ตอนที่ 120 จอมเวทย์ผู้กลืนกินหนังสือ 3
เคิร์ทที่3ได้ครองบัลลังก์ด้วยการสนับสนุนจากหอคอยเวทมนต์ทั้งหมด นำโดยจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่บลันเดล เมื่อเคิร์ทที่3ได้สวมมงกุฏ เขาเป็นกษัตริย์แต่เขาก็ยังเปรียบเสมือนหุ่นเชิดของสมาคมเวทมนต์ในหลายๆด้าน เขาอายุเพียง20ปีเมื่อเขาครองราชบัลลังก์แห่งอาณาจักรเวทมนต์และได้กระโดดเข้าสู่สนามรบกับจักรวรรดิแอนดราสโดยตรง
หลังจากหลายสิบปีของการนองเลือด กษัตริย์หนุ่มก็ได้เติบโตขึ้นและมีดวงตาที่สุขุม เขาใช้ทหารที่แข็งแกร่งและระบบการมอบรางวัลและการลงโทษ กฏของพระองค์ยึดถือหลักการทั้งสองนี้อย่างแท้จริง และด้วยการปกครองของพระองค์ราชอาณาจักรก็ได้เติบโตจนมาถึงจุดสูงสุดนับตั้งแต่การก่อตั้ง
เขาเป็นผู้ปกครองที่ติดอยู่กับหลักการเหล่านี้ แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะทำความเข้าใจเกี่ยวกับจอมเวทย์และนั่นทำให้เขามีความยืดหยุด เขาเป็นผู้นำที่เหมาะสมยิ่งสำหรับอาณาจักรเมลเทอร์ในปัจจุบัน เคิร์ทที่3
ธีโอดอร์ได้รับรู้เกี่ยวกับความสำเร็จของเคิร์ทที่3อยู่แล้ว
‘ถ้าหากพวกเขาหว่านล้อมพระองค์ด้วยเหตุผลและตรรกะที่เหมาะสม เขาจะรับฟังคำพูดของคนที่อยู่ใต้เขา’
จากนั้นปัญหาที่ธีโอดอร์ต้องหาทางคิดก็ได้ลดลงไปหนึ่งข้อ คำถามที่เขาต้องการจะถามไม่ใช่วิธีการหว่านล้อมพระองค์ แต่เป็นการเข้าพบกษัตริย์เป็นการส่วนตัวต่างหาก แม้ธีโอดอร์จะมีความสำเร็จบางอย่างที่ยกฐานะของเขา แต่มันก็ยังคงยากที่จะพบกับกษัตริย์เป็นการส่วนตัว มีเพียงผู้นำหอคอยและขุนนางชั้นสูงเท่านั้นที่มีความเป็นไปได้
อย่างไรก็ตามความกังวลของเขาก็ได้หายไป เนื่องจากหลังจากนั้นไม่นาน เคิร์ทที่3ก็ได้เชิญชวนธีโอดอร์ให้เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ
“ธีโอดอร์ มันถึงเวลาแล้ว”
มันเป็นสถานที่ที่ขุนนางหรือข้าราชการคนอื่นไม่สามารถเข้าร่วมได้ ธีโอดอร์ผู้ต้องการจะหลีกเลี่ยงความสนใจของคนอื่นให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ได้ตอบรับคำเชิญโดยปราศจากความลังเลใดๆ เขาไม่คิดว่าเขาจะแก้ไขปัญหาได้ง่ายดายเช่นนี้
ขอบคุณสิ่งนั้น เขาได้เปิดประตูด้วยหัวใจที่เบาบาง
“ครับ ผมจะไปทันที”
ชายวัยกลางคนกำลังรอคอยธีโออยู่ เขาเป็นคนที่ทำหน้าที่ส่งคำเชิญของเคิร์ทที่3 มหาดเล็กแห่งวังหลวง ดักลาส เขาเป็นผู้ที่ยกระดับจากพลเมืองธรรมดาจนกลายเป็นคนที่ใกล้ชิดกับกษัตริย์มากที่สุด
“ฉันจะนำทางเธอเอง อ่า ถ้าหากร่างกายเธอรู้สึกไม่สบาย....”
