ตอนที่ 23 หนอนบ่อนไส้
ฉันตื่นมาในเวลากลางคืนฉันก็พบว่าเลย์นั่งรอฉันตื่นอยู่ข้างๆเตียง
“ฉันสลบไปอย่างนั้นหรอ” ฉันถามเลย์พร้อมกับอาการปวดหัว
“เป็นอย่างไรบ้างโอเคหรือเปล่าเจ็บตรงไหนบ้างไหม อยากได้อะไรบอกฉันนะฉันจะจัดเตรียมให้เดี๋ยวนี้เลย”
ตลอดเลยนะเวลามีอะไรเกิดขึ้นกับฉันทีไรเขาจะต้องเฝ้าฉันตลอดไม่เคยที่จะนอนก่อนฉันเลยแม้แต่นิดเดียว
“จี้” เสียงของตัวอะไรบางอย่างได้ดังขึ้นมาจากล่างเตียงใต้เท้าของฉัน เมื่อฉันมองดูก็พบกับจิ้งจอกน้อยที่ฉันได้มันมา มันวิ่งมาหาฉันแล้วกระโดดใส่เลยฉันเกือบจะรับมันไม่ทันแหนะ ดูเหมือนมันจะดีใจมากที่ฉันตื่นขึ้นมาแต่ก็ไม่ใช่มันที่ดีใจนะดูเหมือนคนข้างๆก็ดีใจกับเขาด้วย
“จิ้งจอกตัวนี้เป็นสัตว์ในตำนานเลยนะฉันยังทำไม่ได้เหมือนเธอเลยแต่เธอกลับทำมันได้ พลังของเธอทำฉันประหลาดใจมากทั้งๆที่เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาเท่านั้นเอง”
เลย์พูดขึ้นเห็นสีหน้าของเลย์ก็รู้ว่าเลประหลาดใจที่มันเป็นแบบนี้ แต่ฉันไม่ค่อยจะประหลาดใจเท่าไหร่เพราะฉันไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับพวกนี้เลย
“มันยากขนาดนั้นเลยหรอเลย์ ตอนนั้นฉันแค่จับมันไว้แค่นั้นเองแล้วมันก็ฟักคามือของฉัน”
เขายิ้มขึ้นมาก่อนจะลูบหัวของฉันเบาๆ แล้วก็เดินลุกขึ้นมานั่งข้างๆกับฉันก่อนจะกอดฉันแน่นจนจะหายใจไม่
ออก
“โอเคหายคิดถึงแล้วฉันจะเล่าให้เธอฟังก็ได้ คือว่าไอ้ไข่แต่ละฟองของนางพญาฟักไข่หรือว่าภรรยาของเสี่ยวจงเนี่ย เธอเป็นปีศาจฟักไข่และจะฟักไข่ทุกๆวันราวๆหนึ่งร้อยฟอง แต่คนที่สามารถจะฟักไข่พวกนี้ได้จะต้องมีพลังขั้นต่ำเลยคือชั้นสามัญขึ้นไป และแน่นอนการฟักไข่มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยบางคนกว่าจะฟักไข่ออกมาได้ใช้เวลาหลายปีเลยนะ เพราะมันต้องดูดกลืนพลังและวิญญาณของเราไปมากกว่าจะเกิดออกมาเป็นสัตว์ที่อยู่ในใจของเราหรือว่าสัตว์ที่อยู่ในจิตใจของเรานั่นเอง ยิ่งมนุษย์เนี่ยเป็นไปได้ยากเลยที่จะฟักไข่แบบนี้ได้ ขนาดปีศาจอย่างเราๆด้วยกันยังฟักไข่ที่ไม่ใช่ไข่ในตำนานยังยากเลย แต่เธอเป็นคนแรกเลยนะที่สามารถฟักไข่ในตำนานได้โดยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ฉันว่าเธอจะต้องมีอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในตัวของตัวเธอแน่ๆ และฉันคิดว่ามันอาจจะมากกว่าพลังของฉันอีกก็ได้นะ ตอนที่เธอไปที่หอยคอยนรกเธอได้เปิดผนึกพลังของเธอออกกมาบ้างหรือป่าว”
