ตอนที่ 20 ความชินชา
“เมสเธอทำอะไรกับเลกันแน่” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นสะเทือนเพราะสิ่งที่เห็น ฉันไม่เชื่อว่าเลจะทำกับฉันแบบนี้ เมสต้องทำอะไรเขาแน่ๆเลย แต่พลังของเลเยอะมากทำไมเมสถึงทำกับเลได้ขนาดนี้ล่ะ หรือว่าพ่อของเลที่ช่วยกันนะ..
“เลจะต้องเป็นของฉันเพียงคนเดียวเท่านั้นและฉันจะไม่ให้มนุษย์ที่แสนโสโครกอย่างเธอหรอกนะ ฉันรู้หมดแล้วว่าเธอเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาเท่านั้นแหละ พ่อของเลได้บอกกับฉันมาและฉันก็รู้ตั้งแต่แรกด้วย เธออยากช่วยว่าที่สามีของเธอไหมล่ะ”
ไม่มีใครที่ไม่อยากช่วยสามีของตัวเองหรอกนะ ฉันจะไม่มีวันให้เลไปอยู่กับผู้หญิงอย่างเมสเด็ดขาดเลย นางฟ้าก็นางฟ้าเถอะวะ
“ว่ามาจะเอายังไงแลกกับให้เลกลับมาเป็นเหมือนเดิม”
ฉันพูดขึ้นด้วยความมุ่งมั่นว่าจะเอาเลกลับมาให้ได้ และแน่นอนเมสชอบการแข่งขันแน่ เพราะดูจากท่าทางและการยิ้มของเธอ ฉันต้องเจอศึกหนักอีกเยอะกับยัยคนนี้
“ถ้าเธอต้องการที่จะช่วยเลสุดที่รักของฉันแล้วล่ะก็ เธอจะต้องไปที่หอคอยแห่งนรก แล้วเธอจะต้องเดินเข้าไปในนรกไปหาพ่อของเล ไปทำยังไงก็ได้ขอให้ได้ยาแก้มนตร์ที่ฉันทำเอาไว้กับเล เธอคิดว่าทำได้ไหมล่ะ”
ไปแบบนั้นจะโดนนกยักษ์กินไหมเนี่ย ไม่ก็อาจจะโดนพ่อของเลฆ่าเอาก็ได้นะ แต่มันไม่มีทางเลือกแล้ว
“ฉันรับปาก แต่ด้วยคำมั่นสัญญาของเธอถ้าฉันได้มาเธอจะต้องปล่อยเลไป ในฐานะที่เธอเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ ถ้าเธอไม่สามารถทำตามสัญญา เธอจะกลายเป็นยัยปีศาจที่ไม่มีใครเอา สัญญามาสิ”
หล่อนเงียบไป ก่อนจะยิ้มที่มุมปากออกมา
“ได้ฉันสัญญา ถ้าฉันไม่ทำตามที่ว่าฉันจะเป็นยัยปีศาจที่ไม่มีใครเอาให้เลย”
พูดเองนะยัยปีศาจไม่มีใครเอา ดีนะที่ฉันมีเพรชแห่งคำสัญญาที่เลเอามาให้กับฉัน ถ้าเธอไม่ทำตามที่พูดเธอต้องโดนดีแน่ๆ
“ฉันให้เวลาเธอสามวันก็แล้วกันในการไปที่หอคอย โดยการเดินไปนะขอบอก ถ้าเธอทำไม่ได้ตามเวลาที่กำหนด และแน่นอนถ้าเธอทำไม่ได้เขาจะเป็นของฉัน งั้นเริ่มเลยก็แล้วกัน”
อยู่ๆเธอก็เสกนาฬิกาทรายขึ้นมา แล้วก็ปล่อยลงในทันที นี่หล่อนรีบขนาดนั้นเลยหรอ ตอนนี้เลยใช่ไหม อย่างแรกฉันต้องหยิบปากกากับกระดาษไป และฉันก็วิ่งออกไปจากปราสาทเพื่อจะเดินไปยังหอคอย และฉันไม่ได้โง่ขนาดที่จะเดินไปนะขอบอก ฉันวาดจักรยานขึ้นมาเพราะวาดมอเตอร์ไซค์ไม่เป็น ฉันวาดเสร็จประมาณสิบนาทีแล้วปั่นจักรยานไป