“มัน โอเครครับ”
“งั้นเราจะดำเนินการตามกำหนด โปรดตามฉันมา”
ธีโอเป็นเด็กหนุ่มที่มีจุดยืนต่ำกว่าเขา แต่ดักลาสกลับไม่สั่นไหวเลย เขาไม่สนใจว่าธีโอจะเป็นวีรบุรุษหรือเด็กหนุ่ม ดักลาสเพียงทำหน้าที่ด้วยทัศนคติที่ไม่ได้มีความรู้สึกส่วนตัวปนเข้ามา ความซื่อตรงของเขาในการปฏิบัติหน้าที่อาจทำให้เป็นที่ต้องตาของเคิร์ทที่3
ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม การเตรียมการทั้งหมดได้เสร็จสิ้นลงแล้ว
“ฝ่าบาทกำลังรออยู่ด้านใน”
ดักลาสหยุดอยู่ที่หน้าประตูที่หรูหรา รูปแบบสัญลักษณ์ของหอคอยเวทมนต์ได้ผสานเข้ากลับรูปแบบสัญลักษณ์ของราชวงศ์อย่างกลมกลืน
นั่นหมายความว่าทั้งสองฝ่ายไม่ได้อยู่สูงหรือต่ำกว่า อีกทั้งพวกเขาทั้งคู่ยังเป็นเสาหลักของอาณาจักรเมลเทอร์อีกด้วย รูปแบบเหล่านี้อาจจะมีความอ่อนไหวต่อขุนนางเผด็จการบางคน แต่ก็ทำให้จอมเวทย์อิสระรู้สึกถึงผู้ปกครองของตน
เบื้องหลังสิ่งนี้ ชายผู้ที่ยืนอยู่ด้านบนสุดของอาณาจักรเมลเทอร์ กำลังรอเข้าอยู่
‘…ไปกันเถอะ’ธีโอดอร์วางมือลงบนประตูที่หรูหราทันทีโดยไม่มีความเกร็งใดๆ
มีเวทมนต์ลดน้ำหนักอยู่ที่ประตูงั้นหรอ?เมื่อเทียบกับน้ำหนักที่เขาคาดคิดเอาไว้ ประตูภายใต้ฝ่ามือของเขานั้นเบากว่าที่คิด ประตูมันใหญ่มาก แต่เขากลับไม่มีปัญหาใดๆในการผลักประตูให้เปิดออก
จากนั้นภาพที่อยู่ด้านหลังประตูก็ได้เผยออกอย่างช้าๆ
“ครืน”
ธีโอดอร์หลงลืมคำพูดทั้งหมดที่เขาวางแผนไว้ล่วงหน้าไปจนสิ้น
***
ธีโอดอร์ไม่ทราบว่าสถานการณ์ได้ไหลมาสู่ทิศทางนี้ได้เช่นไร
เป็นเรื่องที่ดีที่เขาได้บรรลุจุดมุ่งหมายในการพบกับเคิร์ทที่3เป็นการส่วนตัว สถานที่นัดพบค่อนข้างดี มันเป็นห้องอาหารในราชวังที่ไม่มีใครสามารถแอบฟังได้ – ห้องอาหารแชมเบอลิน
อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยคาดคิดถึงตัวแปรดังกล่าว
“ตอนนี้ อ้ามม---”เวโรนิก้าจิ้มส้อมของเธอลงบนก้อนเนื้อขนาดใหญ่และยื่นไปทางปากของธีโอดอร์
มันเป็นการกระทำที่เป็นที่พ่อแม่มักใช้กับลูก....หรือระหว่างคู่รัก และมันได้ถูกนำมาใช้ในห้องอาหารของราชวงศ์ ตรงหน้าสายตาที่จับจ้องของกษัตริย์
“ผะ-ผู้นำ”
“อะไร เธอไม่ชอบที่ฉันป้อนอาหารเธองั้นหรอ?”
“มะไม่ใช่....”