เมื่อเลย์พูดขึ้นมันทำให้ฉันคิดถึงเรื่องตอนนั้น ตอนที่ฉันได้ฆ่าเจ้าสองตัวนั้นไปโดยที่ฉันไม่รู้ตัวเลย ฉันรู้
เพียงแต่ว่าตอนนั้นฉันไม่รู้สึกถึงความกลัวความตกใจหรือรู้สึกถึงอะไรเลย แต่รู้แค่ว่าต้องฆ่ามันไม่ให้ตายไปก็เท่านั้น หรือว่านั่นคือผนึกของจิตใจที่ต่ำลงไปถึงจุดลึกอันดำมืดกันนะ อยู่ๆตัวฉันก็สั่นขึ้นมาโดยไม่รู้สาเหตุว่ามันเป็นอะไร เลเห็นเช่นนั้นเลยจับมือของฉันเอาไว้แน่น
“ฉันว่าอยู่แล้วว่ามันต้องเป็นนั้นอย่ากลัวเลยนะเดี๋ยวมันก็ผ่านไป ตอนแรกเกิดฉันก็เป็นเหมือนเธอนี่แหละฉันไม่รู้สึก จนตอนนี้ฉันก็ไม่รู้สึกเพราะฉันใช้พลังนั้นมาเยอะมากแล้ว ฉันจะไม่ปล่อยเธอต้องมาตกอยู่ในพลังแบบนี้เหมือนฉันแน่ เชื่อใจฉันได้เลยฉันจะปกป้องเธอเองไม่ให้ใครมาทำอะไรเธอได้ เพราะว่าฉันรักเธอมาก”
ฉันมองหน้าของเลย์ก่อนจะเข้าไปกอดเขาเอาไว้แน่นๆ น้ำตาของฉันได้ไหลออกมาทั้งๆที่ฉันพยายามจะกลั้นมันเอาไว้แล้วแท้ๆเลย //กอก กอก กอก// เสียงเคาะประตูได้ดังขึ้นพวกเราสองคนมองไปที่ประตู ก่อนเลจะสะบัดมือแล้วประตูก็เปิดออก ขนาดนี้ก็ยังขี้เกียจอีกนะ
“แย่แล้วครับตอนนี้เมืองกงจิ้นอยู่ๆก็มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่เคลือบพลังมาจากไหนก็รู้ครับ พวกมันฆ่าพลทหารของเราไปมากมายเลยครับ ยากที่จะสู้ไหวและผมก็คิดว่ากองแรกของเราต้านมันพวกมันไม่อยู่แล้วล่ะครับ”
อาวุธศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้นหรอ มันจะมีของพวกนี้กันได้ยังไงล่ะในเมื่อพวกเขาเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาเท่านั้นเอง หรือว่าจะมีพวกที่มีพลังเข้าไปแฝงและช่วยเหลือคนพวกนั้นอยู่กันนะ ฉันยืนขึ้นมาแต่ว่าเลกลับจับไหล่ฉันแล้วให้ฉันนั่งลงไปที่เตียง
“ไปไหนไม่ได้นะในตอนนี้ ร่างกายไม่แข็งแรงพอที่จะเดินไปไหนมาไหนนะ ฉันไม่อยากให้เธอมาเป็นอะไรตอนนี้เข้าใจไหมว่าฉันเป็นห่วงเธอมากขนาดไหนน่ะ”
ฉันยิ้มออกมาเพราะเห็นว่าเขาเป็นห่วงฉันมากๆเลย แต่ว่านะฉันไม่อยากให้เขามาเป็นห่วงฉัน และตอนนี้ฉันก็แข็งแรงพอที่จะเดินไปไหนมาไหนด้วย
“เลย์ไม่ใช่เด็กแล้วนะที่จะให้นายต้องมาเป็นห่วงฉันน่ะ ฉันไหวนายเชื่อใจฉันได้เลย แค่ไปดูนายวางแผนการรบกับเมืองเมืองนั้นนายให้ฉันไปด้วยไม่ได้เลยหรอ”
ฉันทำหน้าเศร้าๆใส่เขา เขาเงียบไปสักพักก่อนที่จะถอนหายใจยาวๆออกมา
“โอเคๆก็ได้ฉันจะให้เธอไปก็ได้ แต่ว่าถ้าไม่ไหวบอกฉันเลยนะฉันจะอุ้มเธอเข้ามาพักในห้องนี้เอง”
