ตอนที่ 27 ความสุขที่หาได้ยาก
“ตื่นได้แล้วนะครับคุณหญิงวันนี้มีงานพิเศษที่คุณหญิงจะต้องลุกขึ้นนะครับ”
ฉันตื่นมาเพราะมีใครบางคนปลุกฉันขึ้น เมื่อฉันลืมตาฉันก็พบกับมาคาโอที่กำลังยิ้มกลุ้มกลิ่มอยู่ ทำไมทำหน้าแบบนั้นมีอะไรรึป่าว
“วันนี้มีงานอะไรหรอ” ฉันถามไปด้วยความสงสัยแต่มาคาโอก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ใส่ฉัน
“ผมว่าคุณหญิงไปดูเองดีกว่า คริคริ” แล้วมาคาโอก็เดินจากไปจากนั้นเมสเซอร์รี่ก็เดินเขามาในห้องด้วยสีหน้าที่เหมือนกับมาคาโอเลย
“ไม่รีบแต่งตัวล่ะเอานี่ฉันเอาชุดมาให้ ชุดนี้สั่งตัดมาเลยนะขอบอก เร็วๆรีบแต่งงานจะเริ่มแล้วแขกมากกันตั้งเยอะตั้งแยะยัยมนุษย์ * ^*”
ลุกก็ได้แต่ทำไมวันนี้มันดูแปลกๆจังเลยมันเกิดอะไรขึ้น ฉันงัวเงียลุกขึ้นมาแล้วก็เดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อจะมาแต่งตัวแต่งท่าแต่งผม เมื่ออาบน้ำทำอะไรเสร็จฉันก็เดินออกมาจากห้องน้ำเพื่อที่จะมาแต่งตัว แล้วฉันก็ต้องยืนงงกับผู้หญิงที่มากมายไม่รู้ใครบ้างมายืนอยู่ในห้องฉันเต็มไปหมดเลย
นี่งานหยาบเลยนะคะท่านเมส ดูสิคะดูผมดูเนื้อตัวสิคะหยาบก้านไปหมดเลย สงสัยวันนี้ต้องจัดหนักกกันแล้วล่ะค่ะ”
นี่เขาไม่ได้ว่าฉันใช่ไหมฉันมองมาที่ตัวกับผมของตัวเองก่อนจะจับมัน ก็ไม่ได้แปลกอะไรเลยนี่นาทำไมต้องว่ากันถึงขนาดนั้นด้วย
“จัดการเลยเอาให้สวยเป๊ะงานนี้สำคัญมาก” พวกเธอทั้งหลายกูกันเข้ามาหาฉัน ทำอะไรกับฉันก็ไม่รู้โคตรที่จะวุ่นวาย ซึ่งฉันก็ยังงัวเงียและก็ยังไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น อย่างแรกพวกเธอทั้งหลายเอาเครื่องอะไรมาก็ไม่รู้ มาตั้งไว้ตรงกลางห้องเต็มไปหมดเลย แล้วมีคนหนึ่งที่ใส่แว่นหน้าเป๊ะหัวฟูๆสีส้มๆเดินเข้ามาหาฉันก่อนจะพาฉันไปนั่งในเครื่องบ้านั่น แล้วก็ปิดฉันขังไว้ในนั้นก่อนจะยิ้มที่มุมปาก
“พวกเราเริ่มทำการฉายแสง เปลี่ยนสีผิวให้ขาวขึ้น นับถอยหลังหนึ่ง..สอง..สาม”
//วิ๊ง วิ๊ง ปิ้ววว// มีอะไรบางอย่างมาปิดตาของฉันเอาไว้ก่อนที่จะได้ยินเสียงเหมือนเครื่องกำลังทำงาน ทุกอย่างมืดมากฉันมองไม่เห็นอะไรเลย แล้วลมก็เริ่มปลิวขึ้นมาจากใต้เท้าของฉัน ใช้เวลาไม่นานทุกอย่างก็หยุดลง //แฟรบ// เสียงเหมือนประตูของเครื่องนี้ได้เปิดออกและผ้าก็ได้ปลิวออกจากตาของฉัน ฉันมองไปข้างหน้าทุกคนต่างใส่แว่นกันแดดกันหมด จากนั้นก็มีผู้หญิงอีกสองคนจับฉันเอาไปนั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้งแล้วเจ๊หัวฟูก็เริ่มทำการควงกรรไกรมา
