดๆไปเลยนะยัยคนนี้น่ะ ไม่เชื่อเลยว่าจะทำแบบนี้กับลูกน้องตอนเอง ลอยแผลที่เต็มไปทั้งร่างกาย ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นคนโดนทำร้ายร่างกายขนาดนี้มาก่อนเลยนะ
“เด็กๆกินข้าวกันเสร็จแล้วเราไปเล่นกันนะครับ”
เหมือนว่ามาคาโอจะเข้ากับเด็กดี แล้วที่รักของฉันเป็นยังไงบ้างนะ ฉันมองไปที่เลก่อนที่จะกลั้นหัวเราะ เหมือนว่าเลจะไม่ชอบเด็กนะแต่เด็กมันชอบเลพากันเล่นหัวเลกันใหญ่เลย เลมองมาที่ฉันแล้วทำหน้าบึ้งใส่ฉัน
“มองอะไรที่รัก -*-” เห็นแล้วกก็อดหัวเราะไม่ได้จริงๆนะเนี่ย ฮ่า ฮ่า ฮ่า เลเดินมาแล้วก็อุ้มฉันเอาไว้
“ถ้าหัวเราะอีกเค้าจะทำมันตรงนี้ให้เด็กมันเห็นเลยเอาไหม”
จะทำอะไรจะบ้าหรอเด็กอยู่เยอะแยะเนี่ย หน้าของฉันเริ่มแดงเมื่อได้ยินสิ่งที่เลพูดออกมาเมื่อตะกี้นี้ เด็กๆเริ่มมองมาที่เราแล้วทำหน้าตาแปลกๆใส่พวกเรา
“พอแล้วๆเด็กมองหมดแล้วฉันไม่หัวเราะก็ได้” ฉันพูดขึ้นเพราะว่าอายเด็กๆ จากนั้นเลก็ปล่อยฉันลง
“แล้วเป็นยังไงบ้างได้ทำอะไรมาบ้างอะพวกนาย” ฉันถามด้วยความสงสัย
“ฉันไปคุมกองทัพของเราแล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะโดนยัยนั่นฆ่าไปเกือบเกลี้ยงเลยแหละ เหลือไม่กี่คน ส่วนปีศาจในเมืองก็พากันอพยพไปที่อื่นแล้ว ส่วนมิติฉันเปลี่ยนไปไว้ที่หอคอยแทน และเรื่องคลังสินค้าให้ดาโล่ไปดูก็พบว่าที่นั้นมีเทพพิทักษ์คอยคุมอยู่หน้าประตู คิดว่าต้องใช้สองคนในการฆ่าน่ะ แต่ว่ามันก็ยากเหมือนกันเพราะว่ากว่าจะล้มตัวหนึ่งได้เจ้าพวกนั้นคงรู้หมด เรามีแผนของเราอยู่แล้วแหละแต่ตอนนี้ยังไม่ใช้มันเพราะยังไม่ถึงเวลา รอให้เงียบลงก่อนเดี๋ยวแผนการก็จะเริ่มต้นขึ้นเอง แต่ตอนนี้พวกเราจะต้องพักผ่อนกันก่อนนะเพราะว่าไม่ไหวแล้ว เด็กๆก็เหมือนกันไปพักผ่อนกันได้แล้วมันเช้าแล้วนะ ไม่เก็บแรงพักผ่อนกันบ้างหรือยังไง ฉันไม่ใช่คนรักเด็กนะจะบอกให้”
จากนั้นเลก็ขยับนิ้วก่อนที่เด็กๆจะพากันลอยขึ้นแล้วก็ถูกย้ายเข้าไปในห้องก่อนปิดประตูขังเด็กเอาไว้ ใจร้ายชะมัดเลยนะเนี่ย
“งั้นนายก็ไปดูเด็กเข้านอนก็แล้วกันนะฟาส ส่วนพวกเราจะไปพักผ่อนกันก่อนแล้วล่ะ”
ฟาสพยักหน้าแล้วพวกเราก็ต่างพากันไปคนละห้อง แต่กูเหมือนมาคาโอจะเข้าไปดูเด็กก่อน มาคาโอคงจะชอบเด็กหน้าดูเลยสินะ ก็เด็กพวกนั้นมันน่ารักนี่นา ไม่ทันไรเลก็อุ้มฉันขึ้นมาอีกแล้วเอาแรงมาจากไหนอุ้มคนที่หนักเกิดห้าสิบสามอย่างฉันได้เนี่ย เขาอุ้มฉันแล้วพาฉันไปที่ห้องก่อนจะวางฉันลงบนเตียง แล้วคล่อมฉันจับแขนทั้งสองข้างของฉันเอาไว้ ก่อนจะจูบมาที่ปากของฉัน มันทำให้ฉันหมดเลี่ยวหมดแรงเมื่อเขาทำแบบนี้
“วันนี้ขอเป็นวันของฉันนะที่รัก” และเราสองคนก็..