ฉันพยักหน้าให้กับเลอย่างไว วิธีนี้ได้ผลตลอดแหละสาวๆคนไหนที่อยากอ้อนแฟนทำแบบนี้กันนะ ฉันเดินไปพร้อมกับเลและเลได้จับมือของฉันเอาไว้ เมื่อไปถึงห้องประชุมฉันก็เดินเข้าไป เลเดินไปเลื่อนเก้าอี้มาให้ฉันนั่งและฉันก็นั่งลง จากนั้นการประชุมครั้งนี้ก็ได้เริ่มต้นขึ้น
“จากแผนที่ทั้งหมดที่นายท่านได้เห็น ชั้นแรกของเมืองได้ถูกพังลงส่วนชั้นที่สองระหว่างทางที่ทหารพวกเรากำลังเดินทัพไปนั้น จู่ๆเราก็ถูกโจมตีโดยอาวุธศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมันมาจากไหนก็ไม่รู้ อาวุธพวกนี้เป็นอาวุธของอะไรของใครผมไม่ทราบแต่ที่รู้มันมีพลังมากจนกองทัพเราแตกเป็นเสี่ยงๆ ปีศาจทุกตนตายมากมายเต็มพื้นไปหมดเหลือมาไม่กี่คนเท่านั้นเองครับ ผมว่าต้องมีใครในหมู่ของสวรรค์และนรกที่ช่วยให้พวกนั้นมีพลที่แข็งแกร่งและอาวุธที่สามารถต่อกรกับเราได้นะครับ เราควรจะทำยังไงต่อดีเพราะว่าถ้าเกิดปล่อยพลกำลังของเราไปอีกก็จะโดนอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของพวกนั้นฆ่าทิ้งไม่เหลือชิ้นดี เราควรจะทำยังไงต่อดีครับนายท่าน”
ดูเหมือนว่าพวกนั้นจะร้ายไม่เบาเลย มีหนอนบ่อนไส้ช่วยให้พละกำลังของเมืองกงจิ้นมีพลังและแข็งแกร่งขึ้นมามาก จากอาวุธที่ได้มารวมถึงเกราะต่างๆด้วย
“งั้นเราควรจะถอยทับออกมาตั้งหลักก่อน ฉันขอเวลาสืบสักหน่อยหนึ่ง ในเวลานี้ฉันจะต้องหาคนที่มันช่วยเหลือฝ่ายศัตรู ไม่อย่างนั้นมันพวกเราอาจจะต้านพวกมันไม่ไหวก็เป็นได้นะ เอาล่ะอย่าให้พวกมันหาหอคอยนรกเจอ และทำการซุ่มโจมตีให้พลระยะไกลไปซุ่มโจมตีแถวหอคอยเอานะ ส่วนทางเข้ามามิติของโลกเราให้พวกร่องหนไปยืนดักรอเลย ถ้ามีตัวช่วยเหลือก็จะต้องรู้ว่าทางเข้ามาที่นี่มันมายังไง ไม่แน่มันอาจจะมาแล้วก็ได้รีบจัดการกำลังพลซะมาคาโอ ส่วนเธอเบอร์รินฉันจะให้เธอไปนอนพักนี่คือคำสั่ง”
ทำไมฉันจะต้องหมกอยู่แต่ในห้องด้วยนะ ทำไมฉันถึงไปกับใครคนอื่นไม่เลย รู้ว่าเป็นห่วงแต่ว่าถ้าให้ฉันอยู่แบบนี้มันก็น่าเบื่อ ได้แต่อยู่ในห้องไม่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับข้างนอกเลย วันนี้ฉันจะต้องค้านเรื่องนี้สักหน่อยแล้วล่ะ
“เลย์นายจะให้ฉันอยู่แต่ในห้องไม่ได้นะฉันเบื่อที่จะอยู่แต่ในห้อง ส่วนร่างกายของฉันก็พักผ่อนเพียงพอแล้ว
ฉันไม่อยากให้นายต้องไปเผชิญเรื่องนี้คนเดียว เรื่องสืบสวนให้ฉันเถอะฉันคิดว่าฉันทำมันได้ และฉัน