ปั่นมันไปเรื่อยๆเพื่อนี่จะไปให้ถึงมัน ชั่วโมงแรกฉันก็เหนื่อยมากเลยปั่นไปเหมือนออกกำลังกายอยู่ที่บ้าน ถึงจะใช้จักรยานก็จริงแต่ว่าระยะทางมันไกลมากเลยนะ เพราะซอกที่เรามามันปิดสนิทฉันเลยจำเป็นจะต้องไปอีกทาง และแน่นอนจะต้องไม่ให้รู้ด้วยว่าเราเนี่ยเป็นมนุษย์ ถ้าเกิดมีพวกปีศาจบางตนมารู้เข้ามีหวังโดนฆ่าแล้วเอาไปกินอย่างแน่นอนเลย ระหว่างทางที่ฉันกำลังปั่นจักรยานอยู่นั้น อยู่ๆฝนก็ได้ตกลงมาใส่หัวของฉัน ทำไมอากาศถึงไม่เป็นใจอะไรอย่างนี้ล่ะ ฉันไปทำอะไรให้ใครหรือป่าวเนี่ยชีวิตฉันถึงต้องตกอับขนาดนี้เลย ฉันไปหลบฝนอยู่ตรงพุ้มไม้ก่อนที่ฉันจะวาดรูปร่มมา แล้วก็เอาไปปักกับจักรยานของฉันก่อนจะปั่นต่อ ปากกาของเลที่เอามาให้ฉันช่วยฉันได้เยอะเลยนะ ดีนะที่เมสมันไม่รู้ว่าฉันมีปากกาวิเศษเนี่ย ไม่อยากนั้นคงโดนกลั่นแกล้งสารพัดอย่างไม่มียุติเป็นแน่แท้ ยังไงฉันก็ต้องสู้เพื่อที่จะเอาเขากลับคืนมาให้ได้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามแต่ ถ้าเกิดไม่ได้เขากลับคืนมาแล้วก็ฉันก็จะไม่มีทางรอดและคนที่ฉันรักจะต้องเป็นของคนอื่น ฉันปั่นไปด้วยแรงที่มีอยู่ของฉันราวๆสามชั่วโมงได้ ดีอยู่อย่างหนึ่งที่โลกแห่งปีศาจนี้มันยังมีจักรยานปั่น ถ้าเกิดไม่มีพวกมันคงสงสัยฉันแน่ๆเลย เมื่อเข้าไปสู่เส้นทางของการเข้าไปในตัวเมืองปีศาจ ฉันจะต้องปั่นช้าๆไม่ให้ใครสงสัยอย่างเด็ดขาด ปั่นช้าๆนะแล้วก็ไม่ต้องรีบไม่ต้องรน เมื่อมองดูรอบๆก็เห็นพวกปีศาจที่เดินกันอยู่ในตัวเมืองเยอะมากเลย โอ้วันนี้วันอะไรกันเนี่ยทำไมถึงมีปีศาจเยอะขนาดนี้ ฉันมองไปเรื่อยๆก็ไปเห็นป้ายๆหนึ่งฉันคิดว่าฉันรู้แล้วล่ะว่าทำไมถึงมีพวกปีศาจเยอะมากแถวตัวเมือง ป้ายที่ปักไว้มันเขียนไว้ว่า [ขายวิญญาณมนุษย์ราคาถูกมาก ถ้าหาเจอให้ฟรีอยู่แถวนี้แหละ] ยัยนี่มันร้ายจริงๆเลยนะเมสเซอร์รี่เอ้ย มันปั่นไปไม่ได้แล้วมันอัดแน่นมากเลย ฉันคิดว่าฉันจะต้องเดินผ่านตัวเมืองไปแล้วล่ะ ฉันเอาจักรยานไปจอดไว้ข้างทางก่อนจะวาดรูปเสื้อกันฝนขึ้นมา แล้วก็เป็นเสื้อลายปีศาจสาวจิ้งจอกสักหน่อยจะได้ไม่มีใครสังเกตุหรือจับพิรุธได้ โอเควันนี้ฉันยังไม่ได้เข้าไปในห้องนั้นเลย ฉันจะกลายเป็นมนุษย์ในอีกสามวันข้างหน้า ต้องไปให้ถึงก่อนสามวันเพื่อที่จะกลับมาที่นี่ได้โดยไม่โดนไล่ล่า ฉันรีบเดินไปให้มันเร็วที่สุดและต้องเดินผ่านปีศาจพวกนี้ด้วย
“ฉันได้กลิ่นมนุษย์อยู่ที่นี่ มีใครได้กลิ่นเหมือนฉันบ้างไหม”