การแสดงออกที่รุงแรงได้ทำให้เขารู้สึกกดดัน นั่นทำให้เขาไม่อยากทำให้เธอผิดหวัง ธีโอได้กินเนื้อที่เวโรนิก้ายื่นให้เขาขณะที่เขารู้สึกราวกับเด็ก สถานที่สำหรับการสนทนาที่จริงจังได้เปลี่ยนไปเป็นเช่นนี้
โชคดีที่เคิร์ทที่3 ขัดขวางการแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจระหว่างทั้งสองคน “ฮ่าๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นภาพเช่นนี้ เวโรนิก้าไม่เคยดูแลใครมาก่อน ดังนั้นเธอจึงถูกมาพามาเธอโดยเฉพาะธีโอดอร์”
“ฝะ-ฝ่าบาท”
“ไม่ต้องอาย เราได้เรียกแม่สาวแก่นมาที่นี่เพื่อทำให้เธอผ่อนคลาย ดังนั้นโปรดผ่อนคลาย”
เช่นนั้นผู้ร้ายจึงเป็นกษัตริย์ เรื่องนี้ทำให้ธีโอแอบลอบมองเขา แม้กระทั่งเวโรนิก้ายังไม่กล้าขัดขวางการรับประทานอาหารของกษัตริย์โดยไม่ได้รับอนุญาติ นั่นหมายความว่าเธอได้รับอนุญาติล่วงหน้าหรือว่าเธอได้รับคำเชิญมาก่อนแล้ว
อืม ดูเหมือนว่าเคิร์ทที่3จะเชิญเธอมาเพราะว่าเขาคิดว่าธีโอจะรู้สึกอึดอัดหากพบกับเขาสองต่อสอง ธีโอถอนหายใจอย่างหนัก เขามองดูเหมือนคนที่นอนไม่หลับ
‘เห้อ มันช่วยไม่ได้’
นอกจากนี้ มันยังเป็นโอกาสที่เวโรนิก้าจะได้ใกล้ชิดกับเขา
สถานการณ์มันแตกต่างไปจากที่เขาคิดไว้ แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงสิ่งที่เขาต้องทำ เขาพูดคุยกับทั้งสองคนขณะที่รอเวลาที่เหมาะสมสำหรับการพูดคุยหัวข้อหลักของเขา
‘ฉันไม่รู้ว่ามันจะเหมาะสมหรือไม่ที่จะพูดคุยทันทีหลังจากกินอาหารและเครื่องดื่มไปเล็กน้อย....’
พวกเขาได้พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในเอลฟ์เฮล์ม ธีโออธิบาย5ใน6เอลฟ์ชั้นสูงที่เขาได้พบ และพูดถึงพลังอำนาจของลูกศรของผู้พิทักษ์
ในระหว่างการอธิบายถึงการต่อสู้กับลิเวียธาน เวโรนิก้าและเคิร์ทที่3มักจะรู้สึกกระหายและเติมเครื่องดื่มของพวกเขาเสมอ หนึ่งคือผู้ปกครองอาณาจักร ขณะที่อีกหนึ่งคือผู้ที่แข็งแกร่งเกินไปที่จะเข้าร่วมการผจญภัย ดังนั้นพวกเขาจึงรู้สึกพึงพอใจที่ได้ฟังเรื่องราวของธีโอดอร์
เมื่อขนมและน้ำชาได้ถูกนำมาวางบนโต๊ะ การเล่าเรื่องของธีโอก็ได้หยุดลง
เคิร์ทที่3ถอนหายใจและพึมพำด้วยเสยงอ่อนๆ “…วิเศษมาก เราเองก็อยากมีชีวิตเฉกเช่นเจ้า”
“ผมไม่ควรที่จะได้รับคำพูดเหล่านั้น”
“มันเป็นความคิดที่ถูกต้องที่มอบสมบัติแห่งชาติให้กับเจ้า อาจจะมีบางคนบอกว่าเรามีวิสัยทัศน์ แต่มันเป็นเพียงแค่โชคเท่านั้น นี่เป็นเหตุผลที่กษัตริย์ไม่ควรจะตระหนี่” เคิร์ทที่3ดื่มเครื่องดื่มมึนเมาอีกหลายอึกและวางแก้วที่ว่างเปล่าลงบนโต๊ะ
พระองค์ได้ทรงดื่มกับเวโรนิก้าไปหลายขวดแล้ว แต่ดวงตาสีม่วงของเขากลับไม่สั่นไหวเลย การแสดงออกของเขายังคงเอาใจใส่เสมอขณะที่เขาถามธีโอ “เช่นนั้น อะไรคือสิ่งที่เจ้าต้องการในตอนนี้?”
“…!?”