สามารถเปลี่ยนแปรงตัวเองให้เป็นน้องไก่ได้จำได้หรือป่าว ฉันว่าฉันจะปลอมตัวเข้าไปในหมู่แม่บ้านได้นะ”
มาคาโอยืนขึ้นแล้วจับมือของฉันทั้งสองข้างพร้อมกับทำตาประกายแวววายใส่ฉัน ตั้งแต่อยู่ที่นี่มาไม่เคยเห็นมาคาโอเป็นแบบนี้เลยนะ
“คุณหญิงมนุษย์ฉลาดมากมาย รู้สึกว่าตั้งแต่ท่านมาอยู่ที่นี่ท่านฉลาดขึ้นมามากเลยนะ”
นี่ไม่ได้ว่าฉันใช่ไหมเนี่ยมาคาโอพูดแบบนี้เหมือนกับนายกำลังว่าฉันเลยนะว่าตอนมาอยู่แรกๆฉันนี่โง่มากเลย
“เอาล่ะๆพอได้แล้วโอเคก็ได้ๆ ฉันจะให้เธอปลอมตัวเข้าไปอยู่ในหมู่แม่บ้านนั่น แต่ว่าถ้าเกิดเธอเป็นอะไรขึ้นมาแล้วก็ฉันจะพาเธออกมาจากตรงนั้นทันทีเข้าใจนะ เธอต้องระวังให้มากๆด้วย ส่วนนายมาคาโอเอามือออกจากว่าที่ภรรยาของฉันได้แล้ว จับอะไรนักหนาไม่ต้องจับแล้ว”
เขาปัดมือของมาคาโอออกแหมะหวงก็บอกเถอะไม่เห็นต้องมาทำใส่เลยนี่นา เมื่อการประชุมเสร็จสิ้น ภารกิจของฉันก็คือการเข้าไปสืบในกลุ่มของแม่บ้านและพ่อบ้าน เพราะว่าจะต้องหาคนที่ช่วยเหลือหรือบอกพวกนั้น และแน่นอนว่ามันไม่ได้มีแค่คนเดียวที่ช่วยเหลือฉันคิดว่าน่าจะมีหลายคนเลยแหละ คนเดียวทำขนาดนี้ไม่ได้หรอกนอกจากจะมีคนช่วยเหลือและร่วมด้วย ในตอนนี้ก็เป็นเวลาทำงานของพวกแม่บ้านพอดี ฉันนั่นเข้าไปในห้องที่ฉันเคยอยู่ แล้วก็ไปเปลี่ยนแปรงตัวเองสักหน่อยก่อนจะเอาป้ายเดิมมาเขวนเอาไว้ เลช่วยฉันให้เปลี่ยนตัวเองกลายเป็นไก่น้อยน่ารักอีกครั้งหนึ่ง ส่วนจิ้งจอกน้อยที่ฉันเอามาด้วยฉันก็วานให้มิคาโอเลี้ยงรอไปก่อน พูดถึงเรื่องน้องจิ้งจอกฉันยังไม่ได้ตั้งชื่อให้มันเลยนี่นา
“เลย์ฉันมีเรื่องอยากจะถามอะไรหน่อยน่ะ” เลย์มองมาที่หน้าฉัน
“คือว่าฉันอยากจะตั้งชื่อเจ้าจิ้งจอกน้อยตัวนั้น เราควรตั้งชื่อมันว่าอะไรดีหรอ” ฉันถามเขาเพราะว่าฉันอยากให้เราสองคนตั้งชื่อเจ้าตัวน้อยตัวนี้ด้วยกัน
“ให้มันชื่ออะไรดีล่ะเธอคิดว่าอยากให้มันชื่ออะไรดี มัลเลย์ ดีไหมเอาชื่อของเราสองคนมาผสมกันก็จะได้แบบนี้”
ล้ำไปอีกเขาคิดได้ยังไงนะฉันนี่คิดไม่ได้เลย หรือว่าฉันจะโง่เหมือนที่มาคาโอคิดนะเนี่ย
“เอาชื่อนี้แหละดีเลยฉันนี่คิดไม่ออกเลยว่าจะเอาชื่อไหน ขอบใจนะที่ช่วยคิด ตอนนี้ฉันคิดว่าฉันพร้อมแล้วล่ะที่จะออกไปทำภารกิจ คงจะใช้เวลาหลายวันอยู่เหมือนกันนะแต่ยังไงฉันก็จะทำเต็มที่”
เขาพยักหน้าให้กับฉันและจูบมาที่หน้าผากของฉันหนึ่งที ก่อนจะเดินออกไปจากห้องนี้เพื่อให้ฉันได้แต่งตัวให้เหมือนกับเป็นแม่บ้านซะหน่อย เอาล่ะยังไงฉันก็จะต้องหาหนอนบ่อนไส้ให้เจอให้ได้เลย