“เดี๋ยวฉันจะเอาทรงที่เข้ากับหน้าท่านหญิงที่สุดนะคะ ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฮี่ ฮี่”
ฉันยังไม่ทันที่จะพูดอะไรเลยแต่ว่าเธอก็เริ่มทำการตัดผมของฉัน ซอยไปซอยมาแล้วในตอนนี้ กว่าฉันจะไว้ผมได้ถึงขนาดนี้มันยากมากเลยนะรู้รึป่าวเนี่ย เล่นตัดซะเกลี้ยงเชียวทำแบบนี้มันเหมือนตัดเส้นใยในใจของคนชอบไว้ผมยาวทิ้งเลยนะ T^T ใช้เวลาไม่กี่นาทีมือที่เร็วของเธอทำให้ผมของฉันหายจากหัวไปอย่างไว จากนั้นเธอก็เดินมาที่ข้างหน้าของฉัน
“หลับตาค่ะจะตัดหน้าม้าให้” ฉันหลับตาลงทำตามที่เธอคนนั้นบอกจากนั้นเสียงกรรไกรที่เริ่มตัดตามผมหน้าม้าที่ยาวของฉันไปเรื่อยๆ และเริ่มใช้เครื่องรีดผมมารีดให้กับฉัน
“เสร็จแล้วค่ะท่านหญิง” ฉันลืมตาขึ้นมาก่อนที่จะมองไปที่หน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้ง มันไม่จริงใช่ไหมอะไรจะเปลี่ยนไปขนาดนี้
“ผมสั้นเข้ากับท่านหญิงที่สุดแล้วค่ะ เพราะมันทำให้หน้าของท่านหญิงดูเรียวแถมยังทำให้หน้าเด็กลงอีก บวกกับเครื่องที่ฉันสั่งทำมาเองเป็นเครื่องเปลี่ยนสีผิวและอบให้นุ่มนิ่งชุ่มชื้น พร้อมกับทำให้ผมดูไสวไปตามลมได้อย่างพลิ้ว จากที่ผิวดูหยาบก้านแห้งๆก็จะนุ่มและเด้งค่ะ ส่วนสีผิดที่ดูขาวเกินไปทำให้ซีดแล้วเหมือนผีฉันเลยปรับให้เป็นสีผิดน้ำพึ่งอมเหลืองแทนค่ะ เพราะเหมาะกับคนตัวอวบแบบท่านหญิงมากกว่านะคะ และอย่างสุดท้ายคือการใส่ชุดที่เข้ากับท่านหญิงที่สุดที่คุณเมสเอามา ยังไงมันก็สวยมากเลยค่ะลองดูนะคะ”
นี่มันใช่ฉันหรอเนี่ยนึกว่าคนละคนกันเลยพอได้ตัดผมแล้ว สีผิวที่ไม่ขาวเกินไปมันก็ทำให้ฉันดูดีขึ้นมาในระดับหนึ่งเหมือนกันนะ ฉันลุกขึ้นมาจากโต๊ะเครื่องแป้งแล้วทุกคนก็หยิบชุดที่สวยมาก เป็นชุดสีออกขาวไข่มุก ซึ่งฉันรู้สึกชอบมันนะ ทุกคนออกไปจากห้องเพื่อจะให้ฉันแต่งตัว ฉันหยิบมาจับดูเป็นชุดที่นุ่มมากและระยิบระยับมากเช่นกัน ชุดนี้เป็นชุดไข่มุกแท้เลยนี่นาราคาแสนแพงมากเลยนะที่ประเทศไทยน่ะ ฉันจับมันขึ้นมาแล้วแต่งตัวให้มันเรียบร้อย ดีนะที่ไซร์เท่ากันและความยาวเท่ากัน เลน่าจะเป็นคนสั่งมาให้ฉันเพราะเขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับฉัน ขนาดความเตี้ยของฉันเขายังรู้เลย -0- ฉันรีบใส่ชุดที่ได้มาก่อนที่จะเดินออกไปข้างนอกห้อง เมสและมาคาโอมารอฉันอยู่ที่หน้าห้องของฉัน เมื่อพวกเขามองมาที่ฉันก็ทำหน้าตาประหลาดใจ