“อย่าพูดว่าไม่มีอะไร อย่างน้อย เจ้าต้องคิดอะไรบางอย่างภายในหัว เราได้ฟังเรื่องราวของเจ้าอย่างมีความสุข แต่นั่นคงไม่ใช่จุดประสงค์ของเจ้า”
ธีโอดอร์โค้งคำนับขณะที่เขาพยายามจะไม่เปิดเผยความประหลาดใจบนใบหน้าของเขา เขากังวลเกี่ยวกับการแสดงท่าทางที่น่าอายของเขาต่อหน้ากษัตริย์ เคิร์ทที่3นั้นยังคงมีความไมตรีต่อเขาอยู่ แต่ธีโอนั้นยังคงต่ำต้อยกว่าเขา เขาคือชายผู้ที่นำพาเมลเทอร์มาสู่ยุคทอง ความไม่รู้ของธีโอเกี่ยวกับพื้นที่นี้ทำให้เขาอ่อนแอ
โชคดีที่เขาสามารถจัดการกับความสงบของเขาได้เนื่องจากการฝึกฝนอำนาจจิตของเขาอย่างสม่ำเสมอหลังจากที่ได้ดูดซับอัมบรา
“…ผมจะพูดอย่างซื่อตรง”มันหมายถึงเขาไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงมันได้ในขณะนี้ ธีโอตระหนักถึงความเป็นจริงนี้และเปิดปากของเขาเพื่ออธิบาย
โดยไม่คำนึงถึงว่าใครเป็นผู้พูดคนแรก ลำดับชั้นที่นี่ก็ไม่ได้เปลี่ยนไป ตอนนี้แม้ว่าเขาจะกลายเป็นวีรบุรุษและเป็นที่เคารพในอาณาจักรนี้ แต่เขายังคงต้องร้องขอด้วยความเคารพ
หลังจากคำสิ้นคำอธิบายของเขา ใบหน้าของทั้งสองคนก็ได้แข็งค้างเล็กน้อย
เวโรนิก้าไม่ได้พูดอะไรเลย ขณะที่เคิร์ทที่3กล่าวถามด้วยท่าทางสับสนบนใบหน้าของเขา “ออกไป?ในเวลานี้?”
มองไปที่ชีวิตของธีโอดอร์ มิลเลอร์ นี่เป็นช่วงเวลาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการยกฐานะของเขาขึ้น เขามีคุณงามความดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภารกิจเอลฟ์เฮล์ม ธีโอเป็นวีรบุรุษผู้ที่ทำให้จักรวรรดิแอนดราสถึงกับกระอักกระอ่วน และยกระดับฐานะของอาณาจักรขึ้น ถ้าหากธีโอดอร์ใช้โอกาสนี้อย่างถูกต้องเหมาะสมเขาอาจจะกลายเป็นมาร์ควิสหรือแม้กระทั่งเอิร์ล ไม่สิ เขาสามารถหนีจากตำแหน่งขุนนางและได้รับการปฏิบัติเฉกเช่นผู้อาวุโสในสมาคมเวทมนต์
เคิร์ทที่3กล่าวต่อด้วยเสียงที่แสดงให้เห็นว่าเขาขาดความเข้าใจ “เมื่อครั้งที่ผ่านมาเจ้าได้ทำผลงานชิ้นใหญ่ด้วยหนังสือที่เจ้านำออกมาจากหอสมุดแห่งชาติ ด้วยบทเพลงแห่งสงครามฉบับสมบูรณ์ มันได้ทำให้อำนาจทางทหารของเมลเทอร์เพิ่มขึ้นเกือบ10%”
มันเป็นเหตุผลที่ธีโอดอร์ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นปรมาจารย์ในเวลาอันสั้น ไม่มีใครสนใจแม้กระทั่งเกี่ยวกับข้ออ้างที่เขาบอกว่าเขาได้ทำหนังสือต้นฉบับเสียหายในระหว่างกระบวนการ
การดำรงอยู่ของธีโอดอร์เป็นเหมือนเสน่ห์ของอาณาจักรเมลเทอร์ ราชวงศ์และขุนนางได้เพิ่มของชมชอบของพวกเขาต่อธีโอและได้ให้รางวัลแก่เขา
“เช่นนั้น เราจะให้สิทธิ์ในการอ่านหนังสือเล่มอื่นจากหอสมุดแห่งชาติ”
“…….”
“ไม่ใช่แค่หนังสือเพียงเล่มเดียว ด้วยฐานะของผู้อาวุโส เจ้ามีสิทธิ์ที่จะยืมหนังสือเล่มใดก็ได้อย่างอิสระ มันไม่ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการฝึกฝนในสภาพแวดล้อมเช่นนี้งั้นหรือ?”