เสียงๆหนึ่งได้ดังขึ้นมาจากทางเดินข้างหน้าของฉัน เมื่อฉันเพ่งมองไปที่ปีศาจตัวที่พึ่งพูดมา ไอ้ม่วงวันนั้นนี่ วันแรกที่เจอกับมันเลย ทำไมถึงมาเจอตัวมันที่นี่ได้เนี่ยโอ๊ยดวงซวยชะมัดเลยโว๊ย ต้องไม่ให้มันรู้ว่าเป็นเราเด็ดขาดเลย ฉันเดินไปแล้วก็ไม่มองมันเดินไปเหมือนพวกที่เดินธรรมดา แต่แล้วมันก็ต้องยากขึ้นเมื่อไอ้ม่วงมันตั้งม๊อบขึ้นมา มาเป็นกลุ่มใหญ่เลยด้วย
“ฉันจะหามนุษย์กับเจ้าคิงเพิ้ล จะเอามันมาทำยำสามรสให้ได้เลย”
ไอ้ยาวพูดขึ้นด้วยเสียงที่แหบแห้ง ซวยแล้วไงหาแก๊งได้ซะอย่างงั้น ไม่ต้องไปเชื่อมันกันก็ได้หรอกมั้งเนี่ย ฉันพยายามทำตัวกลมกลืนไม่ให้พวกมันจับได้อย่างเด็ดขาดเลย ดีนะที่ฉันวาดรูปเสื้อกันฝนแบบไม่โปร่งใสมา ไม่อย่างนั้นมันเห็นกระเป๋าของฉันแล้วมันคงจำฉันได้แน่นอน ตอนนี้ต้องเดินผ่านฝูงปีศาจพวกนี้ให้หมดก่อน ระหว่างทางเดินออกไปพวกมันก็พยายามดมกลิ่นของฉัน แต่มันก็ยังมีกลิ่นของจิ้งจอกกลบกลิ่นของฉันอยู่เลยทำให้ไม่รู้ว่ากลิ่นมาจากใคร จู่ๆไอ้คิงเพิ้ลตัวยาวๆแห้งๆก็เดินมาจับที่ไหล่ของฉัน ฉันสะบัดมือของเขาออกแล้วหันไปมองคิงเพิ้ลตนนั้น
“แหมะแม่สาวจิ้งจอกสุดสวยจ๊ะไม่ทราบว่าเห็นมนุษย์อยู่แถวนี้หรือป่าว ถ้าเห็นบอกพวกเราด้วยนะพวกเราจะได้จับมันมาต้มกิน เอิ่มแล้วเธอมีชื่อว่าอะไรหรอจ๊ะ”
จะจีบฉันสินะไอ้แห้งเอ้ย เห็นแค่หน้าก็รู้ว่าต้องการอะไรจากฉัน
“ไม่เห็นค่ะขอตัวก่อนนะคะ” ฉันพูดขึ้นและฉันกำลังจะเดินออกไปจากตรงนั้นแต่ไอ้ม่วงก็เดินมาขวางทางของฉันเอาไว้ ฉันมองขึ้นไปเพื่อที่จะมองหน้าของมันเพราะตัวของมันสูงและใหญ่บังทางของฉันเอาไว้หมด
“เธอนี่ไม่คุ้นหน้าคุ้นตาที่นี่เลยนะ เธอมาจากนี่ไหนกันเนี่ยทำไมฉันไม่เคยพบเคยเจอมาก่อนเลย”
มาอยากรู้อะไรตอนนี้เนี่ยคนอื่นมีเยอะแยะทำไมไม่ถาม
“ฉันพึ่งมาที่นี่ได้ไม่นานเองค่ะ แต่ว่าฉันมีงานจำเป็นที่จะต้องไปทำตอนนี้จริงๆ กรุณาหลบทางของฉันด้วยนะคะ”
ฉันพูดดีๆด้วยแล้วนะถ้าไม่ฟังฉันคงต้องวิ่งแหละ
“โอเคจ๊ะแม่สาวจิ้งจอกสุดสวยไว้เจอกันวันหลังนะจ๊ะ”
โล่งอกไปเลยเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ได้เวลาที่ฉันจะต้องเดินไปต่อแล้วเพื่อจะออกไปจากที่นี่ และแน่นอนการไปเมืองกงจิ้นมันยากมากมายเลย ใช้เวลานานมากเช่นกันถ้าเดินไปแบบนี้ ทำไมเมสจะต้องมาจองล้างจองผานฉันด้วย ในเมื่อเธอก็รู้อยู่แล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้คนที่ไม่รักเธอกลับไปครอบครองแบบนี้ ฉันจะพยายามที่สุดเพื่อที่จะให้ได้เขากลับมา ไม่ว่าจะยังไงก็ตามแต่ตอนนี้ฉันมีเขาอยู่แค่คนเดียวและฉันจะไม่ยอมเสียเขาไปโดยเด็ดขาด ฉันเดินไปตามทางเรื่อยๆแล้วก็ออกไปจากเมืองได้สำเร็จ ต่อไปก็เหลือแค่เดินตามทางนี้ไปอีกหลายชั่วโมงเลยแหละ แต่ดีนะที่วาดจักรยานเป็นงั้นวาดเลยก็แล้วกันเราจะได้ไปถึงที่นั่นให้ได้ทันการ เพราะตอนมาถึงที่เมืองนี้ก็ใช้เวลาไปเยอะมากเลย เหลือเวลาอีกสองวันกว่าๆฉันว่ามันก็เหลือเวลาเพียบเลยนะ ฉันปั่นจักรยานไปตามทางแต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น ไอ้ม่วงได้ตามฉันมาถึงที่นี่แล้วก็ผลักฉันตกลงจากจักรยานที่ขี่อยู่ ฉันล้มลงไปกลิ้งกับพื้นแล้วรีบลุกขึ้นมาทันที อาจจะเป็นเพราะว่าฉันได้ฝึกฝนพลังมาด้วยมันเลยทำให้ฉันไม่ค่อยจะเจ็บสักเท่าไหร่และหาวิธีการจัดการเวลาล้มลงมาได้
“แกเป็นยัยมนุษย์ที่ฉันเจอวันนั้นใช่ไหม” มันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ขู่และทรงพลัง จากนั้นไอ้แห้งเดินตามมาจากข้างหลัง พวกมันรู้ตั้งแต่แรกแล้วอย่างนั้นหรอ พวกมันคงรู้ว่าฉันเป็นมนุษย์ตอนที่มองหน้าของฉันสินะ
“ไม่ตอบแสดงว่าใช่สินะ แกคิดว่าพวกเราโง่อย่างงั้นหรอพวกเรารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเป็นแก จมูกของฉันทำงานได้ดีในวันฝนตกเข้าใจไว้ซะด้วย มาเป็นอาหารว่างให้กับฉันดีกว่ายัยมนุษย์ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
มันวิ่งมาหาฉันด้วยความเร็วสูง ฉันกระโดดหลบออกมาจากตรงนั้นก่อนที่ไอ้แห้งจะใช้มือของมันฟาดมาที่ตัวของฉันทำให้ฉันกระเด็นกลิ้งตามท้องถนนไป มือหนักชะมัดเลยนี่สินะพลังของพวกปีศาจ ใช้เวลาพริบตามันก็วิ่งมาทางฉันอีกครั้ง ฉันหยิบกำไลและสร้อยออกมากำลังจะใส่แต่ว่าก็ดันโดนชนก่อนจึงทำให้สร้อยและกำไลกระเด็นหลุดออกจากมือของฉันไป ทำยังไงดีล่ะทีนี้ฉันจะทำยังไงต่อดี ถ้าไม่มีสร้อยกับกำไลฉันไม่รอดออกไปจากตรงนี้แน่ๆเลย
“ฮ่า ฮ่า แกไม่รอดออกไปจากที่นี่หรอกนะ แกจะต้องมาเป็นอาหารของพวกเรา ฉันจะไม่ปล่อยแกเหมือนวันนั้นอีกแล้ว”
พวกมันสองคนลุมกระทืบฉัน ทั้งเตะฉันต่อยฉันและอะไรสารพัดอย่าง ก่อนที่ไอ้ม่วงจะจับตัวของฉันขึ้นมา
“คิงเพิ้ลฉันจะเหลือให้นายนครึ่งหนึ่ง ฉันขอส่วนร่างแกเอาส่วนบนไปนะ”