“โอ๊ฉันไม่คิดเลยนะว่าเธอจะสวยขนาดนี้เนี่ย/ใจผมละลายเลยนะครับ”
มันเหมือนผสมคำด่าคำคำชมยังไงก็ไม่รู้อะ ฉันและทั้งสองคนพากันเดินลงไปข้างล่าง เสียงเพลงได้ดังขึ้นมา
//ตึ่ง ตึง ตึง ตึง// ฉันเดินลงไปเรื่อยๆจนกระทั่งไปหยุดตรงทางลงบันได้ตรงกลาง ทุกคนเต็มไปหมดรวม
ถึงเลที่อยู่ตรงพรมสีแดงด้วยเช่นกัน
“เดินลงไปสิเดินลงไปเลย วันนี้เป็นวันของเธอนะ” เมสพูดขึ้นก่อนจะปรบมือให้กับฉัน ทุกคนปรบมือไปตามๆกัน ฉันทำไมรู้สึกเขินๆยังไงก็ไม่รู้เวลาที่มีคนมองมาที่ฉันเยอะขนาดนี้นี้ บางคนยิ้มด้วยความยินดี แต่บางคนน่ะสิเหมือนไม่เต็มใจที่จะยิ้ม จะดีใจดีหรือป่าว เมื่อฉันเดินลงมาถึงเก้าอี้กระดูฉันก็พบกับอีกเก้าอี้หนึ่ง ที่เป็นเก้าอี้สีขาวรูปปีกซึ่งมันสวยมาก เลเดินเข้ามาหาฉัน จับมือของฉันเอาไว้แล้วพูดคำๆหนึ่งกับฉัน
“แต่งงานกับผมนะครับ..เบอร์ริน” มันทำให้ฉันพูดไม่ออกเพราะมันดีใจมาก ฉันแทบจะกลั้นน้ำตามตัวเองไม่อยู่เพราะที่ทำอยู่ในตอนนี้มันทำให้ฉันดีใจเป็นที่สุด ฉันพยักหน้าจากนั้นเลก็เอาแหวนออกมาจากหลังกระเป๋าเอามาให้กับฉัน
“แหวนนี้เป็นแหวนที่ฉันสร้างมาด้วยจิตใจและพลังวิญญาณของฉัน ฉันให้เธอเก็บเอาไว้นะ แหวนนี้เก็บทุกอย่างที่ฉันมีอยู่ในตัวเอาไว้ มันเหมือนเก็บฉันอีกคนไว้ในนั้น และฉันจะให้เธอเก็บเพียงคนเดียวนะ คนที่ผมรักที่สุด”
ฉันกลั้นน้ำตาไม่อยู่แล้ว น้ำตาของฉันไหลออกมาเมื่อเลเอาแหวนมาสวมใส่ให้กับฉัน เมื่อเขายืนขึ้นฉันก็กระโดดกอดเขาทันที //แปะ แปะ แปะ// เสียงปรบมือพร้อมกับเสียงแห่งความยินดีได้ดังขึ้นมา จากนั้นเวลาแห่งการร่ายรำและงานปาตี้ก็เริ่มขึ้น เสียงเพลงได้ดังขึ้นมาจากนั้นทุกคนก็ต่างพากันเต้นสนุกไปกับมัน ซึ่งเพลงที่เปิดนั้นเป็นเพลงของโลกมนุษย์ด้วยนะ เลคงหามาให้ล่ะมั้ง งานอลังมากแถมแขกยังเยอะอีก
“สนุกไหมที่รักของผม” เขาถามฉันก่อนที่จะโอบตัวของฉันเอาไว้
สนุกมาก ฉันดีใจมากเลยนะที่เธอทำให้ฉันขนาดนี้” เขาลูบหัวของฉันเบาๆก่อนเราสองคนจะพากันเต้นอย่างสนุกสนาน ใช้เวลาไม่นานมากนักฉันก็รู้สึกถึงอะไบางอย่าง //คอกกก// เสียงท้องของฉันร้องขึ้นมาทำให้เลย์มองมาที่ท้องของฉัน
“ฮ่า ฮ่า หิวแล้วหรอเนี่ย สงสัยไม่เตี้ยอย่างเดียวแล้วล่ะเมียผมต้องอ้วนด้วยสินะ”