“….ฝ่าบาท”ธีโอสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของเคิร์ทที่3
จากจุดยืนของเขาในอาณาจักร เคิร์ทที่3ไม่สามารถปล่อยธีโอไปได้โดยง่าย
กษัตริย์ไม่ได้กังวลเรื่องการทรยศ อย่างไรก็ตามธีโอได้รับการยืนยันจากเวโรนิก้าว่าเขาจะกลายเป็นผู้นำหอคอยคนต่อไปและเป็นแขกประจำของเอลฟ์เฮล์ม ดังนั้นมันจึงไม่สะดวกที่จะปล่อยคนที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ให้อยู่นอกเขตการเฝ้ามองของเขา กษัตริย์ยังคงกังวลเกี่ยวกับจักรวรรดิที่กำลังโกรธแค้นจากเหตุการณ์ครั้งนี้
อย่างไรก็ตามธีโอดอร์กลับไม่โค้งงอในความปราถนาของเขา “ฝ่าบาท ได้โปรดเข้าใจจิตใจของกระหม่อม”
“เจ้า....”
“นอกจากนี้ กระหม่อมยังมีข้อมูลเกี่ยวกับวงกลมที่6แล้ว กระหม่อมตระหนักว่าประสบการณ์ที่กระหม่อมได้รับจากภารกิจก็คือพื้นฐานของมัน และมันแตกต่างไปจากการต่อสู้ด้วยหมึกในห้องของกระหม่อม”
ธีโอเงยหัวขึ้นและเผชิญหน้ากับสายตาที่น่ากลัวของเคิร์ทที่3 มันไม่ได้มีเจตนาในการสังหารหรือการสู้รบ แต่มันทำให้ผู้ที่เผชิญหน้ากับเขารู้สึกเข้มแข็ง การแสดงออกที่หนักอึ่งปรากฏบนใบหน้าของเคิร์ทที่3ขณะที่เขาหันไปหาเวโรนิก้าผู้ที่ดิ้นรนอยู่ชั่วขณะ
ช่วงเวลานั้นท่าทางของธีโอดอร์ก็ได้มืดลง....
“-ฟู่ เราไม่รู้”เคิร์ทที่3พึมพำ
ทันใดนั้น ก็มีบางสิ่งลอยไปด้านหน้าธีโอ
หมับ
สิ่งของที่ลอยมาจากเคิร์ทที่3ถูกคว้าไว้โดยธีโอ มันเป็นโลหะที่หนัก แต่มันบางและเต็มไปด้วยพลังเวทมนต์ สร้อยข้อมือนี้ไม่มีการตกแต่งใดๆ มันเป็นเครื่องประดับที่กษัตริย์ทรงสวมใส่
ก่อนที่ธีโอดอร์จะถามว่ามันคืออะไร เคิร์ทก็ได้พึมพำด้วยเสียงต่ำ “มันเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่จะป้องกันด้วยตัวมันเอง มันถูกสร้างขึ้นโดยผู้นำYellow Tower เราไม่ทราบว่ามันจะช่วยเจ้าได้หรือไม่ แต่มันคงดีกว่าไม่มีอะไร”
“ฝะ-ฝ่าบาท”
“ทันทีที่เจ้าออกจากห้องนี้ไป เจ้าจะหลงไปกับแรงบันดาลใจและไม่ออกจากห้องวิจัยของเจ้าสักสองสามเดือน มันไม่ใช่ปรากฏการณ์ธรรมดา ใช่มั้ย?”