เมื่อมันพูดจบปากที่เล็กของมันได้อ้าขึ้นและเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ มันจะกินฉันแบบนี้เลยหรอ ทำยังไงดีล่ะฉันจะทำยังไงดี ขาของฉันกำลังจะหลุดเข้าไปในปากของไอ้ม่วงแล้วในตอนนี้ ใช่สิใช้พลังที่มีอยู่ในตัวฉัน ทำตัวให้ว่างเข้าไว้มันต้องมีอะไรสักอย่างที่ช่วยฉันได้ ฉันพยายามหลับตาของตัวเองลง และคิดถึงหน้าของเลเอาไว้ฉันจะต้องช่วยเลให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตามแต่ เสียงทุกอย่างที่ดังได้เงียบลงไป มีเพียงเสียงฝนที่หล่นลงมากระทบกับใบหน้าของฉันเพียงเท่านั้น //กอกแกก กอกแกก//
“อ๊ากนี่มันเกิดอะไรขึ้น ไม่นะ อ๊ากกกก มันกำลังแข็งไปหมดทุกส่วนของร่างกายของฉัน แกกำลังทำอะไรกับตัวของฉันยัยมนุษย์บ้าเอ้ย”
เสียงกรีดร้องโหยหวนได้ดังขึ้นมาจากทางข้างหน้าของฉัน และแน่นอนไม่ใช่ใครที่ไหนไอ้ม่วงตัวนั้น ที่กำลังโดนดูดกลืนด้วยน้ำแข็งมันแข็งไปทั่วแขนของปีศาจตนนั้น และกัดกล่อนด้วยเสียงอันเจ็บปวด
“จงแตกเป็นเสี่ยงๆซะ” ฉันพูดขึ้นด้วยอารมณ์ที่ด้านชา ฉันรู้สึกได้ว่ามันกำลังเรียกฉัน มันกำลังบอกฉันว่าให้ทำอย่างไร ฉันกำลังเรียนรู้มันอยู่สินะ จากนั้นแขนของมันทั้งสองข้างก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ เลือดได้กระฉูดออกจากแขนทั้งสองข้างที่แตกออก มันร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดที่แสนจะทรมาน เมื่อฉันมองไปที่คิงเพิ้ลตนนั้นมันเหงื่อไหลออกมาฉันเห็นได้เลย จากนั้นมันก็วิ่งหนีไปด้วยความกลัว หึคิดว่าจะรอดหรอฉันไม่ปล่อยให้แกรอดหรอกนะ จากนั้นสายฝนที่หยดลงมาฉันทำให้มันเป็นน้ำแข็งและตามคิงเพิ้ลตัวนั้นไป
“ย๊ะอย่าตามฉันมานะ ไม่นะไม่อย่าอย่าฆ่าฉัน”
ฉันจะไม่มีวันยอมให้แกไปไหนได้หรอกนะจากนั้นฉันก็โปรยเมล็ดน้ำแข็งที่แหลมคมลงไปทั่วร่างกายของคิงเพิ้ลแล้วก็แทงทะลุข้างหลังของมันไปยังข้างหน้าเลยทีเดียว ตัวของมันลอยขึ้นเพราะว่าน้ำแข็งที่แหลมคมที่แทงทะลุข้างหลังของมัน เลือดสีเขียวที่กระจายออกไปทั่วพื้นถนนทำให้ปีศาจตนนั้นไร้ซึ่งลมหายใจและวิญญาณ เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นลงฉันก็กลับสู่ตัวของตัวเอง ทุกอย่างที่ฉันเห็นทำให้ฉันอ๊วกออกมา ฉันทำแบบนี้ได้ยังไงฉันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ฉันไม่ได้ต้องการที่จะฆ่าพวกเขาเลยนะ ฉันมองมาที่ตัวเองเลือดสีเขียวที่ออกมาจากไอ้ม่วงติดเต็มเสื้อผ้าของฉัน และละลายหายไปกับฝน แต่อย่างไรก็ตามแต่ฉันไม่มีเวลาที่จะมาคิดแล้วฉันต้องไปเอายามาก่อน เพื่อที่จะช่วยเขาฉันทำได้ทุกอย่าง