ทำมาเป็นหัวเราะโหก็นายกินแล้วไม่อ้วนน่ะสิไอ้สามีบ้า ฉันจับมือของเขาแล้วเราสองคนก็พากันไปที่โต๊ะอาหารที่เรียงเต็มไปด้วยอาหารมากมาย อาหารที่เยอะแบบนี้มันทำให้ฉันท้องร้องไปหมด โซนทุกโซนจะต่างกันเพราะปีศาจแต่ละตนไม่เหมือนกัน โซนของฉันจะมีอยู่โต๊ะหนึ่งที่ประดับประดาไปด้วยความสวยงาม
“ฉันทำให้แบบพิเศษเลยนะชอบมันไหม” เลถามฉันก่อนที่ฉันจะพยักหน้าให้กับเขา พวกเราพากันไปยืนอยู่ที่
โต๊ะแถวโซนของฉันก่อนจะพากันป้อนอาหารให้กันกิน ในระหว่างที่กินอยู่นั้นฉันก็เหลือบไปมองเห็นเมสกับ
มาคาโอคุยอะไรกันบางอย่าง
“ท่านหญิงเมสครับ ให้เกียตริเต้นรำกับผมสักเพลงไหมครับ” หือชวนเมสเต้นรำอย่างนั้นหรอ เพลงจากที่เป็นเพลงสนุกสนานได้เปลี่ยนเป็นเพลงสบายๆ
“อืมก็ได้พอดีว่าฉันอยากจะเต้นพอดีเลย” เมสตอบรับด้วยหรออะไรกันสองคนนี้ จากนั้นพวกเขาสองคนก็เข้าไปในวงเต้นรำแล้วทำการเต้นรำกันอย่างสวยงาม
“ถือว่าฉันเป็นเมียของนายแล้วสินะ นายห้ามขัดอะไรฉันเด็ดขาดเข้าใจไหม”
ฉันมองไปที่หน้าของเลก่อนที่ทำหน้าใส่เขา เขาใช้มือตบที่หน้าผากของฉันเบาๆ
“นี่แหนะแหวนที่ฉันให้เธอก็ทำให้ฉันขัดอะไรเธอไม่ได้แล้วแหละคุณเมียสุดที่รักของฉัน”
ฉันลูบหน้าผากของตัวเองก่อนที่จะหัวเราะออกมา เลกอดฉันเอาไว้แน่น แต่ก็มีบางอย่างเกิดขึ้นกับที่นี่ ปราสาทได้สั่นสะเทือนไปทั่วทุกทิศ ทุกคนต่างพากันหยุดนิ่ง
“มันเกิดอะไรขึ้นน่ะเลย์” เลมองไปรอบๆเพื่อที่จะดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นฉันก็เช่นกัน //ตู้ม// อยู่ๆเสียงระเบิดก็ได้ดังขึ้นมาทำให้ฉันสะดุ้งเฮือกในทันที
“มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ยเล” เมสเดินมาพร้อมกับมาคาโอ และถามเลด้วยความสงสัย
“ฉันว่าสงครามเริ่มขึ้นแล้วล่ะ รีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า!”
เมื่อจบเสียงของเลปราสาทเริ่มมถล่ม เสียงระเบิดที่มากมายกำลังลงมาทางปราสาทแห่งนี้ สงครามกำลังจะเริ่มขึ้นจริงๆสินะ พวกเราทุกคนต่างพากันวิ่งออกมาจากปราสาทแห่งนั้น ทุกคนวิ่งหนีตายกันออกมา จนปราสาทได้ถล่มลงมาทุกอย่างหายไปเรียบ
“เราจะทำยังไงต่อดีคะที่รัก” ฉันถามเขาไปเพราะตอนนี้ฉันคิดอะไรไม่ออก
“ไปหาท่านพ่อกัน สงครามเริ่มขึ้นทุกอย่างจะต้องนองด้วยเลือดแน่ๆ ยังไงฉันจะต้องช่วยเธอเอาไว้ก่อน ส่วนคนอื่นเป็นยังไงก็ชั่ง”