“....พะยะค่ะ ถูกต้อง”ธีโอตอบเห็นด้วย เขาสังเกตได้ถึงความหมายที่อยู่เบื้องหลังคำพูดของกษัตริย์
ธีโอดอร์ มิลเลอร์ เป็นคนที่มีชื่อเสียงอย่างมาก ถ้าเขาออกจากอาณาจักรไปโดยไม่คิด เขาจะดึงดูดนักฆ่าและสายลับให้มารวมที่เขา
ดังนั้นเขาควรจะปิดบังร่องรอยของเขา ด้วยการใช้ความจริงที่ว่าจอมเวทย์มักจะเงียบสนิทในห้องขณะที่กำลังค้นคว้างานวิจัย มันจะทำให้ดูเหมือนว่าธีโอยังคงอยู่ในเมลเทอร์ มันไม่ได้เป็นการอำพรางที่สมบูรณ์แบบ แต่มันคงจะซื้อเวลาให้เขาได้บ้าง
กล่าวอีกนัยหนึ่งมันก็เหมือนกับการที่เขายอมให้ธีโอดอร์ออกไป
หลังจากที่ตัดสินใจ เคิร์ทที่3ก็ได้แตะที่แขนซ้ายของเขาสองสามครั้ง จากนั้นก็หันไปทางธีโอและกล่าวว่า “ถึงเวลาแล้วที่เจ้าจะต้องไป เจ้าต้องเตรียมสิ่งของมากมายเพื่อที่จะอยู่ในห้องสักสองสามเดือน
“….ขอบคุณสำหรับความห่วงใย ฝ่าบาท” ธีโอตอบด้วยเสียงสั่นๆก่อนที่จะเดินออกไป
ประโยชน์ที่เคิร์ทที่3กล่าวถึงเป็นสิทธิที่ไม่ว่าใครได้ยินก็ต่างรู้สึกยินดี ธีโอสามารถยืมหนังสือจากหอสมุดแห่งชาติได้อย่างอิสระและเขาก็ยังได้รับการปฏิบัติราวกับผู้อาวุโส ถือเป็นความกรุณาอย่างยิ่ง
หัวใจของธีโอเต้นอย่างรุนแรงและมีความร้อนที่แปลกประหลาดแผ่กระจายออกจากมัน
ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้คนจำนวนมากจึงชื่นชมในตัวของเคิร์ทที่3
***
หลังจากที่ธีโอดอร์ออกจากห้องไป เคิร์ทที่3และเวโรนิก้าก็ตกอยู่ในความเงียบ พวกเขาจิบชาและกลืนมันลงไป จากนั้นพวกเขาก็กินขนมหวานของตัวเอง ขั้นตอนเหล่านี้ทำซ้ำไปเรื่อยๆจนกว่าจะมีบางคนเปิดปากขึ้น
“…มันน่าแปลกใจนะ”
“หือ?”เวโรนิก้ามองไปที่เคิร์ทด้วยความสับสน
“ฉันคิดว่าเธอจะบอกว่าเธอต้องการจะตามเขาไปเสียอีก มันหาได้ยากที่ผู้นำRed Tower จะทำงานโดยตรงเช่นนี้ ฉันจะอนุญาติหากเธอคว้าคอเสื้อฉันและเขย่าไปมา”
ผู้นำBlue Tower และผู้นำ Red Tower….มันคงเป็นเรื่องที่เจ็บปวดที่จะปล่อยให้หนึ่งในสองเสาหลักของอาณาจักรออกไปในระยะเวลาสั้นๆ แต่ธีโอดอร์กลับเป็นบุคคลที่มีค่าอย่างยิ่ง
ธีโอเป็นจอมเวทย์ผู้ที่ได้รับพรจากสวรรค์ เขากลายเป็นคนที่แข็งแกร่งด้วยเวลาที่รวดเร็วกว่าคนอื่น เขาละทิ้งความสำเร็จไว้เบื้องหลัง ธีโอเป็นเด็กหนุ่มที่เดินตามรอยเท้าของ วีรบุรุษ
เวโรนิก้ามองไปที่เขาด้วยความรู้สึกแปลกๆ “อืม ฉันเองก็ต้องการที่จะตามเขาเช่นกัน”
“แต่?”
“ฉันกำลังจะไปกับเขาหากฉันหลงอยู่กับความคิดนั้น ฉันไม่ต้องการที่จะจัดการกับเขาในวัยนี้”
ครานี้เป็นเคิร์ทที่3ที่แสดงท่าทางแปลกๆออกมา “มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นงั้นหรอ?”
“ฉันคิดว่าเขาจะตามฉันได้ภายใน10ปี แต่ตอนนี้มันดูเหมือนจะเป็น5ปีเสียแล้ว”ขณะที่เธอพูดเธอก็ได้เลียริมฝีปากที่แห้งของเธอเบาๆ ภาพของลิ้นสีแดงที่ขยับอย่างนุ่มนวลสามารถที่จะสั่นคลอนหัวใจของชายได้ทุกคน
แม้ว่าเธอจะมีเลือดเพียง1ใน4 เธอก็ยังเป็นจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สืบสายเลือดมังกรแดง ความปราถนาและความรักที่ไหลเวียนอยู่ในเลือดของเธอไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับมนุษย์ชายและหญิงได้
สัญชาตญาณของเวโรนิก้า ซึ่งสืบทอดมาจากเลือดของเธอกำลังเดือดพล่าน
“….บางทีฉันคงจะไม่สามารถเรียกเขาว่าเด็กได้อีกต่อไป”
หัวใจของเธอเต้นอย่างรุนแรงขณะที่เธอมองไปที่ประตูที่ธีโอได้เดินออกไป